ซองจูเหลือบมองท่าทางกลั่นแกล้งกันของจองอูอย่างไม่รู้ตัว แต่ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น เรียวนิ้วของจองอูที่อยู่ข้างในตัวเขาก็จะกดย้ำลงไปที่จุดอ่อนไหวนั่น จึงทำให้ไม่อาจทำอะไรได้เลย
กระทั่งในช่วงเวลาที่ตื่นตระหนก คอของซองจูกลับแห้งผาก เขาไม่ต้องการไปถึงฝั่งฝันด้วยเพียงแค่นิ้วมือ เขาปรารถนาในสิ่งที่มันใหญ่กว่านี้ อะไรที่มันอุ่นกว่านี้ อวบใหญ่กว่านี้ อะไรที่สามารถเติมเต็มตัวเขาได้พอดี ซองจูค่อยๆ ยื่นมือไปด้านหลัง กำรอบส่วนที่แสดงความเป็นชายของจองอูที่ตั้งตระหง่านอย่างดุดันนั่นเอาไว้
“อันนี้ ที่ใช้มันทรมาน…ฉัน”
“นายต้องการแบบนั้นเหรอ”
จองอูทาบทับร่างกายลงไป กระซิบแผ่วเบาข้างใบหูของซองจู เจ้าตัวพยักหน้ารับเสียงกระซิบหวานหูนั่นพร้อมกับที่ซองจูกล่าวอ้อนวอนออกมาอีกครั้ง
“เร็วสิ ได้โปรด…”
คำอ้อนวอนนั้นทำให้จองอูเผยยิ้มหื่นออกมา พร้อมกับค่อยๆ ดึงเรียวนิ้วที่อัดแน่นอยู่ภายในตัวของซองจูออกมา
“อื้อ ฮึก…”
“ทำไม เสียวเหรอ”
เสียงครางดังลอดออกมา มันกำลังบอกว่าแบบนั้น แต่ว่าถึงรู้ก็ยังคงถามออกมาอยู่ดี ซองจูไม่คิดที่จะปิดบังความรู้สึก จึงได้พยักหน้ารับ
“จะเข้าไปแล้วนะ”
“อื้อ!”
ช่องทางที่เปิดขยายออกจากกันเหมือนกำลังรอคอยเพียงให้จองอูเข้ามาเท่านั้น ความอุ่นร้อนจากตัวตนของอีกคนที่แทรกเข้าไปภายในทำให้ซองจูหลุดเสียงหวีดร้องออกมาทันที
แม้จะผ่อนคลายแล้ว ผ่อนคลายอีก แต่น่าประหลาดที่ยังคงรู้สึกเกินจะรับมือเหมือนเป็นครั้งแรก ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเสือกไสตัวตนเข้าไปจนสุด บั้นท้ายอวบและขาวกระจ่างของซองจูสัมผัสถูกขนอ่อนตรงส่วนนั้น และในตอนนั้นเอง เขาจึงได้กอดรัดร่างกายที่กระตุกเกร็งของซองจูเอาไว้ แล้วแนบริมฝีปากประทับจูบลงไปบนต้นคอที่ขึ้นสีแดงจัดซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น ภายในของซองจูเริ่มคุ้นชินอย่างรวดเร็ว จึงได้ตอดรัดตัวตนของจองอูอย่างอ่อนโยน ในตอนนั้นการเตรียมพร้อมทุกอย่างจึงสิ้นสุดลง
“…ไม่ออมมือแล้วนะ”
“ระ เร็วสิ”
เมื่อพูดจบ จองอูก็เริ่มขยับร่างกายแกร่งอย่างช้าๆ ก่อนที่ความรู้สึกวูบโหวงอย่างประหลาดในช่องท้องจะจางหายไป แล้วแทนที่ด้วยความเสียวกระสันที่ล้นทะลักออกมา มันทำให้ซองจูเริ่มขยับทั้งที่ยังคงเผยออ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว
“อื้อ อื้ม อื้อ”
หยาดน้ำลายใสไหลเยิ้มออกมา ด้วยไม่รู้ต้องจัดการอย่างไร จึงได้สอดเรียวนิ้วหนึ่งเข้าไปในปาก เรียวลิ้นที่เริ่มดูดเม้ม รูดรั้งอย่างแผ่วเบาราวกับมันเป็นส่วนที่สำคัญ ความรู้สึกเช่นนั้นมันดีเหลือเกิน ดังนั้นจึงได้สอดเรียวนิ้วเพิ่มเข้าไปอีกหนึ่ง แล้วเริ่มดูดเม้ม รูดรั้งราวกับเป็นตัวตนของเขาอีกอันหนึ่ง จองอูก้มลงมองสีหน้าของซองจูในตอนนั้น พร้อมกับขยับรัวสะโพกให้เร็วขึ้นไปอีก
“ฮึก อื้อ อือ…อึก อื้อ!ฮึก!”
