World’s Best Martial Artist – ตอนที่ 76

ตอนที่ 76 เกณฑ์รับเข้าของมหาลัยต่างๆ

ประสิทธิภาพของหน่วยงานรัฐเหมือนจะเพิ่มขึ้นในโลกที่มีผู้ฝึกยุทธอาศัยอยู่

กลางเดือนมิถุนายน ไม่ถึงสองสัปดาห์หลังสอบ ผลสอบก็ถูกประกาศออกมา

…..

ย่านกวนหูหยวน

ฟางหยวนเฝ้าดูฟางผิงพิมพ์หมายเลขผู้สอบอย่างช้าๆ ฟางหยวนรู้สึกกังวลแทน เธอเซ้าซี้เขาไม่หยุด “ฟางผิง พิมพ์เร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?”

“น้องจะรีบไปทำไม?”

ฟางผิงไม่สะทกสะท้าน เขาใช้เวลายืนยันข้อมูลอยู่ครู่นึง

หลังเข้าหน้าผลสอบ ฟางผิงก็ชำเลืองดูคร่าวๆ พูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ “ไม่ต่างจากที่พี่คิดไว้”

จีน : 120

คณิตศาสตร์ : 131

ศิลปศาสตร์ : 112

วิทยาศาสตร์ : 264

คะแนนรวม : 627

ผลสอบวิชาศิลปศาสตร์ของเขาอยู่ในระดับกลางๆ นี่เป็นเพราะชีวิตก่อนเขาไม่ใช่นักเรียนศิลปะ แถมการเมืองและประวัติศาสตร์ของโลกนี้ก็ต่างจากชีวิตก่อนอยู่บ้าง

ส่วนวิชาอื่น เขาทำได้ไม่เลวเลย เขาได้คะแนนตามที่คาดหวังไว้

คะแนนรวม 627 คะแนน มันสูงกว่าเกณฑ์รับเข้ามหาลัยใหญ่ๆที่รัฐบาลประกาศวันก่อนกว่า 32 คะแนน

วันก่อน มีการประกาศในข่าวว่า เกณฑ์รับเข้าของมหาลัยใหญ่ๆที่รัฐบาลกำหนดคือ 595 คะแนน

“627 คะแนน!”

ฟางหยวนแทบเอาหน้ามุดหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้ว เธอรู้สึกประหลาดใจระคนยินดีเมื่อได้เห็นคะแนน

แม้ฟางผิงจะสอบวัฒนธรรมศึกษาได้ไม่แย่นัก แต่คะแนนเขาส่วนใหญ่จะคาบเส้น

ฟางหยวนไม่คิดเลยว่าตอนสอบเกาเข่า เขาจะสูงกว่าเกณฑ์ตั้ง 30 คะแนน!

“ฟางผิง นายมีสิทธิ์เข้ามหาลัยวิชายุทธ!”

ฟางหยวนดีใจมาก เธอตะโกนเสียงดังด้วยความตื่นเต้น

คำกล่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่าฟางผิงเข้าได้ไม่มีปัญหาแน่นอน มันยังไม่ได้รับการยืนยัน ถ้าเขาสอบวัฒนธรรมศึกษาได้น้อย ถ้าเขาทำได้แย่เกินไปจริงๆ ต่อให้ปราณและเลือดสูง เขาก็เป็นได้แค่ผู้ฝึกยุทธทั่วไปเท่านั้น

อย่างไรก็ตามเนื่องจากคะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษาของเขาสูงถึง 627 คะแนน มันหมายความว่าฟางผิงมีสิทธิ์เข้าแน่นอนแล้ว

ฟางหยวนมีความสุขมาก ก่อนที่ฟางผิงจะได้ตอบ เธอก็วิ่งออกไปข้างนอกแล้ว

เธอตะโกนพลางวิ่งพลาง “หนูจะไปบอกข่าวดีกับพ่อแม่!”

“ช้าลงหน่อย…”

ฟางผิงตะโกนตอบ แต่ฟางหยวนลงไปชั้นล่างแล้ว

บางครั้งสาวน้อยก็โง่

ถ้าเธออยากบอกข่าวดีกับพ่อแม่ โทรไปก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ?

