ตอนชายชราถามกู่ฉิงซานว่าจะเลือกอะไรระหว่างการก้าวข้ามภัยพิบัติหรือจื้อลัว
กู่ฉิงซานเลือกก้าวข้ามภัยพิบัติอย่างไม่ลังเล
ด้วยการป้องกันของค่ายกลดาบพิทักษ์ เขารอดจากภัยพิบัติไฟจนออกจากโลกอิสรภาพได้สำเร็จ
ตอนชายชรานำพวกผู้ฝึกยุทธ์ไปทำลายภูเขา
กู่ฉิงซานก็เข้าสู่ภัยพิบัติน้ำแล้ว
ในบรรดาสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ของดิน น้ำ ไฟและลม ไฟคือตัวแทนการทำลายล้างและการล่วงลับ ขณะที่ดินและน้ำคือตัวแทนการกำเนิดและการเติบโต
ดังนั้น ภัยพิบัติน้ำถึงกับไม่ได้มีเป้าหมายในการทำลายชีวิตของผู้ฝึกยุทธ์
มันคือการเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง วิธีการข้ามไม่อาจรู้ได้
กู่ฉิงซานเดินผ่านแสงแวววาวนับไม่ถ้วน
เมื่อถึงเวลาหนึ่ง แสงแวววาวเหล่านี้เชื่อมต่อกันเป็นชิ้นส่วนแสงก่อนส่องสว่างไปทั่วโลก
ทันใดนั้น กู่ฉิงซานพบว่าตัวเองยืนอยู่บนผืนน้ำที่ไกลสุดขอบตา
ไม่มีสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งใบ
ผิวน้ำราบเรียบราวกระจกขณะสะท้อนทั่วท้องนภาสีเงิน มีเพียงตัวตนเดียวที่อยู่ใต้ท้องนภาผืนนั้น กู่ฉิงซานนั่นเอง
อย่างช้าๆ กลุ่มน้ำทะยานขึ้นจากผิวน้ำ แปรเปลี่ยนไปมาจนก่อตัวเป็นรูปลักษณ์ของกู่ฉิงซานอีกคนในที่สุด
กู่ฉิงซานสองคนยืนเผชิญหน้ากันนิ่งๆ
ทันใดนั้น สีหน้าของกู่ฉิงซานคนหนึ่งขยับเล็กน้อย
เขามองฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัยแล้วถามว่า “เจ้าคือข้าในอีกโลกหนึ่งงั้นหรือ”
“ใช่” กู่ฉิงซานคนนั้นตอบ “ดูท่าวิญญาณของเจ้าจะมาถึงแล้ว ตามกฎของภัยพิบัติน้ำ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จะไม่ส่งผลอันตรายกับตัวเจ้าจริงๆ ดังนั้นเจ้าสามารถทุ่มสุดกำลังได้เลย”
กู่ฉิงซานคนนั้นเผยอารมณ์ออกมา “แสดงว่าในโลกคู่ขนาน อาชีพหลักของข้ากลายเป็นผู้ใช้วิชาดาบ”
กู่ฉิงซานถามอย่างไม่แน่ใจว่า “แล้วเจ้าล่ะ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีจิตสังหารอะไรเลยนะ คงนานมากแล้วสินะที่เจ้าอยากสู้”
กู่ฉิงซานคนนั้นยอมรับอย่างจริงใจว่า “ใช่ ข้าคือคนแรกที่กินอาหารวิญญาณในโลก แน่นอนว่าข้าก็เป็นผู้ใช้วิชาดาบเช่นกัน แต่ข้าไม่มีจิตดาบเหมือนกับเจ้า”
“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ”
“ลูกชอบกินอาหารของข้าน่ะ”
ขณะกู่ฉิงซานพูด สีหน้าอ่อนโยนปรากฏขึ้นบนใบหน้า
กู่ฉิงซานตกตะลึง
อะไรกัน
ในโลกคู่ขนาน เขาถึงกับมีลูกงั้นหรือ
