กู่ฉิงซานลูบน้ำเต้าหยกในมือก่อนรู้สึกถึงความคิดจากน้ำเต้าหยก
“หิวหรือ”
เขาถามด้วยความคาดไม่ถึง
เขาไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่สมบัติถึงกับมีความรู้สึกหิวด้วย
“นายท่าน เกิดอะไรขึ้นกับจี้หยกงั้นหรือ” ฉานนู่ถาม
“เออ…ฉานนู่ เจ้าเคยมีความรู้สึกหิวบ้างหรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
“ไม่นะ ข้าคือวิญญาณของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกโลก ข้าไม่ต้องการอาหาร” ฉานนู่กล่าว
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วถามว่า “จี้หยกนี้อาจจะอยู่ที่นี่มานานเกินไป มันบอกข้าว่าหิว ฉานนู่ ถ้าเจ้าไม่มีพลังกักเก็บไว้นาน เจ้าจะรู้สึกหิวหรือไม่”
ฉานนู่ตอบว่า “ไม่นะ ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพคือการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องโลก ตราบที่ขุนเขาศักดิ์สิทธิ์คงอยู่ ข้าก็จะได้รับพลังของขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ ไม่จำเป็นต้องกักเก็บแต่อย่างใด”
กู่ฉิงซานมองน้ำเต้าหยกแล้วถามว่า “เจ้าอยากกินอะไรล่ะ”
‘ฟิ่ว…’
น้ำเต้าหยกขยับเล็กน้อยก่อนส่งเสียงแผ่วเบาออกมา
สายลมที่มองไม่เห็นหมุนวนรอบน้ำเต้า จากนั้นหายไปอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของกู่ฉิงซานเปลี่ยนไป
นี่คือภาพนิมิตพลังวิญญาณ
น้ำเต้าหยกนี้ต้องการพลังวิญญาณหรือ
ตอนนี้ แถวหิ่งห้อยสองแถวปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามอย่างรวดเร็ว
“จี้หยก: เหวยจุนปรารถนาพลังวิญญาณบางส่วน”
“ท่านเต็มใจจ่ายพลังวิญญาณหนึ่งร้อยแต้มเพื่อช่วยหล่อเลี้ยงร่างของมันหรือไม่”
กู่ฉิงซานเห็นว่ามันก็แค่หนึ่งร้อยแต้ม จึงถ่ายพลังวิญญาณในร่างกายที่เขาสั่งสมไว้ไปที่น้ำเต้าหยก
เขาเคยสัมผัสกับพลังวิญญาณตั้งแต่ช่วงขัดเกลา ตอนนี้เขาสามารถใช้พลังวิญญาณบางส่วนได้โดยไม่ต้องพึ่งระบบ
น้ำเต้าหยกได้รับพลังวิญญาณจนส่งเสียงฮัมอย่างยินดี
จากนั้นมันหยุดเคลื่อนไหว
ไม่เคลื่อนไหวแล้วหรือ
กู่ฉิงซานมองฉานนู่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง”
“หลับไปแล้ว ข้ารู้สึกว่ามันน่าจะเข้าสู่สภาพฟื้นตัว” ฉานนู่กล่าว
กู่ฉิงซานประหลาดใจ
อาจจะเพราะรอมานานเกินไป น้ำเต้าหยกจึงต้องการฟื้นคืนพละกำลังทีละเล็กละน้อย
กู่ฉิงซานเก็บน้ำเต้าหยกไว้
“ไปกันเถอะ ฉานนู่ ไม่มีอะไรที่เหมาะกับข้าในชั้นนี้อีกแล้ว ไปชั้นต่อไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว
“เข้าใจแล้ว” ฉานนู่กล่าว
พวกเขาเหาะเข้าค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาก่อนออกจากชั้นนี้ไป
ชั้นที่สามสิบห้า
กู่ฉิงซานและฉานนู่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน
นี่คือชั้นสุดท้ายของคลังสมบัติในวิหารเต๋าแล้ว
จากการสังเกตระหว่างทาง ยิ่งจำนวนชั้นสูงเท่าไหร่ จำนวนสมบัติยิ่งน้อยลง ความหายากกับความมีค่าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
ในชั้นที่สามสิบห้า มีแท่นสูงเพียงสี่แห่งเท่านั้น
