การต่อสู้กำลังเกิดขึ้นในไม่ช้า มันเกิดขึ้นไวมากหลังจากมีการท้าทาย
ยังไงเสีย เทพจินเยี่ยนก็มาจากอนาคตและทำการศึกษามาอย่างดีจนเข้าใจเทพทุกองค์ในประวัติศาสตร์
พละกำลังของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน รู้ความสามารถและจุดอ่อนทั้งหมดของอีกฝ่าย ทำให้สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ กู่ฉิงซานเพียงกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า
“จัดการเขาซะ”
สิบหกอารักขาเทพและเทพจำนวนมากล้อมเทพจินเยี่ยนเอาไว้ พวกเขาล้วนพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่รอให้อีกฝ่ายออกท่าทรงพลัง
ไม่ว่าเทพจินเยี่ยนจะทรงพลังแค่ไหนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพโบราณจำนวนมาก ทำให้เขาถูกจับในทันที
เขาตะโกนด้วยความไม่เต็มใจว่า “ราชาเทพ ท่านไม่กล้าแม้แต่จะสู้กับข้าอย่างยุติธรรมหรือ!”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างสงบว่า “ชีวิตยังมีค่าอีกมากนัก”
เขายกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณ
ไอเย็นเยือกไร้พรมแดนพุ่งจากใต้เท้าของเทพจินเยี่ยน
คริสตัลสีขาวใสแช่แข็งเท้าของเทพจินเยี่ยนก่อนลามไปทั่วร่างกาย
เมื่อใดที่ปล่อยลมหายใจเย็นเยือกน่าขนลุกออกมา เทพจินเยี่ยนจะหลอมละลาย
ในที่สุดเทพจินเยี่ยนเปลี่ยนสี
ถ้าไม่ได้มาจากอนาคต เกรงว่าเขาก็คงเหมือนเทพองค์อื่นที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของวิชานี้
นี่คือวิชาลับของเทพแห่งความเย็นยะเยือก เยือกแข็งทำลายล้าง
คลื่นความเย็นสุดหยั่งจะทำให้ทุกชีวิตตกอยู่ในความเงียบชั่วนิรันดร์
แม้แต่เขาก็ไม่สามารถขัดขืนวิชานี้ได้
แต่ท่าที่ทรงพลังเช่นนี้ก็มีข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงเช่นกัน
มันต้องใช้เวลาในการร่าย จึงเป็นการยากยิ่งที่จะใช้จัดการอีกฝ่ายได้
แต่ตอนนี้เขาถูกจับโดยพวกเทพจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แม้แต่นิดเดียว ทำให้ช่วยกำจัดข้อบกพร่องดังกล่าวของวิชานี้ไปได้
“ท่านกล้าดียังไง ข้าคือสหายมาจากอนาคตนะ!” เทพจินเยี่ยนกล่าว
“เจ้าไม่เคยช่วยพวกข้าเผ่าพันธุ์เทพในยุคโบราณ แถมการกระทำของเจ้าในช่วงสุดท้ายก็ทำให้ข้าผิดหวังนัก” ราชาเทพกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
พลังเยือกแข็งยังคงกระจายต่อไป
เทพจินเยี่ยนรีบมองมนุษย์แสงก่อนกล่าวเสียงดังว่า “ภารกิจของข้าลุล่วงแล้ว โปรดส่งข้ากลับไปเถอะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
มนุษย์แสงมองกู่ฉิงซานด้วยความลังเล
กู่ฉิงซานส่ายหน้าขณะควบคุมธาตุเยือกแข็งด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อใช้วิชาเยือกแข็งทำลายล้างแล้วกล่าวว่า
“เจ้าคือตัวแทนของอนาคต”
ราวกับผ่านการครุ่นคิดมาอย่างยาวนาน เขาจึงพูดขึ้นช้าๆ
“แต่เจ้าคือตัวแทนของอนาคตที่พวกข้าไม่ต้องการ”
ขณะพูด เทพจินเยี่ยนถูกพันธนาการโดยพวกเทพ ไม่สามารถขัดขืนได้แม้แต่นิดเดียว ไม่ช้าจึงกลายเป็นรูปปั้นรูปทรงมนุษย์ที่ถูกสลักจากพลังเยือกแข็ง
‘ฉึก!’
