หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.364 – ถูกรับตัวไปโดยปีศาจ
“น้องชาย?”
บนใบหน้าของยี่ชาฉายแววเยาะหยัน “ไม่คิดเลยว่าคนเขลาเช่นเจ้า … จะใส่ใจไอ้เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวไร้สาระนี่ด้วย”
ว่าจบ ปากก็พ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง สองตาค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ
เธอสิ้นใจแล้ว
กู่ฉิงซานเก็บดาบกลับคืนด้วยสีหน้าแลดูซับซ้อนเล็กน้อย
ในหมู่มวลมนุษย์ มืออาชีพที่ทรงพลังได้ตกตายลงไปอีกคนหนึ่งแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นองค์จักรพรรดิฟูซีหรือพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ ทั้งสองก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่เลือกก้าวเดินในเส้นทางที่ผิด
พวกเขาจะนำมนุษย์ชาติไปสู่ก้นบึ้งแห่งการทำลายล้าง
ดังนั้นการที่โลกจะต้องสูญเสียพวกเขาไปมันจึงไม่นับว่าเป็นสิ่งใด
แต่สิ่งที่ทำให้กู่ฉิงซานต้องเก็บมันมาคิดอย่างลึกซึ้งก็คือ ขณะที่เกิดการต่อสู้ขึ้นเมื่อครู่นี้ เขาได้เสียการควบคุมไป
ไพ่เทียนซวนชนิดใดกันที่สามารถทำให้เวลาหยุดนิ่งและพันธนาการพวกเขาทั้งสามคนได้ในคราเดียว?
ไพ่เทียนซวนปกติย่อมไม่มีทางทรงประสิทธิภาพถึงขนาดนี้เป็นแน่
เพราะถ้าไพ่เทียนซวนทั้งหมดมีประสิทธิภาพขนาดนี้จริง มืออาชีพในสายอื่นๆก็คงจะไม่มีใครเหลือรอดกันหมดแล้ว
แม้ว่าพระสันตะปาปาจะแข็งแกร่ง แต่มันก็แกร่งไม่พอที่จะทำให้เธอได้ครอบครองไพ่ที่ร้ายกาจถึงเพียงนี้!
และอีกอย่างก็คือ ถ้าหากเธอแกร่งพอที่จะครอบครองไพ่ระดับนั้นจริงๆ ขอเพียงแค่เธอก็แค่จั่วมันขึ้นมาอีกใบ แล้วใช้มันพลิกสถานการณ์ สังหารตัวเขาและคนอื่นๆทุกอย่างมันก็จบ
กู่ฉิงซานย้อนคิดอย่างรอบคอบถึงทุกๆกระบวนการต่อสู้ระหว่างตนกับพระสันตาปาปา
ไม่น่าจะผิดพลาดแล้ว!
ไพ่ใบนั้นสามารถทำให้เวลาหยุดนิ่งได้จริงๆ และจากในบรรดาไพ่ทั้งหมดที่เธอมี ชัดเจนว่าไพ่ใบนั้นอานุภาพร้ายแรงที่สุด!
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเลยก็คือ ซูเซี่ยเอ๋อก็มีม้วนคัมภีร์ที่อยู่ในระดับเดียวกันอยู่ด้วยเช่นกัน
ตอนนี้กู่ฉิงซานค่อนข้างมั่นใจว่า ซูเซี่ยเอ๋อไม่ได้ถูกส่งไปยังโลกแห่งผู้ฝึกยุทธแน่นอน
แต่การที่สามารถได้ม้วนคัมภีร์อันแสนร้ายกาจเช่นนี้มาครอบครองได้นี่มัน … โลกแบบใดกันนะที่เธอถูกส่งไป?
ซางหยิงฮ่าวเช็ดเลือดตรงมุมปาก เดินกะเผลกๆมาข้างกายกู่ฉิงซาน สายตาจ้องมองไปยังร่างของพระสันตะปาปา
“ไม่คาคคิดเลยว่าวันหนึ่ง ผมจะได้มีส่วนร่วมในการลอบสังหารตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเช่นท่าน”
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ”
เขาหันไปทางพระสันตะปาปา โค้งคารวะอย่างจริงใจ
เย่เฟย์หยูลอยลงมาจากท้องฟ้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆกู่ฉิงซาน
เย่เฟย์หยูเหลือบมองไปที่ฮัทท์ เอียงคอไปข้างกายและกระซิบถามอย่างเงียบๆ “แล้วจะเอาไงต่อ ฆ่าเจ้าหมอนั่นไปด้วยเลยไหม”
“ไม่เป็นไรไม่ต้องจัดการเขาหรอก เรื่องของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์น่ะ เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาจัดการแทนพวกเราอยู่แล้ว”
“เรื่องของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์?” เย่เฟย์หยูทวนซ้ำ
แต่แล้วทั้งหมดก็ได้ยินเสียงอันไพเราะของหญิงงามที่ดังก้อง
“ฮัทท์! ในนามของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย ข้าขอถามเจ้าว่า เจ้ายังมั่นคงต่อศรัทธาของตัวเจ้าหรือไม่?”
สมเด็จพระจักรพรรดินีเวโรน่าก้าวออกมาอย่างช้าๆ
ฮัทท์ก้มหน้าลง ปากเอ่ยงึมงำ “เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเอ่ยถามข้า”
“ผิดแล้ว ข้าย่อมมีคุณสมบัติอย่างแน่นอน” เวโรน่ากล่าว “ข้าเป็นถึงพระคาร์ดินัลแห่งคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ และเจ้าก็ร่วมงานกับข้ามาเป็นระยะเวลากว่า 5 ปี ฉะนั้นเจ้าควรจะรู้ถึงความศรัทธาของข้าดี”
ฮัทท์เงยหน้าขึ้นและกล่าวสวนไปว่า “ข้ารู้ แต่ตอนนี้เจ้าเป็นกษัตรีย์แห่งฟูซีแล้ว ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์อีก”
ท่าทีของเวโรน่าเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว “แต่ก็ยังหลงเหลืออีกผู้หนึ่ง ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ ตระกูลเมดิซีที่แท้จริงคนนั้น! และเจ้าก็ควรที่จะซื่อสัตย์ต่อเธอ!!”
ฮัทท์กล่าวหยัน “เจ้ากำลังหมายถึงแอนนา? เด็กสาวตัวน้อยคนนั้นน่ะหรือ?”
“เธอไม่ใช่แค่เด็กสาวตัวน้อย แต่เธอคือผู้นำตระกูลเมดิซีของเราที่โดดเด่นที่สุดในระยะเวลากว่าหลายร้อยปีที่ผ่านมา ทรงอำนาจชนิดผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนทำได้เพียงแค่แหงนมอง มิอาจเทียบเปรียบกับเธอได้”
ท่าทีการแสดงของเวโรน่าเปลี่ยนเป็นดุดัน “ฮัทท์ เจ้ายังคงจดจำได้หรือไม่ ว่าถ้าหากเจ้าไม่ซื่อสัตย์ต่อตระกูลเมดิซี นั่นหมายความว่าเจ้ากำลังทรยศคริสตจักรศักดิสิทธิ์!”
“ฉะนั้น เจ้าจึงเหลือเพียงสองทางเลือก หนึ่งคือออกไปจากคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์เสีย อีกหนึ่งคือสาบานว่าจะมอบความภักดีให้กับคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์ และตัดสินใจเรื่องนี้ร่วมกันกับสาวกศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ”
เวโรน่ากล่าวต่อ “ไม่ว่าเจ้าจะเลือกทางไหน ข้าก็สามารถรับประกันได้ว่าแอนนาจะต้องทำให้คริสตจักรศักดิ์สิทธิ์เจริญรุ่งเรืองต่อไปได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมีเจ้าหรือไม่ก็ตาม”
เวโรน่าส่งสัญยาณไปทางองครักษ์วังเพื่อเปิดเส้นทางให้แก่เขา
ฮัทท์จ้องมองเธอด้วยสีหน้าซับซ้อน ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
เวโรน่าเดินมาหากู่ฉิงซานและคนอื่นๆ สายตาก้มลงมองไปยังร่างของยี่ชา
“คนๆนี้ทำการยึดประเทศและลอบสังหารกษัตริย์ แต่สุดท้ายก็ตายด้วยน้ำมือเจ้า”
“นี่นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดสำหรับตระกูลเมดิซี และเป็นช่วงเวลาที่คริสตจักรศักดิ์สิทธิ์จะได้ถือกำเนิดใหม่!”
