“ช่างเถอะอาจารย์ เนื่องจากผู้พิพากษาเป็นคนของเขา ผลของการพิจารณาคดีนี้คงถูกกำหนดตั้งแต่เริ่ม…” ล็อคกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณต่อไดอาน่า
“ล็อค เจ้าเต็มใจยอมรับสิ่งนี้จริงๆงั้นหรือ? พวกเขาพยายามทำร้ายพ่อแม่เจ้า!” เมื่อตระหนักว่าเธอสูญเสียความสงบที่ควรมีไป เธอจึงพยายามสงบสติก่อนจะกล่าวต่อ “เป็นความผิดของข้าเอง… ที่ข้าไม่สามารถลงโทษพวกเขาได้…”
“ไม่! ท่านทำดีที่สุดแล้ว ความจริงแล้วนี่มันดีกว่าที่ข้าคาดไว้ ข้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว…” ล็อคมีรอยยิ้มลึกลับบนใบหน้าของเขา
…
เอเดรียนออกจากศาลพร้อมกับคนรับใช้สองคน หนึ่งในนั้นกำลังผลักรถเข็นของเขา ในเวลาเดียวกันอลิซก็กำลังแต่งหน้าของเธอขณะเดินอยู่ใต้เงาของร่มที่คนรับใช้อีกคนถือ
“ท่านพี่ ไปเจ้าสารเลวสี่ตัวนั้นช่างไร้ประโยชน์จริงๆ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเราต้องกำจัดครอบครัวของพวกมันด้วย…”
เอเดรียนจุดซิการ์และกล่าว “ผลของการทำภารกิจล้มเหลวคือความตาย แม้ว่าพวกเขาจะตายด้วยน้ำมือของล็อคไปแล้ว แต่เรายังคงต้องทำตามกฎของตระกูลไวท์ เราจะให้ครอบครัวของพวกเขารับโทษแทน!”
ในสายตาของสองพี่น้อง คนรับใช้ที่เสียสละชีวิตเพื่อตระกูลเป็นเพียงวัชพืชที่สามารถกำจัดได้ทุกเมื่อ
ไม่นานบทสนทนาที่โอ้อวดของพวกเขาก็ได้ดึงดูดความไม่พอใจของประชาชนทั่วไปที่กำลังฟังอยู่
พวกเขามองมายังสองพี่น้องด้วยความดูถูก
“พวกเจ้าคิดว่ากำลังมองอะไรอยู่กัน! เจ้าพวกหนอนแมลง!” อลิซสังเกตเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรรอบตัวเธอและสบถออกมาทันที!
“พวกเจ้าไปเคลียร์ทางให้ข้าเดินได้สะดวกหน่อย!” เอเดรียนไม่สนสายตาของคนทั่วไป เขาสั่งให้คนรับใช้ของเขาไล่คนที่ขวางทางออกไป
ไดอาน่าที่เห็นเหตุการณ์โกรธขึ้นมาทันที เธออยากขะไปสอนบทเรียนให้เจ้าสารสองตัวนี้
แต่ล็อคดึงเธอกลับมาอีกครั้งและกล่าว “อาจารย์ ผ้าพันคอของท่านกลิ่นหอมมาก ข้าขอยืมมันสักครู่ได้รึไม่!”
สิ่งเสียงล็อคก็ถอนผ้าพันคอสีดำที่พันอยู่รอบคอของไดอาน่าออก เขาใช้มันปิดหน้าของเขาและเดินไปทางเอเดียนและพวก
ในระหว่างนั้นเขายังเรียกขาวน้อบและขอให้มันสร้างชั้นน้ำแข็งบนมือของเขาอีกด้วย
ขณะที่ไดอาน่ากำลังจะหยุดล็อค ฌาคส์ที่กำลังคาบบุหรี่อยู่ในปากแนะนำ “เด็กคนนั้นต้องมีความคิดบางอย่างอยู่แล้ว เราแค่ต้องรอดู…”
“ฮะ! นั่นเจ้าคิดจะทำอะไร? เจ้าคิดว่าข้าจะจำเจ้าไม่ได้เพียงเพราะเจ้าปิดหน้าด้วยผ้าพันคอ?” เอเดรียนมองไปยังล็อคที่ปิดหน้าปิดตาและกล่าว
เพียะ!
