Ep.585 – ภารกิจสงครามขั้นแตกหัก : สวรรค์ลงทัณฑ์
อีเลียตรวจสอบกระดิ่งมารสวรรค์อย่างระมัดระวัง ก่อนจะส่งมันคืนให้แก่กู่ฉิงซาน
“มันเป็นเพียงสัญญาณที่ใช้ยืนยัน แต่ไม่ใช่การอัญเชิญ”
เธออธิบายอย่างจริงจัง “ในโลกใบนี้มีกำแพงอุปสรรคที่เป็นอำนาจเทวะของเหล่าทวยเทพอยู่ ดังนั้นกระดิ่งของเจ้าจึงถูกขัดขวางด้วยกำแพงอุปสรรคนี้ แม้จะเป็นตัวต้นกำเนิดเอง หากต้องการนำพามารสวรรค์เข้ามา เกรงว่ามันคงต้องออกไปด้วยราคาที่มหาศาลยิ่ง”
กู่ฉิงซานคิดสักพักจึงเอ่ยถาม “แล้วถ้าผมขึ้นไปยังชั้นน้ำแข็งของโลกใบนี้ ผมจะสามารถใช้มันได้ไหม?”
อีเลียฝืนยิ้มออกมา “หากเป็นในกรณีที่เจ้าว่า ต้นกำเนิดจะต้องสามารถตระหนักถึงได้อย่างแน่นอน เพราะตัวมันเองคือระบบ และได้แผ่อำนาจปกคลุมไปตลอดทั้งชั้นน้ำแข็งแล้ว”
ใช่แล้วล่ะ เมื่อต้นกำเนิดตระหนักถึงตัวกู่ฉิงซาน มันก็จะสั่งการกองทัพผู้เข้าสู่วิถีมารกว่า 200 ล้านคนและกองทัพผียกทัพเข้าหาเขาทันที
อธิบายแค่นี้ก็น่าจะพอ คงไม่ต้องบอกนะว่ามันจะอันตรายขนาดไหน
กู่ฉิงซานเลยลองไตร่ตรองดูอีกสักพัก ก่อนจะเอ่ยปาก “งั้นคำถามสุดท้าย แล้วพวกเราจะทำลายระบบได้อย่างไร?”
“ตรงส่วนนี้เราขอพูดนะ” ลอร่าขัดจังหวะ
“1000 ปีก่อน ในครั้งที่ระบบของราชามารโจมตีและเข้าครอบงำดินแดนที่ถูกยึดครองโดยศัตรู และกำลังจะแพร่กระจายไปตลอดทั้งโลก 900 ล้านชั้น เหล่าตัวตนทรงอำนาจได้คิดค้นถึงวิธีรับมือวิธีหนึ่งขึ้นมา”
“นั่นคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบของราชามารจะทำการยึคดครองโลกใบนั้นๆ ตัวตนทรงอำนาจของตลอดทั้งโลก 900 ล้านชั้นก็จะสังหารผู้เข้าสู่วิถีมารทั้งหมดของโลกใบที่ว่าลงทันที”
“เมื่อปราศจากซึ่งชีวิตที่ต้องคอยดูแล และรับฟังคำสั่งจากระบบ ตัวระบบเองสุดท้ายก็มีแต่ต้องถูกทำลายลงเท่านั้น”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ … ”
กู่ฉิงซานเงยหน้าขึ้น มองไปบนท้องฟ้า
เหนือท้องฟ้าขึ้นไป คือชั้นมหาสมุทร
ข้ามผ่านมหาสมุทรขึ้นไป คือโลกชั้นน้ำแข็ง
โลกที่มีผู้เข้าสู่วิถีมารกว่า 200 ล้านคนอาศัยอยู่
นี่นับว่าเป็นขุมกำลังอันยิ่งใหญ่ และไร้ผู้ใดเปรียบ
แต่ขณะเดียวกัน หากสังหารพวกเขาทั้งหมดลงได้ ระบบของราชามารก็จะพินาศสิ้น
— ศัตรูกว่า 200 ล้าน ที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับตนเอง
แล้วนี่ฉันจะกำจัดพวกมันทั้งหมดได้อย่างไร?
