แบรี่กอดอกและกล่าว “จะให้ช่วยดูแลโลก? คิดดีแล้วเหรอ มันจะดีกว่าไหมถ้าให้ฉันกลับไปด้วยกันกับนาย เพื่อดูว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในพันธมิตรแห่งผู้ฝึกยุทธ์กันแน่”
เสี่ยวเหมียวยกมือขึ้นดึงแขนเสื้อพี่ชายเธอและกล่าว “พี่ชาย มีบางอย่างไม่ถูกต้อง น้องรู้สึกว่ามิติของโลกใบนี้กำลังถูกแช่แข็ง ส่งผลให้อีกไม่นาน พวกเราจะไม่สามารถเข้าหรือออกไปได้”
“ว่าไงนะ? หมายความว่าถ้าพวกเราออกไปก็จะไม่สามารถกลับมาได้อีกเลยเหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น นี่เป็นแค่ความปั่นป่วนของมิติเวลา แต่มันก็ยังกินเวลานานอยู่ดี น้องกลัวว่าพวกเราไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาได้ในระยะเวลาสั้นๆ”
“งั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่ เพราะถ้าในเมื่อพวกเราเข้าไม่ได้ คนอื่นก็ไม่น่าจะเข้ามาได้เหมือนกัน” แบรี่กล่าว
เสี่ยวเหมียวถอนหายใจ กล่าวด้วยอาการปวดหัว “พี่ชาย พี่ลืมเรื่องพระเจ้าของสถาบันเทพไปแล้วเหรอ?”
พอได้ฟัง แบรี่ก็ร้องอ๋อ เขาตบหัวตนเองแทนคำตอบแก่เธอ
เสี่ยวเหมียว “ก่อนหน้านี้พวกเราถูกหลอกให้คิดว่ามันตายไปแล้ว แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นพระเจ้าจริงๆ น้องหมายถึงถ้าหากมันเป็นการดำรงอยู่ระดับนั้น บางทีก่อนที่โลกมิติอนันต์จะเสถียร มันอาจจะค้นพบช่องโหว่ของโลกใบนี้แล้วบุกเข้ามาก็ได้”
แบรี่พยักหน้า ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของน้องสาว
“น้องกำลังจะบอกว่า พวกเราควรจะอยู่ที่นี่ใช่ไหม”
“ใช่”
“เพราะพี่จะไม่ตายในการต่อสู้ ดังนั้นหากพวกมันบุกเข้ามา พี่ก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ในแนวหน้าได้ ขณะที่น้องสามารถช่วยพาโลกทั้งใบหนีไปได้ในระหว่างการต่อสู้”
“ถูกต้อง”
“และเมื่อโลกใบนี้กลายเป็นโลกมิติอนันต์โดยสมบูรณ์ ช่องว่างมิติก็จะปิดลง โลกก็จะปลอดภัย และงานของพวกเราก็จะเสร็จสมบูรณ์”
“พี่ชาย คิดได้ไกลขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เทียบกับเมื่อก่อนแล้ว พี่ดูฉลาดขึ้นมากเลยนะ” เสี่ยวเหมียวอุทานอย่างไม่คาดฝัน
“ฉะนั้น ช่วยผมหน่อยจะได้ไหม” กู่ฉิงซานร้องขอ
เขาหันไปมองหน้าต่างเทพสงคราม
เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งนาทีบนหน้าต่าง
แบรี่กับเสี่ยวเหมียวพยักหน้า
“ก็ได้ๆ แต่ท่านลุงแบรี่คนนี้ยังไม่อยากรีบร้อนที่จะปีนหอคอยแห่งหมื่นโลกาหรอกนะ เพราะสิ่งที่ฉันต้องการ คือการไปดื่มในบาร์ที่ดีที่สุด และเล่นพนันในกาสิโนที่มีชื่อเสียงที่สุดต่างหาก” แบรี่ยิ้ม
“ส่วนฉันจะไปช็อปปิ้ง กู่ฉิงซาน เงินฝากของนายมากพอที่ฉันจะให้ฉันใช้จ่ายโดยไม่ต้องไปทำงานเป็นการแลกเปลี่ยนใช่ไหม?”
