ณ ภายในโลกที่อุดมไปด้วยภูเขาไฟและลาวาเหลว
ปีศาจที่ทั้งเนื้อตัวของมันไหม้เกรียม ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง กำลังยืนอยู่บนยอดภูเขาไฟ ปากเอ่ยพึมพำเบาๆ “มาแล้ว ในที่สุดมันก็เรียกหาข้า”
ว่าจบ มันก็ดึงกระบี่หนักที่กำลังลุกไหม้ขึ้นมาจากปากปล่องภูเขาไฟ แล้วก้มมองลงไปยังธารลาวาเบื้องล่าง
ที่นั่น อุดมไปด้วยทะเลลาวาอันไร้ที่สิ้นสุด
กษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบควงกระบี่เพลิง ปากอ้าตะโกนลั่นลงไปยังธารลาวา “จงมากับข้า! สองร้อยล้านจิตวิญญาณกำลังรอให้พวกเราไปเก็บเกี่ยวอยู่!”
สิ้นเสียงตะโกน กษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบก็สับกระบี่เพลิงไปในอากาศที่ว่างเปล่า เปิดรอยแยกมิติออก แล้วผลุบหายเข้าไป
ขณะเดียวกัน ภายในธารลาวา กลุ่มก้อนเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนก็เริ่มทะยานตัวขึ้นสู่ฟากฟ้า และไล่ติดตามกษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบ บุกเข้าไปในรอยแยกมิติอย่างใกล้ชิด
อีกด้านหนึ่ง ภายในโลกที่อุดมไปด้วยหมอกสีเทาและขาว
กษัตริย์อสูรเงารับรู้ได้ถึงการเรียกขานของทัณฑ์สวรรค์
มันก้มลงมองจอกศักดิ์สิทธิ์ในมือ เพ่งสำรวจด้วยความรักใคร่ ก่อนจะนำจอกไปเก็บอย่างระมัดระวัง
“ข้าชักจะขี้เกียจไปเสียแล้วสิ สำหรับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ พวกเจ้ามีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?” มันเอ่ยถาม
อสูรเงาตนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาหันไปมองหน้ากัน และเอ่ยปากตอบออกมา “ฝ่าบาท แม้ว่าสำหรับพวกเราแล้วจิตวิญญาณจะไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายนัก แต่มันก็ยังนับว่าเป็นทรัพย์สินที่มีค่า เพราะมันสามารถใช้เป็นสกุลเงินสากลในโลกปีศาจร้ายที่มีอยู่มากมายได้”
กษัตริย์อสูรเงานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงกล่าว “เอาเถิด ไปก็ไป เพราะอย่างไรเสียตัวข้าเองก็ได้ลงนามสัญญาเอาไว้แล้ว และดูเหมือนว่าอำนาจของสัญญานั่นจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยด้วย”
กลุ่มอสูรเงาพอได้ฟัง ตนแล้วตนเล่าก็เริ่มพากันพยักหน้าและคิดในใจ ‘นี่สิ คือสิ่งที่ควรจะเป็น’
กษัตริย์อสูรเงาผุดลุกขึ้น ปากเอ่ยบัญชา “ไปบอกกองทัพเตรียมการให้พร้อม และประกาศออกไปด้วยว่าตัวข้า…กษัตริย์ปีศาจจะนำพาเจ้าไปพบเผชิญกับโชคลาภครั้งใหญ่!”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!”
อีกโลกหนึ่ง
กษัตริย์อาชูร่านั่งอยู่บนหลังช้างเผือก
เขากำลังเอนกายพิงชูร่าหญิง และดื่มไวน์ชั้นดีที่อีกฝ่ายกำลังป้อนให้
ระหว่างนั้นเอง กษัตริย์อาชูร่าก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง
หลังจากจิบไวน์ไปอึกหนึ่ง เขาก็ลุกขึ้น ยืนหยัดอยู่บนหลังช้างเผือกและตะโกนลั่น
“ยามนี้ทัณฑ์สายลมได้เรียกขานแล้ว เรากษัตริย์อนุญาตให้พวกเจ้าสามารถต่อสู้ได้อย่างเต็มที่โดยไร้ซึ่งข้อจำกัดใดๆ แต่ขณะเดียวกันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสงครามที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่จะปรับปรุงและพัฒนาทักษะของพวกเจ้า จงเรียนรู้จากมัน เพื่อที่ตนเองจะได้ก้าวเดินไปบนเส้นทางที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น!”
เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงที่เปล่งออกมา ราวกับกำลังจะนำพาฝูงชนไปเข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง
ตรงกันข้ามกับช้างเผือก คือลานเบื้องล่างพระราชวัง
เป็นจัตุรัสสงครามแสนกว้างใหญ่
กองทัพอาชูร่า ที่ซึ่งได้เตรียมพร้อมอยู่นานแล้วได้มารวมตัวกันที่จัตุรัสแห่งนี้ ทั้งหมดส่งเสียงเฮสั่นสะเทือนแผ่นดิน
“เฮ! สงคราม! สงคราม!”
“สงคราม! การต่อสู้! สงคราม!”
กษัตริย์อาชูร่าพอสัมผัสได้ถึงขวัญกำลังใจของทุกคนที่อยู่เบื้องล่าง เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เขาคว้ากุมหอกไว้ในมือ ชูมันขึ้นเหนือท้องฟ้า และก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าทันที
ณ ภายในโลกผีโหย ราชาภูตผีโหยได้ทำการระดมกองทัพของตนเองเรียบร้อยแล้ว
ณ ภายในโลกผีกระหายเลือด ราชาภูตผีกระหายเลือดได้สวมใส่เกราะรบราชาภูต ตะโกนบัญชากองทัพเสียงดังลั่น
ณ ภายในโลกผีศพ ราชาภูตผีศพกับเผ่าพันธุ์ผีของมัน ทั้งหมดเริ่มก้าวเข้าไปในช่องว่างมิติที่ถูกเปิดออก
ณ โลกที่ถูกเหลือทิ้งไว้โดยทวยเทพ
แม่มารดึกดำบรรพ์ก็ตระหนักได้ถึงการเรียกขานของทัณฑ์สวรรค์แล้วเช่นกัน
“ได้เวลาแล้ว พวกเจ้ารออยู่นี่นะ ข้าจะนำพาอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาไปเดินเล่นเสียหน่อย” เธอบอกลูกๆ
แต่ขณะที่แม่มารกำลังจะออกไปนั้นเอง จักรพรรดินีหลี่อันก็ก้าวเข้ามา และโน้มกายคารวะลง
“มีเรื่องอะไรเช่นนั้นหรือ?” แม่มารถาม
“ท่านแม่ เดิมทีแล้วท่านเรียกพวกเรามาที่นี่เพราะต้องการแสดงวิสัยทัศน์ให้พวกเราเติบโตขึ้นมิใช่หรือ และในครั้งนี้ ทัณฑ์สวรรค์ที่ปรากฏขึ้น เป็นสิ่งที่ลูกมิเคยได้พบเห็นมาก่อนเลยในชีวิตที่ผ่านมา ดังนั้น ลูกจึงอยากจะขออนุญาตท่านแม่ให้ลูกและกำลังพลของลูกติดตามไปด้วยเช่นกัน” หลี่อันกล่าว
แม่มารคิดสักพัก ก็หัวเราะออกมา “เข้าใจแล้ว เจ้าจะไปด้วยก็ได้ และสามารถนำกำลังพลของเจ้าเข้าร่วมได้ด้วยเช่นกัน”
“ขอบพระคุณท่านแม่!” หลี่อันดีใจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่มารสวรรค์หญิงตนอื่นๆ เมื่อได้ยินแบบนั้น ตนแล้ว ตนเล่าก็เร่งไปร้องอ้อนวอนแม่มารบ้าง
แม่มารโบกมือและกล่าว “อยากจะมากันก็มา ทุกคนนั่นแหละ การที่ได้พบเจอกับฉากอันยิ่งใหญ่ด้วยตาของตัวเอง มันก็เป็นเรื่องราวที่ดีสำหรับพวกเจ้าเช่นกัน”
ขณะกล่าว ร่างของเธอก็ค่อยๆหายเข้าไปในความว่างเปล่า
มารสวรรค์หญิงตนอื่นๆ เริ่มทำการเรียกขานกำลังพลของพวกเธอ และเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่สนามรบตลอดเวลา
ณ จุดนี้ ตำแหน่งผู้ลงทัณฑ์ทั้งแปดได้เตรียมพร้อมประจัญบานแล้ว!
ณ บนโลกชั้นเปลือกน้ำแข็ง
สายลมเริ่มกระโชกแรง
โดยมีกู่ฉิงซานยืนนิ่งอยู่ใจกลางของพายุสายลม
ผู้เข้าสู่วิถีมารเริ่มตระหนักถึงบางสิ่งที่ไม่เหมาะสม
“เกิดอะไรขึ้น?” ผู้นำผู้เข้าสู่วิถีมารเอ่ยถาม
ข้างกายเขา ผู้ฝึกยุทธ์ได้อธิบายออกมา “นี่คือทัณฑ์สายลม”
“ทัณฑ์สายลมงั้นหรือ?”
“ใช่ เมื่อผู้ฝึกยุทธ์ในขอบเขตประทับเทพทำการตัดผ่าน เตรียมจะยกระดับขึ้นสู่ร่างเทวะ สายฟ้าสวรรค์จะฟาดผ่าลงใส่เขา และเมื่อพวกมันหมดลง ปีศาจนับพันหมื่นก็จักปรากฏตัวขึ้น และในตอนนี้ ทัณฑ์สายลมก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าพวกผีและปีศาจกำลังจะมาสังหารเขา”
“แล้วมันจะส่งผลกระทบใดต่อพวกเราหรือไม่?”
“ตราบใดที่พวกเราไม่ก้าวล้ำเส้นเข้าไปในอาณาเขตของทัณฑ์สายลมก็ไม่เป็นไร”
“เพราะเหตุใดพวกเราถึงเข้าไปไม่ได้?”
“เพราะทันทีที่พวกเราเข้าสู่อาณาเขตของทัณฑ์สายลม ทัณฑ์สวรรค์ก็จะรับรู้ไปโดยปริยายว่ามีคนที่คิดจะข้ามผ่านโทษทัณฑ์เพิ่มขึ้น มันจะตอบสนองทันที และทำการเรียกผีปีศาจให้ออกมามากยิ่งมากกว่าเดิม และพวกมันก็จะมองเราเป็นเป้าโจมตีด้วยเช่นกัน”
ผู้นำเผยสีหน้าผ่อนคลายลง และกล่าว “สรุปง่ายๆ ว่าต่อให้พวกเราไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง เขาก็ยังจะต้องตายอยู่ดีใช่หรือไม่?”
“ใช่ ต่อให้เขาโชคดีสามารถข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์มาได้ แต่พละกำลังย่อมต้องสูญเสียไปจนสิ้นอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น แค่ส่งคนของพวกเราไม่กี่คนออกไปจัดการ ก็สามารถคร่าชีวิตเขาได้แล้ว”
ผู้นำหัวเราะ “ดี! ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องสวดอธิษฐานอ้อนวอนไม่ให้เขารีบตายลงในทัณฑ์สายลมเสียแล้วสิ เพราะอย่างไรเสีย ชีวิตของเขาก็สามารถนำไปแลกกับรางวัลมหาศาลได้”
พอได้ยินแบบนั้น เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารที่อยู่ข้างกายผู้นำก็พากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ส่งคำสั่งของข้าออกไป ให้ทุกคนคอยเฝ้าดูการละเล่นตรงหน้าให้ดี แต่อย่าคิดก้าวเข้าไป มิฉะนั้นจะต้องตาย”
“หลังจากที่ทัณฑ์สายลมจบลง ถ้าหากเจ้าหมอนั่นยังมีชีวิตอยู่ ข้าจะเป็นคนไปรับรางวัลด้วยตนเอง” ผู้นำกล่าว
“รับทราบ!” ทุกคนตอบรับคำสั่ง
และคำสั่งที่ว่าก็ได้ถูกส่งต่อๆ กันออกไปอย่างรวดเร็ว
ทุกคนได้รับทราบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทัณฑ์สายลม
ซึ่งพอได้ฟัง เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารก็คลายใจลงเล็กน้อย เพราะคำสั่งก็คือ
ปล่อยให้เจ้ามนุษย์ที่น่าหวาดกลัวผู้นี้ทำการข้ามผ่านทัณฑ์สายลมไป ไม่ต้องเข้าไปยุ่มย่ามกับมัน
สำหรับปรากฏการณ์ของผู้ฝึกยุทธ์ที่คิดข้ามผ่านโทษทัณฑ์ มันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดยิ่ง
เพราะท้ายที่สุดนี้ สำหรับเส้นทางในการยกระดับของหลากหลายอาชีพอื่นๆ แล้ว ทั้งหมดล้วนสามารถผ่านมันไปได้โดยราบรื่น
อย่างไรก็ตาม อาชีพผู้ฝึกยุทธ์ช่างโชคร้ายนัก เพราะในทุกๆ ขอบเขตใหม่ พวกเขาจะต้องต่อสู้กับฟ้าดินอยู่เสมอ และจะต้องรอดชีวิตออกไปให้ได้ จึงจะสามารถยกระดับขึ้น
ทัณฑ์สายฟ้าคือภัยพิบัติอันแสนน่าหวาดกลัว
ขณะที่ท่ามกลางทัณฑ์สายลม ผีปีศาจนับพันหมื่นจะปรากฏกายขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นจะต้องรับมือกับศัตรูนับหมื่น และรอดชีวิตต่อไปให้ได้ในท้ายที่สุด
เพียงแค่ได้ลองคิดเกี่ยวกับมัน ก็สามารถรับรู้ได้ทันทีเลยว่านี่เป็นสถานการณ์ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
และไม่มีใครยินดีที่จะลองดี รับประสบการณ์ตรงๆ กับมัน
เมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารคนแล้วคนเล่าก็เริ่มเขยิบถอยห่างออกมา เพราะเกรงว่าตนจะเข้าไปพัวพัน หยั่งเท้าอยู่ในอาณาเขตของทัณฑ์สายลม
เวลานี้ ทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น
รอคอยให้เจ้าหมอนั่นตาย หรือไม่ก็เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า
กู่ฉิงซานยืนอยู่ใจกลางค่ายสัตว์ประหลาดผี และสังเกตเห็นถึงการเคลื่อนไหวของผู้เข้าสู่วิถีมารได้อย่างรวดเร็ว
“…ให้ความร่วมมือกันดีจริงๆ”
ปากเอ่ยเสียงกระซิบ
ชั่วเวลานั้นเอง ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง กู่ฉิงซานหยิบไม้เท้าแห่งการจองจำออกมา และวางปักมันลงบนพื้นน้ำแข็ง
บนหัวไม้เท้ากำลังสาดแสงสีแดงออกมา
นี่คือการเรียกขานของทัณฑ์สวรรค์
มันกำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว!
กู่ฉิงซานแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า
เบื้องบนเขา
สายลมกระหน่ำซัดอย่างไม่รู้จบ
พร้อมกับค่อยๆ ปรากฏถึงสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนผุดออกมาจากท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ก้มหน้ามองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ใบหน้าของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟโดยสมบูรณ์ เห็นแค่เพียงในอากาศที่ว่างเปล่าภายใต้เปลวไฟ ใบหน้าที่ไหม้เกรียมแลดูดุร้ายกำลังแสยะยิ้มออกมา
พร้อมด้วยเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นดังก้องขึ้น
“โอ้ เป็นสองร้อยล้านจิตวิญญาณจริงๆ นี่มันสถานการณ์ที่ชีวิตนี้พวกเราคงมิอาจพบเจอได้อีกแล้ว พวกเจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม!”
ปีศาจไหม้เกรียมร่วงตกลงมาจากท้องฟ้า ร่อนลงมาข้างกายกู่ฉิงซาน
กษัตริย์ปีศาจเพลิงเขมือบ…ประจำตำแหน่งแล้ว!
หลังจากนั้น แทบจะในทันที พื้นน้ำแข็งก็พลันถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด คล้ายกับว่ามีเงานับไม่ถ้วนอยู่บนพื้นน้ำแข็ง และในอากาศเบื้องล่าง
ตามด้วยเสียงที่เย็นชาดังขึ้น
“โอ้…จิตวิญญาณกว่าสองร้อยล้านคนมารอคอยต้อนรับตัวเรากษัตริย์ถึงที่นี่เลยหรือ? เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าเตรียมพวกมันมาพร้อมให้ข้าถึงที่นี่ เรื่องที่เจ้าสังหารร่างเงาของข้าไป ข้าจะไม่เก็บมาใส่ใจก็แล้วกัน”
เงาใหญ่ผุดขึ้นมาจากพื้นดิน มันสูงกว่าแปดเมตร ยามที่ได้จ้องมองไปบนร่างของมันจะให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจ้องมองหุบเหวอันมืดมิดที่ไม่รู้จัก
กษัตริย์อสูรเงา…ประจำตำแหน่งแล้ว!
ทันใดนั้นเองท้องฟ้าสีเทาก็พลันสว่างวาบขึ้นทันใด แสงอาทิตย์อันงดงามเฉิดฉายลงมาจนทุกคนอดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามอง
ท่ามกลางแสงของดวงอาทิตย์ สะท้อนถึงเสียงอันไพเราะของผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่กังวานขึ้น
พวกเธอขับขานท่วงทำนองอย่างพร้อมเพรียง “โอ บทกวีแห่งรั่วหมิง แอปเปิลในป่าใหญ่ แขกเหรื่อรื่นเริง ท่วงทำนองขลุ่ยเวียนวน ยิ่งฟังยิ่งกระจ่างชัดกว่าจันทรา ยามใดหนอจักลืมเลือน ความปวดร้าวอันมิอาจตัดให้ขาดนี้ลงได้”
ในท่วงทำนอง บุปผานับไม่ถ้วนเริ่มผุดออกมาจากในความว่างเปล่า
ปรากฏให้เห็นถึงหญิงงามในวัยผู้ใหญ่เหยียบย่ำลงบนหมู่มวลบุปผา และค่อยๆ ร่อนลงมาจากฟากฟ้า
เธอร่อนลงอย่างนุ่มนวล ถัดจากกู่ฉิงซาน
“แล้วพวกสัตว์ประหลาดผีเล่า?” เธอถามกู่ฉิงซาน
“ฆ่าไปหมดแล้ว” กู่ฉิงซานตอบกลับไปอย่างเฉยเมย
“เจ้านี่มันไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ”
ระหว่างกล่าว แม่มารก็กวาดสายตามองไปยังเหล่าผู้เข้าสู่วิถีมารมากมายที่รายล้อมอยู่โดยรอบ
“…ทั้งหมดคือรุ่นเยาว์ที่มีอายุวิญญาณต่ำกว่าสามสิบปีทั้งนั้นเลย แถมบังเอิญว่าข้ามีรสนิยมชมชอบในการกินเด็กเสียด้วยสิ…”
แม่มารสวรรค์ ประจำตำแหน่งแล้ว!
วินาทีต่อมา ชายชาตรีที่ช่วงบนเปลือยเปล่า เปิดเผยให้เห็นถึงกล้ามเนื้อก็ทิ้งตัวลงมาจากฟากฟ้า
ปัง!
สองเท้าของเข้าย่ำลงกับพื้น ในมือวางพาดหอกไว้บนไหล่ กวาดสายตามองไปยังฝ่ายตรงข้าม
“คนของข้าพร้อมแล้ว สามารถบุกทะลวงทั้งสี่ทิศได้ตลอดเวลา” เขาเอ่ยอย่างเป็นกันเอง
กษัตริย์อาชูร่า…ประจำตำแหน่ง!
เห็นแค่เพียงสามภูตผีที่รอบกายมันฟุ้งไปด้วยปราณสีดำผุดขึ้นมาจากพื้นดิน
ราชาภูตทั้งสามปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
“สองร้อยล้าน…ก็รู้นะว่าเยอะ แต่พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองแล้วมัน…” ราชาภูตผีโหยอุทานด้วยความตื่นเต้น
“ช่างเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมเสียจริงๆ เลยนะ ราชาภูตผีประภพ” ราชาภูตผีกระหายเลือดชื่นชม
“สิ่งมีชีวิตสดใหม่มากมายขนาดนี้ ข้าแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว พวกเราจะเริ่มกันได้หรือยัง?” ราชาภูตผีศพถามด้วยความตื่นเต้น
ขณะกล่าว ทั้งหมดก็เดินมาหยุดอยู่ข้างกายกู่ฉิงซาน
ณ เวลานี้ สี่กษัตริย์ และสี่ราชาภูตได้ประจำตำแหน่งตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
กู่ฉิงซานวางมือตนลงบนไม้เท้าแห่งการจองจำ ปากเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “งั้นก็มาเริ่มกันได้เลย!”
……………………………………………..