(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท – ตอนที่ 5-5

ตอนที่ 5-5 เยียวยา

 

 

 

ในตอนนี้เวลาที่ซองจูอยู่คนเดียว ก็มักจะถูกความเหงาโอบกอดเอาไว้ ความอบอุ่นจากคนอื่นทำให้เขารู้สึกอบอุ่นได้ขนาดไหน สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เขาก็ได้เรียนรู้แล้วว่ามันเป็นได้ทั้งหมด และสิ่งที่เขาเคยเชื่อ เขาก็ได้เรียนรู้แล้วว่าการเชื่อใจคนรอบข้าง มันก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถึงมันจะเป็นคำพูดที่น่าอับอาย หากตัวเขานั้นชอบตัวฮันซองจูในตอนนี้มากกว่าฮันซองจูที่เป็นนักแสดงคนก่อน

 

 

เขาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู ขณะที่หันมองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่ว่างเปล่า มันเป็นห้องชุดในวิลล่าที่กว้างใหญ่และหรูหราสมฐานะของนักแสดงแบบเขา เขาคิดอยู่แล้วว่าอย่างไรก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ถึงมันจะไม่ได้มีชื่อเขาเป็นเจ้าของ แต่คิดว่าแบบนั้นมันคงจะเป็นการดีกว่า พวกทรัพย์สินอะไรนั่น เขาเองก็ได้เก็บรวบรวมเอาไว้ที่ธนาคารอยู่แล้ว หากมีข่าวว่าเขาซื้อตึกในชื่อของตัวเองแพร่สะพัดออกไป เขาคงจะถูกเอาไปพูดนินทา ถูกเอาชื่อไปพูดต่อๆ จนเกิดเป็นข่าวลือว่าไปซื้ออะไรที่ไหนอย่างไรมา ดังนั้นแค่ใช้ชีวิตหรูหราอยู่ในวิลล่าที่เป็นชื่อของบริษัท แล้วภายหลังค่อยออกไปหาซื้อตึกเป็นของตัวเองคงดีเสียกว่า

 

 

แต่ว่าการอยู่คนเดียวในห้องชุดแห่งนี้ มันทั้งดูกว้างและหรูหราเกินไป ห้องว่างที่เหลืออยู่ แม้จะถูกเรียกว่าห้องพักแขกก็จริง แต่แขกที่เข้ามาพักและออกไปแล้วก็มีแค่คิมจองอูเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่เคยเฉียดผ่านมาใช้ห้องพักแขกที่นี่เลยด้วยซ้ำ แค่มีเพียงห้องแต่งตัว ห้องหนังสือ ห้องนอน และห้องนั่งเล่นมันก็มากพอแล้ว ถึงจะสร้างห้องสำหรับให้จองอูทำงานเพิ่มมา อย่างมากมีห้องแค่สี่ห้องก็เพียงพอแล้ว ซองจูพอจะเข้าความรู้สึกของจองอูขึ้นมาบ้างแล้วว่า ทำไมอีกคนถึงไม่อยากจะมาที่นี่สักเท่าไหร่นัก มันใหญ่เกินไป และความกดดันที่ได้รับก็ทำให้อึดอัด นั่นคืออารมณ์ที่ซองจูรู้สึกได้ในตอนนี้

 

 

ซองจูก้าวเข้าไปข้างในอย่างช้าๆ

 

 

ภายในห้องว่างเปล่าร้างผู้คน ทุกครั้งที่เขาเหยียบย่างเข้าไปด้านใน เขารู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่ทำให้อารมณ์บูดขึ้นมาในทันที หากเป็นเมื่อก่อน เขาคงแค่เปิดเครื่องทำความร้อนภายในห้องเสียก็สิ้นเรื่อง แต่ไม่รู้ทำไม ถึงได้ไม่ชอบใจอาการขนลุกในตอนนี้เลย ซองจูอยากจะรีบกำจัดความหนาวเหน็บที่โอบรัดรอบกายทิ้งไปโดยเร็ว แต่เพราะยังไม่ได้จัดข้าวของ เขาจึงได้แค่จัดการกับมันอย่างลวกๆ ไม่สมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของตัวเองเลย หลังจากเอาของที่ต้องซักใส่ลงตระกร้าซักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาถึงได้พาตัวเองเข้าไปภายในห้องอาบน้ำได้สักที

 

 

“ทำไมถึงได้เหนื่อยขนาดนี้นะ…”

 

 

