เสียงการต่อสู้อันดุเดือดดังมาจากไกลๆ เสียงกรีดร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
นั่นคือผู้ปกครองโลกบรรพกาลที่กำลังสำแดงพลังอันยิ่งใหญ่อยู่ตรงจุดเชื่อมต่อของสองโลก
ขณะที่ยังมีเวลา กู่ฉิงซานหลับตาลงขณะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอันแสนวิเศษภายในร่างกาย
เขาพบว่าเมื่อกลายเป็นเทพหลานเยี่ยน ธาตุทั้งห้าเริ่มเข้าใกล้ตัวเขามากขึ้น
โลกเบื้องหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน กลิ่นอายธาตุทั้งห้าในความว่างเปล่าเหล่านั้นแทบจะอยู่ในระดับที่สามารถมองเห็นได้
สีแดงคือไฟ สีเหลืองคือทอง สีน้ำตาลคือดิน สีเขียวคือไม้ สีน้ำเงินคือน้ำ
ในบรรดาพวกมัน พลังของวิญญาณน้ำยังคงส่งเสียงดังก้องตลอดเวลาราวกับกำลังขยายความคิดของตัวเอง
ความรู้สึกนี้คล้ายกับตอนเชื่อมต่อระหว่างตัวเองกับร้อยดาบบินได้สำเร็จ
“หลานเยี่ยน”
กู่ฉิงซานพึมพำขณะยื่นมือออกไป
หยดน้ำก่อตัวขึ้นเป็นน้ำแข็งในมือ จากนั้นระเบิดออกเป็นแสงสีน้ำเงินเข้ม
มันเริ่มจากตำแหน่งที่กู่ฉิงซานยืนอยู่ น้ำค้างแข็งปกคลุมพื้นดินอย่างรวดเร็วขณะยังคงกระจายออกไปเรื่อยๆ
กู่ฉิงซานตกตะลึง กลายเป็นว่าหลานเยี่ยนคือตัวแทนผู้ควบคุมวิญญาณน้ำ
แต่ว่า แค่ควบคุมวิญญาณน้ำอย่างเดียวหรือ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดถึงเรื่องดังกล่าว แต่ฉับพลันนั้นเอง จิตของเขาเคลื่อนไหว
ในตอนนั้น ทั้งร่างของเขาหายไปในอากาศธาตุ กลายเป็นหมอกเย็นกระจายตัวออกไป
ราวกับร่างกายของเขาเกิดจากการรวมตัวของน้ำแข็งก็ไม่ปาน
กู่ฉิงซานก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขายกมือขึ้น
ฝ่ามือสลายกลายเป็นหมอกเย็นละเอียดก่อนจะรวมตัวเป็นมืออย่างรวดเร็ว
…มันไม่ใช่น้ำ
นี่เหมือนกับอีกร่างของน้ำ ความเยือกแข็ง
เทพเป็นตัวตนแบบไหนกัน
ตอนนี้ หน้าต่างระบบเทพสงครามยังคงส่องแสงไปมา
กู่ฉิงซานหยุดคิดขณะมองหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“ท่านใช้พลังวิญญาณจำนวนหนึ่งล้านแต้มเพื่อเปลี่ยนเป็นงูสองปีกหกขา”
“ท่านสังหารเทพแห่งความเย็นยะเยือก ได้รับพลังวิญญาณแปดแสนแต้ม”
“ท่านใช้พลังวิญญาณเก้าแสนแต้มเพื่อกลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือก”
หลังจากอ่านข้อความที่แจ้งบนหน้าต่างระบบ กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “ระบบ ข้าจำได้ว่าได้รับพลังวิญญาณสามแสนแต้มตอนฆ่างูสองปีกหกขา ทำไมพลังวิญญาณที่ต้องใช้ถึงสูงกว่าตอนกลายเป็นเทพล่ะ”
‘ติ๊ง!’
