ซองจูแผดเสียงตะโกนออกมา พร้อมทั้งเขวี้ยงโทรศัพท์ลงไปบนหมอน ถึงตอนนี้ก็ยังคงคิดว่าอีกคนอาจจะโทรกลับมาอีกครั้ง จึงได้แต่อดทนไม่เขวี้ยงมันลงพื้นไปเสีย เพราะแบบนี้คนที่ตกหลุมรักก่อนถึงได้เป็นฝ่ายแพ้ เมื่อไม่อาจทนต่อความโกรธที่พลุ่งพล่านออกมา ซองจูจึงลุกพรวดขึ้นทันที
เดินลากเท้าปึงปังไปทางห้องครัว เปิดตู้บิวท์อินที่เอาไว้เก็บอาหารออกมา ภายในนั้นมีขวดเหล้าที่เขาคิดจะไม่แตะต้องมันอีกวางเกลื่อนอยู่ จนกระทั่งในตอนนี้ เขาเลือกขวดที่ดีกรีแรงสุดออกมาขวดหนึ่ง ถือมันไปยังห้องนั่งเล่น นั่งลงบนโซฟาว่างเปล่าและเย็นเยียบ ที่ก่อนหน้านี้มินซิกที่กลับออกไปแล้วช่วยจัดการเก็บกวาดให้ แล้วซองจูก็เปิดฝาขวดออกในทันที ตอนนี้ไม่มีอะไรมากวนใจอีกแล้ว
“ไอ้คนเฮงซวย ถ้าจะทำแบบนี้ให้เบอร์มาแต่แรกทำไมวะ ถ้าสุดท้ายแล้วก็ยังทิ้งกันแบบนี้ จะมาให้ความหวังกันทำไม ฉันมันดูเหมือนตัวตลกนักเหรอ? จะปฏิเสธกันก็ช่วยปฏิเสธออกมาแบบจริงจังไม่ได้เหรอ ไม่ใช่พวกเสียสติสักหน่อย จะปฏิเสธก็ทำให้มันปกติไม่ได้รึไงวะ”
เขาระบายความอัดอั้นภายในใจออกมา พร้อมกับยกขวดเหล้าขึ้นมาดื่มเข้าไปหลายอึก
“แม่งเอ๊ย แค่วันนี้เท่านั้น แค่วันนี้เท่านั้น ที่จะดื่มให้เมาตายไปเลย แล้วพรุ่งนี้ก็จะลืมมันให้หมด ไอ้คนเส็งเคร็ง ไม่มีนายฉันก็อยู่ของฉันได้ ระดับฉันแล้วน่ะ! อยากหนีก็เชิญหนีไปตลอดชีวิตเลย…”
ความเจ็บปวดที่เจ้าตัวโพล่งมันออกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนยกขวดเหล้าขึ้นแตะที่ริมฝีปาก ร่างกายที่ถูกเติมเต็มด้วยรสสัมผัสของแอลกอฮอล์ที่ไม่ได้แตะต้องมานานมากแล้ว ทำให้มันตีย้อนกลับออกมา
“เวร กินเหล้าก็ไม่ได้อีก”
ดื่มไปได้เพียงไม่กี่อึก ร่างกายก็เริ่มต่อต้านออกมาแบบนั้น มันทำให้เขาเจ็บใจขึ้นไปอีก ซองจูถือขวดเหล้าเอาไว้ พร้อมทั้งเอนศีรษะพิงไปกับโซฟา เขาเริ่มรู้สึกว่าเพดานห้องกำลังหมุนไปมา
เจ้าตัวพึมพำออกมาทั้งที่ยังทิ้งตัวแผ่ไปกับโซฟาเช่นนั้น ในระหว่างนั้นก็ค่อยๆ ยกขึ้นมาซด แล้วซองจูก็เริ่มสบถด่าออกมาอีก บางทีก็สบถด่าดงฮยอน เรื่องทั้งหมดนี้ มันเริ่มขึ้นก็เพราะดงฮยอนที่พาจองอูเข้ามาที่ห้องของซองจู ทำเช่นนั้นจนผ่านไปหลายนาที ซองจูที่สติเริ่มเลือนรางเข้าไปทุกที พึมพำออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา
“แม่งเอ๊ย ครั้งสุดท้ายแล้ว จะลืมให้หมดเลย จะไม่ชอบใครอีกต่อไปแล้ว”
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงปิ๊บๆ ที่ดังออกมาจากที่ไหนสักที่ ราวกับมันตอบรับกับคำพูดนั้น ก่อนซองจูจะเงยหน้ามองไปทางประตูในทันที
“ไอ้พวกเวร ออกไป! ห้ามเข้ามา!”