กู่ฉิงซานนิ่งคิดอย่างเงียบๆ
อีเลียเมื่อเห็นถึงสีหน้าของเขา เธอก็ถอนหายใจ “100000 กองทัพผี และ 200 ล้านผู้เข้าสู่วิถีมาร ต่อให้เป็นตัวข้าเอง ก็ยังคิดวิธีรับมือกับศัตรูมากมายนาดนั้นไม่ได้ นอกจากนี้ แต่ละคนยังมีระบบคอยสนับสนุนอีก เจ้าอย่าลืมนะว่าพวกมันสามารถขอรับอุปกรณ์หรือเทคนิคมนตราที่ทรงประสิทธิภาพจากระบบได้ ไม่เว้นกระทั่งอัญเชิญอสูรกาย!”
กู่ฉิงซานพยักหน้า “ใช่ … มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมด”
เขาย้อนนึกไปถึงเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมา พิจารณาทุกรายละเอียดอย่างรอบคอบ
ผ่านไปเป็นเวลานาน สุดท้ายเขาก็เบนสายตาไปมองลอร่า
“องค์กษัตรีย์ กระหม่อมมีคำถามสำคัญที่ต้องการจะไถ่ถามท่าน” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“กู่ฉิงซาน หากมีสิ่งใดก็พูดมา ไม่จำเป็นต้องจริงจังกับเราก็ได้” ลอร่าตอบเขา
“ไม่ได้ มันต้องจริงจัง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชะตากรรมของโลก 900 ล้านชั้น มันจะกลายเป็นตัวกำหนดทิศทางสงครามทั้งหมด และมันยังเป็นตัวตัดสินอีกด้วยว่าท่านจะสามารถล้างแค้นให้พระบิดา มารดา ของท่านได้หรือไม่”
ลอร่าพอได้ฟังก็เปลี่ยนทัศนคติทันที น้ำเสียงของเธอกลายเป็นเคร่งขรึม “เจ้าลองว่ามา เราฟังอยู่”
“กระหม่อมอยากจะถามฝ่าบาท ว่าท่านยินดีจะทุ่มเททุกสิ่งอย่างให้กับการล้างแค้นหรือไม่?”
“เรายินดีจะทุ่มเททุกสิ่งอย่าง”
“ท่านยินดีจะทำทุกทางที่มันสามารถทำลายโลกที่ถูกจองจำโดยเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online ใบนี้ลงหรือไม่?”
ลอร่ากล่าวเฉียบขาด “ต่อให้กระดูกของเราจะถูกทุบเป็นผุยผง หรือแม้ว่าจะต้องจ่ายด้วยทุกสิ่งที่มี เราก็ยินดี เราจะไม่มีวันให้ทริสเต้ได้รับชัยชนะเด็ดขาด!”
กู่ฉิงซานหันไปมองวิหคหนามตนอื่นๆที่อยู่รอบๆเขา และมองไปยังเหมันต์ยามค่ำอีเลียเป็นคนสุดท้าย
เขาเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณมีผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่มากมาย และคุณเต็มใจที่จะให้พวกเขาร่วมมือกับผมสักพักจะได้หรือไม่”
“ร่วมมือกับเจ้า?” ลอร่าเกิดความสงสัย
“ใช่ หากทุกคน แน่นอนว่ารวมถึงฝ่าบาทด้วย ร่วมมือกับกระหม่อม พวกเราก็คงพอจะเห็นประกายแห่งความหวังที่จะใช้เอาชนะระบบของราชามารที่กำลังจะวิวัฒนาการเป็นปฏิวัตรได้อยู่”
ลอร่าสูดหายใจลึก กล่าวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว “กู่ฉิงซาน ตราบใดที่เจ้าสามารถโค่นเกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online ได้ ตัวเรา ราชินีแห่งวิหคหนามรุ่นนี้ ยินดีที่จะให้เจ้าได้เป็น –”
“เป็นเอิร์ล! เป็นเอิร์ลแห่งราชอาณาจักรหนาม!” อีเลียพุ่งเข้าแทรกทันที
ขณะที่ลอร่าตะลึงงัน
อีเลียรีบเสริมอย่างรวดเร็ว “เจ้าจะเป็นคนนอก คนแรกที่จะได้เป็นเอิร์ลแห่งราชอาณาจักรหนาม และเป็นมนุษย์คนแรกที่จะสามารถเข้าออกดินแดนอัศจรรย์ได้อย่างอิสระ พวกเราจะทำการอธิษฐานต่อรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้มันมอบพรแห่งชีวิตแก่เจ้าในดินแดนอัศจรรย์”
ดวงตาของลอร่าเบิกกว้าง เธอเร่งพยักหน้าสนับสนุนและกล่าว “ใช่ เป็นดังนั้น”
‘-ฟู่ว … เกือบไปแล้วไหมล่ะ’
กู่ฉิงซานพอได้ฟัง ก็ค่อนข้างประหลาดใจ แต่เขาก็เอ่ยออกมาว่า “ตกลงตามนั้น แต่ตอนนี้ ฝ่าบาทต้องลองฟังคำขอของกระหม่อมก่อน ว่าท่านพอจะสามารถทำได้ไหม?”