เธอหลั่งน้ำตาและยิ้มให้กับตัวเอง … มันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากหัวใจของเธอ
สมเด็จพระจักรพรรดินีหันมาประกาศกับทุกคนด้วยน้ำเสียงดังลั่น “เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลเมดิซี คือผู้มีพระคุณของคริสตจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย ข้าขอยกย่องสำหรับความกล้าหาญนี้ ด้วยการมอบความรุ่งโรจน์อันหาที่ใดเปรียบแก่เจ้า!”
หนึ่งกำปั้นประสานหนึ่งฝ่ามือเสมอหน้าอก กู่ฉิงซานโค้งกายลงและกล่าว “ขอบพระคุณสมเด็จพระจักรพรรดินี”
…..
ในเวลาเดียวกัน
ภายในจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์อันห่างไกล
ณ โบสถ์ใหญ่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์
ภายในห้องลับใต้ดิน
ไพ่ที่ลอยอยู่เหนือสระเลือด ‘เพรียกปีศาจ’ ได้แตกออกเป็นเสี่ยงๆอย่างฉับพลัน
แสงที่เปล่งออกมาจากมันหายไปทันที
ภายในสระเลือด บังเกิดเสียงกระซิบพึมพำออกมาว่า “นางได้ตายลงแล้ว … นี่มันช่างน่าประหลาดใจโดยแท้”
“ดูเหมือนว่าเทพแห่งความตายจะโกรธเกรี้ยวเธอมากเป็นพิเศษ จนแม้กระทั่งไพ่ของข้าก็ยังไม่อาจหยุดยั้งเทพแห่งความตายได้”
เลือดก่อร่างขึ้นบนฝ่ามือของเขา และผุดออกไปจากสระเลือด
“อา .. พลังของสระเลือดในตอนนี้ คงเพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ข้าเปิดช่องว่างระหว่างสองโลก และกลับคืนสู่แดนแห่งการชำระล้างเสียที”
เลือดที่ผุดออกมาลอยล่องอยู่กลางอากาศ ราวกับว่ามันกำลังค้นหาบางสิ่งบางอย่าง
“สิ่งที่หาได้ยากที่สุดในหมื่นโลกา ก็คือจิตวิญญาณของผู้ถูกเลือกโดยสวรรค์จากเกาะหมอก และข้าจะต้องได้รับมันมาให้จงได้!”
เลือดที่ลอยล่องเริ่มจะพลุ่งพล่าน
“ตามที่สัญญากันไว้ ยี่ชา .. ข้าจะขอรับเอาจิตวิญญาณของเจ้าไป!”
ในกระแสเสียงของเขา มันแฝงไว้ด้วยร่องรอยของความตื่นเต้น
ณ ฟูซี
ภายในห้องโถงจัดเลี้ยง
จู่ๆยี่ชาก็ลืมตาขึ้นในทันใด
ดาบของกู่ฉิงซานยังคงจ้วงแทงลึกลงในหัวใจของเธอ
ยี่ชาหันไปมองรอบๆ ก่อนจะก้มมองดูเลือดและดาบที่ปักเสียบคาอยู่บนหน้าอกของเธอ
เธอลุกขึ้นมาจากตัวเอง และก้มลงมองศพใต้ฝ่าเท้า
ผู้คนทั้งหมดในที่แห่งนี้ ไม่มีใครมองเห็นเธอเลย
ความกระจ่างชัดปรากฏขึ้นในจิตใจของยี่ชา
-เธอได้เสียชีวิตลงแล้ว
“โอ๊ะ? นี่น่ะหรือคือสาเหตุการตายของเจ้า” เสียงในอากาศดังขึ้น
ยี่ชาเงยหน้าขึ้นมองและร้องออกมา “แอสเมิร์ด!”
“เป็นข้าเอง ข้ามารับตัวเจ้าเพื่อออกไปจากโลกอันแสนสับสนวุ่นวายใบนี้”
แอสเมิร์ดปรากฏร่างของเขาออกมา
และก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นเขาได้เช่นกัน
นั่นเพราะในขณะนี้ ตัวเขาได้อยู่ในสถานะของจิตวิญญาณ
ยี่ชามองไปทางแอสเมิร์ด น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “แอสเมิร์ด โปรดแก้แค้นให้ข้าด้วย! ไม่ว่าเจ้าจะต้องการสิ่งใด ข้าก็ยินดีจะจ่ายมันออกไปทั้งสิ้น!”