ซองจูแผดเสียงตะโกนดังลั่น อย่างไรเสียก็คงจะเป็นมินซิก ไม่ก็ดงฮยอนนั่นแหละ ทั้งที่ตะโกนห้ามไม่ให้เข้ามา แต่กลับไม่คำตอบใดกลับมา ความไม่พอใจปะทุขึ้นมาพร้อมกับเสียงแกร๊กที่ดังขึ้น ทำให้เขาตะโกนออกไปอีกครั้ง
“บอกให้ออกไป! รีบปิดประตูแล้วกลับไปซะ! ฉันไม่อยากเห็นหน้าใครทั้งนั้น ไปให้พ้น!”
แต่ทว่าที่ได้ยิน กลับเป็นเสียงฝีเท้าที่ฟังดูรีบร้อนเท่านั้น ถึงอย่างไรคนรอบตัวเขาก็ไม่เคยมีใครเชื่อฟังคำพูดเขาเลยสักคนเดียว เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมา ด้วยหมายจะตะโกนไล่อีกครั้ง แต่กลับต้องชะงักค้างไปด้วยความตกใจ
ลมหายใจถึงกับชะงักไป เมื่อได้เห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคิมจองอู
“บ้าอะไรเนี่ย ทำไม…”
ซองจูพึมพำออกมาทั้งที่ในมือยังคงถือขวดเหล้าเอาไว้ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เมื่อได้เห็นสภาพเช่นนั้นของอีกคน จองอูก็มีสีหน้าซีดเผือดลงในทันที
“นายกำลังทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย!”
จองอูตะโกนออกมาเสียงดังลั่น พร้อมทั้งวิ่งเข้ามาหาอีกคน แล้วคว้าขวดเหล้าไปจากมือของซองจู วางมันลงบนโต๊ะ สีหน้านั้นดูราวกับคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมา ซองจูสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะพึมพำออกมากับจองอูที่กำลังมองมายังตัวเขา
“นายทิ้งฉันแล้วไม่ใช่เหรอ?”
จองอูขมวดคิ้วมุ่นทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น
“นายบอกว่าให้มา! บอกว่าคิดถึง!”
“นายตัดสายฉัน”
“งั้นจะให้ฉันเอาแต่คุยโทรศัพท์กับคนที่บอกว่าคิดถึงกันอยู่อย่างนั้นรึไง? ทำแบบนั้นนายก็จะโกรธไม่ใช่เหรอ!”
ท่าทางของจองอูที่แผดเสียงตะโกนออกมาอย่างไม่สมกับเป็นเจ้าตัว ทำให้น้ำตาของซองจูเริ่มรินไหลออกมาจากดวงตาของเจ้าตัว
“ฉันก็แค่…เข้าใจว่านายไม่อยากติดต่อกันอีกต่อไปแล้ว…”
ซองจูพูดออกมาทั้งที่น้ำตายังคงไหลออกมาไม่หยุด
เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ความคิดเขาไม่ปกตินัก ทำไมจองอูถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ตัวเขาที่โมโหเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ก่อนหน้านี้ ทำไมจู่ๆ ถึงได้ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าแบบนี้ก็ไม่รู้ ที่แน่นอนที่สุดในตอนนี้ คือคิมจองอูอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ซองจูยื่นมือสั่นเทาออกไปคว้าแขนของจองอูเอาไว้
“แล้วคาเฟ่ล่ะ”
“บอกพี่เจ้าของร้านไว้แล้ว”
“แล้วถ้ามีขโมยล่ะ”
“หยุดพูดเรื่องนั้นเถอะ ตอนนี้มันสำคัญนักเหรอ? ทำไมถึงได้ดื่มเหล้าแบบนี้ ตอนที่ฉันไม่อยู่ นายเลิกมันได้ก่อนที่จะติดมันแล้วนี่ ทำไมถึงได้…!”