ลอร่ามองไปมายังกู่ฉิงซาน
บุรุษผู้นี้ เขาจะมีวิธีจัดการกับปฏิวัตรจริงๆใช่ไหม?
หากเป็นผู้อื่น แต่มากล่าวเช่นนี้ต่อหน้าตนเอง ลอร่าจะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม กู่ฉิงซานน่ะแตกต่างจากคนทั่วๆไป ทุกครั้งที่เขาลงมือ มันล้วนเป็นสิ่งที่ลอร่าไม่แม้แต่จะกล้าคิด
ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาจะต้องสามารถทำมันได้อย่างแน่นอน!
ลอร่าพอคิดได้ เธอก็เดินไปหาเขา แล้วคว้าจับมือกู่ฉิงซาน หันหน้ากลับมามองทหารพิทักษ์ทั้งหมด “ข้าจะเชื่อฟังเจ้าตามข้อตกลง และผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าเองก็เช่นกัน”
ทหารพิทักษ์กล่าวทันที “เพื่อองค์กษัตรีย์ พวกเรายินดีให้ความร่วมมือ”
กู่ฉิงซานมองไปทางอีเลีย
อีเลียพยักหน้า “ตราบใดที่เจ้าไม่ปล่อยให้ลอร่าทำในสิ่งที่อันตราย ข้าเต็มใจร่วมมือ”
“แน่นอนว่าไม่ยอมหรอก คุณมั่นใจได้เลย”
ว่าจบ คิ้วของกู่ฉิงซานก็ขมวดเข้าหากัน
เขาแตะลงบนหัวลอร่าเบาๆแล้วกล่าวว่า “ดีล่ะ งั้นต่อจากนี้ไปกระหม่อมจะเป็นคนเตรียมการทุกอย่างเอง”
“เจ้าคิดจะทำอะไร?” ลอร่าเอ่ยถาม
“รอสักครู่-”
“ฉานนู่” กู่ฉิงซานโบกมือทันใด “มาเถอะ พวกเราเตรียมพร้อมแล้ว”
“เจ้าค่ะ นายน้อย”
ฉานนู่เปลี่ยนเป็นดาบบิน แล้วกลับเข้าสู่อากาศที่ว่างเปล่าเบื้องหลังเขา
ดาบพิภพก็หายไปด้วยเช่นกัน
กู่ฉิงซานหันไปพูดกับทุกคน “ผมต้องการจะทำบางอย่าง ระหว่างนั้น พวกคุณไม่ต้องตื่นตระหนกหรือเข้ามาแทรกแซงอะไร เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุใดๆขึ้น”
“เช่นนั้นแล้วเจ้าจะให้พวกเราทำอย่างไร?” อีเลียเอ่ยถาม
“คุณเป็นคนฉลาดกว่าทุกคนในที่นี้ ดังนั้นแค่คุณได้ดูว่าผมกำลังเตรียมจะทำอะไร ที่เหลือคุณก็น่าจะรู้ได้เอง”
“แล้วตกลงว่าเจ้าจะทำอะไร?” ลอร่าถามด้วยความอยากรู้
“เตรียมการสำหรับสงครามขั้นแตกหัก”
ขณะกล่าวกู่ฉิงซานก็หันไปอีกทาง
ระหว่างเดิน เขาก็เหลือบมองดูบนหน้าต่างเทพสงคราม
บนหน้าต่าง ปรากฏหลายบรรทัดกำลังสาดแสงอยู่
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“คุณได้รับสิทธิ์ในการเสริมพลังหนึ่งเท่า”
“โปรดทำการเลือกสกิลที่เหมาะสมสำหรับการเสริมพลังด้วย”
พวกนี้คือการแจ้งเตือนของสกิลสั่งสมแต้มพลัง ที่เขาได้รับมาจากการจัดการกองทัพผีบนที่ราบลุ่ม
ในแต่ละภารกิจต่อเนื่องของเทพสงคราม กู่ฉิงซานจะได้รับสภาวะเตรียมพร้อมสำหรับการ ‘สั่งสมแต้มพลัง’
ซึ่งนี่คือความแตกต่างระหว่างภารกิจเทพสงคราม กับภารกิจแห่งโชคชะตา
อย่างไรก็ตาม กู่ฉิงซานมิได้ใส่ใจกับตัวแจ้งเตือนเหล่านั้น เขาหันไปกล่าวกับหน้าต่างเทพสงคราม “ปล่อยภารกิจสุดท้าย”
ติ๊ง!