ใครจะไปคิดว่าล็อคจะตบเขาจนตกพื้น!
“ล็อค! เจ้ารู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป!” อลิซตะโกน
ล็อคไม่ตอบ หลังจากกำหมัด เขาก็ต่อยไปที่ใบหน้าของเอเดรียน!
“อ๊าก…!”
จากนั้นเขาก็ต่อยตามไปอีกสองสามหมัดทันที!
เอเดียนที่ขาหักไปแล้วสองข้างไม่สามารถต้านทานร่างบรรเทาขั้นสองของล็อคได้!
เขากรีดร้อง “พวกเจ้าต้องเป็นพยานให้ข้า! ล็อคมันเป็นคนทุบตีข้า!”
อย่างไรก็ตามผู้คนที่อยู่แถวนั้นเลือกจะเพิกเฉยและทำเพียงมองเงียบๆ
คนรับใช้บางคนได้รับบาดเจ็บจากการชกของล็อคจนต้องนอนอยู่บนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
อลิซกลัวมากจนไปกอดเสาที่อยู่ข้างถนนและไม่กล้าเข้าไปใกล้
“อ๊าก!!”
ใบหน้าของเอเดรียนบวมจากการถูกชก จากนั้นขาทั้งสองของเขาก็ถูกหมัดของล็อคต่อยซ้ำลงไป!
เสียงกระดูกแตกดังออกมา ไม่นานความเจ็บปวดที่คุ้นเคยก็กระทบเข้ากับจิตใจของเอเดียนอีกครั้ง
แน่นอนว่าล็อคยั้งมือของเขาไว้
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เขาก็เดินกลับมายังอีกฟากของถนนก่อนจะถอดผ้าพันคอแล้วยื่นคืน “ขอบคุณครับอาจารย์!”
“อย่าหนีไปไหน! เราจะให้ผู้พิพากษาตัดสินเจ้าทันที!” เมื่อเห็นว่าล็อคเดินไปไกลแล้ว ความกล้าหาญของเธอก็กลับมา
ไดอาน่าปิดปากของเธอและหัวเราะ ตอนนี้เธอเข้าใจเจตนาของล็อคแล้ว
“ตกลง! เราจะรออยู่ตรงนี้ คราวนี้ข้าอยากรู้จริงๆว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไร…”
ล็อคหัวเราะ “ฮ่าฮาฮาฮา! ไม่! คราวนี้ข้าขอพูดเอง!”
คนรับใช้ของตระกูลไวท์นำตำรวจออกมาจากศาล พวกเขาอ้างว่านายน้อยของพวกเขาถูกทำร้ายที่ข้างถนนและขอให้ผู้พิพากษาเริ่มการพิจารณาคดีอีกครั้ง
และคนที่พวกเขาฟ้องคือล็อคที่ยืนอยู่ตรงนั้น!
เอเดรียนในตอนนี้ไม่สามารถนั่งในศาลได้อีกต่อไป ขาของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจากการถูกทุบตีทำให้เขาเป็นลม ณ จุดตรงนั้น
ทำให้ตอนนี้อลิซเป็นฝ่ายฟ้องร้องคนเดียว
บรรดาผู้ชื่นชอบการแสดงได้กลับมาที่ศาลอีกครั้งเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อครู่เจ้าโจมตีเอเดรียนที่ถนนใช่รึไม่!” ผู้พิพากษาจ้องไปยังล็อค
“แน่นอนว่าไม่!” ล็อคไขว้แขนและตอบด้วยรอยยิ้ม
“เหลวไหล! ในตอนนั้นคนรับใช้ในตระกูลของเราก็อยู่ตรงนั้นด้วย! และคนที่กำลังฟังอยู่ตรงนี้ก็สามารถเป็นพยานได้!” อลิซทุบโต๊ะและตะโกน
ทนายของพวกเขายังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า “ล็อคคนนี้จองหองเกินไป! เขากล้ากระทั่งโจมตีลูกความของข้าตรงหน้าศาล เห็นได้ชัดเลยว่านี่คือการดูหมิ่นศาล! ศาลที่เคารพ ได้โปรดตัดสินโทษหนักแก่เขาด้วย!”
จากนั้นคนรับใช้ของพวกเขาอีกสองสามคนก็ให้การว่าเป็นล็อคที่โจมตีนายน้อยของพวกเขา
“เจ้าดีอะไรจะแก้ต่างให้ตัวเองรึไม่?” ผู้พิพากษาถามล็อคอีกครั้ง
“อย่างที่ข้ากล่าวไปก่อนหน้านี้ คนที่ทำร้ายเอเดียนไม่ใช่ข้า! มันไม่เกี่ยวอะไรกับข้าทั้งนั้น!”
“ไร้สาระ! แม้กระทั่งข้าเองยังเห็นเจ้าทุบตีใครบางคน! เจ้ายังกล้าพูดอีกรึว่ามันไม่ใช่เจ้า?”
ล็อคยักไหล่ “หลักฐานอยู่ที่ไหน? ทำไมถึงคิดว่าเป็นข้า?”
“แน่นอนว่ามันเป็นเพราะรูปร่างของเจ้าบวกกับสัญลักษณ์ประจำสถาบันบนเสื้อผ้าของเจ้า! อย่าได้คิดไปว่าแค่เจ้าใส่ผ้าพันคอสีดำแล้วเราจะจำเจ้าไม่ได้!” ผู้พิพากษาอยู่ฝ่ายตระกูลไวท์อย่างสมบูรณ์ ความเป็นกลางที่ผู้พิพากษาควรมีกลับไม่มีให้เห็น
“แปลกมาก! เท่าที่ข้ารู้มันมีคนอีกอย่างน้อยสองถึงสามพันคนในสถาบันที่มีสัญลักษณ์นี้! ยิ่งไปกว่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นหากมีคนจากโรงเรียนอื่นแอบอ้างเป็นข้า? เสื้อผ้าที่ข้าใส่อยู่ก็ธรรมดา ใครๆก็สามารถซื้อมันได้! และอย่าลืมไปว่าคนที่ทำร้ายเอเดรียนยังปิดปังหน้าอยู่! เจ้าเห็นหน้าของเขาชัดไหม? แล้วมั่นใจได้อย่างไรว่าเขาคนนั้นคือข้า? ถ้าเกิดข้าถูกใส่ร้ายขึ้นมาล่ะ? ฉะนั้นอย่างแรกที่เราต้องทำคือยืนยันตัวตนของผู้โจมตีก่อน!”
คำพูดของล็อคทำให้ผู้พิพากษาพูดไม่ออก
‘เด็กคนนี้กำลังใช้คำพูดของข้ากับข้าเอง?’
“ช่างไร้ยางอายจริงเสียจริง! เจ้ากำลังกล่าวความเท็จ!” ผู้พิพากษาหน้าแดงด้วยความโกรธ เขาเคาะโต๊ะด้วยค้อน
“โอ้! จริงด้วย! หากข้าจำไม่ผิดมันมีแบทเทิลบีสต์ที่สามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ หากเราสามารถนำมันมาขึ้นศาล เราก็จะพบความจริง!”
“แน่นอน! นำแบทเทิลบีสต์ออกมา! จากนั้นแสดงบันทึกของมันให้เราเห็น!”
ทันทีที่ผู้พิพากษากล่าวจบ เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
เขาตระหนักว่าเขาตกหลุมพรางของล็อคอย่างสมบูรณ์!
ประโยคถัดมาของล็อคทำให้เขาโกรธจนแทบพลิกโต๊ะ!
“อย่างไรก็ตามน่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ที่อยู่ของมัน แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้าเชื่อว่าข้าสามารถหามันพบได้ภายในยี่สิบปีข้างหน้า! ดังนั้นข้าว่าเราควรพับคดีนี้เก็บไว้ก่อน สรุปคือ ด้วยหลักฐานปัจจุบัน ท่านไม่สามารถพูดได้ว่าคนที่ดูเหมือนข้าคือข้าถูกไหม?”
“อุฟ…”
“ฮ่าฮาฮา…”
“น่าทึ่งมาก…”
คำพูดของล็อคทำให้ผู้ชมหัวเราะออกมา