(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท – ตอนพิเศษ 2-1 ปลายนิ้ว

ตอนพิเศษ 2-1 ปลายนิ้ว

 

 

 

 

“อ้า อื้อ จองอู นี่ ตรงนั้น ตรงนั้น อีกนิด…” 

 

 

“ตรงไหน พูดมาชัดๆ สิ” 

 

 

“ตะ ตรงนั้น! อื้อ ฮึก…ลึกอีก อีก อีก ฮึก!” 

 

 

หยาดเหงื่อใสถูกขับออกมาจากร่างกายที่โยกคลอนอย่างไร้สตินั้นอย่างต่อเนื่อง เสียงครางกระเส่าที่เต็มไปด้วยความเสียวของซองจูดังก้องไปทั่วห้องนอน ในยามที่เรียวลิ้นนั้นแลบเลียความเค็มปร่าที่ไหลรินลงมาตามแนวคาง 

 

 

ท่าทางที่ต่างไปจากปกติ ร่างกายของซองจูที่ขยับโยกส่วนสะโพกอย่างแข็งขันอยู่ด้านบนของจองอูนั้น เต็มไปด้วยตราประทับสีแดงก่ำ เมื่อได้มองร่องรอยคล้ายดอกไม้ผลิบานกระจายอยู่ทั่วผิวขาว จองอูจึงได้ขยับสะโพกเด้งสวนขึ้นไป ซองจูเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่านอีกครั้ง 

 

 

“ฮึก นาย เกินไปแล้ว…อึก อื้อ!” 

 

 

“อึก!” 

 

 

เลียริมฝีปากบนด้วยเรียวลิ้น พร้อมกับขยับสะโพกเด้งสวนขึ้นไปอีกครั้งจนซองจูชะงักค้างไป ร่างทั้งร่างก็พลันกระตุกเกร็ง ในตอนนั้นเอง ด้วยการขยับตอดรัดอย่างแรงภายในทำให้ความต้องการที่อัดแน่นของจองอูถูกปลดปล่อยออกมาในทันที 

 

 

ซองจูที่ซบลงกับแผ่นอกของจองอูอย่างหมดแรง และได้แต่หายใจหอบถี่อยู่อย่างนั้น จู่ๆ ก็มีสัมผัสจากมือที่แสนอ่อนโยนคอยลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและช่วงเอวของเจ้าตัว 

 

 

“ฮือ อื้อ…ตรงนั้น ไม่ ได้…” 

 

 

อารมณ์ปรารถนาที่ยังไม่มอดไหม้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งด้วยการสัมผัสลูบไล้นั้น การขยับโยกร่างกายอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับปลดปล่อยความต้องการนั้นเข้าไปภายในตัวของซองจูก่อนหน้านี้ แต่ส่วนกลางจองอูกลับเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้งแล้ว 

 

 

“ร่างกายของนายบอกว่าไม่เป็นไรนี่” 

 

 

“นายเนี่ย ถ้ายังทำแบบนี้ แล้วฉันเกิดสลบไปจะทำยังไง…” 

 

 

“ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันก็ดูแลนายไง” 

 

 

ซองจูเหลือบมองจองอูที่กล่าวออกมาอย่างสบายใจพร้อมกับยกยิ้มละไม เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ถึงจะพูดออกมาแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเซ้าซี้ซองจูจริงๆ จองอูกอดร่างกายของอีกคนเอาไว้อย่างเงียบๆ และตบเบาๆ ลงบนแผ่นหลังนั้น 

 

 

คนทั้งคู่ทอดกายอยู่บนเตียงด้วยกัน แนบชิดด้วยความปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ายาวนานตั้งแต่ช่วงกลางวัน จนกระทั่งดวงอาทิตย์นั้นคล้อยผ่านไป บนเตียงที่ไม่อาจระบุได้ว่าแปดเปื้อนความต้องการที่สำลักออกมานับไม่ถ้วนนั้นมากเท่าไรตกอยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เอาเสียเลย เตียงที่เหนอะหนะด้วยคราบน้ำรักของคนทั้งสอง และผ้าห่มที่ปลิวหล่นอยู่ไกลออกไปนั้น ทำให้รู้ได้ว่าการแนบชิดแสนยาวนานนั้นร้อนแรงเพียงใด จองอูโอบกอดร่างกายที่ยังสั่นสะท้านอยู่เล็กน้อยของซองจูเอาไว้ด้วยสองแขน แล้วจึงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู 