แท่นสูงสองแห่งว่างเปล่าแล้ว มีเพียงแท่นสูงอีกสองแห่งที่ยังมีของอยู่
กู่ฉิงซานเข้าใจหลังจากครุ่นคิดสักพัก
ชายร่างกำยำและชายชราผมขาวถึงกับมีความสามารถเข้ามาที่นี่นานแล้ว พวกเขาอาจจะนำของสองสิ่งจากที่นี่ออกไป
ส่วนแท่นสูงอีกสองแห่งที่เหลือ มีกู่ฉินกับค้อนทองแดงยักษ์
กู่ฉินเปล่งเสียงไม่ได้ศัพท์ออกมาจนคนฟังอดที่จะคิดถึงอดีตไม่ได้ แต่ยิ่งพวกเขาคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งยึดติดกับมันมากเท่านั้น
กู่ฉิงซานสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเป็นอิสระจากมัน
ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่ก็มีเหงื่อเย็นอาบหลังของเขา
ถ้าถูกเสียงของกู่ฉินควบคุม เกรงว่าสุดท้ายแล้วคนผู้นั้นจะไม่สามารถปลดเปลื้องตัวเองได้จนเสียความทรงจำไปในที่สุด
กู่ฉิงซานเริ่มตื่นตัวก่อนจะเลิกสนใจกู่ฉิน
เขาเดินมาอยู่หน้าค้อนทองแดง
นี่คือค้อนทองแดงยักษ์ที่มีความยาวห้าเมตร เป็นไปไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงผู้ใช้อาวุธยักษ์ชิ้นนี้
ทว่า เมื่อกู่ฉิงซานยืนอยู่หน้าค้อนทองแดง แผ่นหยกกลับปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนตกมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน
ความคิดของกู่ฉิงซานกวาดออกไป เขาเข้าใจถึงคุณค่าของค้อนทองแดงนี้อย่างรวดเร็ว
นี่คือฮอร์ครักซ์
ในโลกเก้าร้อยล้านชั้น ฮอร์ครักซ์คือสมบัติที่มีค่ามากที่สุด ทันทีที่มันปรากฏขึ้น พายุโลหิตจะก่อเกิด
ตอนลอร่าโยนฮอร์ครักซ์ออกไปอย่างไม่ใส่ใจ แม่มดดึกดำบรรพ์ก็เห็นด้วยกับแผนร่วมมือกันสู้ของกู่ฉิงซานทันที
เห็นได้ว่าฮอร์ครักซ์เป็นสมบัติที่มีค่า
ถ้าอยากใช้งานฮอร์ครักซ์ซ้ำก็ต้องจ่ายพลังวิญญาณ
และอื่นๆ อีกมากมาย!
หรือว่าจี้น้ำเต้าหยกที่เขาได้มาจะเป็นฮอร์ครักซ์อย่างหนึ่ง
แต่จี้น้ำเต้าหยกคล้ายกับกำลังหลับลึกอยู่ จึงไม่สามารถสื่อสารได้สักพัก
กู่ฉิงซานหยุดคิดชั่วคราวก่อนเอามือแตะค้อนทองแดงอย่างแผ่วเบา
แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กบนหน้าต่างระบบเทพสงครามผุดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
“วัตถุโบราณ ค้อนแห่งการทำลายล้าง”
“นักพรตชั้นสูงสิบหกคนต้องถ่ายพลังวิญญาณพร้อมกันจึงสามารถใช้ค้อนได้”
“หากกวัดแกว่งค้อนแห่งการทำลายล้างจนกระแทกกับพื้นจะสามารถทำลายโลกได้”
“สำหรับโลกขนาดเล็ก ต้องใช้การทุบยี่สิบครั้งจึงสามารถทำลายดิน น้ำ ไฟและลมของโลกขนาดเล็กนี้ได้ก่อนจะสูญสลายสิ้น”
“โลกขนาดกลางต้องใช้การทุบสามสิบหกครั้ง”
“โลกขนาดใหญ่ต้องใช้การทุบแปดสิบเอ็ดครั้ง”
กู่ฉิงซานโบกมือ “ฉานนู่ เจ้ามาลองเจ้านี่ดู”
เขาได้รับการยินยอมจากจี้น้ำเต้าหยกแล้ว ตอนนี้ชานนู่จึงมีคุณสมบัติที่จะเลือกสิ่งอื่นแทน
อาวุธที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ คงดีกว่าที่จะอยู่ในมือของตัวเอง อย่าได้ให้คนบ้าบางคนเอาไปเด็ดขาด
ที่สำคัญ นี่คือพลังที่สามารถทำลายโลกได้ หากใช้ดีๆ อาจจะทำให้เกิดผลอันน่าอัศจรรย์เลยก็ได้
ฉานนู่เดินมาหยิบด้ามยาวของค้อนทองแดงยักษ์
‘เปรี้ยะ!’
