ความมืดยังคงแผ่ขยาย ไล่หลังกู่ฉิงซานมาอย่างไม่ลดละ
ในความมืด กฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างทำให้ทุกสิ่งพังทลาย
นี่คือพลังที่น่าหวาดกลัวที่สุดในมหาภัยพิบัติ มันมาจากกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพี ไม่มีใครสามารถขัดขืนได้
ฉากหนึ่งพลันแตกสลาย
กู่ฉิงซานกระโดดออกมาพร้อมดาบยาวก่อนมุ่งเข้าสู่ฉากต่อไป
เพียงพริบตา เขาเข้าสู่ฉากต่อไป
เขาเห็นนักพรตคนหนึ่งยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ประตูชิงหยุน หลี่ฉางอัน
นี่คือนักพรตที่ถูกเขาสังหารตอนเข้ารับการทดสอบ
“เจ้าฆ่าข้า คราวนี้ตาข้าล้างแค้นแล้ว!”
หลี่ฉางอันสวมวเกราะศึกของโลกฝึกฝนก่อนพุ่งเข้าหากู่ฉิงซานพร้อมหอกในมือ
หอกกลายเป็นภาพติดตาเจ็ถึงแปดภาพก่อนชี้ตรงเข้าหาจุดสำคัญของกู่ฉิงซาน
…มันคือจุดที่แทงแล้วถึงตายได้!
กู่ฉิงซานเดินเข้าหาเงาหอก รับหอกไว้ด้วยด้ามดาบ อาศัยน้ำหนักจากดาบเข้าหาอีกฝ่าย
แสงและเงาปรากฏขึ้นที่คอของหลี่ฉางอัน
หลี่ฉางอันถูกซัดโดยพายุดาบแรงกล้า ศีรษะของเขากลิ้งลงสู่พื้นในเวลาเดียวกัน
ปัง!
ภาพแตกสลาย
ฉากการตายของหลี่ฉางอันหายไปช้าๆ
กู่ฉิงซานไม่หยุดพักสักครู่ เขารีบพุ่งสู่ภาพต่อไป
‘โฮก…’
กลุ่มมารสีดำพลันปรากฏตัว
พวกมันพุ่งเข้าใส่ทันทีทีกู่ฉิงซานปรากฏตัว
กู่ฉิงซานถือดาบพิภพด้วยมือข้างหนึ่งก่อนตวัดประกายดาบออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกมารถูกลบล้างโดยประกายดาบคมกริบทันที
ด้วยพละกำลังระดับสามพันโลกของกู่ฉิงซานในตอนนี้ ประกายดาบก่อตัวขึ้นเมื่อกระตุ้นพลังวิญญาณ มันไม่ใช่สิ่งที่พวกมารจะสามารถขัดขืนได้
มันเหมือนกับต้นไผ่ที่แตกหัก
กู่ฉิงซานยังคงก้าวเข้าหากลุ่มมารเพื่อเตรียมกำจัดศัตรูที่ขวางทาง
ทว่า คิ้วของเขาขมวด
สัตว์ประหลาดเหล่านั้นคือกลุ่มที่เขาสังหารโดยใช้มหาภัยพิบัติตอนอยู่ในโลกเซินหวู่
ทว่า พละกำลังของพวกมันเทียบเท่ากับนักพรตที่มีจิตเทพแล้ว
การพัฒนานี้ออกจะทรงพลังเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่นั้น
ความมืดกระจายไล่หลังขณะเข้าใกล้อย่างเงียบงัน
“ขอโทษด้วย พวกเจ้าจะต้องตายแล้วล่ะ”
กู่ฉิงซานกระซิบ
เงาดาบไม่มีสิ้นสุดก่อตัวขึ้นจากดาบยาว สังหารสัตว์ประหลาดทั้งหมดในฉากดังกล่าว
หมอกสีดำมาถึง
กู่ฉิงซานออกจากฉากนั่น
เขาหนีออกมาทัน!
ทว่า ไม่มีเวลาพักหายใจแล้ว เขารีบพุ่งเข้าสู่ฉากต่อไป
“เจ้าฆ่าข้า เจ้าฆ่าเข้า”
นักพรตคนหนึ่งตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากนั้น สัตว์อสูรวิญญาณจำนวนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน
ท่ามกลางความโกลาหลของสัตว์อสูรวิญญาณ นักพรตที่ถูกเขาสังหารปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับสัตว์อสูรวิญญาณ
กู่ฉิงซานชูดาบขึ้นเพื่อทักทายศัตรูแล้วตอบว่า “กฎเกณฑ์ทหารก็เหมือนกับขุนเขา”
เขากำลังจะฟันอีกฝ่ายด้วยดาบ แต่ทันใดนั้นสมองกลับว่างเปล่า
“ไม่…”
เสียงที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและเสียใจพลันดังขึ้นในหูของเขา
กู่ฉิงซานระเบิดเสียงคำรามจนเส้นผมตั้งชูชัน
เสียงนี้คล้ายกับมาจากสถานที่ไกลลิบ มันถูกส่งมาที่หูของเขาด้วยความพยายามสุดความสามารถ
นี่คือเสียงของซากศพขนาดใหญ่
ดูท่ามันจะสัมผัสได้ถึงมหาภัยพิบัติ ทำให้มันย้ำเตือนตัวเองอย่างสิ้นหวัง
ทว่าเสียงถูกตัดขาดทันที
ด้านหลังกู่ฉิงซาน หมอกสีดำเคลื่อนเข้ามาไวขึ้น
“ฮ่า!”
กู่ฉิงซานระเบิดการโจมตีสุดกำลังออกไปก่อนตัดศีรษะศัตรูทั้งหมดตรงหน้า
ฉากแตกสลาย
เขาลงสู่พื้นก่อนพุ่งเข้าหาภาพต่อไป
…
มันเกิดอะไรขึ้น
กู่ฉิงซานปาดเหงื่อเย็นจากหน้าผาก หัวใจเต้นรัวขึ้น
การที่เปล่งเสียงด้วยความเสียใจและสิ้นหวังจากมิติและเวลาอันไกลโพ้นด้วยทุกอย่างที่มีของซากศพขนาดใหญ่คืออะไร
กู่ฉิงซานได้สติขึ้นทันทีก่อนค่อยๆ เข้าใจว่าบางสิ่งผิดปกติ
เขาพุ่งเข้าไปในภาพก่อนสังหารยักษ์ไร้หน้า
ยักษ์ไร้หน้านี้มาจากถ้ำมืด เขาสังหารมันช่วงท้ายในตอนเดินทางจากโลกมนุษย์ไปยมโลก
พละกำลังของยักษ์ไร้หน้าเพิ่มขึ้นจนอยู่ในระดับนักบุญ
แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา
ปัญหาคือ…
นั่นพิสูจน์ให้เห็นว่าครั้งต่อไปเขาจะเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่ทำการสังหารในยมโลก รวมถึงคนตายนับล้านล้านในยมโลก
ตามกฎเกณฑ์แห่งภัยพิบัติ ความจริงแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะสู้
กู่ฉิงซานกำลังคิด ทันใดนั้นก็มีภาพเลือนรางตรงหน้า
ความว่างปล่าแตกร้าวเป็นรูขนาดใหญ่ เกล็ดสีดำชิ้นหนึ่งตกลงตรงหน้ากู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานจำที่มาของเกราะเกล็ดได้ตั้งแต่แรกเห็นก่อนเอามือไปหยิบมันมาทันที
เล็บสีดำหนึ่งชิ้น
ใช่แล้ว นี่คือเกราะชิ้นหนึ่งของซากศพขนาดใหญ่!
ตอนเขาฝึกฝนความลึกลับของสิ่งมีชีวิต ซากศพขนาดใหญ่มอบเกล็ดชิ้นหนึ่งเช่นกัน
ความลึกลับของสิ่งมีชีวิตถูกซ่อนอยู่ในเกล็ด
หัวใจของกู่ฉิงซานบีบรัด
เหตุผลที่ซากศพขนาดใหญ่ส่งเกล็ดชิ้นนั้นมาจากมิติและเวลาอันไกลโพ้นด้วยความพยายามสุดความสามารถคืออะไร
เขายังคงก้าวไปข้างหน้า แต่จิตเทพยังให้ความสนใจกับชิ้นเล็บสีดำ
เขาเห็นชิ้นเกราะสีดำแตกร้าวจากมือก่อนกลายเป็นสัญลักษณ์ลึกลับที่เปล่งประกายออกมา
จากนั้นเสียงของซากศพขนาดใหญ่ดังขึ้น
“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว เจ้าต้องรีบหาทาง…”
เสียงพลันถูกตัดขาด
เห็นได้ชัดว่าชิ้นเกล็ดสีดำนี้เดินทางมานาน คำพูดที่ติดมาด้วยถูกตัดขาดโดยโลก
ในเวลาเดียวกัน บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กพลันปรากฏขึ้น
“พบวิชาพิเศษที่ใช้ได้หนึ่งครั้ง: กฎเกณฑ์แห่งดินแดน”
“ดินแดนแห่งกฎเกณฑ์: ท่านสามารถเพิ่มกฎเกณฑ์ของโลกให้กับสิ่งของที่อยู่บนโลกปัจจุบันได้สามวินาทีโดยยึดจากต้นกำเนิดสิ่งของบนร่างกายท่าน”
กู่ฉิงซานชำเลืองมอง ในใจรีบครุ่นคิด
ซากศพขนาดใหญ่มอบวิชานี้ให้เขา
ทำไมล่ะ
มันอยากพูดอะไรกันแน่
หรือว่าการสังหารกับมหาภัยพิบัติที่มันสร้างขึ้นในยมโลกจะหนักหนาจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่าต้องการให้ความช่วยเหลือ
แบบนี้มันไม่ถูก
ตามกฎเกณฑ์แล้ว ในยมโลก ความตายก็ต้องอยู่กับคนตาย
การสังหารพวกเขาไม่น่าใช่สิ่งที่หนักหนาเกินไปนี่
แต่ถ้าสวรรค์เชื่อว่าคนตายเหล่านี้จะต้องได้รับการชำระล้าง เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับการสังหารและการชำระระดับล้านล้านคน
…มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้นนี่
ในบรรดามรดกของการฝึกฝนที่เขาได้รับมา มีการพัฒนาจากยุคโบราณเกี่ยวกับประสบการณ์ของยอดเต๋าเพื่อผ่านพ้นมหาภัยพิบัติอยู่
ตามคำบรรยายของยอดเต๋า ถึงแม้มหาภัยพิบัติจะน่าสะพรึง แต่กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น
กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีจะให้ลำแสงแห่งชีวิตกับผู้ฝึกยุทธในช่วงท้ายของมหาภัยพิบัติ
…สายพลังนี้มาจากการทำคุณงามความดีของผู้ฝึกยุทธ
ในช่วงที่อันตรายที่สุดของมหาภัยพิบัติ กฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพีจะนับคุณงามความดีของผู้ฝึกยุทธแล้วหักล้างกับพลังมหาภัยพิบัติตามคุณงามความดีที่ผู้ฝึกยุทธได้ทำมา
ถ้าผู้ฝึกยุทธสนเพียงการสังหารจนไม่ทำความดี เช่นนั้นสายพลังนี้ก็จะถูกกำจัดไปด้วย
แต่ทุกสิ่งที่เขาทำลงไปก็เพื่อการช่วยเหลือ
เขาช่วยโลกมนุษย์และยมโลก จำนวนสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการช่วยเหลือสุดจะประมาณ คุณงามความดีย่อมมากกว่าบาปสิ
ตามสามัญสำนึก พลังที่หลงเหลือจากมหาภัยพิบัติควรจะถูกเผยได้แล้ว
กู่ฉิงซานกวัดแกว่งดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพเพื่อสังหารกลุ่มสัตว์ประหลาดเกรี้ยวกราด
สัตว์ประหลาดเหล่านี้คือสัตว์ประหลาดที่คุ้มกันถ้ำมืดในตอนนั้น แถมยังรวมอยู่ในการชำระล้างกับการสังหารของกู่ฉิงซานตามกฎเกณฑ์สวรรค์ปละปฐพี
ภาพแตกสลาย
กู่ฉิงซานพุ่งออกมาก่อนเผยสีหน้าเล็กน้อย
ด้านหลังฉาก กฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างที่ทำลายทุกสิ่งกำลังใกล้เข้ามาอีกครั้ง
ข้างหน้านี้คือภาพต่อไป
การสังหารและการชำระล้างของยมโลกกำลังจะเริ่มขึ้น
ร่างของกู่ฉิงซานพุ่งออกไปก่อนเข้าสู่ฉากต่อไปก่อนกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างจะไล่ตามเขาทัน
ความรู้สึกเมื่อได้เข้ามาในคราวนี้ไม่ธรรมดา
กู่ฉิงซานรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกลงไป
เขาก้มมอง
คนตายแน่นขนัด ยืนอยู่ทุกตารางนิ้วจนสุดสายตา
กู่ฉิงซานหยุดนิ่งกลางอากาศ ปล่อยจิตวิญญาณออกไปยังส่วนลึกของฉาก
ไม่มีที่สิ้นสุด
คนตายไม่มีสิ้นสุดปกคลุมโลกทั้งใบ พวกเขาล้วนได้รับพละกำลังระดับนักบุญ
ต่อให้กู่ฉิงซานจะเป็นคนเก่งกาจระดับสามพันโลก แต่ด้วยพละกำลังของเขาคนเดียวก็ไม่อาจจัดการกับคนตายนับล้านล้านตรงหน้าได้
“ตาย!”