กู่ฉิงซานเคาะศีรษะตนเองดังก๊อง
“เทพธิดากงเจิ้ง”
“ใต้เท้า ฉันรู้แล้ว สำหรับเรื่องเงิน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับมันเลย”
“โอเค งั้นเรื่องพาพวกเขาไปเที่ยว ฉันขอมอบหมายให้เป็นหน้าที่คุณก็แล้วกันนะ”
“ยินดีรับใช้”
กู่ฉิงซานหันไปมองแบรี่กับเสี่ยวเหมียวอีกที
และเห็นว่าทั้งสองกำลังเผยรอยยิ้มแล้ว และพยักหน้าให้ตน
กู่ฉิงซานจึงค่อยรู้สึกโล่งใจ
ม่านแสงกะพริบไหว
แล้วเขาก็หายตัวไปจากโลกใบนี้
หลังจากที่เขาหายไป
รอยยิ้มบนใบหน้าของแบรี่กับเสี่ยวเหมียวก็หายไปเช่นกัน
“น้องสาว”
“อืม อย่างที่พี่คิดนั่นแหละ ดูเหมือนว่ากู่ฉิงซานจะรู้อะไรบางอย่างจริงๆ”
“แล้วน้องคิดว่าเขารู้เรื่องอะไร? ใช่เรื่องเดียวกันกับพวกเรารึเปล่า?”
“ไม่น่าจะใช่หรอก แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องที่พวกเรารู้ไม่ว่าอย่างไรก็บอกเขาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นการลากเขาให้จมลงมาด้วยกัน”
“เฮ้อ” แบรี่ถอนหายใจ “ไม่คาดคิดเลยว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้ รวดเร็วชนิดที่ว่าโลกหกวิถีรวมเป็นหนึ่งในครั้งเดียว พี่ล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามีสิ่งไหนอีกบ้าง ที่ทวยเทพได้เตรียมการเอาไว้ แล้วพวกเรายังไม่ได้ค้นพบมัน”
“อย่าพึ่งไปคิดมากเลย ตอนนี้พวกเราควรสะสมพละกำลังเอาไว้ แล้วอยู่กับปัจจุบันจะดีกว่า” เสี่ยวเหมียวกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ
“ว่าแต่ทางด้านทะเลเลือดเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เขายังคงค้นหาความลับของป่าช้าวันสิ้นโลกอยู่”
แบรี่ปฏิเสธที่จะยอมรับ เขาเอ่ยถามต่อ “แล้วยังมีใครในองค์กรอีกบ้างที่พอจะสามารถช่วยได้”
“ไม่มีเลย ไก่ใหญ่กำลังรักษาบาดแผล ส่วนปืนกลก็บุกไปที่สถาบันเทพแล้ว – ตอนนี้พวกเราคงหวังได้แค่ว่าทีมตรวจสอบของสมาคมผู้พิทักษ์หอสูงจะสามารถสร้างปัญหาเล็กๆ น้อยให้กับสถาบันเทพได้ มิฉะนั้นคงเหลือแค่พวกเรา ที่จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหมอนั่น” เสี่ยวเหมียวกล่าว
คำพูดนี้กระตุ้นแบรี่ให้นึกได้ถึงบางอย่าง
เขาล้วงเอาหนังสือพิมพ์ที่ว่างเปล่าออกมาจากอกเสื้อ
“ข่าวของวันนี้” แบรี่พูดกับหนังสือพิมพ์
ทันใดนั้นหนังสือพิมพ์ที่ว่างเปล่าก็ปรากฏภาพและข้อความมากมายขึ้นมา
“หืม? ข่าวนี้มัน…น้องสาว ลองดูนี่สิ!” แบรี่ตะโกน
“ไหนๆ ข่าวอะไร” เสี่ยวเหมียวชะโงกหน้าเข้ามา
เธอเอื้อมมือไปจับหนังสือพิมพ์และดูข่าวของวันนี้
เห็นแค่เพียงร่างของปืนกลอยู่บนหน้าปก
มันกำลังกราดยิงอย่างรุนแรงเข้าใส่สิ่งปลูกสร้างที่ดูวิจิตรงดงาม
โดยมีบรรทัดพาดหัวข่าวเขียนเอาไว้ว่า ‘ทีมตรวจสอบของสมาคมผู้พิทักษ์หอสูงได้ไปถึงสถาบันเทพแล้ว!’
