แสงสายฟ้าสีแดงหยดย้อยลงจากมวลเมฆ ร่วงตกลงมายังตำแหน่งที่กู่ฉิงซานยืนอยู่
ขณะที่กู่ฉิงซานยังคงหยุดนิ่ง เคียงข้างไปกับดาบคู่ใจ มิคิดเคลื่อนกายไปไหน
เฝ้ารอจนกระทั่งสายฟ้าดับจิตเทวะใกล้เข้ามา จนเกือบที่จะแตะเข้ากับปลายดาบยาว พริบตานั้นเขาร่างของเขาก็เริ่มวูบไหว จากไปในลมหายใจเดียว
และนั่นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ลอร่าบรรลุในสิ่งที่เธอต้องทำ
กู่ฉิงซานมองไปยังสายฟ้าดับจิตเทวะขนาดยักษ์
‘ไม่จำเป็นต้องทนอีกต่อไปแล้ว!’
ชั่วพริบตาถัดมา
คล้ายกับว่าใครบางคนได้ทำการสับเปลี่ยนภาพอย่างกะทันหัน ทั้งกู่ฉิงซานและสายฟ้าดับจิตเทวะหายวับไปในเวลาเดียวกัน สลับตำแหน่งกันอย่างรวดเร็ว
สกิลเทวะ ร่างเงาแทนที่!
สายฟ้าดับจิตเทวะสัมผัสลงกับพื้นโดยตรง
เปรี้ยง!
พื้นดินถูกพลิกตลบ แรงระเบิดก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ เจาะลึกลงไปเบื้องล่างจัตุรัส
“เสียใจด้วย…ที่ดูเหมือนว่าพลังสายฟ้าในครั้งนี้จะสูญเปล่าเสียแล้ว”
กู่ฉิงซานมองย้อนกลับลงไป และอดไม่ได้ที่จะเสียทัณฑ์สวรรค์
เขาทะยานตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า ทั้งคนทั้งร่างม้วนโฉบตัดสายลมดั่งนกนางนวล ผุดหายเข้าไปในม่านเมฆ
ท่ามกลางพายุสายฟ้าคะนอง เขาหลบเลี่ยงมันอย่างไม่รู้จบ
ก็ในเมื่อพิธีกรรมของลอร่าได้จบลงแล้ว ตัวกู่ฉิงซานเองก็ไม่คิดที่จะข้องแวะกับสายฟ้าสวรรค์อีกต่อไป
บังเกิดเสียงสายลมหวนทิ่มแทงเข้ามาในหู
ภายในม่านเมฆ ทัณฑ์สายฟ้าคำรามด้วยความโกรธ และกำลังสั่งสมอำนาจโจมตีในระลอกต่อไป
บรรดาสายฟ้าที่ถูกหลบเลี่ยงโดยเขาก่อนหน้านี้หยุดฟาดผ่าลง และเริ่มพากันบินหวนกลับขึ้นไปไล่ล่าเขาอย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานคว้าดาบเช่าหยินออกมา ชี้ปลายคมกล้าของมันขึ้นไปยังท้องฟ้าที่มืดมิด พลังศักดิ์สิทธิ์ข้ามผ่านมหาสมุทรถูกใช้ออกทันที
ถึงเวลาแล้วที่จะสังหารระบบของราชามาร!
อย่างไรก็ตาม ณ ขณะนั้นเอง
ทุกสิ่งอย่างกลับหยุดนิ่ง
ทั้งหมดนิ่งงันอยู่ในสถานที่เดิม
กู่ฉิงซานพบว่าแม้ตัวเขาจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่สมองก็ยังสั่งการความคิดได้อยู่
ซึ่งความคิดน่ะมันเชื่อมโยงกับจิตใจของเขาโดยตรง ส่งผลให้สามารถได้ยินถึงเสียงที่เต็มไปด้วยความผันผวนจากภายในนั้นดังก้องขึ้น
“เจ้าหนู ข้าได้จับตาดูเจ้ามานานแล้ว คอยเฝ้ามองเจ้ากับลอร่ามานาน และในที่สุดข้าก็ถูกเรียกตัว ปลุกให้ตื่นขึ้นต่อหน้าเจ้าเสียที” เสียงนั้นส่งผ่านความคิดผ่านเข้ามา
“เจ้าเป็นใครกัน?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
เสียงนั้นถอนหายใจและกล่าว “ข้าน่ะหรือ? ข้าก็คือสิ่งที่อยู่บนกายเจ้าไง ถึงเดิมทีแล้วกำลังรักษาความเสียหายอยู่ก็เถอะ แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะมีงานให้ต้องทำอีกแล้ว”
กู่ฉิงซานตอบกลับพร้อมทั้งเอ่ยถาม “ที่แท้เจ้าก็คือเกราะรบที่ลอร่ามอบให้ข้านั่นเอง ว่าแต่เมื่อครู่เจ้าบอกว่าได้รับความเสียหายอย่างงั้นหรือ?”