มือของนายถูกผลักออกทันที
“มีอะไรหรือ” กู่ฉิงซานถาม
“นายท่าน เปล่า ข้ารู้สึกว่าต้องใช้วิชาลับพิเศษถึงจะสามารถใช้สิ่งนี้ได้” ฉานนู่กล่าว
กู่ฉิงซานถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เอาล่ะ ในที่สุดเผ่าพันธุ์มนุษย์จากยุคโบราณก็ทำสิ่งที่พึ่งพาได้เสียที
หากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว
“ไปกันเถอะ ไม่มีอะไรที่ข้าสามารถใช้ได้จากชั้นนี้อีกแล้ว ไปชั้นสุดท้ายกัน” กู่ฉิงซานกล่าว
“ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าชั้นสุดท้ายจะมีอะไรรออยู่” ฉานนู่กล่าวด้วยความสงสัย
กู่ฉิงซานยิ้มเล็กน้อย “ไม่ว่าจะมีอะไร เซี่ยกูหงต้องเอาวิธีปลดปล่อยภาพซ้อนทับแห่งเวลาแน่นอน”
“ทำไมถึงเป็นสิ่งนี้ล่ะ” ฉานนู่ถาม
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ภาพซ้อนทับแห่งเวลาคือเศษเสี้ยวคู่ขนานนับไม่ถ้วนของมิติและเวลา นอกจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณแล้ว ยังจะมีใครที่สามารถสร้างวิชามิติและเวลาที่น่าเหลือเชื่อนี้ได้อีกล่ะ”
ฉานนู่ครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้าออกมาเล็กน้อย
ทั้งสองเหาะมาถึงค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตาก่อนออกจากชั้นที่สามสิบห้า
ชั้นที่สามสิบหก
นี่คือชั้นสุดท้ายของคลังสมบัติทั้งหมดในวิหารเต๋า
นอกค่ายกลเคลื่อนย้ายพริบตา สถานที่ซ่อนสมบัติทั้งหมดว่างเปล่าจนแทบไม่เหลืออะไร เว้นแต่เพียงแท่นสูงสองแห่งที่สร้างอยู่ในตำแหน่งตรงกลาง
กู่ฉิงซานและฉานนู่เหาะผ่านไป
เขาเห็นว่าที่แท่นสูงทั้งสองแห่งนั้น มีแท่นหนึ่งที่ไม่มีอะไร ส่วนอีกแท่นมีขวดหยกปากกว้างคอยาวถูกวางไว้
กู่ฉิงซานและฉานนู่มองหน้ากัน
กลิ่นของมันช่างเรียบง่ายเกินไป ไม่ใช่อย่างที่พวกเขาคาดหวังเอาไว้
กู่ฉิงซานเป็นฝ่ายเข้าหาขวดหยกก่อน
แผ่นหยกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าทันที
วิญญาณของกู่ฉิงซานทะลวงเข้าไป ไม่ช้าจึงเข้าใจความหมายของขวดหยกใบนี้
ไม่ว่าใครก็สามารถเปิดขวดหยกใบนี้ได้
ขวดหยกจะตรวจสอบรากฐานการฝึกฝนของผู้เปิดขวดทันทีก่อนมอบยาเม็ดพัฒนาโบราณในระดับที่สอดคล้องกันให้
ยาเม็ดพัฒนาโบราณเป็นสิ่งที่สามารถใช้งานได้จริง มันสามารถช่วยให้นักพรตพัฒนาไปสู่ระดับที่สำคัญได้ในทันที
ถึงแม้ยาเม็ดชนิดนี้จะวิเศษ แต่นักพรตทุกคนสามารถใช้ได้เพียงหนึ่งครั้งในชั่วชีวิตเท่านั้น
นั่นคือความพิเศษของขวดหยกที่อยู่ตรงหน้า
หากผู้เปิดขวดอยู่ในระดับดาราโกลาหล เช่นนั้นก็จะได้ยาเม็ดพัฒนาโบราณที่พาไปสู่ระดับหวนคืนสู่ศูนย์ก่อนตกมาอยู่ในมือของผู้เปิดขวด
ผู้ฝึกฝนในระดับดาราโกลาหลจะพัฒนาสู่ระดับหวนคืนสู่ศูนย์ทันทีหากกินยาเม็ดนี้เข้าไป
