กู่ฉิงซานยืนอยู่ในเส้นทางมืดมิดขณะจมสู่ความคิด
สายลมแรงกล้าพัดผ่านร่างกาย
ความจริง พายุพัดผ่านด้วยระยะทางที่ไกล เมื่อมาถึงตรงหน้าเขา พลังก็อ่อนลงไปมากแล้ว
ยิ่งอยู่ไกลเท่าไหร่ สายลมจะยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น มันสามารถทะลุผ่านเกราะศึกหมอกดำเพื่อสร้างความเสียหายกับราชาเทพโดยตรงได้
กู่ฉิงซานรู้ว่าเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกต่อไป
คงจะดีถ้าฉานนู่อยู่ที่นี่
เขาถอนหายใจ
ในเส้นทางมืดมิด ฉานนู่สามารถใช้พลังวิเศษ “อมตะ” ของดาบขุนเขาศักดิ์สิทธิ์หกภพเพื่อไปดูสิ่งที่อยู่ข้างหน้านี้ได้
ส่วนจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่ง เขาสามารถสังเวยชีวิตและวิญญาณของพวกตัวเองเพื่อเพิ่มพลังชั่วคราวก่อนก้าวต่อไปได้
ฉานนู่ไม่ได้อยู่ข้างเขา เขาไม่มีลูกน้องและไม่เต็มใจจะสังเวย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหยุดอยู่ตรงนี้
ผ่านไปสักพัก สายลมหยุดลง
กู่ฉิงซานเริ่มนับอยู่เงียบๆ
เมื่อเขานับถึงสามสิบ สายลมก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
ยี่สิบอึดใจ
สายลมจึงจะหายไป
อีกสามสิบอึดใจ
สายลมจะก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
กระบวนการทั้งหมดวนเวียนจนดูเรียบง่ายยิ่ง
เรียบง่าย…
นี่คือกลไกที่ตายตัวหรือ
มีช่องว่างสามสิบอึดใจให้ใช้ เขาสามารถวิ่งผ่านเส้นทางมืดมิดในช่วงเวลานี้ได้หรือไม่
ข้อเสียคือจิตเทพไม่สามารถออกห่างจากร่างกายมากเกินไปได้ การหดตัวของน้ำเต้าและการเคลื่อนย้ายก็ไม่สามารถแสดงบทบาทที่นี่ได้เช่นกัน
สายลมนี้สามารถทำร้ายราชาเทพได้อย่างง่ายดาย เขาไม่รู้ว่าแหล่งกำเนิดของมันจะทรงพลังแค่ไหน
มันอาจจะผ่านไม่ได้เลยก็ได้
…
ไม่ใช่
มันต้องมีทางสิ ไม่อย่างนั้นจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งคงไม่เตรียมการขนาดนี้เพื่อเข้ามาที่นี่แน่
กู่ฉิงซานครุ่นคิดอยู่สักพัก
เมื่อสายลมพัดมาอีกครั้ง เขาแตะถุงเก็บของเพื่อปล่อยจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนออกมา
“เจ้าสามารถขโมยลมพวกนี้แล้วใช้กลับได้หรือเปล่า”
กู่ฉิงซานถามด้วยความหวังอันริบหรี่
“ฟิ่วๆ ฟิ่วๆๆ !”