“ถูกต้อง ในช่วงเวลานั้นพวกเราได้เดินทางเข้ามาในอัลเบอัส แต่แล้วก็ถูกทริสเต้ฉวยจังหวะทีเผลอ ใช้สี่เหล็กในที่ได้รับมาจากจอมมารที่แท้จริง ทำการลอบสังหารราชวงศ์หนาม”
“สี่เหล็กใน?”
“ใช่ ในเวลานั้น ราชาหนาม ราชินีหนาม ลอร่า และน้องชายของเธอ ทั้งสี่คนกำลังร่วมกันถ่ายภาพครอบครัวอยู่ แต่แล้วทริสเต้ก็ฉวยโอกาสนั้นลงมือจากด้านหลังพวกเขา”
“แล้วลอร่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม
“ในชั่วพริบตาสุดท้าย องค์ราชาได้เหวี่ยงข้าออกไปคลุมบนตัวของลอร่า”
“เนื่องจากลอร่ามีพรสวรรค์แสนวิเศษอย่าง ‘ลี้ภัยแห่งหมื่นโลกา’ ฉะนั้นตราบใดที่เธอไม่ถูกฆ่าตายทันที เธอย่อมสามารถใช้มันแล้วหลบหนีไปจากการลอบสังหารของทริสเต้ได้”
“…พ่อของลอร่าช่างมีไหวพริบและจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่จริงๆ”
“แต่ขอบอกตรงๆ ว่าเหล็กในของจอมมารค่อนข้างจะทรงพลังมากทีเดียว แม้กระทั่งสกิลตัดขาดเวลาของข้า ก็ยังไม่สามารถปัดป้องมันได้ นี่ขนาดข้าทุ่มสุดตัวแล้วนะ แต่ก็ยังได้รับความเสียหายนี้มา”
“แล้วลอร่าล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง?”
“เดชะบุญที่เธอไม่เป็นอะไร”
ความคิดของเกราะรบกลายเป็นจริงจัง มันเอ่ยถาม “ตอนนี้ ข้ามีสิ่งหนึ่งที่ต้องการจะถามเจ้า”
“โปรดบอกมา”
“โชคชะตาน่ะมักจะให้ตัวเลือกแก่ผู้คนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกของเจ้า หรือทางเลือกของข้า ล้วนแตกต่างกันและไม่อาจคาดเดาได้ ดังนั้นข้าเลยต้องการที่จะทราบว่าเจ้าอยากจะสวมใส่ข้าต่อไปในภายภาคหน้า หรือว่าหลังจากจบเรื่องนี้แล้ว เจ้าจะคืนข้าให้แก่ลอร่า”
“ก็ต้องคืนเจ้ากลับให้เธอสิ” กู่ฉิงซานกล่าวทันที
ความคิดของเกราะรบกล่าว “เจ้าพอจะตัดสินใจอีกสักครั้งได้หรือไม่ นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ครอบครองข้าเชียวนะ เพราะท้ายที่สุดนี้ ในตลอดทั้งหมื่นโลกา เกราะรบแบบข้าน่ะมีไม่มากนักหรอกนะ”
มันยังคงเอ่ยต่อ “ข้าไม่ชอบที่จะถูกเก็บไว้อยู่ในรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์แห่งหนาม ไม่ชอบที่จะต้องคอยมาเป็นสัญลักษณ์ของราชา แท้จริงแล้วข้าชมชอบในการต่อสู้ นี่ต่างหากจึงจะเหมาะสมกับสัญลักษณ์ของเกราะรบ…ข้าปรารถนาที่จะกระโจนลงสู่สมรภูมิอย่างแท้จริง”
“อ๋อ แต่นั่นมันทางเลือกของเจ้านี่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้าเสียหน่อย”
กู่ฉิงซานส่ายหัวและกล่าว “เจ้าน่ะเป็นของลอร่า และเธอก็ให้ข้ายืมมาใช้ หลังจากจบเรื่องนี้ ข้าจะต้องคืนเจ้าให้แก่เธอ”
“แต่…” เกราะรบต้องการจะเถียงต่อ
กู่ฉิงซานขัดจังหวะมัน “ด้วยความหวังของพ่อที่จะปกป้องลูกสาวของตัวเองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ความรู้สึกนี้ของเขา ข้าสามารถตระหนักถึงมันได้ดี”
“ในเมื่อเจ้าสามารถต้านทานเหล็กในของจอมมารที่แท้จริงได้ เช่นนั้นข้าก็หวังว่าเจ้าจะอยู่เคียงคู่กับลอร่า และคอยปกป้องเธอนับจากนี้ไปในอนาคต”
“ซึ่งนี่แหละคือความปรารถนาสุดท้ายของคนเป็นพ่อ และขณะเดียวกันมันก็เป็นคำขอของคนแปลกหน้าอย่างข้าด้วย”
“ฉะนั้น ข้าจะไม่พาเจ้าออกไป”
เกราะรบพอได้ฟังก็เงียบงันไป
ขณะเดียวกันสถานะตัดขาดเวลาก็ยังคงไม่จางหาย ทุกสรรพสิ่งโดยรอบยังคงนิ่งงันอยู่กับที่
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆ เกราะรบก็หัวเราะออกมา
น้ำเสียงของเกราะรบกลายเป็นสงบ และฟังดูพึงพอใจ “อันที่จริงแล้ว ตัวข้ากับรุกขชาติศักดิ์สิทธิ์แห่งหนามมีคำมั่นสาบานร่วมกันอยู่”
“คำมั่นสาบานอะไร?”