ตอนที่คีบเรียวลิ้นนุ่มเอาไว้ตรงหว่างนิ้ว แล้วออกแรงดึงรั้ง ทุกครั้งที่สัมผัสบดเบียดอย่างหยอกเย้า ท่าทางของซองจูที่ขยับตามการกระทำของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายนั่น ยิ่งทำให้ตัวตนของจองอูคึกคักขึ้นไปอีก แรงตอดรัดส่วนที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จองอูรีบดึงนิ้วออกมา
“อ๊ะ…? อุ๊บ!”
ริทฝีปากของซองจูที่ยังคงเผยอปากค้างด้วยสีหน้าผิดหวังที่ถูกแย่งของเล่นไปอย่างกะทันหันแบบนั้น ก็ถูกโฉบลงไปขบเม้มดูดดึงทันที สองแขนของซองจูจึงเอื้อมไปเกี่ยวต้นคอจองอูให้แนบชิดกันเข้าไปอีก
ทั้งสองขยับสะโพกอย่างร้อนแรง ด้วยร่างกายที่ยังคงเกี่ยวกระหวัดพันกันเช่นนั้น พร้อมทั้งดูดดึงหยอกเย้าริมฝีปากของกันและกัน
“อื้อ อื้ม อึก อือ อื้อ!”
“อึก ฮึก!”
เสียงครางที่ดังขึ้นและเสียงเสียดสีของเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าดดังก้องยิ่งกว่าเดิม ผ้าห่มผืนบางที่เคยคลุมทับอยู่บนตัว ร่วงตกลงไปที่พื้นนานแล้ว และผ้าคลุมตียงสีขาวเนื้อลื่นก็เลื่อนหลุดออกมาเป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าคนทั้งสองก็ไม่คิดที่จะหยุดโหมแรงที่กระแทกเข้าปะทะกันเลยสักนิด
ดูดดึงริมฝีปากนุ่มหยุ่นซ้ำๆ พร้อมทั้งหยอกล้อด้วยการเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นชื้นไปมา ในตอนนั้นก็เกร็งปลายลิ้นครูดไปกับเพดานปาก ช่วงสะโพกกระตุกสั่นทั้งที่ร่างกายยังคงแนบสนิท จังหวะหัวใจที่เต้นรัวจนแทบทะลุออกมา ยากเหลือเกินที่จะจำแนกให้ชัดว่าเป็นของใคร สิ่งที่ยังคงอยู่ภายในห้องนี้มีเพียงความรู้สึกที่ปรารถนาซึ่งกันและกันจนล้นทะลักเพียงเท่านั้น จองอูจ้องมองไปยังแววตาที่ยังคงเลื่อนลอยของซองจู
ลูกแก้วสีน้ำตาลใสกระจ่างและแวววาวกระทบกับแสงภายนอกที่เล็ดลอดผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่างทำให้เกิดประกายน่าพิศวง เขาชอบลูกแก้วคมเข้มสวยงามนั้นเหลือเกิน ในยามที่มันสะท้อนตัวตนที่น่าเกลียดของเขาออกมา ใบหน้าที่นิ่งเฉยและไร้อารมณ์อยู่เสมอนั่น ทุกครั้งที่มองมาที่ตัวเขาด้วยความปรารถนาอย่างที่สุด มันทำให้ชาหนึบขึ้นที่ซอกหนึ่งของหัวใจ หากเพียงสามารถทำได้ แววตานั้นจะแสดงความหยาบคายออกมาเช่นเดียวกับที่อยากถ่ายทอดออกไปจากหัวใจ การยึดติดเช่นนั้นทรมานจองอูอยู่เสมอ แต่ทว่า หากทำเช่นนั้น ฮันซองจูคงต้องขาดใจตาย เขาจึงไม่สามารถมองไปที่อีกคนด้วยแววตาที่ราวกับจะตายนั้นได้ ดังนั้นจองอูจึงแนบชิดร่างกายกับอีกคนครั้งแล้วครั้งเล่า ทรมานซองจูอย่างเอาแต่ใจและเปิดเปลือยความรู้สึกของซองจูครั้งแล้วครั้งเล่า
“ฮึก! อ้า ฮึก! อื้อ!”