 

 

“หนาวเหรอ” 

 

 

“นิดหน่อย” 

 

 

ด้วยคำพูดนั้น เขาจึงค่อยๆ ยกตัวของซองจูลงมา แต่ทว่าอีกคนกลับมีท่าทางดื้อดึง 

 

 

“อื้อ…” 

 

 

เขาไม่สามารถเอาชนะซองจูที่ทำเสียงงอแงออกมาเช่นนั้นได้เลย ดังนั้นแทนที่จองอูจะไปเก็บผ้าห่มขึ้นมา จึงได้เลือกดึงอีกคนเข้ามากอดเอาไว้แทน 

 

 

“เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดหรอก” 

 

 

“ไหนนายว่าจะดูแลฉันไง” 

 

 

“นั่นมันก็แน่อยู่แล้ว” 

 

 

จองอูกล่าวออกมาแบบนั้น แล้วจึงประทับจูบแผ่วเบาลงบนแก้มของซองจูที่ยังคงขึ้นสีระเรื่อให้เห็น 

 

 

“ทำตัวเป็นเด็กๆ แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย” 

 

 

“แล้วไง ไม่ชอบ?” 

 

 

“เปล่า แค่ทำบ่อยๆ ไม่ได้เหรอ” 

 

 

“แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก” 

 

 

หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงคอยลูบหัวของซองจูที่ซุกอกของเขา เมื่อเผลอแสดงท่าทีที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน แล้วจองอูก็ยกยิ้มออกมา 

 

 

พวกเขาใช้ชีวิตร่วมกันในบ้านหลังนี้มาเกินหนึ่งปีแล้วโดยไม่รู้ตัว ย้ายเข้ามาตอนช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ แล้วก็ผ่านช่วงฤดูร้อน ฤดูหนาวมาจนเป็นฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง แล้วก็ใกล้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว คนทั้งคู่ที่ต่างเป็นพวกขี้ร้อน แม้จะหาบ้านที่มีลมพัดผ่านได้ดี ก็ยังคงใช้ชีวิตในตอนกลางวันด้วยการเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้อยู่ดี 

 

 

“ตอนกลางวันอากาศร้อนก็จริง แต่พอเป็นกลางคืนก็เลยหนาวสินะ” 

 

 

“ไม่ใช่เพราะว่าเหงื่อออกเยอะเหรอ” 

 

 

“ยังไงก็ช่าง อย่าอ้วกพอ” 

 

 

นอนแหมะอยู่บนตัวเขาอย่างไร้เรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้น แล้วก็ส่งเสียงบ่นงึมงำออกมาให้หน้าอกได้ขยับสะท้อนขึ้นลง จองอูหัวเราะแผ่วเบาออกมา พร้อมกับออกแรงขยี้ลงบนกลุ่มผมนุ่มที่เปียกชื้นอยู่นิดหน่อยนั่น 

 

 

“นายนี่มัน…!” 

 

 

ด้วยสัมผัสหยอกเย้าเช่นนั้น ซองจูจึงได้เงยหน้าพรวดขึ้นมา แล้วปัดเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าด้านหนึ่งของจองอูขึ้น เมื่อรอยแผลเป็นลึกที่เริ่มจากคิ้วด้านซ้ายพาดไปจนถึงบริเวณหางตาถูกเผยออกมา จองอูก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที 

 

 

“ต้องเอาคืนกันแบบนี้เลยเหรอ” 

 

 

“ก็แล้วทำไมฉันต้องทนอยู่เฉยๆ ด้วยล่ะ” 

 

 