ร่างกายที่เหนื่อยล้าและมีความเครียดสะสมเป็นเวลานาน ถึงจะได้สัมผัสกับน้ำอุ่นมากสักเท่าไหร่ มันก็ไม่มีท่าทีจะผ่อนคลายลงได้เลย ในเวลาแบบนี้ เขารู้ว่ามันมียาวิเศษอยู่ แต่มันเป็นเรื่องที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในทันที ซองจูก็ได้แต่หวังว่ามันจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

 

 

สิ่งนั้นคือการได้นอนหลับในอ้อมกอดของจองอู คนเราก็เพียงต้องการความอบอุ่นจากคนที่ชอบก็เท่านั้น ซองจูล้มเลิกความตั้งใจ ก่อนจะปิดก๊อกน้ำเสีย

 

 

“อ้า ฉันควรต้องบอกเจ้านั่นก่อน ว่ามาถึงแล้ว”

 

 

พอออกมาจากห้องอาบน้ำ ซองจูก็พึมพำออกมา

 

 

ในบรรดาบทละครที่เขาเคยถ่ายทำมา มันมีบทพูดที่ตัวละครอยู่คนเดียวและต้องพูดคนเดียวกับตัวเอง ในตอนนั้นเขาไม่เคยจะเข้าใจบทพูดแบบนั้นเลย ซองจูเองก็อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งนาน แต่เขาก็ไม่เคยจะพูดคนเดียวกับตัวเองเลยสักครั้ง มันจึงทำให้เขาไม่มีทางเข้าใจบทพูดแบบนั้นได้เลย แต่ว่าในตอนนี้เขากลับกำลังพูดคนเดียวอยู่ ขณะที่พูดพึมพำออกมาอย่างไม่ใส่ใจอะไร เขาก็ได้ตระหนักถึงความจริงนั้น แล้วก็ได้แต่ยิ้มอายๆ ออกมา ทั้งที่ทุกทีเขาไม่เคยยิ้มและเอาแต่วางท่าเฉยเมย

 

 

แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้ถึงการรู้สึกผูกพันกับคนอื่น ซองจูก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป แบ่งปันความอบอุ่นต่อกันจนมันกลายเป็นความคุ้นเคย เขาจึงได้เข้าใจความรู้สึกละเอียดอ่อนแบบนั้น นั่นเป็นความรู้สึกที่เขาไม่คุ้นชินกับมันเอาเสียเลย แม้จะเข้าใจแต่ก็ไม่ปรารถนามัน การต้องมานั่งคิดถึงใครในเวลาที่อยู่ลำพัง มันคงจะดีกว่าถ้าได้มีอีกคนอยู่ข้างๆ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็อยู่คนเดียว หลังจากซองจูออกมาจากห้องอาบน้ำ เขาก็ค่อยๆ เดินไปทางห้องนอน

 

 

เท้าเปียกชื้นที่สัมผัสลงบนพื้นห้อง ทำให้เกิดเป็นเสียงเบาๆ ดังออกมาตามจังหวะการก้าวเดิน เวลาที่อยู่คนเดียวแบบนั้น เขากลับรู้สึกถึงอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจมันเลยก็ได้ ซองจูก้าวผ่านกรอบประตูเข้าไปอย่างเนิบๆ แล้วก็ต้องชะงักเท้าหยุดยืนด้วยความตกใจ มีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น

 

 

ดวงตาเบิกกว้างขึ้น มองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่มืดสนิท ดวงตาที่ยังไม่คุ้นชินกับความมืด จึงทำให้ไม่อาจระบุชัดได้ถึงรูปร่างของสิ่งแปลกปลอมนั้นได้ แต่ทว่าเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันมีบางอย่างอยู่ที่นี่ เพราะเห็นเงาดำๆ โผล่ขึ้นมาจากบนเตียงนอนนั่น ซองจูควานมือคลำไปตามผนังห้อง ตอนนี้เขาต้องการอาวุธ

 

 

ควานมือไปตามผนังอยู่ครู่ จนกระทั่งจับไปโดนขวดบางอย่างเข้า ขวดแก้วที่ค่อนข้างหนัก คงจะพอใช้เป็นอาวุธที่ดีได้ ซองจูกระชับมือจับเข้าที่ขวดแน่น ก่อนจะขยับเข้าไปหาเงาปริศนานั่นอย่างช้าๆ ในตอนที่เขากำลังจะฟาดขวดแก้วในมือไปทางเตียง ซองจูก็ถูกตะครุบตัวเอาไว้ในทันที

 

 

“ปล่อย! ปล่อยสิวะ! ไอ้บ้า แกจะทำอะไร!”