หางตาของซองจูกระตุกขึ้นมาทันที ขณะที่กำลังฟังสิ่งที่จองอูพูดออกมา
“เรื่องนั้นนายรู้ได้ยังไง”
คำพูดนั้นทำให้จองอูปิดปากเงียบทันที ดวงตาที่มองสบมานั้น ในแววตาของอีกคนมันดูสั่นไหวอย่างรุนแรง ซองจูเม้มปากแน่น ก่อนจะพึมพำลอดไรฟันออกมา
“ชินดงฮยอนสินะ”
จองอูไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธคำพูดนั้น เจ้าตัวเพียงวางมือทาบทับลงบนมือของซองจูที่จับแขนของตัวเอาไว้
“ขอร้องล่ะนะ อย่าดื่มอีกเลย ถ้าจะดื่มก็มาดื่มกับฉัน แค่บางครั้ง นานๆ ทีนะ”
“นายไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว ยังมาพูดอีก”
จองอูไม่ตอบอะไรกลับไปอีก เพียงก้มลงไปหาซองจูอย่างเงียบ ๆ
“อ๊ะ อืม…”
รสเหล้าอ่อนๆ กระจายออกมาจากริมฝีปากคู่นั้น เขาค่อยๆ สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปภายในโพรงปากของอีกคน ดื่มด่ำกับรสสัมผัสที่ติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากล่างอย่างอ่อนโยน แตะลิ้นสัมผัสผ่านไรฟัน แล้วอีกคนก็เปิดปากให้ได้เข้าไปรุกล้ำในทันที เรียวลิ้นนุ่มลื่นรุกรานภายใน แหวกว่ายไปทั่วทุกที่ภายโพรงปากของซองจูอย่างช้าๆ
“ฮือ อื้อ อื้ม อือ…อืม อื้อ ฮึก!”
ซองจูขยับเรียวลิ้นตอบรับสัมผัสนั้นกลับไป เรียวลิ้นอุ่นเกี่ยวกระหวัดกัน ทั้งผลักดันและดูดดึงกันไปมาอยู่เช่นนั้น เรียวลิ้นทั้งคู่เสียดสีกันไปมาอย่างรุนแรง ราวกับกำลังทำสงครามกันอยู่ ในตอนนั้นเองจองอูจึงได้ขยับมืออย่างรวดเร็ว รั้งเอวของซองจูเข้ามาแนบชิด กกกอดอีกคนเอาไว้ ในวินาทีที่ร่างกายได้สัมผัสกัน ความร้อนรุ่มก็พลันปะทุขึ้นมาในทันที
“ฮึก!”