“เจ้าแต่งงานกับใครน่ะ” เขาอดที่จะถามไม่ได้
“ซูเสวี่ยเอ้อร์” กู่ฉิงซานคนนั้นตอบ
“ถ้างั้น แล้วแอนนาล่ะ”
“แอนนาหรือ ไม่มีผู้หญิงที่ชื่อแอนนาอยู่รอบตัวข้าเลยนะ”
“เช่นนั้นเจ้าไปอยู่กับซูเสวี่ยเอ้อร์ได้ยังไง”
“จุดจบของโลกกำลังมา โลกกำลังจะแตกสลาย ไวรัสแปลกประหลาดกระจายสู่ทุกคน สามในห้าส่วนของคนบนโลกตาย สองในห้าที่เหลือมีโอกาสเข้าโลกแห่งการฝึกฝน”
“ซูเสวี่ยเอ้อร์และข้าท่องไปในโลกแห่งการฝึกฝนด้วยกัน ภายหลังได้เข้าสู่การฝึกวิชายุทธด้วยกัน ฟันฝ่าด้วยกัน ท้ายที่สุดก็ได้แต่งงานกัน”
“ตระกูลนางไม่ห้ามเลยหรือ”
“เรื่องนั้น น่าเสียดาย เก้าคฤหาสน์ตายแล้ว” กู่ฉิงซานคนนั้นหัวเราะ
กู่ฉิงซานตกตะลึงและลังเล “งั้น เจ้าพบสัตว์ประหลาดหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า”
“สัตว์ประหลาดคืออะไร”
“ไม่มีมารหรือ! เจ้ามีบัญญัติหรือเปล่า”
“อ้อ มีอยู่อันหนึ่ง”
“มันคือบัญญัติอะไร”
“หมื่นสวรรค์สิ้นโลกออนไลน์ ที่พักพิง”
กู่ฉิงซานจนคำพูดสักพักใหญ่
การกล้าที่จะรักทำให้เกิดเป็นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งบัญญัติที่ปรากฏขึ้นครั้งแรกก็ยังต่างออกไป
และอีกมากมาย
ทำไมบัญญัติที่ตื่นขึ้นมาอันแรกในมิติและเวลานี้ตอนที่เขาอยู่ถึงเป็นราชามารแห่งอารัมภบทล่ะ
ดูคนนี้สิ มีที่พักพิงอยู่กับตัวด้วย!
ทันทีที่ได้ยินชื่อและเห็นรูปลักษณ์อันเกียจคร้าน กู่ฉิงซานไม่คิดจะถามอะไรอีก
ไม่มีการเปรียบเทียบ ไม่มีอันตรายจริงๆ
เขากล่าวว่า “เอาล่ะ เมื่อเจ้าเป็นผู้ทดสอบ เจ้าจะทดสอบอะไรข้า”
“ข้าจะเอาอะไรไปเทียบกับตัวเอง” กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
กู่ฉิงซานหัวเราะเช่นกันแล้วกล่าวว่า “ความหมายของภัยพิบัติน้ำคือการให้ผู้ฝึกยุทธ์เข้าใจความลี้ลับของโลกที่อยู่เหนือมิติและเวลาอันไร้ขีดจำกัด มีโลกคู่ขนานมากมายมหาศาล ดังนั้นเจ้าต้องทำการทดสอบข้าก่อน ข้าจึงจะสามารถออกจากโลกนี้ได้”
“เช่นนั้นข้าจะทดสอบเจ้า”
ขณะกู่ฉิงซานคนนั้นกล่าว เขาสะบัดมือ หยิบอุปกรณ์ทำอาหารวิญญาณออกมาเป็นจำนวนมากแล้วเริ่มทอดปลา
ผ่านไปสักพัก ปลาก็ทอดเสร็จ
“เอาล่ะ ลองชิมดู” กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าว
ท่วงท่าของกู่ฉิงซานแข็งทื่อ
ทำอาหารหรือ
เขาเก็บดาบ หยิบภาชนะบนโต๊ะและเริ่มชิม
“อืม รสชาติดี เจ้าควบคุมความร้อนได้ดีเลยนะ”
กู่ฉิงซานชมขณะกิน
“จานนี้ข้าถนัด ถ้าสามารถทำได้เหมือนกับข้าสักเจ็ดส่วน เจ้าก็จะผ่าน” กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าว
เขาโยนปลาสดลงบนเขียง
กู่ฉิงซานวางชามและตะเกียบ ถกแขนเสื้อขึ้นและเริ่มจัดการกับปลาอย่างระมัดระวัง
ความจริง หลังจากการรวมกันของโลกมากมาย เขาได้รับวิธีการฝึกฝนเป็นจำนวนมาก หกวิชายุทธถือว่าไม่ใช่น้อยๆ เขาได้เรียนรู้มันเป็นอย่างดี
ภายหลัง เขากลับโลกเซินหวู่เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับฉินเสี่ยวหลัว ระดับของเขาพัฒนาขึ้นนับตั้งแต่นั้นมา
ชาและอาหารที่ทำเพื่อผู้คนในสำนักร้อยบุปผาได้รับการชื่นชมจากทุกคน
เมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้เรียนรู้วิธีการรับมือกับอาหารทะเลจากพวกมาร
แสดงว่าการทดสอบนี้ไม่น่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด
ผ่านไปสักพัก
ปลาของเขาทอดเสร็จ
กู่ฉิงซานคนนั้นเดินเข้ามาด้วยความสนใจ เขาใช้ตะเกียบคืบชิ้นหนึ่งขึ้นมาก่อนส่งเข้าปาก
“ใช่แล้ว ดีกว่าที่ข้าทำอีก” เขาชม
ทันทีที่สิ้นเสียงดังกล่าว ร่างของเขาค่อยๆ หายไป สุดท้ายก็หายไปจากน้ำที่ราบเรียบเหมือนกับกระจก
ผู้ทดสอบคนแรกไปแล้ว
กู่ฉิงซานเริ่มกินปลา
เขารอผู้มาเยือนจากโลกคู่ขนานใบที่สอง
ผ่านไปสักพัก
กลุ่มสายน้ำใหม่ไหลมารวมเป็นกู่ฉิงซานก่อนปรากฏตัวตรงหน้ากู่ฉิงซาน
“ทดสอบตัวเองหรือ นี่เป็นความฝันที่ประหลาดนัก”
กู่ฉิงซานคนใหม่กล่าว
เขาดูซีดเซียวและคล้ายกับผ่านปัญหาและภัยพิบัติมามากมาย
“เจ้าดูเหนื่อยนะ เจอปัญหาอะไรมางั้นหรือ” กู่ฉิงซานถาม
“ไม่ต้องห่วง แต่ข้าจะเข้าร่วมการแข่งขันวิชายุทธในเดือนหน้า ตอนนี้ยังไม่มีคุณสมบัติแต่อย่างใด” กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าว
กู่ฉิงซานจ้องอีกฝ่าย ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นบางอย่าง
อีกฝ่ายอายุน้อยกว่าที่ตาเห็น
ยิ่งกว่านั้น จากการพูดและท่าทางของอีกฝ่าย เขาดูหนุ่มและไม่บรรลุนิติภาวะราวกับไม่เคยเกิดใหม่มาก่อน
หรือก็คือ เขาเป็นตัวตนที่แท้จริงตอนที่ยังเป็นเด็ก
กู่ฉิงซานสงสัย “วิชาดาบล่ะ ตามความเข้าใจวิชาดาบของเจ้า ไม่ควรจะมาอับอายกับสิ่งเหล่านี้เลยนี่”
กู่ฉิงซานหนุ่มตอบว่า “ข้าไม่เคยอยู่คนเดียว ไม่มีใครหนุนหลัง ต้องพึ่งทรัพยากรการฝึกฝนทั้งหมดเพียงลำพัง ดังนั้นข้าจึงเริ่มต้นช้ากว่าจนกระทั่งถูกไล่ฆ่า ทำให้ข้ายังไม่ได้วิชาดาบที่ดีมา”
กู่ฉิงซานตกอยู่ในความเงียบ
ใช่แล้ว นี่เหมือนกับเขาในช่วงชีวิตที่แล้ว
