ในเวลาเดียวกันกับที่เสียงปืนดังขึ้น กู่ฉิงซานพลันหันศีรษะไปมองรอบข้าง
เขาเห็นทหารเหล็กกล้าสีเงินเปลี่ยนจากจับต้องไม่ได้มาเป็นจับต้องได้
มันเป็นผู้เหนี่ยวไก
แสงแรงกล้าวูบไหวในความว่างเปล่า
ไกลออกไปหลายพันไมล์
ศีรษะของผู้ปกครองโลกบรรพกาลพลันหายไป เหลือไว้เพียงร่างกาย
‘ตูม’
ร่างขนาดใหญ่ล้มลงอย่างรุนแรง
หอกหลากสีสันที่สังหารได้รอบทิศตกลงสู่พื้นเช่นกัน
สัตว์ประหลาดบรรพกาลทั้งหมดหยุดนิ่ง
ราชาของพวกมันตายทั้งอย่างนั้น ทำให้พวกมันเสียสติทันที
ฝูงแมลงเหล็กกล้าไม่สนเรื่องพวกนี้ พวกมันถาโถมเข้าใส่ร่างของผู้ปกครองโลกบรรพกาล
ฉับพลันนั้นเอง หอกหลากสีสันทะยานขึ้นจากพื้นก่อนลอยอยู่ในอากาศ
เงาหอกงดงามจำนวนนับไม่ถ้วนถูกกระตุ้นจากหอกหลากสีสันก่อนแทงใส่ทุกทิศทาง
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประหลาด เผ่าพันธุ์บรรพกาลหรือฝูงแมลงเหล็กกล้ากลายพันธุ์ ภายใต้แสงและเงาของหอก ไม่มีสิ่งใดขัดขืนได้
หอกหลากสีสันเริ่มโจมตีอย่างรุนแรงโดยไม่สนว่าจะเป็นศัตรูหรือมิตร พลังของมันรุนแรงยิ่งกว่าตอนผู้ปกครองโลกบรรพกาลถือเอาไว้
สิ่งเหลือเชื่อได้เกิดขึ้น
ฉับพลันนั้นเอง ซากศพของผู้ปกครองโลกบรรพกาลลุกขึ้นจากพื้น
เห็นได้ชัดว่ามันเสียศีรษะไปแล้ว แต่ซากศพยังสามารถขยับได้
ร่างไร้ศีรษะยืนขึ้นขณะสาวเท้าไปหาหอกหลากสีสันที่ลอยอยู่ในอากาศ
ไกลออกไปหลายพันไมล์ กู่ฉิงซานขมวดคิ้ว
ขณะมองฉากอันน่าแปลกประหลาดนี้ กู่ฉิงซานเกิดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ขึ้นมา
ไอเย็นเยือกจนหายใจไม่ออกพลันกดมาที่ตัวเขา ทำให้เส้นประสาททั้งหมดตึง
กู่ฉิงซานรู้สึกว่าเขายืนอยู่บนพรมแดนระหว่างความเป็นกับความตาย สามารถตกลงไปในหุบเหวแห่งความสิ้นหวังที่ไม่มีสิ้นสุดได้ทุกเมื่อ
ไม่ นี่มันคืออันตรายที่น่ากลัวยิ่งกว่าความตายเสียอีก!
ความรู้สึกนี้คุ้นเคยจนกู่ฉิงซานนึกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นได้ทันที
สัตว์ประหลาดตนนั้นที่เคยปรากฏตัวในยมโลก
สัตว์ประหลาดที่เอาชนะสมาคมหอคอยทั้งหมดได้
มันคือตัวตนที่ไร้เทียมทาน!
บนจอแสง ซากศพไร้ศีรษะเดินไปหาหอกหลากสีสัน มันยื่นมือออกไปหมายจะจับหอกหลากสีสันขณะก้าวเดิน
นี่มันไม่ถูกต้อง!
ลูกตาของกู่ฉิงซานพลันหดลง โดยไม่แม้แต่จะคิด เขาตะโกนทันทีว่า “อย่าให้มันถือหอกนั่น!”
“รับทราบ!” ทหารโลหะสีดำตอบ
‘ปัง!’
บนสมรภูมิ ฝูงแมลงเหล็กกล้าทั้งหมดรวมตัวเพื่อขวางทางผู้ปกครองโลกบรรพกาลเอาไว้ราวกับคลื่น
นี่ไม่ใช่ผู้ปกครองโลกบรรพกาล แต่เป็นซากศพไร้ศีรษะ
ฝูงแมลงเหล็กกล้ารุมแทะซากศพด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี แต่ซากศพยังอยู่สภาพเดิม ไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่นิดเดียว
ซากศพไร้ศีรษะถูกฝูงแมลงจำนวนไม่มีสิ้นสุดกระแทกเข้าใส่ แต่มันพยายามยืนอย่างมั่นคงเพื่อเข้าหาหอกหลากสีสันก้าวแล้วก้าวเล่า
มันกำลังจะจับหอกนั่นได้แล้ว!
“พลซุ่มยิง” กู่ฉิงซานสั่ง
‘ปัง!’
เสียงหมองหม่นจากการซุ่มยิงดังขึ้นข้างหูของเขา
รูขนาดเท่ากำปั้นปรากฏขึ้นบนร่างของผู้ปกครองโลกบรรพกาล
ด้วยเสียงยิงปืนอย่างต่อเนื่อง ซากศพของผู้ปกครองโลกบรรพกาลล้มลงกับพื้นในที่สุด ไม่สามารถเข้าหาหอกหลากสีสันได้อีก
กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
หอกหลากสีสันที่ลอยอยู่ในอากาศพลันสั่นไหวก่อนลอยไปหามือของซากศพไร้ศีรษะ
ซากศพไร้ศีรษะถือหอกหลากสีสันเอาไว้ก่อนชูขึ้นสูง
มันถือหอกขณะปลดปล่อยน้ำตกแสงที่ไหลลงมาจากท้องนภา
ฝูงแมลงเหล็กกล้าไร้พรมแดนกรีดร้องเสียงดังขณะถอยห่างไปรอบข้าง ไม่กล้าเข้าใกล้แสงร้อนแรงเจิดจ้าแม้แต่นิดเดียว
การเปลี่ยนแปลงเกินกว่าจะบรรยายเข้ามาแทนที่
“ระบบ บอกข้าที สิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่” กู่ฉิงซานถามเสียงดัง
ทว่า ระบบเทพสงครามยังคงเงียบ ไม่ตอบคำถามสักพักใหญ่
ราวกับมันกำลังจับตามองอย่างเงียบงัน
เวลาผ่านไปเร็วและช้า
ฉับพลันนั้นเอง น้ำตกแสงที่ไหลลงมาได้หายไป
เสียงหญิงสาวดุร้ายมาจากซากศพของผู้ปกครองโลกบรรพกาลที่อยู่ท่ามกลางสมรภูมิ
“เจ้าอาหารวิญญาณที่อยู่ภายใต้การดูแลของเทพ พวกเจ้าคือสิ่งมีชีวิตพิเศษที่ไม่ควรเชื่อมต่อกับบัญญัติน่ารังเกียจใดๆ ทั้งสิ้น”
หลังจากนั้น เสียงผู้ชายดังขึ้นจากซากศพของผู้ปกครองโลกบรรพกาล
“เจ้าพวกมนุษย์! เจ้าสัตว์ร้ายน่าเวทนาไม่ควรหมกมุ่นเรื่องชีวิต พวกเจ้าควรรู้ว่าตัวเองเป็นเพียงภาชนะของวิญญาณเท่านั้น”
‘ตูม!’
ไอเย็นเข้มข้นขมขื่นกระจายจากซากศพไร้ศีรษะ
เสียงชายหญิงร่ายวิชาพร้อมกัน “วิญญาณ! จงมอบวิญญาณให้ข้า อา”
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องดังสนั่น ฝูงแมงเหล็กกล้าขนาดใหญ่ตกลงสู่พื้นราวกับพายุฝน
จุดแสงเลือนรางปรากฏขึ้นจากร่างของฝูงแมงเหล็กกล้า ท้ายที่สุดจึงลอยไปยังซากศพไร้ศีรษะ
“พวกเจ้าด้วย!”
เสียงของชายหญิงดังขึ้นพร้อมกัน
สัตว์ประหลาดบรรพกาลล้มลงกับฟื้นตัวแล้วตัวเล่า วิญญาณของพวกมันหลุดออกจากร่างขณะลอยไปหาซากศพไร้ศีรษะ
ทั้งสองฝั่งของสงคราม เผ่าพันธุ์มนุษย์และเผ่าพันธุ์บรรพกาลเริ่มตายเป็นจำนวนมาก
เสียงกรีดร้องของวิญญาณนับไม่ถ้วนดังมาจากสมรภูมิ
นี่คือเสียงอันน่าสังเวชและเจ็บปวดที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดสุดแสนเมื่อได้ฟัง
ขณะมองฉากตรงหน้า ในที่สุดกู่ฉิงซานก็เข้าใจ
นี่ไม่ใช่ผู้ปกครองโลกบรรพกาล
กลายเป็นว่าเทพแปลกประหลาดจากเผ่าพันธุ์เทพดั้งเดิมได้ปรากฏตัวในยุคบรรพกาลด้วย
มันแสร้งเป็นผู้ปกครองโลกบรรพกาลหรือไม่ก็แฝงตัวอยู่ในผู้ปกครองโลกบรรพกาลเพื่อควบคุมผู้ปกครองโลกบรรพกาลให้มาควบคุมเผ่าพันธุ์มนุษย์กับเผ่าพันธุ์เทพ!
‘ติ๊ง’
เสียงของระบบเทพสงครามพลันดังขึ้น “สิ่งที่เลวร้ายที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว กู่ฉิงซาน หนี!”
ความเร็วในการพูดของมันนั้นไวมาก “เทพวารี เจ้าต้องเปลี่ยนกลับไปเป็นสภาพระบบสงครามและกลับคืนสู่การ์ดเพื่อให้ข้าเก็บกลับไป ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกกำจัดที่นี่”
“เข้าใจแล้ว” เสียงของเทพวารีดังขึ้น
“พวกเราจะไปไหนล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
“ไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด กลับไปสู่พื้นที่จ้าวโลก!” ระบบเทพสงครามกล่าว
กู่ฉิงซานกล่าวทันทีว่า “ไม่ เทพวารี ส่งพวกข้าไปโลกระบบย่อยอื่นที”
“ท่านบ้าไปแล้วหรือ! ระยะห่างมันใกล้เกินไป มันอาจจะไล่ตามมาได้ทุกเมื่อ ท่านจะตายด้วยน้ำมือของมันและจะไม่มีวันได้กลับมาอีก” ระบบเทพสงครามกล่าว
“พวกเราต้องไปดู” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างรวดเร็ว “ข้าพนันเลยว่าพวกเซี่ยกูหงปลอดภัยดี เพราะพวกเซี่ยกูหงไม่ใช่ศัตรูของสัตว์ประหลาดตัวนี้ แต่ตามบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ สุดท้ายพวกเซี่ยกูหงก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย”
เขาพลันตะโกนขึ้นว่า “เจ้าเข้าใจหรือเปล่า นี่แสดงให้เห็นว่าบางสิ่งได้เกิดขึ้นกับพวกเขา มันคือสิ่งที่พวกเราไม่เข้าใจเลย มันคือสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับดาบศักดิ์สิทธิ์!”
ระบบเทพสงครามกล่าวว่า “แต่”
กู่ฉิงซานขัดอีกฝ่ายแล้วกล่าวว่า “เชื่อข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่ตายในโลกนั้น”
“…ก็ได้ เทพวารี ให้ทหารสองตัวนี้ถ่วงเวลา ไปโลกฝั่งฝึกฝนก่อน!” ระบบกล่าว
เทพวารีกล่าวว่า “เข้าใจแล้ว ไปกันเถอะ!”
นางกลายเป็นการ์ดก่อนตกมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน
ชั้นม่านแสงตกลงมาก่อนปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้
กู่ฉิงซานกลายเป็นแสงและเงาก่อนหายไปจากโลกระบบย่อยการป้องกันที่สอง
บนภูเขาเหล็กกล้าเดียวดาย ทหารสองตัวยังโจมตีอย่างสุดกำลัง
พวกมันจะรับผิดชอบการถ่วงเวลาสัตว์ประหลาดเพื่อซื้อเวลาให้กู่ฉิงซานได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
………………………………