เขาเลิกเสื้อเชิ้ตตัวบางขึ้น แล้วสอดมือร้อนเขาไปสัมผัสแถวช่วงเอวของอีกคน จนทำให้ซองจูหลุดเสียงครางสั้นๆ ออกมา
มันร้อนวาบ จั๊กจี้ จนทำให้รู้สึกวูบวาบขึ้นมาที่ท้ายทอย ฝ่ามืออุ่นร้อนของจองอูที่ปัดผ่านไปทั่วร่างเขาราวกับอสรพิษร้าย ทำเอาเขาขนลุกขึ้นมา
ซองจูผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ พร้อมกับหอบกระเส่าไปกับการเล้าโลมของจองอูที่ทำกับร่างกายของเขา ราวกับเจ้าตัวกำลังเล่นเครื่องดนตรีอยู่ จองอูค่อยๆ สร้างความทรมานให้กับร่างกายของซองจู เขาเผลอไผลไปกับมันจนไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร ร่างกายบิดเร่าไปตามการควบคุมของจองอู ซองจูได้แต่หายใจหอบ พร้อมกับหลุดเสียงหวีดร้องออกมา
“อ๊ะ อื้อ อึก! อ๊ะ อื้อ อืม…ฮือ อึก อื้อ…”
สัมผัสจากปลายนิ้วที่วนเวียนอยู่แถวสะโพก ค่อยๆ เลื่อนขึ้นมาแตะสัมผัสตรงส่วนหน้าอก แผ่นอกนุ่มนิ่มแบนราบเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ยามมันถูกสัมผัส ทำให้เขาเสียวซ่านจนหลุดเสียงครางออกมา
“อ๊ะ ฮือ! ฮือออ อ๊ะ…อื้ม”
พอลืมตาขึ้นมอง ก็ได้พบดวงตาที่ปรือปรอยอย่างเลื่อนลอย และท่าทางของซองจูที่กำลังร้องครางออกมาด้วยความหวามไหว ตัวเขาหลงมัวเมาไปกับเหล้าและความปรารถนา จนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ใบหน้าถูกย้อมจนแดงก่ำ กำลังถูกอีกคนกอดเอาไว้ จองอูดึงรั้งร่างกายที่เริ่มอ่อนปวกเปียกของซองจูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“อื้อ อะ อะไร…อื้อ!”
ซองจูตกใจจนใจหายใจคว่ำ เมื่อต้นขาของตนเองถูกกระชากเข้าไปเกี่ยวกับช่วงเอวของอีกคน แล้วซองจูจึงได้คว้าต้นคอของเขาเอาไว้ ร่างกายที่ดูเบาลงกว่าที่คิด ทำเอาเขาจิ๊ปากอย่างไม่ชอบใจนัก ซองจูที่คิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไป จึงได้ขยับถอยห่างออกไป ถึงจะแกล้งทำเป็นเข้มแข็ง แต่ความจริงแล้วกลับอ่อนแออย่างมาก จองอูรู้สึกว่าซองจูในเวลานั้นช่างดูน่ารักอย่างยิ่ง
แม้อีกคนจะบอกว่าอย่าทำ แต่กลับชอบที่ถูกบังคับให้ทำและถูกกระทำอย่างรุนแรง แม้เขาจะเคยหนีไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อเดินกลับมาด้วยตัวเองเช่นนี้แล้ว ตอนนี้เขาก็ไม่คิดจะปล่อยอีกคนไปอีกแล้ว จองอูแนบประทับจูบแผ่วเบาลงบนปรางแก้มของซองจูที่กอดเขาอยู่ ก่อนจะเดินไปทางห้องนอน
“ปะ ไปไหน…”
“เตียง”
ซองจูเพียงพยักหน้าให้กับคำตอบนั้นอย่างเงียบๆ จองอูที่สังเกตเห็นใบหูที่แดงระเรื่อของซองจู ก็หลุดยิ้มกว้างออกมา เป็นคนที่น่ารักอะไรขนาดนี้นะ
“ตอนฉันไม่อยู่ นายเป็นยังไงบ้าง”
ถึงจะรู้ว่าอีกคนใช้ชีวิตเหลวแหลกขนาดไหน แต่ก็ยังแกล้งถามออกมา เขาสงสัยว่าจะมีเรื่องราวหลุดออกมาจากริมฝีปากคู่นั้นมากแค่ไหน อีกคนยังแกล้งทำดื้อดึง หลบสายตาทำเป็นไม่รับรู้ ทำให้เขาได้แต่เพลิดเพลินกับการจ้องมองแพขนตายาวคู่นั้น