อย่างไรก็ตามมันก็เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนดีใจแค่ไหน ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้ พวกเขาคงคิดว่าเธอเป็นคนที่สอบเกาเข่า

หลังฟางหยวนวิ่งไป ฟางผิงก็ส่ายหน้า เขายังตรวจสอบข้อมูลที่เหลือไม่เสร็จ

เขาเป็นนักเรียนวิชายุทธ ยังมีวิชาอื่นนอกจากวัฒนธรรมศึกษา

ฟางผิงเปิดหน้าต่างแถบใหม่ คะแนนสอบวิชายุทธครั้งก่อนก็ปรากฏขึ้นในไม่ช้า

ชื่อ : ฟางผิง

ปราณและเลือด : 149แคล

ทั่วไปศึกษา : 85 (เต็ม 100)

ประเมิณภาคปฏิบัติ : 98 (เต็ม 100)

…..

ช่องประเมิณร่างกายไม่มีคะแนนอย่างอื่นเลยนอกจากปราณและเลือด

เนื่องจากปราณและเลือดถูกประเมิณ มันก็หมายความว่าเขาผ่านส่วนอื่นแล้ว

…..

ฟางหยวนเห็นคะแนนตัวเองแล้วค่อนข้างพอใจ

ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องประเมิณภาคปฏิบัติ เขามีปราณและเลือดสูง บรรลุจวงกงขั้นยืนมั่นคง ดังนั้นคะแนนปฏิบัติเขาจึงไม่ต่ำ

เขาเริ่มเรียนทั่วไปศึกษาสายไปหน่อย ได้ 85 คะแนนถือว่าไม่เลวเลย

…..

เมื่อผลสอบเกาเข่าออกมา มหาลัยทั่วประเทศก็จะแก้ไขเว็บไซต์ทางการเพื่อแสดงเกณฑ์รับเข้าของปีนี้

มหาลัยวิชายุทธจะกำหนดเกณฑ์สูงกว่าเมื่อเทียบกับมหาลัยอื่น

เกณฑ์การรับเข้าจะกำหนดโดยมหาลัยเองและแสดงบนเว็บไซต์

เรื่องนี้มีข้อดี นักเรียนจะสามารถจำกัดขอบเขตการสมัครให้แคบลง

ฟางผิงไม่ได้รีบดูเกณฑ์รับเข้าของมหาลัยอื่น เขาเปิดเว็บไซต์ทางการของมหาลัยหนานเจียงทันที

“เกณฑ์รับเข้าของมหาลัยวิชายุทธมณฑลหนานเจียงปี 2008 คือ”

“ปราณและเลือด : 116แคลหรือสูงกว่า”

“วัฒนธรรมศึกษา : 605 หรือสูงกว่า”

“ทั่วไปศึกษา : 80 หรือสูงกว่า”

“ประเมิณภาคปฏิบัติ : 80 หรือสูงกว่า”

…..

นี่เป็นเกณฑ์ต่ำสุดของทุกวิชา สำหรับปี 2008 มหาลัยจะยอมรับนักเรียน 1200 คนจากทั่วประเทศ

หมายเหตุ 1 : ถ้าปราณและเลือดสูงกว่า 130แคล แม้ว่าคะแนนวิชาอื่นจะต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย แต่ก็อาจผ่านการพิจารณา

หมายเหตุ 2 : ถ้าคะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษาสูงกว่า 680 คะแนน แม้ว่าคะแนนวิชาอื่นจะต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย แต่ก็อาจผ่านการพิจารณา

หมายเหตุ 3 : ผู้สมัครสอบจะได้รับการคัดเลือกหลังได้รับการพิจารณาปราณและเลือด คะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษา ทั่วไปศึกษา และการประเมิณภาคปฏิบัติ ผู้สมัครสอบที่มีคะแนนสูงสุดจะผ่านการพิจารณาก่อน

…”

เกณฑ์การรับเข้าของมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงนั้นชัดเจน

คะแนนต่ำสุดสูงกว่าปีที่แล้วมาก

เกณฑ์ปราณและเลือดต่ำสุดปีก่อนคือ 112แคล ของปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 116แคล

ต่อให้มีการระบุเกณฑ์คนที่มีคะแนนวัฒนธรรมศึกษาเกิน 680 คะแนนจะได้รับการยอมรับแม้คะแนนวิชาอื่นจะต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย แต่การได้คะแนนสูงกว่า 680 คะแนนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

นักเรียนที่ได้คะแนนวัฒนธรรมศึกษาเกิน 680 คะแนนจะไม่เข้ามหาลัยวิชายุทธหนานเจียง บางคนก็เป็นนักเรียนสังคมศาสตร์ ไม่ว่าจะมีคะแนนสูงแค่ไหนก็ลงทะเบียนเข้ามหาลัยไม่ได้

อีกส่วนก็คือคนที่มีปราณและเลือดสูงพอที่ไม่พิจารณามหาลัยวิชายุทธหนานเจียง

มีนักเรียนวิชายุทธน้อยมากที่ได้คะแนนสูงกว่า 680 คะแนน แต่มีปราณและเลือดต่ำกว่า 116แคล มีไม่กี่คนเท่านั้นที่มหาลัยทุกแห่งทั่วประเทศรู้สึกว่าจำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ

แม้ว่าวิชายุทธจะมีตำแหน่งสูง แต่มันไม่ได้หมายความว่าสังคมศาสตร์จะถูกละเลย

มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงเป็นมหาลัยวิชายุทธโดยเฉพาะที่เปิดรับนักศึกษาจำนวนมาก รับกว่า 1200 คนทั่วประเทศ

ฟางผิงดูเกณฑ์ของมหาลัยอีกสองแห่งในหนานเจียงที่มีคณะวิชายุทธ

มีมหาลัยวิชายุทธสามแห่งในหนานเจียง หนึ่งในนั้น มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงเป็นมหาลัยเดียวที่มีแต่คณะวิชายุทธ พวกเขาไม่รับนักศึกษาสังคมศาสตร์

อีกสองมหาลัยวิชายุทธเปิดรับนักศึกษาสังคมศาสตร์ด้วย

เกณฑ์ของมหาลัยเทคนิคหนานเจียงก็คล้ายกับมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง แต่พวกเขามีเกณฑ์คะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษาสูงกว่า นั่นก็คือ 610 คะแนนหรือสูงกว่า

พวกเขาเปิดรับนักเรียนน้อยกว่าด้วย พวกเขารับแค่ 200 คนเท่านั้น

มหาลัยสุดท้ายคือมหาลัยหนานเจียง เกณฑ์ปราณและเลือดสูงกว่ามหาลัยวิชายุทธหนานเจียง 1แคล นั่นคือ 117แคล นอกจากนี้เกณฑ์วัฒนธรรมศึกษายังต้องเป็น 610 คะแนนหรือสูงกว่า

พวกเขาเปิดรับนักเรียนน้อยกว่ามหาลัยเทคนิคหนานเจียง พวกเขาเปิดรับเข้า 150 คนเท่านั้น

มหาลัยวิชายุทธสามแห่งในมณฑลหนานเจียงรวมแล้วรับทั้งหมด 1550 คน

สามมหาลัยวิชายุทธในหนึ่งมณฑลไม่ใช่จำนวนน้อยๆ มีมณฑลมากมายที่มีมหาลัยวิชายุทธโดยเฉพาะเพียงแห่งเดียวที่เปิดรับนักศึกษา 100-200 คนเท่านั้น

มณฑณที่ขาดแคลนทรัพยากรเช่นนั้น หากไม่มีผู้นำที่แข็งแกร่งมาช่วยต่อสู้แย่งชิงทรัพยากร นักเรียนวิชายุทธจะหลั่งไหลออกไปมณฑลอื่นหมด

พวกเขาทำได้แต่จ่ายราคาสูงเพื่อรั้งผู้เข้าสอบที่เก่งกาจเอาไว้

“ในทั้งสามมหาลัยในหนานเจียง มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงมีเกณฑ์ต่ำสุด มันอาจเป็นเพราะพวกเขายอมรับนักเรียนจำนวนมาก”

ฟางผิงเปรียบเทียบเกณฑ์ของมหาลัยทั้งสาม เขาจะสมัครมหาลัยไหนก็ได้ อู๋จื้อเห่าก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน

อีกคนในห้องที่ผ่านเกณฑ์ต่ำสุดคือหยางเจี้ยน เขาไม่มีปัญหากับเกณฑ์ 116แคล อย่างไรก็ตามคะแนนวัฒนธรรมศึกษาของเขานั้น…

ฟางผิงเป็นห่วงหยางเจี้ยน เจ้าหมอนี่จะทำคะแนนผ่านเกณฑ์ 605 คะแนนได้ไหม?