พี่ชายและน้องสาวกวาดสายตาอ่านพาดหัวข่าวนี้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าปืนกล เห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามอย่างเต็มที่ ดูเหมือนว่าการต่อสู้ทางฝั่งนั้นจะเข้มข้นมากจริงๆ” แบรี่กล่าว
“แต่มันก็เป็นข่าวดีสำหรับเราเหมือนกันนะ น้องหวังว่าพวกเขาจะสามารถถ่วงเวลาไปได้เรื่อยๆ จนกว่าโลกมิติอนันต์แห่งนี้จะสมบูรณ์” เสี่ยวเหมียวกล่าว
“ใช่ เพราะท้ายที่สุดนี้ ถ้าข่าวเกี่ยวกับสมบัติในโลกใบนี้หลุดออกไป ผู้คนจำนวนมากคงคลั่งกันจนเป็นบ้าแน่ๆ”
ว่าแล้วทั้งสองก็แหงนหน้ามองหอคอยแห่งหมื่นโลกาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
หอคอยสูงแห่งนี้ถูกหล่อขึ้นด้วยทองแดง มันตั้งตระหง่านอยู่ที่นี่อย่างเงียบๆ
นี่คือวิธีการช่วยเหลือตนเองที่เหล่าทวยเทพเหลือทิ้งเอาไว้ให้กับเหล่าสิ่งมีชีวิต
“พวกเราจะต้องปกป้องโลกใบนี้เอาไว้ให้จงได้” แบรี่กำหมัดแน่น
“ใช่ รอกันที่นี่เถอะ” เสี่ยวเหมียวถอนหายใจและกล่าว
แต่ในเวลานั้นเอง เสียงของยานบินก็ดังขึ้นจากบนฟากฟ้า
เห็นแค่เพียงเรือรบประจัญบานร่อนลงมาจอดที่นี่
ประตูห้องโดยสารถูกเปิดออก ตามด้วยหุ่นรบขนาดเล็กตกลงมา หยุดอยู่ต่อหน้าพี่ชายและน้องสาว
เสียงของเทพธิดากงเจิ้งดังออกมาจากหุ่นรบ
“สวัสดี ฉันได้รับคำสั่งจากใต้เท้ากู่ฉิงซาน ให้มาช่วยบริการท่านทั้งสอง”
หุ่นรบยื่นมือออกไป และส่งบัตรสองใบที่มีขนาดเล็กและบางราวกับปีกจักจั่นให้พี่ชายและน้องสาว
“เจ้าสิ่งนี้มันใช้ทำอะไร?” แบรี่เอ่ยถาม
“มันคือบัตรชำระเงินแบบไม่จำกัดจำนวน” เทพธิดากงเจิ้งกล่าว
แบรี่รับเอาบัตรมา
“แล้วนอกเหนือไปจากใช้จ่ายเงินแล้ว มันยังมีฟังก์ชันอื่นอีกไหม?” เสี่ยวเหมียวถาม
“แน่นอนว่ามี เพื่อแก้ไขปัญหาการเดินทางที่อาจจะเกิดขึ้น พวกคุณสามารถติดต่อกับฉันผ่านบัตรใบนี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าพวกคุณจะมองหากาสิโน บาร์ หรือรีสอร์ตไว้ใช้พักผ่อน ก็สามารถถามจากฉันได้เลยโดยตรง”
“แล้วที่ช็อปปิ้งล่ะ พอจะมีพิกัดบ้างไหม?”