ดูท่าตัวเขาน่าจะเสียสติไปแล้ว จองอูคิดเช่นนั้น ก่อนจะบรรจงวางร่างของซองจูลงบนเตียง
“จะไปไหน อย่าไป”
เมื่อวางซองจูลงนอนแล้ว เขาก็ขยับยกตัวขึ้น ในตอนนั้นอีกคนรีบร้อนคว้าจับแขนของเขาเอาไว้ในทันที ในแววตาที่มองมานั้นอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ จองอูยกยิ้มออกมา พร้อมกับลูบลงบนกลุ่มผมซองจูอย่างแผ่วเบา
“ไม่หนีหรอกน่า”
ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับลูบไล้ลงบนกลุ่มผมของอีกคน ก่อนจะตบเบาๆ ที่แผ่นหลังให้อีกคนได้คลายความกังวล ในตอนนั้นเอง เจ้าตัวจึงได้พึมพำออกมา
“เชื่อไม่ได้หรอก”
“มาถึงที่นี่ขนาดนี้ ถ้ายังหนีไปอีก ก็คงเป็นคนเฮงซวยสุดๆ แล้วล่ะ”
“นายก็เป็นไอ้คนเฮงซวยอยู่แล้วนี่”
ถึงอยากจะบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะมาคุยกันบนเตียงแบบนี้ แต่ทว่าจองอูก็ทำเพียงยกยิ้มออกมาเท่านั้น อย่างไรเสียคนที่ทำให้อีกคนไม่เชื่อใจก็เป็นตัวเขาเอง
“ต้องถอดเสื้อออกไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เกี่ยวสักหน่อย”
พึมพำออกมาอย่างไม่สมกับเป็นเจ้าตัว จองอูที่แกล้งทำเป็นสู้แรงของซองจูที่ดึงมือเขาไม่ได้ แล้วจึงได้ขยับกายขึ้นมาบนเตียง มองสบตาแววตาสุกใสของซองจู ขณะที่เลิกเสื้อเชิ้ตของเจ้าตัวขึ้นอย่างรีบเร่ง ความตื่นเต้น ความวิตกกังวล และความต้องการ ผสมปนเปกันอยู่เบื้องหลังแววตาสุกใสคู่นั้น แววตาคู่นั้นกำลังบ่งบอกว่าต้องการเขาแค่ไหน ในวินาทีนั้น มันทำให้จองอูรู้สึกดีอย่างมาก เช่นในตอนนี้ อีกคนดูน่ารักเสียยิ่งกว่าตอนที่ร่างกายนั้นตอบรับเขาอย่างซื่อสัตย์เสียอีก เขาก้มหน้าลงไป ประทับจูบลงบนริมฝีปากของซองจูอีกครั้ง
“อื้อ…อื้ม”
อีกคนตอบรับกลับมาด้วยเสียงครางแผ่ว ร่างกายเริ่มร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง มันกำลังอ้อนวอนขอสิ่งที่มากยิ่งกว่านี้ จองอูสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตของซองจูอย่างช้าๆ ก่อนจะกระชากมันทิ้งไป
“อื้อ หนาว…อึก!”
ร่างกายที่ร้อนผ่าว พอได้สัมผัสกับอากาศเย็นภายนอก ก็ทำให้ต้องห่อตัวเข้าหากัน เขากดขยี้ปลายนิ้วลงไปบนตุ่มไต ในตอนนั้นอีกคนถึงกับเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับหลุดครางเสียงหวานออกมา ซองจูหอบหายใจถี่ ปรือตาจ้องมองไปที่จองอู
“รีบ…เข้ามา”
เจ้าตัวอ้าขาออกอย่างเชิญชวน แสดงท่าทางยั่วยวนออกมาอย่างไม่ประสา ขณะที่ส่วนกลางก็เริ่มแข็งขืน จองอูยกยิ้มลามกออกมาพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปาก
“จะไม่เสียใจใช่ไหม”
“มะ ไม่เสีย อือ อื้ม! ใจ…ฮึก! อ๊ะ!”