ยิ่งจองอูส่งแรงขยับโยกมาเท่าไหร่ ร่างกายของซองจูก็ยิ่งกระตุกสั่นอย่างรุนแรง ทว่าจังหวะสอดประสานก็ยังคงเร่าร้อนขึ้นไปอีกอยู่ดี เมื่อคนทั้งคู่มาถึงสุดปลายทางจนไม่อาจทนต่อไปได้ ร่างกายที่กอดกระหวัดกันอยู่นั้น จึงได้พากันแล่นทะยานไปสู่จุดหมาย
แววตาที่เลือนรางเต็มทีกับความรู้สึกเสียวที่ไม่อาจทนรับไหวทำให้น้ำตารินไหลออกมาอย่างคนเลื่อนลอย สีหน้าเช่นนั้นของซองจูที่ได้เห็นทำให้เขากดจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นซ้ำๆ พร้อมกับที่จองอูโหมแรงทั้งหมดที่มีกระแทกเข้าไปจนลึกสุด
“อึก!”
“อ้า…อื้อ!”
ร่างกายของจองอูกระตุกเกร็ง และในเวลาเดียวกันนั้น ผนังอุ่นด้านในของซองจูก็เริ่มตอดรัดตัวตนของจองอู การขยับอย่างรุนแรงทำให้จองอูลืมกระทั่งหายใจ พร้อมกับปลดปล่อยเข้าไปภายในตัวของซองจู
“อ้า ฮ่า…อื้อ…”
เปล่งเสียงร้องครางออกมา ร่างทั้งร่างสิ้นเรี่ยวแรง จองอูกอดซองจูจากทางด้านหลังพร้อมกระซิบพึมพำออกมา
“…ไม่เป็นไรนะ”
แต่ทว่าซองจูที่ยังไม่อาจรวบรวมสติกลับคืนมานั้น ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เจ้าตัวเพียงพยักหน้าสองสามทีพร้อมกับหอบหายใจหนัก จองอูมองดูท่าทางนั้นอย่างรักใคร่ แล้วจึงค่อยๆ ยกมือขึ้นมาทาบปิดลงบนดวงตาทั้งคู่ของซองจู
“ถ้าเหนื่อยก็นอนเถอะ ที่เหลือฉันจัดการให้เอง”
น้ำเสียงทุ้มต่ำที่แว่วเข้ามาในหูและความอบอุ่นที่ทาบปิดดวงตาเอาไว้นั้น ทำให้ซองจูฝากทุกอย่างไว้กับอีกคน แล้วจมเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างช้าๆ
* * *
“ช่วยมาย้ายอุปกรณ์ตรงนี้หน่อยครับ! อย่าให้ขวางทาง!”
“ขอโทษครับ จะรีบจัดการเลยครับ!”
เสียงรบกวนดังขึ้นมาอยู่เรื่อยๆ ท่ามกลางบรรดาผู้คนที่อัดแน่นอยู่เต็มห้องสตูดิโอ จองอูที่ลงมายังชั้นที่อยู่ด้านล่างห้องทำงานของตัวเอง อันเป็นที่ตั้งของห้องซ้อมวงคราฟท์ ความวุ่นวายที่ทำลายความสงบ ทำเอาเขาขมวดคิ้วมุ่น
ที่สุดแล้ว สารคดีเจ้าปัญหาก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น
เพราะซองฮีที่ขมขู่จีฮุนไว้ล่วงหน้า กระทั่งบทตัวอย่างที่ออกมา คำถามที่ได้รับก็เป็นเพียงเรื่องทั่วไป ไม่มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวของพวกเขารวมอยู่ด้วยเลยแม้แต่น้อย เมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็เป็นเพียงสารคดีที่พูดคุยแต่เกี่ยวกับเรื่องดนตรีก็เท่านั้น แต่ทว่ากลับกันแล้วเหมือนเป็นการเฝ้าดูบรรดาสมาชิกวงคราฟท์ที่กำลังถกเถียงกันว่าแบบนั้นแบบนี้ดีกว่า จองอูก็เพียงนั่งอยู่เงียบๆ พยายามปรับตัวยอมรับกับบรรยากาศแปลกประหลาด
“เอ่อ โทษทีนะครับ แต่ว่าผมอยากติดตั้งกล้องทางด้านนี้สักหน่อย มีพวกเครื่องมืออะไรที่อาจเกิดปัญหา แล้วต้องตรวจเช็คไว้ล่วงหน้าไหมครับ”