น้ำเต้าตอบอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็นะ ข้าคิดผิดเอง เจ้าสามารถหยิบยืมหรือเรียนรู้สายลมนี้ได้หรือไม่” กู่ฉิงซานเปลี่ยนคำถาม
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนบิดร่างกายก่อนลอยขึ้นกลางอากาศเพื่อสัมผัสสายลมที่พัดผ่านมาอย่างเงียบงัน
“ฟิ่วๆๆ ฟิ่วๆ ฟิ่วๆๆ”
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนกล่าวด้วยความสับสน
หัวใจของกู่ฉิงซานดิ่งวูบ
น้ำเต้าสามารถหยิบยืมวิชาของผู้อื่นได้
หรือก็คือ สายลมเหล่านี้มีจุดกำเนิดและไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ถ้าสายลมนี้คือพลังวิเศษอย่างหนึ่ง เช่นนั้นใครบางคนก็ต้องยืนอยู่ที่ปลายเส้นทางมืดมิดเพื่อปล่อยมันออกมาอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางนี้คงอยู่มาเนิ่นนาน เป็นไปได้หรือที่จะมีใครบางคนอยู่ที่ปลายเส้นทางเพื่อปล่อยวิชาออกมาโดยไม่หยุดพัก
นี่มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย
กู่ฉิงซานมองเส้นทางมืดมิด ความสงสัยใคร่รู้อย่างแรงกล้าค่อยๆ ก่อเกิดขึ้นในใจ
สุดท้ายแล้ว เขาตัดสินใจพยายามสำรวจดู
“เหวยจุน เจ้าสามารถปล่อยพลังเวทมนตร์ได้สามครั้งติดใช่หรือไม่” กู่ฉิงซานถาม
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนตอบว่า “ทันทีที่ข้าปลดปล่อยร้อยแสงสาดส่องหรือการหยิบยืมจากจักรวาลสามครั้งติดกันในเวลาอันสั้น ข้าจะกลายเป็นเมล็ดน้ำเต้า ต่อให้เติบใหญ่อีกครั้ง ข้าก็สามารถใช้ได้เพียงหยกไร้ข้อบกพร่องภายในหนึ่งชั่วโมง”
ตอนนี้ สายลมในเส้นทางมืดมิดเพิ่งเปลี่ยนเป็นสายลมที่รุนแรงที่สุด
กู่ฉิงซานถูกปกคลุมด้วยสายลมแรงกล้า
“สามครั้งก็มากเกินพอแล้ว เจ้าซ่อนอยู่หลังข้า ลุยกันเลย!” เขาประกาศทันที
สายลมจะพัดผ่านทั้งสิ้นยี่สิบอึดใจ ตอนนี้เป็นช่วงที่รุนแรงที่สุด อีกสิบอึดใจต่อมา มันจะค่อยๆ อ่อนกำลังลง
และสายลมจะหยุดนิ่งในสามสิบอึดใจ
หากนับจากตรงนั้น เขาจะสามารถได้เวลามากถึงสี่สิบอึดใจ!
ร่างของกู่ฉิงซานกลายเป็นประกายอสนีขณะผ่านเส้นทางมืดมิดด้วยความเร็วสูงสุดขณะเหาะตรงไปข้างหน้า
ดังคาด สายลมค่อยๆ อ่อนกำลังลงก่อนหายไป
สิบอึดใจจะหมดลงแล้ว!
กู่ฉิงซานวิ่งอย่างสุดกำลัง!
เขาเห็นภาพติดตาผ่านเส้นทางมืดมิด ไม่ช้าก็ข้ามจุดสังเวยที่เจอก่อนหน้านี้
ยังเหลืออีกสามสิบอึดใจ!
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน
กู่ฉิงซานยังคงเงียบขณะใช้ความเร็วสูงสุดของระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์
ในที่สุด เวลานั้นก็มาถึง
เขายังไม่ได้ออกจากเส้นทางมืดมิดอันยาวไกลนี้!
แต่สายลมก่อตัวขึ้นอีกครั้งแล้ว
สายลมแผ่วเบาพัดมาโดนใบหน้า ให้สัมผัสที่อบอุ่น
หากผู้คนไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของสายลมนี้ พวกเขาย่อมไม่คาดคิดถึงพลังอันน่าสะพรึงที่จะตามมาหลังจากผ่านไปไม่กี่อึดใจ
“ฟิ่วๆๆ ”
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนถาม
“ไม่ พลังของสายลมที่นี่ไม่ได้รุนแรงจนเกินไป ข้าน่าจะสามารถต้านไหว” กู่ฉิงซานกล่าว
ครั้งที่แล้วเขาไม่รู้ตัว ทำให้ใบหน้าโดนสายลมพัดผ่าน
แต่ตอนนี้เขารู้พลังของสายลมแล้ว กู่ฉิงซานย่อมมีความคิดอยู่ในใจ
พลังเวทมนตร์ของน้ำเต้ามีค่ายิ่ง เปรียบเสมือนทางเลือกสุดท้าย จะปล่อยออกมาง่ายๆ ไม่ได้
กู่ฉิงซานเอนตัวลงนอนช้าๆ
เขาพยายามแนบร่างกายกับกำแพงของทางเดินเพื่อสร้างจุดสัมผัสที่เล็กที่สุดกับสายลมที่พัดมาตรงหน้า
หลังจากนั้นไม่นาน เขาเริ่มปล่อยวิชาออกมา