เขาหยิบถุงเก็บของใบใหม่ออกมาจากทะเลแห่งความตระหนักรู้ก่อนสลักวิชาดาบทั้งหมดที่รู้มาทั้งชีวิตลงบนแผ่นหยก
หลังจากทำทั้งหมดนี้ เขาส่งถุงเก็บของใบใหม่ให้กับอีกฝ่าย
“นี่อะไร ทำไมถึงมีวิชาดาบเยอะขนาดนี้! มีค่ายกลดาบด้วย!” กู่ฉิงซานหนุ่มส่งจิตเทพออกไปดูก่อนกล่าวด้วยความประหลาดใจออกมา
“นี่คือแผ่นหยกขนาดใหญ่ เจ้าต้องจำเนื้อหาก่อน” กู่ฉิงซานกล่าว
กู่ฉิงซานหนุ่มไม่ลังเลก่อนหลับตาลงเพื่อจดจำอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปสักพัก
เขาลืมตาขึ้น
“จำได้หรือยัง”
“ข้าจำได้หมดแล้ว”
กู่ฉิงซานส่งสัญญาณขณะเอาถุงเก็บของกลับไป
“เจ้าเก็บไว้ไม่ได้ มันจะสร้างปัญหาให้” เขาอธิบาย
กู่ฉิงซานหนุ่มพลันกล่าวว่า “ข้าเข้าใจเรื่องนี้ดี ข้าจะให้ความสนใจเรื่องการปกปิดตัวเองในการฝึกหลังจากนี้”
มีความตื่นเต้นและความถวิลหาอยู่ในดวงตา เขาคล้ายกับคิดถึงความสำเร็จในอนาคตอันใกล้
“ใช่แล้ว ตอนนี้มาช่วยข้าผ่านการทดสอบนี้เถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว
กู่ฉิงซานหนุ่มกลับมามีสติ
เขาครุ่นคิดสักพัก จากนั้นดึงดาบเคนโด้ออกมา
“พวกเรามาดวลกัน ขอแค่เจ้าไม่แพ้ก็ถือว่าผ่านการทดสอบของข้า”
“ดี” กู่ฉิงซานกล่าว
เขาดึงดาบออกมาเช่นกัน
สองร่างเข้าปะทะกันทันที
วิชาดาบวูบไหว
กู่ฉิงซานเก็บดาบก่อนยืนหันหลังให้
กู่ฉิงซานหนุ่มยืนนิ่งแล้วถอนหายใจ “แสดงว่าข้าสามารถฝึกวิชาดาบจนถึงขั้นนี้ได้เลยสินะ”
รอยฟันดาบหลายร้อยแห่งปรากฏบนบนหน้าอกของเขา
กลายเป็นว่ารอยดาบเหล่านี้เพียงแค่ทำให้ชุดของเขาขาด ไม่ได้ทำร้ายร่างกายแม้แต่นิดเดียว
ร่างของกู่ฉิงซานหนุ่มเริ่มโปร่งแสงช้าๆ
“คงแปลกสักหน่อยถ้าจะพูดขอบคุณ เพราะเจ้าก็คือข้าและข้าก็คือเจ้า แต่พวกเราอยู่มิติและเวลาที่แตกต่างกัน” กู่ฉิงซานหนุ่มกล่าว
“ยังไงก็ตาม ข้าถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งหมดในชีวิตที่เจอมาให้แล้ว หวังว่าเจ้าจะสามารถใช้ชีวิตได้ดีกว่านี้” กู่ฉิงซานกล่าว
กู่ฉิงซานหนุ่มพยักหน้าแล้วยิ้มให้กู่ฉิงซาน “ข้าจะเป็นผู้ใช้วิชาดาบที่แข็งแกร่งที่สุดให้ได้”
วินาทีต่อมา ร่างของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์
กู่ฉิงซานยังคงรอ
ในระดับวงแหวนนภา เขาต้องเผชิญหน้ากับตัวเองในโลกคู่ขนานสามใบ
ตอนนี้ผ่านไปสองแล้ว เหลืออีกหนึ่ง
ไม่ช้า
กลุ่มสายน้ำกลายเป็นรูปลักษณ์ของกู่ฉิงซานก่อนยืนบนน้ำอีกครั้ง