พีดีที่ตามจีฮุนมานั้นหันมาเอ่ยถามกับบรรดาสมาชิกวง เซจุนที่รับหน้าที่ในการประสานงานไปโดยปริยายจึงได้รีบเร่งลุกขึ้น แล้วเดินไปทางด้านนั้น
“สักครู่นะครับ จะติดตั้งประมาณไหนเหรอครับ”
“ไม่ได้เจาะเข้าผนังอะไรแบบนั้นหรอกครับ แค่จะตั้งไว้ตรงนี้ ประมาณนี้เท่านั้นแหละครับ”
พีดีที่ยังดูเป็นเด็กใหม่ถือขาตั้งกล้องและตัวกล้องเข้ามาติดตั้งที่มุมหนึ่งของห้องซ้อม ในตอนนั้นเอง ก็ได้เห็นจีฮุนกับซองฮุนกำลังพูดคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
คงจะคุยกันเรื่องตารางถ่ายทำวันต่อไป หรือไม่ก็บทอะไรพวกนั้นมั้ง จองอูที่มองดูสีหน้าไม่พอใจของคนพวกนั้นอยู่ พลันรู้สึกได้ถึงแรงที่แตะลงบนไหล่อย่างไร้สุ้มเสียง แล้วจึงได้หันกลับไปมอง
“ทำอะไร นั่งเหม่อขนาดนั้น”
ซองฮีนั่นเอง
“อ้า แค่ไม่ค่อยมีสมาธิน่ะครับ”
“งั้นเหรอ โคตรวุ่นวาย”
กล่าวออกมาแบบนั้น พร้อมกับลากเก้าอี้เข้ามานั่ง ซองฮีเป็นผู้ชายหน้าตาดีในแบบที่ต่างจากซองจู แค่มองจากท่าทางการนั่งลงบนเก้าอี้ ก็ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นภาพเขียน รู้สึกได้ว่าพีดีที่ถือกล้อง DSLR กำลังมองมาทางนี้ แต่ทว่าคนพวกนั้นต้องทำตามคำสั่งของจีฮุนที่ยังไม่ให้ถ่ายทำอะไร ผ่านไปเพียงไม่นานก็เบนสายตาที่มองมาทางนี้กลับไป ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น มีเพียงซองฮีกับจองอูเท่านั้นที่นั่งเหม่อลอยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำแบบนี้ไปทำไมกัน”
“ทำก็เพราะกิจกรรมมันลดลง หลังจากพี่แต่งงานไงครับ”
“ไอ้เวรที่ไหนมันบอกแบบนั้น”
“พี่ซองฮุนครับ”
“ไอ้บ้าเอ๊ย”
ซองฮีสบถพร้อมกับทิ้งตัวเอนพิงไปกับเก้าอี้
“นั่นอะไรเหรอครับ”
จองอูพยักพเยิดปลายคางไปทางกระดาษเอสี่ที่อยู่ในมือของซองฮี ซองฮีจับกระดาษที่ตรงมุมหนึ่ง ก่อนจะสะบัดไปมา แล้วยื่นพรวดไปตรงหน้าจองอู
“รายละเอียดเรื่องเวลากับเนื้อหาที่ถ่ายทำวันนี้น่ะ ดูไหม”
“ทำไมผมต้องดูล่ะ”
“ยังไงนายก็ต้องถ่ายด้วย เกิดโดนถามขึ้นมากะทันหันจะทำไงล่ะ”
“ก็นั่นสินะครับ”
จองอูรับกระดาษแผ่นนั้นจากซองฮีด้วยสีหน้าไม่ยินดีกับมันสักเท่าไหร่
มองดูเนื้อหาผ่านๆ ให้พอเป็นพิธี รายละเอียดการถ่ายทำในช่วงเวลาตลอดสี่วันนี้ที่ว่ามันก็เพียงแค่การฝึกซ้อม อัดเสียง แล้วก็ประชุมเพียง คำถามส่วนใหญ่ก็มีเพียงเปิดโอกาสให้บรรดาสมาชิกวงคราฟท์ได้มามีส่วนร่วมก็เท่านั้น คำถามสำหรับจองอูก็เพียงแค่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องอัลบั้ม และการมาร่วมงานดิจิตอลอัลบั้มร่วมกับบรรดาสมาชิกวงคราฟท์
“ที่จริงผมไม่ต้องถ่ายทำด้วยก็ได้”
“คิดซะว่าเป็นการเก็บเบื้องหลังละกัน มาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าตัดนายออกคงได้หยิบยกมาเป็นเรื่องอีกแน่”
“ทะเลาะกันไปแล้วเหรอครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก”