โซฟาสะดวกสบายยิ่ง กู่ฉิงซานไม่อยากขยับไปไหนเมื่อได้นั่งลงไป
สมรรถภาพทางร่างกายของคนธรรมดาไม่ดีเลยจริงๆ พวกเขาเหนื่อยง่ายเกินไป
อาหารที่มีไอพวยพุ่งถูกนำมาเสิร์ฟโดยสองสาว
ชายผมบลอนด์รินไวน์ใส่แก้ว
หลายคนมองเขาด้วยสายตาที่แตกต่างกันมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว
ไม่เพียงแค่ห้องน้ำเท่านั้นที่ซ่อมได้ไว กู่ฉิงซานยังซ่อมอุปกรณ์ให้ความสว่างกับเครื่องล้างจานให้ได้อีกด้วย
ชายผมดำกล่าวว่าเครื่องยนต์รถบรรทุกมีปัญหาเช่นกัน กู่ฉิงซานไปแก้ไขเครื่องยนต์รถบรรทุกที่เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไปให้
การที่สามารถซ่อมหลายสิ่งหลายอย่างได้ก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่าเขามีความเข้าใจเรื่องเครื่องจักรจริงๆ
ถึงจุดนี้ ในที่สุดตัวตนของกู่ฉิงซานก็ไม่ถูกสงสัยอีกต่อไป
“กินเถอะ นักวิทยาศาสตร์ ฉันคิดว่าคุณเหนื่อยมามากแล้ว หลังจากกินแล้วก็พักเสียหน่อย คืนนี้นอนหลับให้เต็มที่ จากนั้นค่อยออกไปข้างนอกกับพวกเรา” เหล่าหลี่กล่าว
“จะมีการโจมตีงั้นหรือ” กู่ฉิงซานถามอย่างคลุมเครือ
“เป็นไปได้สูงว่าพวกมันวิวัฒนาการแล้ว ฉันเห็นตัวหนึ่งพยายามเดินตอนกลางวันบนทางหลวงเมื่อไม่กี่วันก่อน ใช้เวลาเจ็ดถึงแปดวินาทีก่อนจะถูกเผาจนตายเพราะดวงอาทิตย์” ชายผมบลอนด์ที่มีชื่อว่าทอมมี่กล่าว
“พวกมันวิวัฒนาการทุกวัน ใครจะรู้ล่ะว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เหล่าหลี่ถอนหายใจ
“ไม่ต้องห่วง พลังการยิงของพวกเรารุนแรงนัก” หญิงสาวให้กำลังใจทุกคน
“ดีล่ะ พวกเราควรจะไปเตรียมตัวกันให้พร้อม…นักวิทยาศาสตร์ สิ่งเดียวที่คุณต้องสนใจคือการเฝ้าระวังของพวกเราจะทำให้ร่างกายเหนื่อยล้ามาก พวกเราอาจจะหลับถึงตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ดังนั้นพรุ่งนี้เช้าอย่าได้ปลุกพวกเราเด็ดขาด” ชายผมดำกล่าว
“เข้าใจแล้ว”
กู่ฉิงซานตอบรับก่อนไม่ถามอะไรอีก
ตัดสินจากความมุ่งมั่นของคนเหล่านี้แล้ว น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของคนธรรมดา ต้องการการสำรองพลังงาน จากนั้นก็พักผ่อนอย่างเพียงพอ
เขาหยิบช้อนขึ้นมาแล้วเริ่มกินอาหารในส่วนของตัวเอง
กระป๋องเนื้อร้อนได้ที่กับข้าวแกงกะหรี่ไก่
แถมยังมีแก้วไวน์อีก
นี่มันช่างดีจริงๆ
“ผมขอไวน์เพิ่มได้หรือเปล่า” กู่ฉิงซานถาม
“แน่นอน คุณแค่ต้องนอนหลับให้เต็มอิ่ม การดื่มไวน์จะช่วยให้หลับง่ายขึ้น” เหล่าหลี่หยิบขวดไวน์มาตั้งบนโต๊ะ
กู่ฉิงซานพลันมีกำลังวังชาขึ้นมา
ตอนนี้เขาเป็นคนธรรมดา
หากดื่มตอนนี้ เขาจะต้องเมาอย่างแน่นอนเพราะไม่มีพลังวิญญาณมาช่วยชะล้าง
แบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่
เขาวางแก้วในมือไว้บนโต๊ะช้าๆ ก่อนเริ่มกิน
“คุณไม่ดื่มหรือ” เหล่าหลี่สับสน
“ท้องผมปั่นป่วนนิดหน่อย ลืมเรื่องไวน์ไปเถอะ” กู่ฉิงซานตอบ
ระหว่างที่กินอยู่นั้น พวกเขาสี่คนเริ่มเก็บอุปกรณ์ของตัวเอง
ชุดป้องกันตัว ไฟฉาย ปืนยาว ปืนพก วอล์คกี้ท็อลค์กี้ กล้องส่องทางไกลอินฟราเรดและกระสุนทุกนัดล้วนถูกพวกเขาตระเตรียม
“คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตมาก คุณสามารถหาห้องพักของตัวเองได้ตามสบาย…ของพวกเราจะมีชื่อแปะอยู่หน้าห้อง อย่าได้เลือกห้องที่มีชื่อแปะไว้เด็ดขาด” หญิงสาวกล่าว
“ได้ ผมเข้าใจ” กู่ฉิงซานกล่าว
ตอนนี้ หลายคนเก็บของตัวเองเสร็จแล้วก่อนเดินขึ้นชั้นบนของคฤหาสน์
“ถ้าได้ยินเสียงกรีดร้องของสัตว์ประหลาด อย่าได้กังวลไป” ในที่สุดเหล่าหลี่ก็พูดเสียงดังออกมา
หัวใจของกู่ฉิงซานเต้นรัวขณะถามเสียงดังว่า “อันตรายจะเริ่มขึ้นตอนไหน”
“ราวสิบเอ็ดนาฬิกา” หญิงสาวตอบ
พวกเขาไปแล้ว
กู่ฉิงซานมองนาฬิกาบนกำแพง
ใกล้เจ็ดนาฬิกาแล้ว ยังเช้าอยู่
ตรงข้ามกับเขา สองสาวยังกินอยู่
“วางจานข้าวเย็นไว้ตรงนี้ จะได้เอาไปทำความสะอาดสะดวก” หญิงสาวสังเกตเห็นสายตาของเขาก่อนกล่าวเช่นนั้นออกมา
“ขอบใจ”
กู่ฉิงซานลุกขึ้นก่อนจากไป
เขาหันไปมองรอบคฤหาสน์
คฤหาสน์หลังนี้เป็นบ้านพักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง ว่ากันว่าเจ้าของไปเมืองหลวงโดยนั่งเครื่องบินทันทีที่หายนะกระจายตัวออกไป
ยังไงเสีย ยังมีศูนย์กลางของทั้งประเทศอยู่ จะต้องมีทางรอดและทางรับมือที่ดีที่สุดอยู่แน่
ขณะหายนะยังดำเนินต่อไป ผู้คนพบว่าสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดกลับกลายเป็นทะเลทราย
สถานที่ที่มีผู้คนน้อยจะยิ่งปลอดภัยมากกว่า
กู่ฉิงซานจดจำทุกห้องขณะเดิน
เขาเดินวนเป็นวงกลม แต่ไม่เห็นห้องที่ต้องตาตัวเอง
สุดทางแล้ว
เขาถอนหายใจก่อนเดินกลับไปห้องกินข้าวแล้วนั่งลงเพื่อเริ่มครุ่นคิดอย่างละเอียด
“ยังไม่เจอห้องที่ดีหรือ” หญิงสาวถามพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่เลย” กู่ฉิงซานตอบ
หญิงสาวอีกคนกล่าวว่า “เอ่อ…กู่ฉิงซาน คุณไปเอาของที่ห้องใต้ดินกับพวกฉันได้หรือเปล่า เวลาไปคนเดียวแล้วมันกลัวน่ะ”
“จะกลัวไปทำไม ว่าแต่พวกเราจะไปเอาอะไรล่ะ” กู่ฉิงซานยิ้ม
“วัตถุดิบบางอย่าง…พวกมันจะถูกเอามากินคืนนี้ เพื่อฟื้นฟูพลังงาน” หญิงสาวตอบ
“งั้นไปกันเถอะ” กู่ฉิงซานกล่าว
“ขอบคุณมาก”
สองสาวเผยสีหน้ายินดีออกมา
ทั้งสามคนเดินมาถึงห้องนั่งเล่นของคฤหาสน์ สองสาวยกพรมหนาออก หยิบกุญแจขึ้นมาแล้วไขประตูบนพื้นก่อนเดินลงไป
“ทางลับใต้พื้นของห้องนั่งเล่นนับว่าชาญฉลาดนัก” กู่ฉิงซานชื่นชม
“ใช่เลย เจ้าของคนเก่าที่เคยอยู่ที่นี่เป็นชายร่างใหญ่ มีฟาร์มปศุสัตว์และพืชผลมากมาย รวมถึงเหมืองด้วย” หญิงสาวกล่าว
“เจ้าพบที่นี่ได้ยังไง”
“ชายผมบลอนด์คือลูกชายของชายร่างใหญ่คนนั้นน่ะ”
“เขาไม่ไปเมืองหลวงกับพ่อหรือ”
“เขารู้สึกว่าสถานการณ์ที่เมืองหลวงยังไม่ชัดเจน เพราะงั้นแทนที่จะเอาชีวิตไปอยู่กับสิ่งที่ไม่รู้จัก เขาจึงเลือกที่จะคว้าทุกสิ่งที่มีเพื่อปกป้องมันเอาไว้ จากนั้นจึงค่อยตัดสินใจลงมือหลังจากเห็นสถานการณ์ชัดเจนแล้ว”
“เป็นชายที่ฉลาดดี” กู่ฉิงซานชม
พวกเขาเดินไปตามทางจนมาถึงห้องใต้ดิน
สิ่งปลูกสร้างที่นี่แข็งแรงและอากาศถ่ายเทได้ดี อาวุธ กระสุน อาหาร น้ำสะอาดและยาจำนวนมากถูกเก็บไว้ที่นี่
ยังมีโต๊ะทำงานขนาดเล็กกับเตียงเรียบง่ายอยู่ในห้องใต้ดิน ดูเหมือนมันจะเคยถูกใช้โดยคนรับใช้คนก่อนที่คอยทำหน้าที่ลงทะเบียนเสบียงและคุ้มกันที่นี่
ทว่า เพราะโครงสร้างที่ลึกล้ำ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดูหมองหม่นเกินไปหน่อย
สองสาวหยิบวัตถุดิบและเตรียมจะออกมา
กู่ฉิงซานคล้ายกับลังเล
“ไปเถอะ คุณจะอยู่ที่นี่ไปเพื่ออะไร” หญิงสาวเร่ง
กู่ฉิงซานพลันถามขึ้นว่า “เอ่อ…ที่นี่มียาที่สามารถเพิ่มพลังวิญญาณได้หรือเปล่า”
“คุณหมายถึงสารกระตุ้นสินะ ก็พอมีอยู่หรอก” หญิงสาวตอบ
เธอหยิบกล่องยากับเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วอย่างช่ำชองก่อนส่งให้กู่ฉิงซาน
ขณะถือยาไว้ กู่ฉิงซานเห็นแถวตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กตรงสายตาของเขา
“สารกระตุ้นร่างกายประเภททหาร 50 มก.”
“วิธีใช้: ฉีดเข้าเส้นเลือด”
“ผลข้างเคียง: ปวดหัวยี่สิบสี่ชั่วโมง”
“คำอธิบาย: จะออกฤทธิ์ในสามสิบวินาที คงอยู่นานถึงสิบนาที”
“มีใครเคยใช้เจ้านี่มาก่อนหรือเปล่า”
กู่ฉิงซานถาม
“มีสิ พวกเขาทุกคนใช้กันทั้งนั้น” หญิงสาวกล่าว
กู่ฉิงซานพยักหน้า “พวกเธอขึ้นไปก่อนเลย แค่อย่าล็อกประตูห้องใต้ดินพอ ผมจะพักอยู่ที่นี่”
ดวงตาของสองสาวเบิกกว้างก่อนหัวเราะคิกคักทันที
“คุณจะนอนที่นี่หรือ”
หญิงสาวถาม
หญิงสาวอีกคนโน้มน้าว “ที่จริง คุณไม่ต้องกลัวไปหรอก นี่คือทะเลทราย ไม่มีสัตว์ประหลาด พวกเขาสี่คนสามารถรับมือกับพวกมันได้”
ไม่ใช่
ช่วงที่สังเกตก่อนหน้านี้ พวกเขาบ่นไม่หยุด
ช่วงที่บ่นย่อมหมายถึงช่วงที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ความวิตกและความประหม่า
ระหว่างกินข้าว ถึงแม้หลายคนจะหยุดบ่น แต่พวกเขาเหมือนกับกังวลบางอย่าง
คืนนี้พวกเขาดูไม่มั่นใจ
กู่ฉิงซานยิ้มขมขื่นให้สองสาว “ข้ากล้าหาญพอตัวก็จริง แต่เวลานอนจะไม่ได้ยินเสียงอะไร อยู่ที่นี่คงจะปลอดภัยที่สุด”
เมื่อเห็นเขายืนกราน สองสาวหยุดโน้มน้าวเขา
พวกเธอเดินออกจากห้องใต้ดิน ปิดประตูลงแล้วเอาพรมมาปูไว้ จากนั้นตรงไปที่ห้องครัว
กู่ฉิงซานเดินไปที่ประตูห้องใต้ดิน ทำการตรวจสอบสวิตช์อย่างละเอียด จากนั้นเดินกลับมานอนบนเตียงหลังเล็ก
ความเหนื่อยล้าทั้งหลายประดังเข้ามา กู่ฉิงซานแทบจะยกเปลือกตาไม่ขึ้น
เขาพลันนึกถึงบางสิ่งออกก่อนลุกขึ้นจากเตียงอย่างไม่เต็มใจ จากนั้นค้นกล่องอาวุธขนาดใหญ่อย่างช้าๆ
ปืนกลมือทรงพลัง ปืนพกนานาชนิด ระเบิด ชุดเกราะ ชุดต่อสู้ รองเท้าบูตทหาร ทุกสิ่งอยู่ในกล่อง
ชุดเกราะนับว่าเป็นของดี
อีกอย่าง ชุดของผู้ฝึกยุทธไม่มีบทบาทที่นี่ ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงถอดออกแล้วสวมชุดต่อสู้ จากนั้นใส่เสื้อเกราะกระสุนเอาไว้ข้างใน
“ขออาวุธมีคมหน่อยเถอะ…”
เขาพึมพำขณะค้นหาต่อ
จนกระทั่งกล่องใบสุดท้ายตรงหัวมุม…
แถวอาวุธมีคมถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
พอกู่ฉิงซานยื่นมือไปสัมผัสอาวุธมีคมเหล่านี้ ตัวอักษรโลหิตขนาดเล็กที่สอดคล้องกันก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า
“กริช: มีดเอาตัวรอดล่าวาฬ”
“แมเชเท: มีดกุรข่า”
“อาวุธยาว: หนามโลหิตสามเหลี่ยม”
“ธนูทหาร”
“ลูกธนู”
กู่ฉิงซานหยิบอาวุธมีคมขึ้นมาหลายชิ้นก่อนติดตั้งไว้กับตัว มือถือธนูทหารเอาไว้ สุดท้ายในใจจึงรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมา
ตอนนี้ เขาเห็นแถวข้อความโลหิตขนาดเล็กผุดขึ้นในความว่างเปล่า
“โปรดจำเอาไว้ว่าสกิลของท่านไม่สามารถปลดปล่อยที่นี่ได้ ท่านไม่สามารถใช้พลังวิญญาณได้”
“ขอบคุณที่เตือน” กู่ฉิงซานกล่าว “ข้ายังคุ้นเคยกับวิธีการต่อสู้ขั้นพื้นฐานของอาวุธเย็นเยือกอยู่ ไม่สำคัญหรอกว่าจะออกท่าได้หรือไม่”
เขาเดินกลับไปที่เตียงก่อนนอนลง
หลังจากเดินทางไกลมาครึ่งวัน ซ่อมหลายสิ่งหลายอย่างและฝืนอยู่จนถึงตอนเย็น กู่ฉิงซานก็ฝืนไม่ไหวอีกต่อไป
เขาลืมความรู้สึกนี้มาหลายปีแล้ว มันจะปรากฏขึ้นในการต่อสู้ที่ยากลำบากเป็นครั้งคราวเท่านั้น
นั่นคือความรู้สึกที่คนธรรมดามี มันเป็นของจริงและสิ้นหวัง
กู่ฉิงซานรู้ดีว่าร่างกายของเขาต้องการการพักผ่อนมาก
ระหว่างที่หลับลึกนี้ เขาจะเสียความสามารถการขัดขืนทั้งหมด อันตรายภายนอกสามารถทำร้ายเขาได้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง เขาต้องรีบหาสถานที่ที่ซ่อนตัวได้เอาไว้ก่อน
เขาหลับไปในที่สุด
…
ตกกลางคืน
ทันใดนั้น มีเสียงคำรามอย่างต่อเนื่องมาจากด้านนอก
กู่ฉิงซานลืมตาอันคมปลาบขึ้นมา
เขานอนอยู่บนเตียงขณะตั้งใจฟังอยู่สักพัก
เสียงปืนกล เสียงระเบิดและเสียงคำราม
การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว!
กู่ฉิงซานลุกออกจากเตียง สวมรองเท้าบูตทหารหนึ่งคู่ก่อนสาวเท้าออกจากห้องใต้ดิน
ไม่ช้าเขามาถึงห้องใต้หลังคา
เขาเห็นทั้งสี่คนกำลังคุ้มกันคนละทิศขณะสาดกระสุนไปข้างหน้า
“นักวิทยาศาสตร์! ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ ที่นี่มันอันตรายเกินไป ออกไป!” เหล่าหลี่กลาวด้วยความประหลาดใจ
“ผมจะสู้” กู่ฉิงซานกล่าว
ชายผมบลอนด์ขว้างระเบิดออกไป เมื่อสิ้นเสียงระเบิด เขากล่าวเสียงดังว่า “อย่าหาว่าไม่เตือนคุณนะ พวกฉันไม่สามารถปกป้องคุณได้หากมีอะไรเกิดขึ้นมา”
“ไม่เป็นไร”
ขณะกู่ฉิงซานกล่าว เขานั่งลงอยู่ข้างสี่คน
เมื่อเห็นความสงบของเขา ทั้งสี่คนก็ไม่คิดโน้มน้าวอีก
เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถพักอยู่ในห้องได้ แต่กลับอยากมาออกสู้เสียอย่างนั้น
มีคนแบบนี้อยู่ด้วยหรือ
“ชายคนนี้ต้องมีปัญหาเกี่ยวกับสมองแน่” หญิงสาวกระซิบ
กู่ฉิงซานหยิบธนูทหารออกมาถือไว้ด้วยมือซ้าย จากนั้นเติมสารกระตุ้นในเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วเข้าสู่หลอดเลือดดำตรงมือขวา
“ผมไม่ได้ป่วยหรอก ก่อนหน้านี้พวกคุณช่วยผมไว้ ดังนั้นผมจึงมาที่นี่เพื่อปกป้องพวกคุณ”
เขากล่าวอย่างสงบ