“พิกัดของสถานที่ที่สอดคล้องกับการช็อปปิ้งได้ทำเครื่องหมายเอาไว้ให้คุณแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สงครามพึ่งจะจบลง ดังนั้นพวกห้างหรือในหลายๆ สถานที่จึงยังคงเงียบเหงา”
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก สำหรับฉันแล้ว คนน้อยมันจะสะดวกกว่า”
ว่าจบ เสี่ยวเหมียวก็ยื่นมือไปรับบัตรมา
“พี่ชาย ตอนนี้พวกเรามาผ่อนคลายกันก่อนดีไหม?” เสี่ยวเหมียวถาม
“แน่นอน” แบรี่ตอบรับทันที
เทพธิดากงเจิ้งกล่าว “ทั้งสองท่านอยากจะทำอะไรกันก่อน? ไม่ว่าจะเป็นในด้านความบันเทิงหรือเรื่องการกิน ฉันสามารถเลือกสถานที่ให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองท่านได้”
“ขอเลือกกินก่อน! พวกเราต้องการจะกินอาหารที่แพงที่สุดในโลก!”
แบรี่ตะโกนเสียงดัง
เทพธิดากงเจิ้งทำการแสดงพิกัดหลายแห่งบนบัตรที่ทั้งสองพึ่งจะรับไปทันที
“พิกัดเหล่านี้เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก” เทพธิดากงเจิ้งอธิบาย
เสี่ยวเหมียวกวาดสายตาผ่าน และกล่าว “น้องเลือกได้ที่หนึ่งแล้ว พี่ชาย พวกเราไปกันเถอะ”
“ฉันขอถามย้ำอีกครั้งนะ บัตรใบนี้สามารถรูดได้แบบไม่จำกัดจำนวนแน่ๆ ใช่ไหม?” แบรี่อดไม่ได้ที่จะถามซ้ำ
“ใช่แล้ว คุณสามารถใช้มันได้อย่างอิสระ โปรดมั่นใจ” เทพธิดากงเจิ้งยืนยัน
แบรี่ “เอาล่ะ งั้นก็ไปกันเถอะ”
เสี่ยวเหมียวคว้าจับมือของแบรี่ และกำลังจะเริ่มทำการย้ายมิติ
แต่จู่ๆ เธอก็หยุดลงอย่างกะทันหัน และหันไปเอ่ยถามหุ่นรบ “คุณเป็นใครกัน?”
“ฉันคือเทพธิดากงเจิ้ง เป็นเพื่อนของใต้เท้ากู่ฉิงซาน ยินดีที่ได้รู้จัก” เทพธิดากล่าว
“ชื่อว่าเทพธิดากงเจิ้งเหรอ? งั้นเธอก็เป็นผู้หญิงน่ะสิใช่ไหม? ทำไมไม่ไปช็อปปิ้งด้วยกันกับฉันล่ะ? ฉันจะต้องลองชุดนะ แต่ยังไม่มีเพื่อนในโลกนี้คอยช่วยให้คำแนะนำเลย” เสี่ยวเหมียวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
แต่หุ่นรบกลับเงียบงัน ไม่เอ่ยตอบคำใดไปครู่หนึ่ง
“ไปกันเหอะ พี่อยากจะชิมอาหารของโลกใบนี้แล้ว” แบรี่เร่งเร้า
เสี่ยวเหมียวจึงไม่คิดชักชวนอีกต่อไป
เธอย้ำเตือนครั้งสุดท้าย “เทพธิดากงเจิ้ง ถ้าสิ่งมีชีวิตตนไหนในหกวิถีไม่เชื่อฟัง เธอสามารถแจ้งพวกเราได้ตลอดเสมอเลยนะ”
“รับทราบแล้ว ฉันขอขอบคุณท่านทั้งสองแทนใต้เท้ากู่ฉิงซานด้วย” เทพธิดากล่าว
เสี่ยวเหมียวพยักหน้าให้หุ่นรบเล็กน้อย และเริ่มใช้งานเทคนิคมนตรามิติ
พี่ชายและน้องสาวหายวับไปจากสถานที่เดียวกัน
แม้แขกจะจากไปแล้ว แต่หุ่นรบก็ยังคงนิ่ง
มันยืนอยู่ในจุดเดิมเป็นเวลานาน
อีกด้านหนึ่ง
ณ ขั้วโลกเหนือ
ภายในป้อมปราการดวงดาวเฉินเตี้ยนเฮ่า