ซองจูพูดแบบนั้นออกมา พร้อมขยับร่างกายขยุกขยิกไปมาบนตัวของจองอู 

 

 

หยอกล้อด้วยการใช้นิ้วเรียวม้วนเส้นผมนั้นไปมา แล้วปัดไปด้านหลังอีกครั้ง เรียวนิ้วที่ขยับขยุกขยิกด้วยความหงุดหงิด ปัดป่ายมันไปด้านทางหลัง เผยให้เห็นส่วนหน้าผาก ที่เป็นสาเหตุว่าทำไมจองอูถึงไม่เคยเปิดเผยใบหน้าทั้งหมด หากต่อหน้าซองจูแล้ว เขาสามารถเปิดเผยมันออกมาได้ทั้งหมด โดยไม่มีความรู้สึกประหม่าเลยสักนิด 

 

 

“ยังรู้สึกอยู่ไหม” 

 

 

ใช้ปลายนิ้วโป้งสัมผัสลงบนรอยแผลเป็นนั้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับกระซิบถามออกมา 

 

 

รอยแผลเป็นนั้นทั้งลึกและไม่เรียบเนียน อาจเพราะการเย็บแผลไม่ดี หรือด้วยสภาพร่างกายก็ไม่อาจรู้ได้ ความขรุขระที่ปรากฏเด่นชัดอยู่บนผิวนั้นได้สร้างรอยตำหนิบนใบหน้าที่หล่อเหลาของจองอู ใบหน้าที่ดูหล่อเหลา หากสีหน้ากลับเรียบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลงกับท่าทางไม่ใส่ใจและเมินเฉยกับทุกสิ่ง ไหล่กว้างผึ่งผายและร่างกายที่มีกล้ามเนื้อพอเหมาะ เมื่อเพิ่มรอยแผลเป็นนี้เข้าไป ในสายตาของคนที่ไม่รู้จักกัน ก็ดูไม่ต่างอะไรจากพวกนักเลงหัวไม้ ใช้ชีวิตมาจนป่านนี้ก็อาจจะได้รับการปฏิบัติด้วยท่าทางแบบนั้นก็ได้ ซองจูค่อยๆ แตะปลายนิ้วเรียวลงบนหน้าผากของจองอู 

 

 

“ไม่ได้โดนตรงเส้นประสาทสักหน่อย” 

 

 

“งั้น ถ้าจับไปแบบนี้แล้วรู้สึกยังไง” 

 

 

“ก็แค่จั๊กจี้หน่อยๆ” 

 

 

จองอูกล่าวออกมาเช่นนั้น ก่อนจะออกแรงกอดรัดช่วงเอวของซองจูแน่นขึ้น 

 

 

“ปวดใจจัง” 

 

 

“อะไรกัน” 

 

 

“ก็นั่นแหละ” 

 

 

ซองจูกล่าวเช่นนั้น พร้อมกับลูบลงไปบนหน้าผากของจองอูซ้ำๆ 

 

 

บาดแผลนั้นลื่นกว่าที่คิด แม้จะปูดนูน แต่ด้วยสัมผัสที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากผิวปกติ เลยทำให้เขาเผลอลูบไล้มันอยู่อย่างนั้น แบบนี้เรียกว่าเสพติดได้หรือเปล่านะ เขาเสพติดทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับคิมจองอูมานานแล้ว การยึดติดเกี่ยวกับแผลนี่ก็ด้วย มันก็คือส่วนหนึ่งของอาการเสพติดเช่นกัน ซองจูค่อยๆ ลดมือลงมากุมแก้มของจองอูเอาไว้ 

 

 

“อืม…” 

 

 