คทาน้ำแข็งลอยอยู่ในอากาศก่อนแทงไปที่กลางรูปปั้น
รูปปั้นรูปทรงมนุษย์แตกสลายกลายเป็นคริสตัลน้ำแข็งใสชิ้นเล็กๆ นับไม่ถ้วนก่อนตกลงมาที่พื้น
เทพจินเยี่ยนจากอนาคตตายด้วยมือของราชาเทพเพราะเหตุนี้
เสียงของราชาเทพดังก้องจากบัลลังก์สูง
“เมื่อชีวิตของเจ้ากลับคืนสู่ความเงียบและการหลับใหล อดีตและปัจจุบันของยุคจะเป็นรากฐานให้กับหลุมศพของเจ้าและค่อยๆ เติบโตยิ่งขึ้นเพื่อสร้างอนาคตใหม่ขึ้นมา”
“นั่นคือชะตากรรมใหม่ของพวกเราเผ่าพันธุ์เทพ”
ในตำหนักราชาเทพ เทพทุกองค์ไม่ส่งเสียงแต่อย่างใด
พวกเขาคุกเข่าเพื่อคำนับราชาเทพบนบัลลังก์ด้วยความเคารพ
ไม่มีใครเคยเห็นวิชาเยือกแข็งเช่นนี้มาก่อน
ก่อนหน้านี้ มีบางส่วนพึมพำว่าราชาเทพหลบหนีจากการต่อสู้ แต่เมื่อมาดูตอนนี้ ราชาเทพสังหารเทพจินเยี่ยนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ฉะนั้นทำไมถึงต้องหลบหนีทั้งที่มีพลังแก่กล้าเช่นนี้กันเล่า!
ราชาเทพจะนำทั้งหมดเปลี่ยนโชคชะตาแห่งความตายเพื่อก้าวข้ามเผ่าพันธุ์บรรพกาล!
เหล่าเทพมองราชาเทพด้วยความนับถือ
ราชาเทพมองความว่างเปล่าราวกับเขาเห็นอนาคตของเผ่าพันธุ์เทพ ทุกท่วงท่าเต็มไปด้วยความโอ่อ่าและความเคร่งขรึมอย่างมีนัย
ความจริง เขากำลังมองหิ่งห้อยขนาดเล็กในความว่างเปล่า
“ท่านสังหารเทพจินเยี่ยน”
“เขาคือเทพทรงพลังจากอนาคต”
“พลังวิญญาณที่ท่านได้รับจะถูกหักโดยระบบ จำนวนจริงที่เพิ่มขึ้นมา: 20 แต้ม”
กู่ฉิงซานลอบถอนหายใจ
กรุ้งกริ้ง!
เหรียญตกจากก้อนน้ำแข็งจำนวนมาก
สีหน้าของกู่ฉิงซานขยับ เห็นเพียงเหรียญที่มาถึงมือของมนุษย์แสง
เหรียญหรือ
มีเหรียญอยู่ในยุคโบราณได้อย่างไร
เหรียญที่หมุนเวียนอยู่ในพื้นที่จ้าวโลกถูกกล่าวอ้างว่ามันถูกร่ายโดยเทพ
บางที…เหรียญเหล่านี้ตกทอดมาจากยุคโบราณ ท้ายที่สุดก็ตกทอดไปใช้ในพื้นที่จ้าวโลกที่ถูกยึดครองโดยเจ็ดเทพมาร
กู่ฉิงซานไม่กล้าดูถูกเหรียญแบบนี้อีกต่อไป
ครั้งนี้เขาไม่พูดอะไรมากนัก ปล่อยให้เทพถอนตัวออกจากตำหนัก
โถงว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว
จากนั้นกู่ฉิงซานถามว่า “เหรียญนั่นคืออะไร”
มนุษย์แสงตอบว่า “ข้าสามารถหาเหรียญของกู่ฉิงซานมาได้ ครั้งหนึ่งได้มอบให้จินเยี่ยน น่าเสียดายที่เขาไม่ทำตามเจตจำนงของพวกเรา”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ทำไมเหรียญนี้ถึงตามหากู่ฉิงซานเจอล่ะ”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “เพราะในภาพซ้อนทับของทั้งยุค มีเพียงเขาที่เป็นคนนอก พวกเราสามารถสัมผัสการเคลื่อนไหวของเขาผ่านเหรียญได้จนตามรอยมาเจอ”
เขาชำเลืองมองลั่วปิงหลี
กู่ฉิงซานเข้าใจก่อนโบกมือ ลั่วปิงหลีถูกแช่แข็งจนเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่
ดูท่ามนุษย์แสงกำลังจะบอกความลับที่น่าเหลือเชื่อ เขาจึงต้องทำผิดกับนาง
มนุษย์แสงกล่าวว่า “เหรียญคือตัวแทนมูลค่าและพลัง พวกมันคือวัตถุสากลของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณ”
ยุคโบราณ!
กู่ฉิงซานอดที่จะเลิกคิ้วไม่ได้
ปกติเหรียญที่ใช้อยู่ในพื้นที่จ้าวโลกถูกสร้างโดยเทพโบราณ พวกมันครอบครองการทำงานและความรู้มากมาย แต่กลายเป็นว่าสิ่งเหล่านี้มาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณงั้นหรือ!
มนุษย์แสงกล่าวต่อว่า “มนุษย์ชอบให้เหรียญที่มีพลังระดับต่างๆ เพื่อการหมุนเวียนและแลกเปลี่ยนมูลค่า”
“เมื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์จากไปแล้ว มีเหรียญจำนวนไม่มากที่เหลืออยู่ในโลกทั้งใบ มีบางส่วนถูกเก็บได้โดยเผ่าพันธุ์บรรพกาล”
“พวกมันทั้งหมดโง่เง่า”
“พวกเราพยายามทำทุกสิ่งที่ทำได้ สุดท้ายจึงได้ทำข้อตกลงกับพวกมันเพื่อมอบโอกาสให้ได้สัมผัสเหรียญ”
“ท่านราชาเทพ ท่านก็รู้ว่าความสามารถที่ทรงพลังที่สุดของพวกเราเผ่าพันธุ์เทพคือการเรียนรู้และการเลียนแบบ”
“พวกเราได้รับความลี้ลับของเหรียญผ่านการเลียนแบบจนได้ล่วงรู้ถึงความลับอันน่าทึ่งเข้า”
“ความลับอะไร” กู่ฉิงซานถาม
มนุษย์แสงมองเขา ไม่ได้พูดอะไรอยู่นานแสนาน
“มีอะไร ถ้าไม่สะดวกใจ เจ้าไม่ต้องบอกข้าก็ได้นะ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างผ่อนคลาย
มนุษย์แสงส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “มีเงื่อนไขสำหรับการรู้ความลับนี้”
“เล่ามาให้ข้าฟังได้เลย”
“ข้าขอถามหนึ่งคำถามก่อน เจตจำนงของท่านที่จะช่วยเผ่าพันธุ์เทพยังหนักแน่นเหมือนเดิมหรือไม่”
“แน่นอน”
“ท่านต้องสัญญากับข้าว่าหลังจากรู้ความลับนี้แล้ว ท่านจะต้องออกจากยุคที่อยู่นี้ทันที เข้าสู่ภาพซ้อนทับอื่นกับข้า เข้าสู่ยุคจริงที่ช่วงเวลาสุดท้ายของยุคโบราณ”
“ท่านราชาเทพ ข้าจะพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยท่าน สิ่งที่ท่านต้องรับผิดชอบคือนำเผ่าพันธุ์เทพผ่านหายนะแห่งการสูญพันธุ์”
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักก่อนพยักหน้า “ได้”
มนุษย์แสงกล่าวว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมเผ่าพันธุ์มนุษย์ในยุคโบราณถึงออกจากสวรรค์ดึกดำบรรพ์”
“ไม่รู้”
กู่ฉิงซานนั่งตัวตรงขณะตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เขามีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะได้ยินความลับที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้า
ดังคาด มนุษย์แสงกล่าวต่อว่า
“จุดแข็งที่สุดของพวกเราเผ่าพันธุ์เทพคือการเรียนรู้และเลียนแบบ ดังนั้นพวกเราจึงตรวจสอบเหรียญที่เผ่าพันธุ์บรรพกาลรวบรวมมาจนระบุได้ว่ามันคือสามเหรียญโบราณที่มีค่ามากที่สุด”
“สามเหรียญโบราณนี้เป็นตัวแทนมูลค่าสูงสุดที่เชื่อมโยงกับสามอำนาจอันเหลือเชื่ออย่างลับๆ”
“สามอำนาจที่ว่ามี: ต้นไม้หนามโบราณ ทูตสวรรค์แห่งบาปและราชาปีศาจแห่งอารัมภบท”
“เมื่อสามอำนาจนี้ร่วมมือกัน พวกเขาสามารถทำให้ทุกสิ่งเป็นไปดังใจนึกได้ ทำให้ความตายกลับกลายเป็นชีวิต ขัดขวางโชคชะตาของทุกชีวิตได้”
กู่ฉิงซานตั้งใจฟังจนจบ
หัวใจของเขาหยุดเต้นไปสักพัก
ทูตสวรรค์แห่งบาป!
นั่นมันเสี่ยวซีนี่!
หากมองย้อนไป เขาเคยถามนางว่ารู้ความลับของเหรียญหรือไม่
ตอนนั้นนางตอบว่าอะไรนะ
“ไม่ เจ้าไม่สามารถใช้ทัศนคติด้านการวัดความมั่งคั่งมาวัดความจริงกับความลับได้ สำหรับเหรียญที่มีอายุต่ำกว่าเก้าร้อยปี ทุกจำนวนย่อมมีความหมายที่พิเศษ ไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน”
เสี่ยวซีคล้ายกับนึกบางอย่างออก เสียงของนางจึงเบาบางและไร้ตัวตน
“เหรียญที่อายุเลยเก้าร้อยปีไปล้วนเท่าเทียมกัน มีเพียง…สามเหรียญสุดท้ายเท่านั้นที่จะสร้างเหรียญเพียงหนึ่งเดียวขึ้นมาได้…”
ตรงนั้นแหละ
กู่ฉิงซานได้สติทันที
กลายเป็นว่าเสี่ยวซีคือตัวแทนของสุดยอดพลัง
ดังนั้น ตัวตนนั่นจึงไม่ลังเลที่จะพูดต่อหน้าสิ่งมีชีวิตหลายร้อยล้านดวงก่อนกลับไปหาเสี่ยวซีเพื่อตัวของเขาเอง
เขาต้องการพลังของเสี่ยวซี!
กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่หลายอึดใจแล้วพลันกล่าวว่า “ข้ารู้ว่านี่คือความลับอันน่าทึ่ง แต่ข้าไม่รู้ว่ามันข้องเกี่ยวกับการออกจากสวรรค์ดึกดำบรรพ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณยังไง”
มนุษย์แสงลดเสียงต่ำโดยไม่รู้ตัวแล้วกล่าวว่า “จากการค้นคว้าของพวกเรา ทำให้พบว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณไม่ได้รู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก”
“ภายหลังพวกเขาพบว่าการใช้สามเหรียญคือองค์ประกอบหลักในการขับเคลื่อนทุกสิ่ง จากนั้นจึงถูกกระตุ้นโดยสามตัวตนที่เป็นตัวแทนของพวกมัน ทำให้สามารถสร้างพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนขึ้นมาได้”
“เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณย่อมยินดียิ่ง แต่การใช้พลังนี้เดินทางผ่านมิติและเวลา เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งและบิดเบือนชะตากรรมมากเกินไปกลับนำมาซึ่งภัยคุกคามที่ไม่รู้จักต่อเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณ”
“ภัยคุกคามหรือ”
“ใช่ ทุกชีวิตและทุกสิ่ง แม้กระทั่งมิติและเวลา ชะตากรรมของพวกมันถูกบิดเบือนและได้รับอิทธิพล นี่เหมือนกับสัญญาณรุนแรงที่สามารถสร้างความสนใจกับสิ่งมีชีวิตในหมอกแห่งมิติและเวลา หุบเหวนิรันดร์และแม้กระทั่งสถานที่ที่ยังไม่รู้จักแห่งอื่นได้”
“ในสถานที่เหล่านั้น มีความน่าสะพรึงกลัวที่ไม่รู้จักอยู่มากมาย”
“บางทีวิญญาณกรีดร้องที่ท่านพูดถึงในตอนนั้นคงมาจากโลกพวกนี้”
“อีกด้าน เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เต็มใจที่จะทิ้งพลังที่มาจากสามเหรียญ ดังนั้น พวกเขาจึงสู้กับตัวตนน่าหวาดกลัวเหล่านั้น”
“พวกเขาสร้างป้อมปราการที่ไม่อาจทำลายล้างขึ้นมาได้เพื่อปิดกั้นการสอดส่องจากสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวทั้งหลาย ตอนนี้พวกเรารู้แล้วว่ามันคือกำแพงเหล็กที่ท่านพูดถึง”
“แต่ท้ายที่สุด เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณพบว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย”
“ดังนั้นเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงเข้าสู่ประตูโลกเพื่อออกจากสวรรค์ดึกดำบรรพ์ไป”
“ทันทีที่พวกเขาไป ความผันผวนทั้งหมดพลันลดลง พวกสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่รู้จักทั้งหลายก็จากไปอย่างช้าๆ เช่นกัน”
เมื่อได้ยินดังนี้ กู่ฉิงซานอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เช่นนั้นเจ้าก็เลยเลียนแบบสามเหรียญขึ้นมางั้นหรือ เจ้าทำสำเร็จหรือเปล่า”
มนุษย์แสงถอนหายใจ “พวกข้าล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยทำสำเร็จเลย”
กู่ฉิงซานพยักหน้าแล้วพึมพำ “สามเหรียญนี้คือสิ่งเดียวจากยุคโบราณสู่ยุคปัจจุบัน แถมยังกระจายไปสู่ยุคอนาคตอีกด้วย”