ตัวแจ้งเตือนบนหน้าต่างหายไปชั่วคราว ระบบเทพสงครามตอบกลับ “โปรดอธิบายวัตถุประสงค์ของภารกิจ”
“การต่อสู้ครั้งสุดท้ายได้มาถึงแล้ว และพวกเราจะต้องกำจัดระบบของราชามาร” กู่ฉิงซานกล่าว
“โปรดทำการยืนยันว่านี่คือวัตถุประสงค์ภารกิจของคุณ”
“ฉันยืนยัน”
“วิถีดาบแห่งคุณคือเป้าหมายภารกิจของระบบ และระบบได้ยอมรับการร้องขอภารกิจของคุณแล้ว”
บนหน้าต่างเทพสงคราม ในส่วนของฟังก์ชั่น ‘วิชายุทธเทพสงคราม’ , ‘พลังศักดิ์สิทธิ์เทพสงคราม’ , ‘สมญาเทพสงคราม’ , ‘พงศาวดารวันสิ้นโลก’ และสุดท้าย ’ภารกิจเทพสงคราม’ ได้ส่องสว่างขึ้น
บรรทัดแสงหิ่งห้อยร้อยเรียงกัน ปรากฏขึ้นบนหน้าต่างอย่างรวดเร็ว
“นี่คือภารกิจต่อเนื่องของระบบเทพสงคราม”
“ภารกิจต่อเนื่องพร้อมเริ่มดำเนินการแล้ว คุณจะต้องบรรลุภารกิจทั้งหมดให้สมบูรณ์ และกำจัดระบบของราชามาร ก่อนที่จะได้รับรางวัลในขั้นสุดท้าย”
“ภารกิจสุดท้ายถูกเปิดตัวแล้ว”
“เนื้อหาภารกิจ : เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online : ต้นกำเนิด กำลังอยู่ในระหว่างช่วงเวลาสำคัญในการอัพเกรด อีกไม่นานมันจะกลายเป็นปฏิวัตร และออกจากโลกใบนี้ ไปครอบคลุมตลอดทั้งโลก 300 ล้านชั้น”
“เป้าหมายภารกิจ : กำจัดมันซะ”
“รางวัลภารกิจ : ความลับ”
“กรุณาตั้งชื่อภารกิจสุดท้ายของคุณด้วย”
“ตั้งชื่ออีกแล้วหรอ?”
“นี่คือข้อปฏิบัตรของเทพสงคราม”
กู่ฉิงซานหัวเราะและกล่าว “ในโลกของฉัน มีคำที่พูดต่อๆกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณว่า ‘ไม่ว่าพวกเราจะกระทำสิ่งใด สวรรค์ก็มักจะเฝ้าจับมองดูอยู่เสมอ’”
“หากสวรรค์และโลกมีจิตนึกคิด มันย่อมไม่ยินยอมให้เกมหมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online แพร่กระจายออกไปอย่างแน่นอน”
“ … ดังนั้น ในฐานะที่ครั้งนี้คือสงครามขั้นแตกหัก ฉันขอตั้งชื่อมันว่า ‘สวรรค์ลงทัณฑ์’ ก็แล้วกัน”
ระบบเทพสงครามตอบกลับทันที “ภารกิจสงครามขั้นแตกหัก : สวรรค์ลงทัณฑ์ ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!”
เส้นแสงปรากฏขึ้นเหนือภารกิจ ในเวลาเดียวกัน ทั้งภารกิจก็เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง และกลายเป็นหน้าจอภารกิจที่สมบูรณ์ และกลับไปถูกเก็บอยู่ในหมวดหมู่ของ ภารกิจเทพสงคราม
หลังจากภารกิจถูกเปิดตัว กู่ฉิงซานก็ตรงไปยืนอยู่ใจกลางจตุรัส
ตรงจุดนี้เว้นระยะห่างระหว่างลอร่าและคนอื่นๆระดับหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะมีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น พวกเธอก็จะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนัก
เขาตบลงในถุงสัมภาระ เอาเบาะรองนั่งมาวางบนพื้น จากนั้นก็โยนกระดิ่งมารสวรรค์ขึ้นไปกลางอากาศ ในมือจีบออกด้วยวิชาลับ ทำการควบคุมมันให้ลอยล่องไปกับสายลมเบาๆ
จากนั้น กู่ฉิงซานก็นั่งลงบนฟูก
เขาโยนเม็ดยาวิญญาณเข้าปาก สองตาหุบต่ำลง แรงกดดันจากทั้งคนทั้งร่างค่อยๆบรรจบกัน
เวลานี้ เขาเหมือนกับเป็นเพียงแค่คนธรรมดา แม้กระทั่งกลิ่นอายของเขาก็ค่อยๆแผ่วเบาลง
ในที่สุด กลิ่นอายของเขาก็หายไป
เห็นได้ชัดว่าเขายังนั่งอยู่ที่นี่ แต่ฝูงชนที่กำลังรับชมกลับรู้สึกว่าเขาได้เลือนหายไปแล้ว
ลอร่าที่ยืนอยู่ไปไกล เมื่อมองมายังฉากนี้ เธอก็ทนไม่ไหวต้องถามออกมา “นั่นเขาคิดจะทำอะไร?”
“นั่นเรียกว่าภาวะสมาธิ เป็นวิถีฝึกฝนของผู้ฝึกยุทธ” อีเลียตอบ
ลอร่าขบคิดและกล่าว “ในเมื่อเขาบอกว่าพวกเราอย่าทำอะไร งั้นก็คอยดูเงียบๆกันเถอะ”
“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ขานรับ ทั้งหมดกลับนิ่งค้างไปพร้อมกัน
พวกเขาน่ะเป็นทหาร ดังนั้นจึงสามารถตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างได้อย่างรวดเร็ว
เห็นแค่เพียงกู่ฉิงซานที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่
แต่กลับปรากฏความผันผวนทางพลังวิญญาณแพร่กระจายออกจากตัวเขา เข้าไปผสานเชื่อมต่อกับสวรรค์และโลก
นี่คือสัญญาณของการตัดผ่านขอบเขตใหญ่
กู่ฉิงซานอยู่ในขอบเขตประทับเทพขั้นปลาย และตัวเขาเองก็พร้อมที่จะทะลวงตั้งนานแล้ว และในที่สุดเขาก็เริ่มกระบวนการตัดผ่านมัน
สวรรค์และโลกตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทันที
เมฆดำขนาดใหญ่ผุดขึ้นบนท้องฟ้า พร้อมด้วยเสียงฟ้าร้อง และสายฟ้าที่วิ่งผ่านระหว่างชั้นเมฆ
สีหน้าของลอร่าเปลี่ยนไป “นั่นเขาคิดอะไรอยู่ ในโลกใบนี้ พลังของสายฟ้าจะทรงอานุภาพมากกว่าปกติ ถ้าทำแบบนั้น เขาจะถูกสายฟ้าฆ่าเอาได้นะ!”
ฝูงชนแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้าอยู่สักพักหนึ่ง
เห็นแค่เพียงบนท้องฟ้าที่ครึ้มไปด้วยเมฆ แต่ยังไม่มีสายฟ้าสวรรค์ฟาดผ่าลงมา
“เอ๋? เกิดอะไรขึ้น?” ลอร่าไม่เข้าใจ
“เขาเพียงอยู่ในสถานะเตรียมการตัดผ่าน ดังนั้นสวรรค์จึงยังไม่ลงทัณฑ์ มันเพียงรวบรวมพลังอำนาจเอาไว้เท่านั้น” อีเลียไขข้อสงสัย
ทุกคนมองไปยังกู่ฉิงซานพร้อมกัน
บุรุษผู้นี้เห็นได้ชัดว่าต้องการที่จะตัดผ่าน แต่เขากลับยังไม่ยินยอมเข้าสู่สภาวะตัดผ่านเสียที
แท้จริงแล้ว … เขากำลังคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่เนี่ย?