“ข้าสาบานว่าจะปกป้องเผ่าพันธุ์วิหคหนามที่นำพาข้าออกจากหุบเหวแห่งความสับสนวุ่นวาย -ข้าจักรับหน้าที่ปกป้องกษัตริย์ของพวกเขาตลอดไป”
เกราะรบยังคงเล่าต่อด้วยความสุข “เมื่อครู่นี้ หากในหัวใจของเจ้าบังเกิดซึ่งความละโมบ ต้องการที่จะช่วงชิงข้า ข้าก็จะจากเจ้าไป กลับคืนหาลอร่าโดยตรง”
“แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าสายตาของลอร่าจะหลักแหลมไม่เบาเลย ผู้พิทักษ์ที่เธอเป็นคนเลือกช่างมีคุณสมบัติเหมาะสมจริงๆ”
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าก็จะปฏิบัติตามคำขอของเธอ คอยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเจ้า”
ทันทีที่เสียงนี้ตกลง โลกทั้งใบก็กลับคืนสู่สภาวะปกติในพริบตา
เสียงสายลมเสียดแทงเข้ามาในหูของเขา
กู่ฉิงซานพบว่าตนเองยังคงบินขึ้นไปยังเบื้องบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันมวลเมฆก็กำลังรวบรวมอำนาจลงทัณฑ์ในครั้งต่อไป
ลอร่ายืนอยู่บนยอดต้นไม้ และกำลังส่งเสียงเชียร์เขา
ส่วนมารสวรรค์ ตนแล้วตนเล่าก็เริ่มเตรียมตัว พร้อมรับมือกับโดมบนท้องฟ้าที่กำลังจะเปิดออก
‘ตัดขาดเวลา’ ได้สลายไปแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน รอบกายของกู่ฉิงซานก็ปรากฏชั้นแสงบางเบาส่องไสวออกมา แม้มองในบางมุมมันจะดูคล้ายกับหมอก แต่ก็ยังสีแสงสว่างลอดออกมาเล็กน้อย
“แสงนี้คือ”
“เป็นข้าเอง ข้าคือสิ่งที่เหล่าทวยเทพได้รังสรรค์ขึ้น ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถมองเห็นได้”
“แล้วทำไมเจ้าถึงปรากฏออกมาในรูปแบบนี้?”
“เพราะรัศมีแสงเช่นนี้ มันบ่งบอกถึงเกียรติยศ มันบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ของวัตถุที่ถูกรังสรรค์ขึ้นโดยทวยเทพอย่างไรล่ะ!”
ขณะที่เกราะรบกล่าว กู่ฉิงซานก็ค้นพบว่าบนหน้าต่างเทพสงคราม มีสองบรรทัดแสงตัวอักษรขนาดเล็กเด้งขึ้นมา
“ชุดเกราะรบของคุณได้เข้าสู่สถานะต่อสู้”
“ตอนนี้คุณสามารถตรวจสอบรายละเอียดของเกราะรบได้แล้ว ต้องการที่จะตรวจสอบมันหรือไม่?”