“จุ๊ๆ นอกจากภัยพิบัติอสนีบาตแล้วยังมีอย่างอื่นอีกสินะ ไม่เคยได้ยินความลี้ลับแบบนี้มาก่อน จะว่าไปแล้ว พวกเราต้องฝึกฝนขนาดไหนจึงจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติน้ำ” กู่ฉิงซานคนนั้นถามอย่างสงสัย
“เมื่อเจ้าไปถึงระดับวงแหวนนภา ถึงตอนนั้นจึงจะต้องเอาตัวรอดจากภัยพิบัติน้ำ” กู่ฉิงซานตอบ
“ระดับวงแหวนนภาคืออะไรหรือ”
“ระดับปราณปรับแต่ง ระดับก่อตั้ง ระดับแก่นทองคำ ระดับก่อกำเนิด ระดับก้าวสู่เทพ ระดับนักบุญ ระดับร่างเทวะ ระดับพันวิบัติ ระดับขีดสุดความว่างเปล่า ระดับดาราโกลาหล ระดับหวนคืนสู่ศูนย์ ระดับกระจ่างจิตเทวะ ระดับเบิกเนตรมิติ ระดับเก้าสิบแสวงโลกา ระดับแปดร้อยวงแหวนนภา ระดับสามพันโลก ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ ระดับนภายามค่ำ ระดับราชาแห่งอิสรภาพ ระดับจ้าวแห่งขุนเขาเซียวหมี นี่คือระดับพลังที่ข้ารู้”
กู่ฉิงซานคนนั้นฟังก่อนตกตะลึงไปสักพัก
กู่ฉิงซานถามกลับว่า “ข้าเห็นความผันผวนในพลังวิญญาณของเจ้า น่าจะเป็นระดับก้าวสู่เทพ ทำไมถึงไม่พัฒนาต่อล่ะ”
กู่ฉิงซานคนนั้นตอบว่า “หลังจากการกบฏของสัตว์วิญญาณสิ้นสุดลง มารทุกตนหายไป พวกเราตัดสินใจปิดกั้นทางเข้าของพวกมารเพื่อไม่ให้มาทำการติดต่อกับพวกเราอีก”
ครั้งนี้เป็นคราวของกู่ฉิงซานที่ตกตะลึง
ในโลกคู่ขนานอีกแห่ง เผ่าพันธุ์มนุษย์ผนึกทางเข้าสู่โลกเซินหวู่
เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้รับความสงบสุขนับแต่นั้นเป็นต้นมา
เหตุการณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในโลกกระแสหลักของโลกเก้าร้อยล้านชั้น โลกฝึกฝนและโลกดึกดำบรรพ์คือโลกที่ห่างจากโลกเก้าร้อยล้านชั้น แต่พวกเขาก็ยังได้พบความสงบสุข
นี่มันช่างคาดไม่ถึงจริงๆ
“หรือว่านับแต่นั้นมาก็ไม่มีหายนะในโลกจริงและโลกฝึกฝนอีกเลย” กู่ฉิงซานถาม
“ไม่ใช่” กู่ฉิงซานคนนั้นตอบ
กู่ฉิงซานถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เจ้าโชคดีเกินไปแล้ว”
“จากรากฐานการฝึกฝน ข้าได้เห็นสิ่งนี้มาแล้ว…”
กู่ฉิงซานคนนั้นนิ่งสักพักก่อนกล่าวต่อว่า “ดังนั้นที่ข้าจะขอจากเจ้าคือให้บอกความจริงที่รู้มา ทำแบบนั้นเจ้าถึงจะผ่านการทดสอบของข้า” กู่ฉิงซานคนนั้นกล่าว
“ได้สิ”
กู่ฉิงซานบอกทุกสิ่งที่เขาสามารถบอกได้อย่างไม่ลังเล
กู่ฉิงซานคนนั้นจมสู่ความคิด
กู่ฉิงซานยื่นถุงเก็บของไปให้อีกฝ่าย
“นี่คือ…”
“แผ่นหยกขนาดใหญ่ เจ้าต้องจำเนื้อหาข้างในให้หมด จากนั้นกลับไปฝึกฝนให้ดี”
“…ได้”