ระบบตอบกลับมา
“ขอบคุณสำหรับพลังวิญญาณสิบแต้ม คำตอบเป็นดังนี้”
“เพราะงูสองปีกหกขาคือสิ่งมีชีวิตบรรพกาลพิเศษ เป็นสัตว์ร้ายประเภทอาวุธที่ถูกสร้างโดยเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณ มันใช้ร่างกายเพื่อแบกรับความสามารถบางอย่างที่เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณมอบให้”
“ดังนั้นเมื่อท่านกลายเป็นงู ท่านจะเชี่ยวชาญความสามารถที่สืบทอดมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในทันที”
“ความสามารถเหล่านี้คือสามความสามารถที่ท่านใช้ตอนสังหารเทพ”
กู่ฉิงซานพอเข้าใจ กล่าวต่อว่า “หรือก็คือ พอข้ากลายเป็นงู นอกจากต้องจ่ายพลังวิญญาณเพื่อเปลี่ยนร่างแล้ว ยังหมายรวมถึงความสามารถที่สืบทอดมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์พวกนั้นด้วยหรือ”
“ถูกต้อง พลังวิญญาณคือพลังพื้นฐานที่สุด หากไม่มีมัน การผสานอันลี้ลับของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลของท่านจะไม่สามารถสืบทอดพลังได้อย่างสมบูรณ์” ระบบกล่าว
“แล้วถ้าข้ากลายเป็นผู้พิทักษ์ยุคโบราณล่ะ ข้าต้องใช้พลังวิญญาณเพิ่มอีกหรือเปล่า”
“ไม่ ผู้พิทักษ์ยุคโบราณคือร่างคล้ายมนุษย์ผู้มีปัญญา ท่านต้องอัปเกรดสกิลเทพสงครามสองสกิลเพื่อทำความเข้าใจสกิลบรรพกาล ท่านยังสามารถใช้ความสามารถเหล่านั้นได้หลังจากคืนค่าตั้งต้นแล้ว”
“หรือก็คือ งูสองปีกหกขาพิเศษมาก ทำให้สามารถสืบทอดความสามารถเหล่านั้นได้โดยตรงสินะ”
“ถูกต้อง”
“แต่ตอนนี้ข้ารักษาความสามารถเหล่านั้นไม่ได้ใช่หรือเปล่า”
“อย่างที่บอกไป งูเป็นสิ่งพิเศษ มันพึ่งโครงสร้างพิเศษของร่างกายเพื่อใช้พลังอันน้อยนิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเหล่านั้น ท่านใช้สิ่งลี้ลับเพื่อสร้างความสามารถเหล่านั้นขึ้นมา เมื่อท่านไม่ใช่งู เป็นธรรมดาที่ท่านจะไม่สามารถใช้ความสามารถเหล่านั้นได้”
กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปอย่างจนใจก่อนกล่าวว่า “ตอนนี้ข้ากลายเป็นเทพแล้ว แต่ไม่มีสกิลเทพเลย”
“นี่เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ง่าย หากไม่ใช่ความสามารถของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณที่สืบทอดผ่านสัตว์ประหลาดบรรพกาล ท่านต้องเรียนรู้พลังของเผ่าพันธุ์อื่นผ่านสกิลเทพสงคราม จากนั้นสกิลเหล่านั้นก็จะกลายเป็นของท่าน”
ระบบกล่าวต่อว่า “สรุปแล้ว ท่านเพียงแค่ใช้พลังวิญญาณเก้าแสนแต้มเพื่อเปลี่ยนเป็นเทพและใช้พลังวิญญาณหนึ่งล้านแต้มเพื่อเปลี่ยนเป็นงูสองปีกหกขา”
กู่ฉิงซานปรบมือด้วยความสิ้นหวัง
พลังวิญญาณหนึ่งล้านแต้มหายไปหลังจากใช้ไปเพียงแค่ครั้งเดียว แม้กระทั่งสกิลก็ไม่ได้รับ
หรือก็คือ ตอนเขากลายเป็นงูและเทพ พลังวิญญาณก็เสียไปแล้วทั้งสิ้นหนึ่งล้านเก้าแสนแต้ม
การสังหารเทพทำให้ได้กลับมาเพียงแปดแสนแต้มเท่านั้น
หากทราบเรื่องนี้ก่อน คงดีกว่าที่จะไม่สังหารเทพองค์นี้ แต่เปลี่ยนเป็นรักษาร่างของงูสองปีกหกขาเอาไว้เพื่องมุ่งสู่โลกบรรพกาลเพื่อปะปนอยู่ในนั้น
งูสสองปีกหกขาถูกนับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตบรรพกาลที่มีพละกำลังมากพอสมควร มันสามารถพูดภาษาโบราณได้ พูดจาน่าเชื่อถือและทำสิ่งที่ฉลาดได้ เขาย่อมสามารถใช้มันเพื่อปะปนเข้าสู่โลกบรรพกาลได้
ครั้งนี้เขาเสียไปมาก
ดวงตาของกู่ฉิงซานอดที่จะก้มมองหน้าต่างระบบเทพสงครามไม่ได้
“ค่าพลังวิญญาณที่เหลือ: 1,702,736 / 600”
ยังเหลืออีกมากกว่าหนึ่งล้านเจ็ดแสนแต้ม
กู่ฉิงซานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
นับว่าดีที่เขามีโชคตอนอยู่ในโรงเชือด รวมถึงตอนบุกเข้าไปยังแนวหน้าจนสังหารทหารบรรพกาลได้เป็นจำนวนมาก ทำให้เขาประหยัดเงินไปมากโข
ไม่อย่างนั้น เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร
กู่ฉิงซานมองค่าพลังวิญญาณ ความมั่นใจค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นในใจ
ด้วยพลังวิญญาณเหล่านี้ เขายังต้องกลัวอะไรอีก
เขาเดินไปยังศพของเทพน้ำแข็ง นั่งยองลงก่อนวางมือบนคทากลมยาวข้างเกราะที่แตกหัก
ดูท่าเทพแห่งความเย็นยะเยือกจะลุกพรวดพราดขึ้นมาแล้วเตรียมหยิบคทายาวนี้มาโจมตี แต่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการกวัดแกว่งเบาๆ ของหอกหลากสีสัน
ดูท่านี่จะเป็นอาวุธของเทพแห่งความเย็นยะเยือก เพราะกู่ฉิงซานกลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือก เขาต้องเรียนรู้สกิล ไม่อย่างนั้นมันก็มีแต่สึกหรอ
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม ไอคอนที่เป็นตัวแทนสกิลของเทพสงครามส่องแสงขึ้นมา
“พบไอเท็ม: คทาเยือกแข็ง”
“ท่านไม่สามารถเข้าใจสกิลนักรบเผ่าพันธุ์เทพจากไอเท็มชิ้นนี้ได้”
กู่ฉิงซานสงสัย “ทำไมล่ะ”
“ขอบคุณสำหรับพลังวิญญาณสิบแต้ม เพราะสกิลเทพสงครามของท่านยังไม่อัปเกรด ท่านจึงไม่สามารถเข้าใจสกิลที่ถูกสร้างโดยเทพที่เลียนแบบเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้”
“…”
เสียงการต่อสู้ดังมาจากไกลลิบค่อยๆ เบาลง เสียงของผู้ปกครองโลกบรรพกาลดังก้องไปทุกหนแห่ง
“เจ้าพวกโง่เขลา จำบทเรียนครั้งนี้ไว้ให้ดี!”
‘ครืน!’
ปฐพีสั่นไหว
สองโลกเริ่มแยกจากกัน
เวลามีจำกัด!
กู่ฉิงซานกัดฟัน เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกล่าวว่า “ข้าจะใช้พลังวิญญาณหนึ่งล้านแต้มเพื่ออัปเกรดสกิลของเทพสงคราม”
“ได้รับพลังวิญญาณหนึ่งล้านแต้มแล้ว สกิลของเทพสงครามได้รับการอัปเกรด” ระบบกล่าว
“อัปเกรดเสร็จเร็วขนาดนี้เลยหรือ”
“ใช่แล้ว ระบบเตรียมพร้อมทุกเมื่อ”
“แต่ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในระบบเลยล่ะ” กู่ฉิงซานถามอย่างสงสัย
ระบบนิ่งไปสักพัก
เขาเห็นไอคอนเทพสงครามบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม
“เห็นหรือยัง คราวนี้ก็มีไอคอนผุดขึ้นมาแล้ว” ระบบกล่าวด้วยน้ำเสียงเจื่อน
“…เอาเถอะ ข้าอยากเข้าใจสกิลเทพเหล่านั้น!” กู่ฉิงซานกล่าว
บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวข้อความขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาทันที
สกิลทั้งหมดของเทพที่ถูกใช้โดยเทพแห่งความเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นมา
น่าเสียดายที่สกิลเหล่านี้มีไม่มาก แต่ละอย่างเป็นประโยชน์มาก กู่ฉิงซานไม่สามารถตัดใจได้สักอัน
เขาจ้องหน้าจอแล้วกล่าวอย่างระแวดระวังว่า “ข้าขอถามอีกครั้ง หลังจากเชี่ยวชาญสกิลเหล่านี้หมดแล้ว ข้าน่าจะสามารถเก็บพวกมันเอาไว้ได้ถูกไหม”
“แน่นอนว่าทำได้ ท่านจะเก็บสกิลเหล่านี้ไว้ได้เสมอ แต่เมื่อท่านเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ การควบคุมธาตุทั้งห้าก็จะไม่แข็งแกร่งเท่าเทพ พลังสกิลของเทพเหล่านี้จะถูกลดทอนไปมาก”
กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตราบที่สามารถทำให้เชี่ยวชาญได้ เหตุการณ์ตอนที่เจองูก็จะไม่หวนเกิดขึ้นซ้ำอีก
“ทำการใช้พลังวิญญาณ ทำความเข้าใจให้หมด” เขากล่าว
“ท่านแน่ใจหรือ” ระบบถาม
“แน่ใจสิ”
…
ไม่ช้า
ก็ทำความเข้าใจทุกอย่างได้หมดสิ้น
ครั้งนี้ กู่ฉิงซานกลายเป็นเทพแห่งความเย็นยะเยือกอย่างแท้จริง
แต่เขากลับดูไม่ค่อยมีความสุขมากนัก ออกจะดูเสียใจเล็กน้อยด้วยซ้ำ
นั่นเพราะจำนวนที่แสดงบนหน้าต่างระบบเทพสงครามเข้าใกล้ศูนย์แล้ว
“พลังวิญญาณที่เหลือ: ห้าส่วนหกร้อย”
……………………………….