ชั้นเยือกแข็งหนาปรากฏขึ้นจากอากาศบางก่อนปกคลุมกู่ฉิงซาน
ชั้นเยือกแข็งเหล่านี้ก่อตัวเป็นเปลือกน้ำแข็งโค้งเรียวจนเกาะติดกับกำแพงอย่างสมบูรณ์ขณะปกคลุมกู่ฉิงซานเอาไว้
กู่ฉิงซานแนบกับกำแพงขณะนอนอยู่บนพื้น มีเพียงสายลมส่วนน้อยนิดจากส่วนลึกของเส้นทางมืดมิดเท่านั้นที่พัดโดนเปลือกน้ำแข็ง
ถึงแม้สายลมจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่พื้นที่ที่มีเปลือกน้ำแข็งคลุมอยู่กลับอ่อนกำลังลง นั่นเป็นผลจากเปลือกน้ำแข็งโค้งเรียวได้รูป ทำให้สายลมพัดผ่านเปลือกน้ำแข็งไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าสายลมยังน่าสะพรึงยิ่งอยู่ดี ยังไงเสีย เปลือกน้ำแข็งก็โดนสายลมตลอด แถมความเร็วของสายลมยังเพิ่มอีกด้วย
เมื่อเห็นว่าเปลือกน้ำแข็งกำลังจะลอกออกอย่างสมบูรณ์ กู่ฉิงซานจึงลงมือ
ตอนนี้เขาคือเทพแห่งความเย็นยะเยือก วิชาเยือกแข็งที่เขาปลดปล่อยออกมาอย่างสุดกำลังคือพลังป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่ง
ไม่ช้า เปลือกน้ำแข็งอันใหม่ก่อตัวบนพื้นผิวร่างกายของเขา!
ภายใต้สายลมอันเกรี้ยวกราด เปลือกน้ำแข็งหดลงอย่างต่อเนื่องแต่ก็กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมอย่างรวดเร็วภายใต้พรเยือกแข็งของกู่ฉิงซาน
หลังจากเป็นเช่นนี้วนเวียนไปหลายครั้ง สายลมแรงกล้าผ่านจุดที่รุนแรงไปในที่สุดก่อนเริ่มอ่อนกำลังลงอย่างช้าๆ
กู่ฉิงซานทำสำเร็จ!
เมื่อสายลมอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ เขากระโดดออกไปอย่างรุนแรง กระแทกใส่เปลือกน้ำแข็งก่อนพุ่งไปข้างหน้าต่อ
“น่าทึ่งจริงๆ ข้าใช้พละกำลังไปส่วนใหญ่แล้ว เหวยจุน ข้าต้องพึ่งเจ้าหากสายลมกลับมาในครั้งต่อไป” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างมีอารมณ์
“ฟิ่วๆ ” จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนตอบ
กู่ฉิงซานกลับมามีเวลามากกว่าสามสิบอึดใจอีกครั้ง
เขาระเบิดพลังทุกอย่างที่มีเพื่อพุ่งไปข้างหน้าสุดแรงเกิด
เมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่ง กระดูกหลายสิบท่อนลอยผ่านเขาไป
เห็นได้ชัดว่าจ้าวแห่งการบิดเบือนทุกสรรพสิ่งไม่สามารถก้าวต่อไปได้เมื่อเดินมาถึงตรงจุดนี้
เขาจึงทำการสังเวยอีกครั้ง
กู่ฉิงซานเมินกระดูกเหล่านั้น
เพราะหลังจากผ่านไปหลายสิบอึดใจ สายลมน่าสะพรึงจะพัดมาอีกครั้ง!
มีแต่ต้องวิ่งสุดแรงเกิด
ทุ่มทุกอย่างที่มี
ถึงแม้ความเร็วจะเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด
ถึงแม้จะเดินทางมาได้ระยะไกลแล้ว
แต่เส้นทางมืดมิดก็ไม่เผยปลายทางเสียที
สามสิบอึดใจหมดลงแล้ว
ในเส้นทางมืดมิด สายลมค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
“ฟิ่วๆ ”
จี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนถาม
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก
ไม่ว่าจะเป็นใครหรือตัวตนอะไรที่ปล่อยวิชาอยู่ข้างหน้า มันน่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือตัวตนที่ไม่มีสติ
เพราะสายลมใช้เพื่อปิดกั้นเส้นทาง วิชาที่ปล่อยออกมาไม่หยุดนั้น ไม่ว่าจะอยู่ระดับสูงแค่ไหนก็ไม่สามารถปล่อยนานได้อย่างไร้ขีดจำกัดเช่นนี้
…หรือตัวตนนั่นอยู่เกินความขอบเขตความเข้าใจมานานแล้ว
แต่ความสามารถของจี้น้ำเต้าหยกเหวยจุนสามารถหยิบยืมทักษะของอีกฝ่ายได้
นี่คือพลังลี้ลับที่เหนือกว่าพละกำลังธรรมดา หากต้องเผชิญกับศัตรูที่ทรงพลังมาก ณ ปลายทางนั่นจริง เช่นนั้นสิ่งเดียวที่สามารถพึ่งได้ก็คือน้ำเต้าเหวยจุน
ไม่ง่ายนักที่จะใช้มันได้!