ถ้าผู้เปิดขวดอยู่ในระดับสามพันโลก เช่นนั้นยาเม็ดพัฒนาโบราณที่พาไปสู่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏขึ้นในขวดหยกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นักพรตจะก้าวเข้าสู่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ทันที
นี่คือสิ่งที่ถูกกำหนดไว้นานแล้ว ทุกคนสามารถใช้ได้หนึ่งครั้ง หากใช้เพิ่ม คนคนนั้นจะถูกเตะออกจากโลกทันที
ฉานนู่อ่านคำอธิบายบนแผ่นหยกเช่นกัน
“นายท่าน” นางมีสีหน้ายินดี
“เอาเถอะ รับไปสิ” กู่ฉิงซานพยักหน้า
อีกสิ่งที่อยู่บนแท่นสูงถูกเซี่ยกูหงเอาไป ฉานนู่จึงได้เพียงยาเม็ดพัฒนาหนึ่งเม็ดเท่านั้น
ฉานนู่เดินขึ้นไปเปิดฝาขวดหยก
ยาเม็ดเป็นประกายเจิดจ้าลอยออกมาจากขวดหยก
ฉานนู่รับยาเม็ดก่อนสะบัดนิ้ว
ยาเม็ดตกลงไปในมือของกู่ฉิงซานก่อนกระดอนตรงไปที่ปากของเขาทันที
กู่ฉิงซานรีบคว้ายาเม็ดก่อนยัดเข้าไปในกล่องหยกทันที
ตอนนี้กู่ฉิงซานไม่กล้ากิน
พลังของเขาต่ำเกินไป ทันทีที่เอายาเม็ดนี้เข้าปาก เขาจะไม่สามารถต้านทานพลังของยาเม็ดได้ก่อนจะถูกทำลายโดยพลังวิญญาณที่ก้าวกระโดด ส่งผลให้เส้นลมปราณถูกทำลายจนถึงแก่ความตาย
กู่ฉิงซานหยิบกล่องหยกใส่ถุงเก็บของอย่างระวัง
จ้าวอู๋จงมีพลังระดับวงแหวนนภา
หรือก็คือ เมื่อไปถึงระดับวงแหวนนภาจึงสามารถใช้ยาเม็ดพัฒนาโบราณนี้เพื่อไปถึงระดับสามพันโลกได้ในทันที
นี่คือสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่สำหรับวิชาเล่นแร่แปรธาตุของยุคโบราณแล้ว ระดับนี้มีความเป็นไปได้
“จี้น้ำเต้าหยกกับยาเม็ดพัฒนาโบราณล้วนเป็นของดี ครั้งนี้พวกเราเก็บเกี่ยวได้ดีเลยล่ะ” กู่ฉิงซานกล่าว
“ตอนนี้ท่านอยากกลับแล้วใช่หรือไม่” ฉานนู่ถาม
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก ยังไม่ขยับไปไหน
“นายท่าน” ฉานนู่ถามด้วยความสับสน
“อาจารย์สามารถต้านทานต่อความเย้ายวนในการพัฒนาสู่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์เพื่อออกจากภาพซ้อนทับแห่งเวลาได้ ข้านับถือจริงๆ” กู่ฉิงซานกล่าว
“แต่ข้ายังอยากยืนยันจนถึงท้ายที่สุด”
เขาเดินไปยังแท่นสูงอีกแห่ง ไม่ช้าก็ยืนนิ่งๆ อยู่ที่แท่นสูงนั่น
แผ่นหยกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าทันที
แผ่นหยกนี้ได้บันทึกข้อมูลของสมบัติบนแท่นสูงดังกล่าวเอาไว้
หลังจากจิตวิญญาณของกู่ฉิงซานกวาดออกไป ข้อความบนแผ่นหยกปรากฏขึ้นในใจของเขาอย่างรวดเร็ว
“วิชาดาบสังหารศัตรู”
“นี่คือแก่นของการฝึกวิชาดาบเพื่อสังหารศัตรู มันคือการรวบรวมแก่นวิชาดาบของมนุษย์จำนวนมาก มันทั้งประณีตและงดงาม”
กู่ฉิงซานตกตะลึง
ว่าไงนะ
มันคือวิชาดาบแทนที่จะเป็นวิชาภาพซ้อนทับแห่งเวลางั้นหรือ
เป็นความจริงหรือที่ในสมบัติมนุษย์ของยุคโบราณจะไม่มีวิชาภาพซ้อนทับแห่งยุค
…………………………………..