 

 

ด้วยความตกใจทำให้ซองจูเผลอปล่อยขวดแก้วหลุดมือร่วงลงไปที่พื้น ด้วยเป็นแก้วที่ค่อนข้างหนา ขวดจึงไม่แตก และกลับกลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้น

 

 

“บอกให้ปล่อยไงวะ! ใครก็ได้ช่วยด้วย! อื้อ!”

 

 

เจ้าตัวเหวี่ยงแขนสองข้างอย่างแรง พร้อมทั้งร้องตะโกน แต่ก็ไม่อาจช่วยอะไรได้เลย แขนทั้งสองข้างที่พยายามเหวี่ยงใส่อีกฝ่ายดันถูกรวบคว้าไว้จนขยับไม่ได้ พร้อมกันนั้นก็ถูกดึงรั้งขึ้นไป คนร้ายหนีบช่วงเอวของซองจูที่อยู่ตรงหว่างขาของเจ้าตัวเอาไว้ด้วยเข่า ซองจูตัวสั่นเทาด้วยไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับตัวเอง และแล้วเสียงที่คุ้นเคยก็กระซิบมาที่ข้างหู

 

 

“ชู่ว ฉันเอง”

 

 

เมื่อรับรู้ถึงตัวตนของเจ้าของเสียงนั้นแล้ว ร่างกายของซองจูก็ถึงกับหมดแรงในทันที

 

 

“เฮ้อ อะไรเนี่ย ตกใจหมดเลย…”

 

 

ตัวตนของผู้ร้ายก็คือจองอูนั่นเอง ซองจูเริ่มบ่นพึมพำทั้งที่ยังคงมีหยดน้ำตาค้างอยู่ที่หางตา

 

 

“อะไรกัน ฉันแน่ใจนะว่าก่อนหน้านี้ไม่มีใครอยู่นี่ มันยังไงกันแน่”

 

 

“ก็คิดว่าคงมาถึงประมาณนี้ ก็เลยมาหา จู่ๆ มันก็อยากเจอน่ะ”

 

 

“งั้นก็ควรจะโทรมาก่อนสิ!”

 

 

“ไม่เอา ฉันตั้งใจจะทำให้นายตกใจน่ะ…”

 

 

ด้วยยังไม่อาจปรับให้อารมณ์ที่ตื่นตกใจเมื่อครู่สงบลงได้ อีกคนจึงได้ทุบเข้าที่ไหล่ของจองอูทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองได้ทำผิด เจ้าตัวจึงได้ค่อยๆ หดตัวโตๆ ของตัวเองลง ท่าทางน่าสงสารแบบนั้นทำให้ซองจูได้แต่ถอนหายใจ แล้วหยุดหมัดที่ทุบลงไป

 

 

“เฮ้อ คราวหน้าห้ามทำอีกนะ ฉันเกือบจะหัวใจวายแล้ว”

 

 

“อื้อ ข้าวเย็นล่ะ”

 

 

“ไม่กิน เหนื่อยมาก อยากนอน”

 

 

จองอูที่ได้ยินคำตอบของซองจู ก็ค่อยๆ ดึงร่างของอีกคนเข้ามากอด

 

 

“งั้นก็นอนเถอะ”

 

 

เมื่อเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอันอบอุ่น ความง่วงก็เข้าครอบงำอย่างไม่อาจฝืนทนได้ ซองจูจึงพยักหน้ารับอย่างเงียบๆ

 

 

“อื้อ”

 

 

ตอบออกมาสั้นๆ พร้อมกับการมุดตัวซุกซบในอ้อมกอดของจองอู ไม่นานซองจูก็หายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ และหลับลึกไปในที่สุด

 

 

 

 

* * *

 

 

 

 

การหวนคืนสู่วงการของซองจูประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่วนดิจิตอลอัลบั้มของคราฟท์ที่ออกจำหน่ายในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน ซองจูยังคงวุ่นอยู่กับการขึ้นเวทีทักทายและกิจกรรมโปรโมตต่างๆ ขณะที่จองอูคนตกงานกลับมีเวลาว่างเหลือเฟือ ทั้งสองคนมีตารางชีวิตสวนทางกัน หากก็ยังคงใช้เวลาด้วยกันไปเช่นนี้

 

 

“ฉันคิดว่าจะลองหาบ้านใหม่ดูน่ะ”

 

 

ซองจูที่นอนกลิ้งไปมาบนโซฟา เมื่อได้ยินคำพูดเปิดประเด็นขึ้นมาอย่างกะทันหันของจองอู จึงได้หันหน้าไปหาเจ้าตัว สีหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความแปลกใจ

 

 

ด้วยตารางโปรโมตต่อเนื่องจนเขาแทบหมดแรง สุดท้ายเพราะข่มขู่ออกไปว่าถ้าไม่ยอมให้เขาพักวันหนึ่ง เขาจะพังงานให้เละไม่มีชิ้นดี เพราะฉะนั้นจึงได้หยิบยื่นวันพักผ่อนมาให้ หลังจากจัดการวันหยุดได้ สิ่งแรกที่ซองจูทำในทันทีก็คือเรียกจองอูให้มาหา แล้วซุกตัวนอนหลับในอ้อมกอดของอีกคน เพราะว่าเหนื่อยมามาก ก็เลยไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย นอกจากเอาแต่นอนจนเวลาผ่านไปกว่าค่อนวันอย่างน่าเสียดาย ซองจูเอาแต่ตามติดอยู่ข้างจองอูต้อยๆ พอหมดแรงก็มานอนแผ่หนุนตักจองอูอยู่บนโซฟาแบบนี้

 

 

ซองจูทำหน้าไม่พอใจ พร้อมจ้องมองไปยังจองอู

 

 

“ทำไม”

 

 

จองอูก้มลงมามองหน้าซองจู เมื่อได้ยินคำถามสั้นๆ เพียงคำเดียวที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว

 

 

“ทำไมอะไรล่ะ งานที่คาเฟ่ฉันก็ไม่ทำต่อแล้ว ที่เขายอมให้อยู่มาจนถึงตอนนี้มันก็มากพอแล้ว ตอนนี้พนักงานคนก่อนก็กลับมาทำงานแล้วด้วย ฉันก็ต้องหลีกทางให้สิ”

 

 

คำตอบของจองอูไม่ค่อยถูกใจซองจูสักเท่าไหร่ เจ้าตัวจึงได้เบะปากออกมาแบบนั้น

 

 

“ถ้าไม่ใเพราะแบบนั้น นายก็คงจะตั้งรกรากอยู่ที่นั่นเลยงั้นสิ”

 

 

คำพูดนั้นทำให้จองอูก้มมาจ้องซองจูนิ่ง

 

 

“ไม่พอใจอะไรอีกแล้วล่ะ”

 

 

“นายมาอยู่กับฉันก็ได้นี่”

 

 

“ที่นี่มัน…”

 

 

มองหน้าจองอูที่พูดค้างไว้แบบนั้นแล้วซองจูก็แสดงอาการหงุดหงิดออกมา

 

 

“แค่มาอยู่ด้วยกันไม่ได้หรือไง เมื่อก่อนก็ไม่เห็นจะมีปัญหาเลย ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องรักษาระยะห่างกับฉันแล้วด้วย มันมีอะไรที่ทำให้ลำบากใจงั้นเหรอ ห้องที่เคยใช้ก็ทำเป็นห้องทำงานซะ ส่วนห้องนอนก็มาใช้ห้องเดียวกับฉันก็ได้”

 

 

“รูปแบบชีวิตเราต่างกันนะ ใช้ห้องนอนด้วยกันไม่ได้หรอก”

 

 

“อะไรที่ว่าไม่ได้ อย่ามาอ้างเลย นายไม่อยากอยู่กับฉัน ก็แค่พูดมาตรงๆ สิ”

 

 

“ไม่ใช่แบบนั้น”

 

 

ซองจูเอาแต่ทำท่าทางดื้อดึง เพราะแบบนั้นสีหน้าของจองอูจึงพลอยกระวนกระวายไปด้วย

 

 

“เมื่อก่อนที่นายมีข่าวลือหลุดออกมา ฉันก็พลอยถูกสั่งห้ามไม่ให้ออกไปข้างด้วย จะให้มีข่าวแปลกๆ หลุดออกไปอีกไม่ได้หรอกนะ แต่นายกลับบอกฉันมาอยู่ด้วยกัน ถ้ามีใครกระจายข่าวลือแปลกๆ ออกไป คนที่เสียหายก็คือนาย ไม่ใช่ฉัน”

 

 

ถึงแม้จะเป็นข้อโต้แย้งที่ฟังดูมีเหตุผลเพียงพอ แต่ท่าทีของซองจูก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป

 

 

“ไม่เห็นจะเกี่ยวเลย”

 

 

“ฮันซองจู”

 

 

“แล้วยังไงล่ะ บอกว่านายมาอยู่ด้วยกันเพราะว่าสนิทกับน้องชายฉันมันก็ได้นี่ เพราะข่าวลือครั้งก่อนก็เลยคิดว่ามันอาจจะเกิดขึ้นอีก แต่มันก็ไม่ได้เกิดจริงๆ สักหน่อย”

 

 

“พี่ดงฮยอนก็คงไม่เห็นด้วย”

 

 

“ถ้านายเอ่ยปาก แล้วรู้ว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย คงจะกล้าค้านหรอกนะ”

 

 

คำพูดของซองจูทำให้จองอูถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

 

 

“เฮ้อ…เห็นว่าไม่พูดมาสักพัก ก็คิดว่าล้มเลิกไปแล้วซะอีก”

 

 

“ฉันก็คิดตลอดนั่นแหละ แค่ไม่มีโอกาสได้พูดต่างหาก”

 

 

ซองจูพูดเช่นนั้น พร้อมกับลุกขึ้นมานั่ง

 

 

“ฉันไม่ได้คบกับนายแค่สนุกๆ หรอกนะ”

 

 

“รู้แล้ว”

 

 

“แล้วทำไมถึงบอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ล่ะ ฉันเบื่อที่ต้องอยู่ในห้องนี้เหงาๆ คนเดียวนะ ทำไมล่ะ เพราะห้องมันใหญ่แล้วก็อึดอัดสำหรับนายงั้นเหรอ ฉันเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน สองคนก็ต้องดีกว่าคนเดียวสิ อยู่ที่นี่นานๆ เข้าฉันก็ยิ่งเหงา ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว แล้วทำไมยังต้องทนโดดเดี่ยวด้วยล่ะ ฉันไม่ชอบแบบนั้นเลยสักนิด”

 

 

จองอูมองซองจูที่ยืนกรานอย่างหนักแน่นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ซองจูอยากตะโกนให้อีกคนหยุดถอนหายใจแบบนั้นสักที แต่ก็ทำได้แค่อดทนและจ้องไปที่จองอูต่อไป

 

 

“คิดให้ดีๆ นะ เรื่องโน้มน้าวพี่ดงฮยอนฉันจะทำเอง”

 

 

“ไม่ใช่สิ นั่นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญสักหน่อย”

 

 

“แค่เรื่องเดียว นายอยากอยู่กับฉันไหม”

 

 

จองอูไม่ได้ตอบคำถามนั้น การที่ลองถามคำถามแบบนั้นออกมา เพราะรู้ว่าคำตอบของอีกคนก็จะต้องเป็น YES อยู่แล้ว และคนฉลาดอย่างฮันซองจู รู้เรื่องนั้นดีเลยล่ะ

 

 

“ช่างเถอะ ไม่ต้องตอบหรอกนะ ฉันรู้อยู่แล้วว่านายเองก็คิดเหมือนกันกับฉัน”

 

 

ซองจูพูดเช่นนั้นออกมาพร้อมกับอมยิ้ม หากคนที่ไม่รู้เรื่องราวได้มาเห็นก็คงมองว่าเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อย่างมาก แต่ว่าในสายตาของจองอู มันดูเหมือนคนที่มีงูนับร้อยตัวเลื้อยไปมาอยู่ในท้อง

 

 

“นายคิดจะทำอะไรอีก”

 

 

“ก็นะ ฉันคิดไว้หมดแล้ว”

 

 

พูดเช่นนั้นแล้วก็ล้มตัวลงนอนหนุนตักของจองอูอีกครั้ง จองอูที่ได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนริมฝีปากคู่นั้นแล้ว ทำให้เขาได้แต่คิดมากจนรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดออกมาเสียอย่างนั้น

 

 

คบกับฮันซองจูช่างน่าปวดหัวจริงๆ

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

ตอนที่ 1 – 5.5 (ตอนพิเศษ) อ่านนิยาย (จบ) ฮันซองจูนักแสดงหนุ่มชื่อดังโดนคู่หมั้นสาวถอนหมั้นอย่างไร้เยื่อใย แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของต้นสังกัดก็ส่งคิมจองอู ชายหนุ่มแปลกหน้าให้มาพักกับเขา จากที่คิดว่าอีกคนคงจะทนไม่ได้แล้วจากไป แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก้าวเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจฮันซองจูมากกว่าที่คิด ทำไมแค่มีอีกคนอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็รู้สึกดีขึ้นมาได้ ใครคนหนึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้เขามี ‘ชีวิต’ ขึ้นมา แล้วแขกไม่ได้รับเชิญที่ชื่อคิมจองอู ก็ไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าอีกต่อไป แสดงเพิ่มเติม

Options

not work with dark mode
Reset