กู่ฉิงซานดึงดาบยาวออกมาขณะฟันใส่กำแพง
“ฉึก ครืด”
เสียงเสียดสีรุนแรงดังขึ้น ประกายไฟปรากฏขึ้นบนกำแพง
ไม่ได้ กำแพงหนาเกินไป!
คิดๆ ดูแล้ว ถ้ากำแพงไม่หนาเกินไป แล้วมันจะต้านทานสายลมพวกนี้ได้อย่างไร
กู่ฉิงซานกัดฟัน
ไม่มีทางอื่นเลยหรือ
สายลมยิ่งมายิ่งรุนแรง
ตอนนี้ เขาสามารถสัมผัสพลังทำลายล้างในสายลมได้
ถึงแม้จะไม่ใช่สายลมโกลาหล แต่สายลมนี้ครอบครองพลังที่จะทำลายราชาเทพเช่นกัน!
รูปรากฏบนตัวกู่ฉิงซานอีกครั้ง
รอยฟันบนเกราะศึกหมอกดำคมและเรียบราวกับไม่มีทางขัดขืนได้
กู่ฉิงซานทันสังเกตเห็นขณะครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว
รอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว
ไม่มีทางอื่นจริงๆ หรือ
น่าเสียดายที่กำแพงนี้หนาเกินไป เขาไม่สามารถฟันมาได้ด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี…
เดี๋ยวนะ
ทันใดนั้น จิตของกู่ฉิงซานวูบไหว
เขายื่นมือไปในความว่างเปล่า
การ์ดเปล่งแสงสีแดงมาอยู่ในมือของเขา
“หายาก: หอกปีศาจแดง”
“เมื่อสวมใส่หอกปีศาจนี้ ท่านจะไม่สามารถสวมใส่เกราะในเวลาเดียวกันได้”
“หอกเวทมนตร์นี้มีคุณลักษณะของกฎเกณฑ์: เชือดเฉือนสัมบูรณ์”
“คำอธิบาย: นี่คืออาวุธชิ้นแรกที่ถูกสร้างโดยเทพในยุคโบราณที่ทำร้ายพวกเดียวกันได้”
“ไม่มีสิ่งใดหยุดยั้งได้!”
กู่ฉิงซานยื่นมือออกไปจับการ์ดก่อนสะบัดอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมา
หอกที่ถูกห้อมล้อมโดยแสงสีชาดไม่มีสิ้นสุดปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าก่อนมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน
เกราะบนร่างของกู่ฉิงซานกลายเป็นกลุ่มหมอกสีดำก่อนสลายไปตามสายลมอย่างรวดเร็ว
ขณะหอกปีศาจอยู่ในมือ เกราะศึกหมอกดำจะแตกสลายทันที
“ฮ่า!”
โดยไม่คำนึกถึงอะไร กู่ฉิงซานคำรามออกมา
แสงสีชาดวูบไหวครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกสิ่งถูกฟันได้อย่างง่ายดายราวเต้าหู้
กำแพงถูกฟันเป็นรูขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ สายลมค่อยๆ รุนแรงมากขึ้น
ด้านข้างของกู่ฉิงซานที่กำลังเผชิญกับสายลมถูกฟันเป็นแผลเปิดขนาดเล็กนับไม่ถ้วนจนโลหิตไหลอาบ
รอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว!
กู่ฉิงซานถือหอกปีศาจแดงก่อนกระโจนเข้าไปในหลุมขนาดใหญ่บนกำแพง
เพื่อกันเอาไว้ก่อน เขาใช้วิชาควบคุมเพื่อปิดหินที่ถูกสับเป็นทางเข้าถ้ำกลับไปอีกครั้งก่อนทำให้พวกมันอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบด้วยวิชาเยือกแข็งที่ทนทานที่สุด
ตอนนี้ สายลมไปถึงจุดสูงสุดของพลัง
หวือ
สายลมแรงกล้าส่งเสียงเกรี้ยวกราดออกมาขณะทำลายทุกสิ่งในเส้นทางมืดมิด
ในที่สุดกู่ฉิงซานก็หลบได้