เสียงครางต่ำที่ถูกส่งออกมาด้วยรู้สึกดี ก่อนที่จองอูจะกอดร่างของซองจูแน่นขึ้นไปอีก มือใหญ่บีบลงไปแถวๆ สะโพกอิ่ม อุณหภูมิอุ่นร้อนที่ลุกโชนขึ้นมาจากร่างกายท่อนร่างที่ยังคงเกี่ยวกระหวัดกันอยู่พานให้รู้สึกคันยุบยิบตรงหัวใจ ด้วยความร้อนที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว พวงแก้มทั้งสองข้างขึ้นสีแดงระเรื่อ ดวงตาที่เป็นประกายสุกใสกลับพร่ามัวขึ้นมา ซองจูเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากล่าง ก่อนจะเคลื่อนมือลงมาด้านล่างทีละนิด 

 

 

ร่างกายของจองอูนั้นมีรอยแผลเช่นนี้เกลื่อนเต็มไปหมด เจ้าตัวลากไล้กดนวดฝ่ามือไปตามลาดไหล่ผึ่งผายและกระดูกไหปลาร้าที่ยุบเป็นร่องลึกอย่างพอเหมาะ ลามมาจนถึงแผ่นอกกว้าง 

 

 

“อื้ม…” 

 

 

เสียงครางต่ำดังออกมา และตัวตนตรงช่วงหว่างขาที่ได้รับแรงกระตุ้นกำลังส่งสัญญาณว่ามันกำลังเริ่มคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งสงบลงไป แต่ทว่าซองจูกลับไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเลย มือของอีกคนที่เคลื่อนผ่านไปมาราวกับอสรพิษน้อยบีบ ขย้ำ และปลุกเร้าลงบนร่างกายของจองอูทุกส่วน 

 

 

รอยแผลลึกและเป็นริ้วสีขาวขนาดใหญ่ที่พาดผ่านใต้หน้าอกตรงบริเวณซี่โครงกับบริเวณโดยรอบที่ปรากฏร่องรอยเป็นริ้วแผลขนาดเล็ก และยังรอยข่วนมากมายเต็มแผ่นหลังนั้น เป็นสิ่งที่อยู่กับจองอูมานานแสนนาน เจ้าตัวสัมผัสลูบไล้ลงไปอย่างระมัดระวังราวกับมันเป็นสิ่งล้ำค่า ซองจูนั้นกำลังทำให้จองอูร้อนรุ่ม 

 

 

ร่างกายที่นอนเหยียดตรงของจองอู เปลี่ยนพลิกตัวนอนตะแคงตามการสัมผัสของซองจูนานแล้ว เขามองซองจูที่สัมผัสลงบนร่างกายของเขาราวกับมันเป็นสิ่งล้ำค่า ก่อนจะยกยิ้มอย่างพึงพอใจออกมา 

 

 

“ฮันซองจู” 

 

 

“อือ” 

 

 

ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้ลงบนกลุ่มผมนุ่ม แม้จะเอ่ยเรียกออกไป แต่ก็ตอบกลับมาเพียงสั้นๆ เท่านั้น ซองจูไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เจ้าตัวยังคงซุกหน้าอยู่ตรงหน้าอกของจองอูและค่อยๆ ลูบไล้สัมผัสร่างกายของเขาอย่างตั้งใจ 

 

 

“มองหน้ากันหน่อย” 

 

 

ด้วยคำพูดนั้น ซองจูจึงทำเพียงเหลือบสายตาขึ้นมามองใบหน้าของจองอู ในสายตาพลันปรากฏภาพใบหน้าสมบูรณ์แบบและดูสดใสที่กำลังยกยิ้มกว้าง 

 

 

รอยแผลเป็นนั้น หากเพียงไม่มีมันก็คงไม่ต้องปิดบังใบหน้าหล่อเหลาอีกครึ่งหนึ่งไว้แบบนั้น เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ริมฝีปากล่างของซองจูก็ยื่นออกมาด้านหน้าในทันที 

 

 

แม้จะเป็นยามค่ำคืนในฤดูร้อน จองอูก็ไม่มีทางเปิดเผยใบหน้าที่ถูกปกคลุมอยู่ใต้เส้นผมนั้นออกมาให้เห็น แม้จะถามว่าไม่รู้สึกร้อนหรือไง หากก็ยังคงดื้อรั้น ในตอนที่อยู่กับเขา ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ก็ไม่ตอบรับกลับมา เมื่อทนเฉยไม่ได้ แล้วจึงคิดจะปัดรวบผมให้ แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยกลัวว่าจะโกรธหรือแสดงท่าทีน้อยใจกัน สุดท้ายก็มีเพียงเวลาที่เราแนบชิดกันแบบนี้ ถึงจะได้เห็นใบหน้าทั้งหมดของอีกคน แม้กระนั้น แต่เพราะรู้ว่ามีแค่เขาที่จองอูยอมให้ทำแบบนี้ได้ จึงได้กล้าแสดงท่าทางแบบนี้ออกมา ซองจูค่อยๆ ยื่นมือออกไปคว้ามือข้างซ้ายของจองอูเอาไว้ 

 

 

“เรียกทำไม” 

 

 

ถามกลับไปด้วยเสียงแผ่ว แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาในทันที ด้วยสายตาของจองอูที่จ้องมองมายังใบหน้าของเขาด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มบางๆ เช่นนั้น ทำให้ใบหน้าที่ร้อนผ่าวอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีแดงจัด ซองจูเคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน พร้อมกับสอดเรียวนิ้วของตัวเองเข้ากับนิ้วของจองอู 

 

 

“จะห้ามเหรอ ไม่ชอบ?” 

 

 

“เปล่า” 

 

 

“แล้วทำไมล่ะ” 

 

 

“ก็แค่ ชอบมาก” 

 

 

ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ยังคงมองมาที่เขาอยู่เช่นเดิม สีหน้าของซองจูที่รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้น ปรากฏเป็นรอยยิ้มบางๆ ออกมา ไม่ว่าอย่างไร กับคิมจองอูทุกอย่างล้วนกลายเป็นเป็นครั้งแรก กระทั่งการสารภาพที่น่าอายเช่นนี้ ร่างกายที่ราวกับจะร้อนรุ่มขึ้นมาทุกครั้งที่ได้รับสายตาอบอุ่นนั้น มันนับเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ แม้จะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย หากมันกลับน่าตื่นเต้นจนไม่ใช่ชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายเลย ซองจูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นแล้วขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของจองอู 

 

 

จุ๊บ 

 

 

ริมฝีปากที่แตะลงไปแผ่วเบา ก่อนผละจากไปจนแทบไม่หลงเหลือร่องรอย การจู่โจมแบบกะทันหัน ทำให้จองอูตกใจจนดวงตาทั้งคู่เบิกกว้างขึ้น ซองจูหลับตาลงก่อนจะประทับจูบกับริมฝีปากนั้นอีกครั้ง 

 

 

“อื้อ…” 

 

 

หนักแน่นกว่าเมื่อครู่ กดแนบและดูดดึงริมฝีปากคู่นั้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับออกแรงกระชับเรียวนิ้วที่เกี่ยวกันไว้ให้แน่นขึ้น แม้จะรู้สึกได้ถึงการต่อต้านเล็กน้อย แต่สุดท้ายมันก็สลายหายไป 

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท

ตอนที่ 1 – 5.5 (ตอนพิเศษ) อ่านนิยาย (จบ) ฮันซองจูนักแสดงหนุ่มชื่อดังโดนคู่หมั้นสาวถอนหมั้นอย่างไร้เยื่อใย แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าของต้นสังกัดก็ส่งคิมจองอู ชายหนุ่มแปลกหน้าให้มาพักกับเขา จากที่คิดว่าอีกคนคงจะทนไม่ได้แล้วจากไป แต่กลับกลายเป็นว่าเขาก้าวเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจฮันซองจูมากกว่าที่คิด ทำไมแค่มีอีกคนอยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็รู้สึกดีขึ้นมาได้ ใครคนหนึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้เขามี ‘ชีวิต’ ขึ้นมา แล้วแขกไม่ได้รับเชิญที่ชื่อคิมจองอู ก็ไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าอีกต่อไป แสดงเพิ่มเติม

Options

not work with dark mode
Reset