คนตายคำราม
กู่ฉิงซานรออยู่สักพัก…
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วิถีสวรรค์ไม่ได้คำนวณคุณงามความดี จึงไม่ได้ลดอันตรายจากมหาภัยพิบัติให้กับเขา
กลับกัน คนตายทั้งหมดพุ่งเข้ามา
กู่ฉิงซานมองคนตายที่แปรเปลี่ยนไปตามกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์และปฐพี
พวกมันถูกอัดไม่เป็นไร ฆ่าก็ไม่ได้
ยังมีกฎเกณฑ์แห่งการทำลายล้างไล่หลังมา
นี่คือเกมมรณะ!
กู่ฉิงซานพลันเข้าใจความหมายของซากศพขนาดใหญ่
เขาหยิบไม้เท้าราชาคุกมารออกมาก่อนถ่ายวิชาลึกลับที่ได้รับจากซากศพขนาดใหญ่เข้าไป
“ดินแดนแห่งกฎเกณฑ์ ยมโลก!”
เขาตะโกนเสียงดัง
‘ตูม!’
แสงจากวิชาปกคลุมทั่วไม้เท้าราชาคุกมารก่อนเริ่มเสริมกฎเกณฑ์ของยมโลกเข้ากับโลกปัจจุบัน
แต่กฎเกณฑ์ของยมโลกคงอยู่ได้เพียงสามวินาที!
กู่ฉิงซานไม่ลังเลที่จะปลดปล่อยดาบพิภพออกมาเพื่อระเบิดพื้นให้โล่ง
เมื่อเขาตกลงไป เขากระแทกไม้เท้าราชาคุกมารกับพื้นก่อนตะโกนว่า “มอบความตายให้ข้าอีกครั้ง!”
แสงสีแดงปรากฏขึ้นจากไม้เท้าราชาคุกมารก่อนกระจายไปทั่วโลกทันที
“สลายวิญญาณ” ทำงาน!
“วิชาลับของไม้เท้า สลายวิญญาณ”
“คำอธิบายวิชาลับ ราชามารสามารถใช้ลพังของไม้เท้าเพื่อทำการฆ่าคนตายที่ไม่เชื่อฟังได้ทันที คนตายที่ถูกฆ่าจะสูญสิ้นวิญญาณจนกลายเป็นพลังให้กับไม้เท้า”
โลกทั้งใบว่างเปล่า
คนตายทั้งหมดหายไป พวกมันล้วนถูกสังหารโดยไม้เท้าราชามารคุกดำ
เสียงเด่นชัดดังขึ้น
โลกที่สามารถสังหารเขาได้ได้ถูกทำลายลงเพราะเหตุนี้
กู่ฉิงซานทะลวงภาพนี้จนสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อีกครั้ง
ทว่า สีหน้าของเขาค่อยๆ แย่ลง
เขาเข้าใจความหมายของซากศพขนาดใหญ่
มหาภัยพิบัติ
สายเกินกว่าจะไปแล้ว
ต้องรีบหาทางหลบหนีจากมหาภัยพิบัติแล้ว!
………………………………………….