“ตรวจสอบทันที”
กู่ฉิงซานกล่าว
ทันใดนั้นฝูงหิ่งห้อยก็โบยบินออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า ร้อยเรียงเป็นตัวอักษรอย่างต่อเนื่อง
“ชื่อไอเท็ม: วัตถุจากสมัยโบราณ เกราะของเหล่าทวยเทพ”
“คุณภาพ สิ่งประดิษฐ์เทวะโบราณ”
“นี่คือเกราะรบที่เหล่าทวยเทพในสมัยโบราณรังสรรค์มันขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน เดิมทีแล้วพวกเขาตั้งใจจะมอบมันเพื่อเป็นรางวัลให้แก่วีรบุรุษท่ามกลางหมู่มวลสิ่งมีชีวิตทั้งหมด แต่ภายหลังกลับพบว่าพลังป้องกันของเกราะนี้มันทรงประสิทธิภาพมากเกินไป ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เทพบรรพกาลมิได้มอบเกราะรบนี้ให้แก่สิ่งมีชีวิตทั้งมวล”
“ชุดเกราะรบ มีความสามารถดังต่อไปนี้”
“กำจัดธาตุ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้รับความเสียหายจากธาตุ ‘กำจัดธาตุ’ ในเกราะรบจะถูกเปิดใช้งานทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีธาตุที่จะทำร้ายคุณ”
“ไร้ซึ่งบาดแผล เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณได้รับความเสียหายทางกายภาพ ‘ไร้ซึ่งบาดแผล’ ในเกราะรบจะถูกเปิดใช้งานทันที เพื่องป้องกันความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีทางกายภาพที่จะทำร้ายคุณ”
“คำบัญชาเทพ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณถูกโจมตีอย่างร้ายแรง เกราะรบจะตระหนักได้ถึงโชคชะตาแห่งความตายของคุณ และมันจะใช้ออกด้วย ‘ตัดขาดเวลา’ ทันที”
“ในส่วนล่างนับจากนี้ไป คือคำอธิบายของหน้าต่างเทพสงคราม”
“วิชายุทธ์เทพสงคราม ชุดเกราะนี้คือเกราะรบของเทพบรรพกาล และมีอำนาจเทวะอยู่ในมัน อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถเรียนรู้สกิลเหล่านั้นได้”
“พงศาวดารวันสิ้นโลก ชุดเกราะนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยเหล่าทวยเทพ ในชีวิตก่อนหน้าของคุณ หลังจากที่ราชวงศ์หนามทุกคนได้เสียชีวิตลงแล้ว เกราะรบนี้ก็ถูกครองครอบโดยแสงแห่งรุ่งอรุณทริสเต้ และเธอได้นำมันไปมอบให้แก่จอมมารที่แท้จริง จนท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นเกราะรบของจอมมาร”
“หมายเหตุ คุณสามารถจ่ายหนึ่งพันแต้มพลังวิญญาณ เพื่อทำการตรวจสอบเหตุการณ์อันมีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเกราะรบนี้ได้”
“ฉันจ่าย”
“เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องได้ถูกปลดล็อกแล้ว”
“เหตุการณ์อันมีชื่อเสียง หายนะความพ่ายแพ้ของจอมมารที่แท้จริง”
“หายนะความพ่ายแพ้ของจอมมารที่แท้จริง ในช่วงเวลาวิกฤติท่ามกลางการต่อสู้ขั้นแตกหัก ระหว่างที่กำลังทานรับการโจมตีอันร้ายกาจเป็นประวัติการณ์จากศัตรูรอบทิศทาง เกราะรบจอมมารได้ละทิ้งจอมมารที่แท้จริงอย่างกะทันหัน ส่งผลให้จอมมารได้รับบาดเจ็บร้ายแรงจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น”
“ภายหลัง จอมมารที่แท้จริงจึงได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำลายล้างเกราะรบที่ทรยศมันเกราะนี้!”
กู่ฉิงซานที่พอได้อ่านคำอธิบายทั้งหมด เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
แต่เดิม เกราะรบนี้มันมีจิตนึกคิดและความรู้สึก
บางทีเหตุการณ์ ‘หายนะความพ่ายแพ้ของจอมมารที่แท้จริง’ มันอาจเกิดจากการล้างแค้นของเกราะรบสำหรับราชวงศ์หนามก็เป็นได้
“ตกลง งั้นก็จงร่วมมือกับข้าเสีย!”
ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องกำจัดศัตรูทั้งหมด!
ตอนนี้ ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องทำให้ทุกอย่างมันจบลง!
ภายใต้ความมุ่งมั่นแรงกล้าของกู่ฉิงซาน ประกายแสงระยับจางๆ ที่อยู่รอบกายเขาก็เริ่มสาดแสงเดือดพล่านออกมา
กลิ่นอายอันแสนลึกลับและสง่างามเล็ดลอดออกมาจากตัวเขา
ในขณะเดียวกัน ภายใต้แสงสว่าง เสียงเสียงหนึ่งดังกึกก้อง
“เช่นนั้นก็ไปเถอะ ข้าจะลุยไปด้วยกันกับเจ้าเอง!”
………………………………………………