เมื่อปราณและเลือดของผู้เข้าสอบเท่ากัน คะแนนวัฒนธรรมศึกษาของพวกเขาจะถูกพิจารณาเป็นอย่างแรก ถัดจากนั้นคือคะแนนสอบทั่วไปศึกษาและสอบปฏิบัติ

ฟางผิงเชื่อว่ามีนักเรียนมากมายที่มีปราณและเลือดถึง 116แคล จำนวนมันต้องมากกว่า 1200 คนแน่นอน

เมื่อเป็นเช่นนั้น เกณฑ์รับเข้าอาจสูงกว่า 605 คะแนนเล็กน้อย

หลิวรั่วฉีโชคร้าย เพราะปราณและเลือดของเธอมี 115 แคลเท่านั้น ความเป็นไปได้ที่เธอจะสอบวัฒนธรรมศึกษาได้ 680 คะแนนก็ต่ำเช่นกัน นี่หมายความว่าเธอเข้ามหาลัยทั้งสามแห่งในหนานเจียงไม่ได้

ส่วนมหาลัยอื่นในประเทศ…ฟางผิงไม่รู้ว่ามีมหาลัยไหนที่กำหนดเกณฑ์ต่กว่า 116แคลไหม

มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงไม่ใช่มหาลัยวิชายุทธที่เข้มงวดที่สุด

มหาลัยวิชายุทธธรรมดาทุกแห่งมีเกณฑ์ปราณและเลือดพอๆกัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่มีโอกาสเลย

…..

หลังอ่านเกณฑ์รับเข้าที่มหาลัยวิชายุทธหนานเจียงกำหนด ฟางผิงก็เปิดเว็บไซต์ทางการของมหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้อย่างอดไม่ได้

“ปราณและเลือด : 130 แคลหรือสูงกว่า

วัฒนธรรมศึกษา : 620 คะแนนหรือสูงกว่า

ทั่วไปศึกษา : 90 คะแนนหรือสูงกว่า

ประเมิณภาคปฏิบัติ : 90 คะแนนหรือสูงกว่า

…”

ฟางผิงรู้สึกอายเล็กน้อยหลังอ่านข้อมูลเหล่านี้ จากเกณฑ์แล้ว เขายังไม่ผ่านเกณฑ์ต่ำสุดของมหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ด้วยซ้ำ คะแนนทั่วไปศึกษาเขาได้ 85 คะแนนเอง

เหมือนกับมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง มหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ก็มีหมายเหตุด้านล่าง

“หมายเหตุ 1 : หากปราณและเลือด 149 แคลหรือสูงกว่า แม้ว่าคะแนนวิชาอื่นจะต่ำกว่าเกณฑ์เล็กน้อย แต่ก็อาจผ่านการพิจารณา”

หมายเหตุเดียวก็ทำให้ฟางผิงรู้สึกถึงความแตกต่างของมหาลัยวิชายุทธชั้นยอด

รับเข้าเป็นพิเศษน่ะมี แต่ต้องเป็นผู้เข้าสอบที่โดดเด่นเท่านั้น

ปราณและเลือด 149แคลหมายถึงอะไร?

มันหมายความว่าคนๆนั้นต้องเป็นเตรียมผู้ฝึกยุทธสูงสุด!

ฟางผิงเป็นเพียงคนเดียวในเมืองรุ่ยหยางที่ผ่านเกณฑ์นี้ และก็เป็นคนเดียวตลอดหลายปีที่ผ่านมา!

นักเรียนประเภทนี้ ถือเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในหนานเจียง แต่กลับมีสิทธิพิเศษเล็กน้อยเท่านั้นในมหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้

“หมายเหตุ 2 : หากคะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษา 700 คะแนนหรือสูงกว่าและมีปราณและเลือด 120 แคลหรือสูงกว่า จะได้รับการพิจารณา”

ฟางผิงมุมปากกระตุกอีกครั้ง จะมีกี่คนเชียวที่ทำได้?

นักเรียนวิชายุทธต้องทำหลายอย่าง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ละเลยวัฒนธรรมศึกษาได้ทำคะแนนสอบได้ดี แต่ 700 คะแนนหรือสูงกว่ามันก็มากเกินไป คนที่ได้คะแนนขนาดนี้เป็นที่หนึ่งของมณฑลได้โดยง่ายเลย

ฟางผิงมีสิทธิ์เข้ามหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ตามหมายเหตุ 1

มันบอกว่า’อาจผ่านการพิจารณา’ถ้าเขาลงสมัคร อย่างไรก็ตามเขาไม่น่ามีปัญหาเท่าไหร่ เพราะเขาแค่ไม่ผ่านเกณฑ์ศึกษาทั่วไปเพียงเล็กน้อย

เกณฑ์ของมหาลัยชั้นยอดอีกแห่ง มหาลัยวิชายุทธปักกิ่ง ก็มีเกณฑ์พอๆกันไม่มากก็น้อย

เกณฑ์ในแง่ของปราณและเลือดสูงกว่ามหาลัยวิชายุทธเซี่ยงไฮ้ 2แคล ปราณและเลือดขั้นต่ำคือ 132แคล แต่เกณฑ์อื่นเหมือนกัน

ฟางผิงน่าจะสมัครมหาลัยวิชายุทธปักกิ่งได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามฟางผิงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

อันที่จริงฟางผิงคิดหาคำตอบของคำถามนี้มาตั้งแต่ประเมิณปราณและเลือดแล้ว

เขาควรเป็นหัวไก่ในมหาลัยวิชายุทธหนานเจียง…แค่กๆ ประโยคนี้ทำให้ฟางผิงคิดไปอีกทางตลอดเลย…หรือจะเป็นหางฟีนิกซ์ในสองมหาลัยดังดี

แน่นอนด้วยปราณและเลือด 149แคล ต่อให้เป็นสองมหาลัยดัง เขาก็ไม่ได้เป็นหางฟีนิกซ์

อันที่จริงปราณและเลือดเขาเกิน 149แคลแล้ว ผู้ฝึกยุทธปีหนึ่งของสองมหาลัยดังก็เทียบกับระดับปัจจุบันของเขาไม่ได้ เขาเป็นใหญ่ในสองมหาลัยดังได้แน่นอน

“ความแตกต่างระหว่างมหาลัยวิชายุทธจะต่างกันแค่ไหนนะ?”

นี่เป็นคำถามที่ฟางผิงครุ่นคิดอยู่เกือบตลอด ด้วยผลสอบของเขา ถ้าเขาอยู่หนานเจียง เขาจะได้รางวัลอย่างงามแน่นอน

ถ้าความต่างระหว่างสองมหาลัยดังและมหาลัยวิชายุทธหนานเจียงไม่มากนัก การอยู่หนานเจียงก็ไม่ได้เลวร้าย อย่างน้อยที่สุด เขาก็จะได้รับทรัพยากรจำนวนมากตั้งแต่แรกเริ่มเลย

ถ้ามันต่างกันมาก การอยู่หนานเจียงเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นตรงหน้าอาจไม่คุ้มค่า

“เหล่าหวังบอกว่าจะกลับมาเมืองหยางเฉิงพรุ่งนี้ ไว้ฉันไปถามความเห็นเขาดีกว่า”

ฟางผิงไม่รู้เรื่องนี้มากนัก เขาจึงได้แต่รอไปถามหวังจินหยาง

เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้นานนัก เพราะโทรศัพท์เขาเริ่มสั่นไม่หยุด

เขาไม่จำเป็นต้องดูหน้าจอ เขาก็บอกได้ว่าคนที่โทรมาเป็นเพื่อนร่วมห้อง และคนที่เป็นไปได้มากที่สุดน่าจะเป็นอู๋จื้อเห่า

และเขาก็คิดถูก หลังรับสาย ฟางผิงก็ได้ยินเสียงอู๋จื้อเห่าพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ฟางผิง คะแนนวัฒนธรรมศึกษาของนายได้เท่าไหร่?”

“ฉันได้ 645 คะแนน!”

“ฉันปวดหัวหนักมาก ฉันควรเข้ามหาลัยไหนดี?”

“ฉันเช็คดูแล้ว ด้วยปราณและเลือด 120 แคลของฉัน มีมหาลัยประมาณ 30-40 แห่งให้ฉันเลือก…”

ฟางผิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “งั้นเหรอ? ยินดีด้วย! เอ้อใช่ ฉันได้ 627 คะแนน ฉันกำลังพิจารณาสองมหาลัยดัง นายคิดว่าไง?”