แอสเมิร์ดส่ายหัวและกล่าวว่า “ไม่ได้หรอก เพราะนี่เป็นเจ้าเองที่พลาดพลั้ง ตามสัญญา ตอนนี้เจ้ากลายเป็นของข้าโดยสมบูรณ์ ดังนั้นทุกสิ่งที่เจ้ามีอยู่ก็คือของข้า แล้วเจ้าจะใช้ของๆข้าจ่ายให้ตัวข้าเองได้อย่างไร?”
น้ำเสียงของยี่ชาเริ่มที่จะกระวนกระวาย “เจ้าไม่ต้องการทราบหรือว่าแท้จริงแล้วเกิดสิ่งใดขึ้นกับปรภพ? หากเจ้าช่วยข้าแก้แค้น ข้าจะบอกความลับที่ข้ารู้ให้เจ้าทราบเอง”
เสียงของแอสเมิร์ดดูจะอ่อนโยนลง “เจ้าโกหกได้ไม่เอาไหนจริงๆ ยี่ชาเอ๋ย ข้าจะบอกเจ้าอีกครั้ง ข้าน่ะไม่ได้สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไปของบ้านคนอื่นหรอกนะ”
แอสเมิร์ด “ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ข้าสนใจน่ะ มีเพียงจิตวิญญาณของเจ้าเท่านั้นแหละยี่ชา‘
“เจ้าเป็นผู้ใช้ไพ่ที่ชั้นยอดคนหนึ่ง และข้าต้องการให้เจ้าเดินทางมากับข้า นำมาซึ่งผลประโยชน์อันหาที่ใดเปรียบให้แด่ข้า!”
ทันใดนั้นยี่ชาก็ร้องออกมาด้วยความเกลียดชัง “เจ้าต้องช่วยข้านะ ช่วยสังหารศัตรูให้ข้า! แล้วข้าจะยินดีจ่ายทุกอย่างเลย!”
แอสเมิร์ด เอ่ยถาม “ทุกอย่างเลย? มันจะเป็นไปได้หรือ?”
“ใช่แอสเมิร์ด ทุกอย่างเลย!”
“เช่นนั้นข้าขอเป็น ‘ระบบ’ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจิตวิญญาณของเจ้า นี่แหละคือสิ่งที่ข้าต้องการ เจ้าจะว่าอย่างไรล่ะยี่ชา”
ยี่ชาพอได้ยิน ทั้งร่างก็ชะงักงันไป
คราวนี้ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”
เสียงของแอสเมิร์ดดูจะเต็มไปด้วยความภาคภูมิ “เจ้าเป็นคนที่ถูกเลือกโดยสวรรค์ที่ออกมาจากเกาะหมอก คือการดำรงอยู่ของผู้ฝึกสอน – และแน่นอนว่าเจ้าย่อมสามารถสร้างระบบขึ้นมาได้ด้วยไพ่เทียนซวน ใช่หรือไม่?”
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าหากข้าทำเช่นนั้น ข้าจะต้องสูญสิ้นตัวตน ต้องสละทุกสิ่งอย่าง กลายเป็นตัวตนที่มองไม่เห็น ต้องคอยต่อสู้กับวันสิ้นโลกตลอดไป ต้องทนทุกข์ทรมาณเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเพียงใด!?”
ยี่ชาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “หากเป็นเช่นนั้นข้าก็ไม่ต้องการที่จะให้เจ้าช่วยแก้แค้นแล้ว แอสเมิร์ด!”
แอสเมิร์ดร่อนลงมาจากอากาศที่ว่างเปล่า และคว้าหมับ! เข้าที่คอของยีชา
เขาระเบิดเสียงคำรามออกมา “เจ้ามันก็แค่คนเขลา! มิได้รู้อะไรเกี่ยวกับระบบเลย!”
“จงมากับข้า แล้วข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นเองว่าพลังอันแสนล้ำค่าของระบบมันคืออะไร แล้วมันจะช่วยให้ข้าและเจ้าได้รับผลประโยชน์มหาศาลขนาดไหน”
พอเอ่ยถึงจุดนี้ น้ำเสียงของเขาก็คลายลง “สิ่งมีชีวิตทั้งมวล ทุกสิ่งอย่าง เมื่ออยู่ต่อหน้าระบบ … มันก็เป็นเพียงลูกแกะที่รอวันถูกสังหารเท่านั้น!”
แต่แล้วขณะที่เขากล่าว จู่ๆในหัวใจของเขาก็บังเกิดประกายวาบผ่านเข้ามา
หรือว่าเขาจะฆ่าพวกมดตัวจ้อยซักสองสามคนเพื่อระบายความโกรธแค้นให้แก่ยี่ชาซักหน่อยก็น่าจะดี?
ดวงตาของเขากวาดผ่านไปทั่วทั้งโถงจัดเลี้ยง และในที่สุดก็ตกลงบนสองดาบยาวข้างกายของกู่ฉิงซาน
เมื่อเห็นเช่าหยิน แอสเมิร์ดก็ดูจะประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าเมื่อเขาเห็นดาบพิภพ กลับบังเกิดประกายของความหวาดกลัวขึ้นในแววตาของเขา
หลังจากมองสองดาบแล้ว แอสเมิร์ดก็หันไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
ด้วยพลังอำนาจชนิดอยู่ยงคงกระพันของเขา ตนจึงสามารถมองเห็นถึงบุคลลที่แม้จะมีเพียงร่างจางๆราวกับภาพลวงตา ทว่ากลับน่าสะพรึงกลัวที่สุดในห้องโถงแห่งนี้ได้ -คนๆนั้นกำลังยืนถือไม้คทาอยู่อย่างเงียบๆ
ชายผู้นั้นแม้จะมีร่างกายผ่ายผอม ทว่าส่วนเหนือลำตัวขึ้นไปกลับเป็นหัวสุนัข!
รูม่านตาของแอสเมิร์ดหดวูบลงอย่างกระทันหัน
ผู้รับใช้เทพแห่งความตาย .. ก็อยู่ที่นี่!?
“นั่นเจ้ามัวแต่เหม่อมองอะไรอยู่?” ยี่ชาเบนสายตามองตามเขา ทว่ากลับเห็นเพียงความว่างเปล่า มันไม่มีอะไรอยู่เลย
“ไม่หรอก ไม่ได้มองสิ่งใด”
แอสเมิร์ดตอบปัด
เขาตัดสินใจที่จะไม่สร้างปัญหา ละเรื่องการสังหารคนเพื่อเอาใจยี่ชาไป
ยี่ชาไม่อยากจะเชื่อได้เลย เธอกล่าวอย่างลังเลว่า “แล้วที่เจ้ากล่าวเมื่อครู่มันเป็นความจริงหรือ?”
แอสเมิร์ดกล่าว “แน่นอน! หลังจากที่รู้ถึงความลับที่แท้จริงของระบบ เจ้าจะร่ำไห้และอ้อนวอนให้ข้าช่วยเปลี่ยนเจ้าเป็นระบบอย่างแน่นอน แล้วจากนั้นชีวิตเจ้าก็จะพานพบแต่ความสุขไปชั่วนิรันดร์”
“แอสเมิร์ด บอกข้ามาว่าความลับของระบบคืออะไร!” ยี่ชาเอ่ยถามอย่างไม่เต็มใจ
“ระบบไม่จำเป็นต้องใช้เพื่อ ‘ช่วย’ โลกเสมอไป แต่มันยังสามารถทำให้ทุกสรรพชีวิตกลายเป็น ‘ทาส’ ได้อีกด้วย เจ้าไม่รู้เรื่องนี้เลยหรอกหรือ?”
แอสเมิร์ดกล่าวด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ยี่ชาพอได้ฟังก็ชะงักงันอย่างรุนแรง
เธอไม่เคยคิดเกี่ยวกับมันเลย แค่ยามที่ครอบครองมัน เธอจะรู้สึกเพียงว่ามีบานประตูกำลังเปิดอยู่เบื้องหน้า
และภายนอกประตูบานนั้น มันคือโลกใบใหม่ที่เธอไม่เคยพบเจอโดยสมบูรณ์
แอสเมิร์ดกล่าวเตือน “ไปได้แล้ว จงมากับข้า ตัวข้าไม่อาจอยู่ที่นี่เป็นเวลานานได้!”
เขาโบกมือออกไปพร้อมกับหลุมดำที่ผุดออกมาจากความว่างเปล่า
แล้วสองดวงจิตก็ถูกดูดเข้าไป หายวับมิอาจมองเห็นได้อีกเลย