มันลอยอยู่เหนือยานอวกาศของเก้าตระกูลใหญ่ และยังคงถอดรหัสความลับของยานอวกาศ
ผ่านไปสักพักหนึ่ง
ในส่วนลึกเข้าไปของป้อมปราการดวงดาว
บนจอม่านแสง ข้อมูลที่กะพริบไหวอย่างบ้าคลั่งทั้งหมดหายวับไปอย่างกะทันหัน
หลงเหลือเพียงไม่กี่บรรทัดบนจอม่านแสง
“แกนกลางหลักของจักรวรรดิดวงดาวได้ถูกถอดรหัสลงแล้ว”
“จะแสดงถึงผลงานวิจัยที่ได้รับดังต่อไปนี้”
“ผลงานวิจัย แผนการรวบรวมยีนชั้นเลิศ”
“ได้รับฐานข้อมูลการทดลอง”
“ได้รับสถานที่จัดเก็บยีนของจักรวรรดิดวงดาว”
“ได้รับเทคโนโลยีทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง”
“หลังจากศึกษาข้อมูลร่างกายที่เกี่ยวข้องจากการทดลองแล้ว ผลสรุปว่าเทคโนโลยียังไม่สมบูรณ์ และยังคงขาดข้อมูลการทดลองที่สอดคล้องกัน”
“สถานะทางเทคโนโลยี ถูกปิดผนึก”
“เหตุผลที่ปิดผนึก เนื่องจากทางถูกสาธารณรัฐดวงดาวโจมตีอย่างกะทันหัน ส่งผลให้จักรวรรดิแห่งดวงดาวล่มสลาย งานวิจัยทดสอบทั้งหมดจึงถูกทำลายลงก่อนที่พวกเขาจะตื่นขึ้นมา”
“เก้าตระกูลใหญ่ถูกเนรเทศนับตั้งแต่วันนั้น”
เมื่ออธิบายถึงจุดนี้ เทพธิดากงเจิ้งก็เงียบงันไปหลายวินาที
ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังคิดสิ่งใดอยู่
แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ บนจอม่านแสงก็ปรากฏไม่กี่บรรทัดขึ้นมาอีกครั้ง
“การตัดสิน แผนการรวบรวมยีนชั้นเลิศ จะถูกรื้อฟื้น และเริ่มปฏิบัติการใหม่อีกครั้งทันที”
“เริ่มกระบวนการใช้ทรัพยากรทั้งหมด เพื่อดำเนินการทดลอง และรวบรวมข้อมูลเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีการจัดเรียงยีน”
“ระดับงานวิจัย ความลับสุดยอด”
“คนวงในที่สามารถล่วงรู้ กู่ฉิงซาน”
“เพื่อเป็นการลดระยะเวลาการวิจัย และปรับปรุงประสิทธิภาพการวิจัย ดังนั้นในเวลานี้ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยจึงจะถูกปรับลดลง”
“จากสองวัตถุประสงค์การวิจัย ทำการพิจารณาตัดสินใจที่จะลบ การจัดเรียงยีนสั้นเลิศอย่างมีประสิทธิภาพของเพศชาย”
“กำหนดวัตถุประสงค์การวิจัย การจัดเรียงยีนสั้นเลิศอย่างมีประสิทธิภาพของเพศหญิง”
“ดังนั้น นับจากนี้ไปโครงการวิจัยจึงสมควรที่จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อ”
“โครงการวิจัยได้รับการเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการ เทพธิดาฟื้นคืน”
“เริ่มกระบวนการสกัดยีนจากคลังพันธุกรรม และจัดการทดลองตามลำดับความสำคัญ จากผลการทดลองในครั้งอดีต”
“ถังบ่มเพาะ ถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว”
“เริ่มต้นงานวิจัยได้!”
………………………………….