“แค่กๆ…”

อู๋จื้อเห่าก่นด่าในใจ เขาโทรหาผิดคนแล้ว เขาไม่ควรโทรมาโม้กับฟางผิง เขาควรหาเป้าหมายอื่นมากกว่า

น่าเสียดายที่เขาไม่ได้รู้สึกดีที่ได้โม้กับคนที่เข้ามหาลัยวิชายุทธไม่ได้

และฟางผิงก็เป็นคนที่เข้ามหาลัยวิชายุทธได้แน่นอน

หลังคิดเล็กน้อย อู๋จื้อเห่าก็ระบุเป้าหมาย เขาจะโทรไปอวดพี่น้องถาน!

พวกเขามีคะแนนสอบวัฒนธรรมกลางๆ ดังนั้นพวกเขามีคะแนนสอบต่ำกว่าเขาแน่นอน และพวกเขาย่อมไม่เข้าสองมหาลัยดังเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาน่าจะเข้ามหาลัยวิชายุทธโดยเฉลี่ยได้อย่างไม่มีปัญหา

ถ้าเขาไปโม้กับพี่น้องถาน เขาคงได้โม้อย่างมีความสุขและไม่ทำร้ายความรู้สึกคนอื่น

เมื่อคิดได้แบบนั้น อู๋จื้อเห่าก็ขี้เกียจคุยไร้สาระกับฟางผิงอีก เขาวางสายทันที

…..

อู๋จื้อเห่าวางสายเร็วมากจนฟางผิงไม่ได้ถามเรื่องคะแนนสอบหยางเจี้ยนเลย

หลังคิดเล็กน้อย เขาก็โทรเข้าเบอร์บ้านของหยางเจี้ยน

หยางเจี้ยนไม่มีโทรศัพท์มือถือ ถ้าฟางผิงโทรไปบ้านเขาเพียงเพื่อถามเรื่องนี้ คนที่ไม่ค่อยมีความคิดคงจะคิดว่าเขาโทรไปอวด

ส่วนหลิวรั่วฉี ฟางผิงไม่รู้อะไรนัก เพราะเขาไม่ค่อยคุยกับสาวๆในชั้น

เขาไม่ได้คิดถึงคนอื่นอีก เขาส่งข้อความไปหาเหล่าหวัง มันเป็นข้อความที่สั้นมาก

“ได้คะแนนสอบวัฒนธรรมศึกษา 627 คะแนน ขอคำแนะนำ!”

เหล่าหวังตอบอย่างรวดเร็ว “ขอแสดงความยินดีด้วย ฉันจะกลับเมืองหยางเฉิงพรุ่งนี้”

 

World’s Best Martial Artist

World’s Best Martial Artist

Global Gaowu, Global Martial Arts, Quan Qiu Gao Wu, Toàn Cầu Cao Võ, WBMA, 全球高武
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2018 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง World’s Best Martial Artist เรื่องย่อ ฟางผิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงในที่สุดก็ตัดสินได้ว่าเขาไม่ได้ฝันไปหรือไม่ได้ถ่ายหนัง…อย่าไร้สาระน่า ถ้าการถ่ายหนังชุบความเป็นหนุ่มของเขากลับมาได้ งั้นกองถ่ายก็คงไปถ่ายทำที่สวรรค์ได้แล้ว! หลังยืนยันว่าเขากลับมาเกิดใหม่ ฟางผิงก็รู้สึกถึงความตื่นตระหนกก่อนจะค่อยๆยอมรับความจริง ความจริงอะไรงั้นเหรอ? ความจริงที่ว่าเขากลับมาเกิดใหม่ในร่างตัวเองตอนเด็ก และเนื่องจากเขามีความรู้ของอนาคตติดตัวมาด้วย เขาจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในแวดวงธุรกิจ! เขาจะรวย! นั่นเป็นความคิดของเขาจนกระทั่งเพื่อนเขามาขัดจังหวะ “สรุปนายจะลงทะเบียนสอบวิชาการต่อสู้ไหม?” อะไรนะ? พูดเล่นเหรอ? หรือเขาส่งบทผิด? วิชาการต่อสู้คืออะไร? ทำไมถึงมีค่าลงทะเบียนหมื่นหยวน? หัวของเขาเต็มไปด้วยประโยคคำถาม ไม่นานฟางผิงก็ตระหนักว่าเขาอาจไม่ได้โชคดีเหมือนที่เขาคิดไว้ตอนแรก…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset