(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย – ตอนที่ 2-1 จักรพรรดิ

ตอนที่ 2-1 จักรพรรดิ

 

ตอนที่ 2 จักรพรรดิ 

 

 

 

 

 

แน่นอนว่าตัวเขาก็ควรจะวิตกกังวลจนไม่กล้าเอ่ยตอบ จากนั้นน้ำเสียงดุดันกว่าเก่าก็ดังขึ้นจากภายนอก 

 

 

“ข้ารู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน เจ้าทหารข้างนอกบอกข้าหมดแล้ว จงรีบเปิดประตูเสีย!” 

 

 

“รอสักครู่นะขอรับ” 

 

 

โซกังจึงผุดลุกขึ้นจากถังน้ำ เดินไปตรงผนังด้านหนึ่งแล้วจัดการนำผ้าผืนใหญ่สำหรับใช้สอยทั่วไปออกมาคลุมเอาไว้หลายๆ ผืน ผืนหนึ่งคลุมบนกึ่งกลางของถังน้ำ ชายผ้าปกคลุมไปถึงด้านหลังช่วยบดบังช่องว่างไม่ให้ปรากฎออกมา ก่อนจะนำผ้าอีกผืนมาคลุมตัวเอาไว้อย่างลวกๆ แล้วปลดห่วงเปิดประตูออกอย่างช้าๆ 

 

 

หน้าประตูมีบุรุษสองคนแต่งกายด้วยชุดสีดำเช่นเดียวกับผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ ทหารยามถูกผลักตัวลงพื้นอย่างไม่แยแส และเมื่อเห็นว่าไม่มีการขยับเขยื้อนก็คงจะสลบไปแล้ว ร่างบางเอ่ยถามคนพวกนั้นด้วยน้ำเสียงนอบน้อม 

 

 

“มีเรื่องอะไรหรือขอรับ” 

 

 

ทั้งสองชะงักนิ่งไปครู่ขณะจ้องมองโซกัง เส้นผมดำขลับยาวสยายเปียกชื้น ผิวกายขาวกระจ่างภายใต้แสงคบเพลิงสลัวที่ส่องสว่างเลือนรางราวกับแสงจันทร์ แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นบุรุษ หากก็เผลอคิดไปว่าไม่ใช่เทพธิดาฮังอา[1]เสด็จลงมาจากดวงจันทร์หรอกหรือ ทว่าระหว่างพวกเขากำลังคิดเช่นนี้ โซกังกลับนึกถึงเรื่องอื่น อย่างเช่นเรื่องราวน่าเศร้าในอดีตจนดวงตาแดงระเรื่อมองเห็นไม่ชัดเจน 

 

 

บุรุษชุดดำตรึงสายตากับใบหน้าสวย ก่อนจะมองปราดไปตามร่างกายบอบบาง ด้วยจงใจคลุมผ้าอย่างลวกๆ ร่างกายส่วนบนจึงได้เผยให้เห็น ปกปิดเอาไว้เพียงส่วนล่างเท่านั้น โซกังแสร้งทำท่าเอียงอายก้มหน้างุดลง ดึงผ้ามาคลุมตัวอย่างอ้อยอิ่งและเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล 

 

 

“ข้ากำลังอาบน้ำจึงมาเปิดประตูช้า แม้จะมีฐานะเป็นทาส หากก็ยังมีความกระดากอายอยู่เช่นกันขอรับ ขอถามอีกครั้งได้หรือไม่ว่ามีเรื่องอันใด” 

 

 

“อะแฮ่ม ขอโทษที เจ้าได้พบเห็นบุรุษแต่งกายด้วยชุดดำเช่นพวกเราบ้างหรือไม่” 

 

 

“ไม่พบขอรับ ข้ากำลังอาบน้ำอยู่เช่นนี้จะให้ผู้ใดเข้ามาโดยพลการได้อย่างไร” 

 

 

คำพูดนุ่มนวลอ่อนหวานส่งผลให้อีกฝ่ายพยักหน้าคล้อยตาม แต่ก็ยังยื่นใบหน้าเข้าไปด้านในเพื่อสำรวจตรวจสอบ ล้วนมีเพียงสิ่งของจำเป็นและดูเหมือนไม่มีสิ่งใดซุกซ่อนไว้ หลังกวาดสายตามองด้านในรียบร้อยแล้ว ก็ก้าวถอยหลังห่างจากประตูก่อนจะเอ่ยขึ้น 

 

 

“มีผู้บังอาจลักลอบเข้าเรือนของอนุภรรยาท่านรองแม่ทัพ หากช่วยเหลือให้ที่หลบซ่อนจะต้องได้รับโทษ เข้าใจหรือไม่” 

 

 

“ขอรับ ข้าทราบแล้ว ทว่าอย่างไรที่นี่ก็มีเพียงข้าเท่านั้น” 

 

 

โซกังยกมือจับผ้าขึ้นมาปิดปากพลางส่งเสียงไอค่อกแค่ก ชายทั้งสองจึงกระแอมออกมาสองครั้ง ก่อนจะสั่งให้ปิดประตูได้แล้วถอยห่างไป เขาจึงกล่าวขอบคุณและปิดประตูลง  

 

 

จากนั้นก็แนบหูเข้ากับประตูคอยฟังเสียงจากภายนอกครู่หนึ่ง เมื่อเสียงฝีเท้าย่ำลงบนพื้นค่อยๆ ไกลห่าง กระทั่งไม่ได้ยินเสียงใดอีกแล้ว โซกังเลยถอยห่างจากประตูแล้วขยับไปยืนข้างๆ ถังอาบน้ำพลางเคาะเรียก 

 

 

“พวกเขาไปแล้ว ออกมาได้แล้วขอรับ” 

 

 

บุรุษผู้นั้นออกมาจากการซ่อนตัวใต้ถังน้ำก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้า ร่างบางก้าวถอยไปด้านหลังเล็กน้อย พร้อมก้มหน้า เพราะไม่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นผู้ใด ย่อมฐานะสูงส่งกว่าเขาแน่นอน ฐานะทาสนั้นยังต่ำศักดิ์เสียยิ่งกว่าคนฆ่าสัตว์ 

 

 

โซกังรู้ตัวดีจากการใช้ชีวิตในฐานะทาสมากว่าหนึ่งปี ฐานะครึ่งหนึ่งนับว่าเป็นเพียงสัตว์ ไม่ใช่มนุษย์เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ใด ก็ไม่ควรก่อกวนให้เสียอารมณ์จนกลายเป็นปัญหา หรือเป็นอันตรายกับตัวเอง 

 

 

ชายชุดดำหัวเราะให้ท่าทีก้มหน้างุด 

 

 

“การคุ้มกันของกรมพลาธิการมิใช่กระจอก เงยหน้าขึ้น” 

 

 

คำกล่าวนั้นน่าเกรงขามเสียจนไม่อาจขัดขืน แม้จะเป็นน้ำเสียงสุภาพไร้การข่มขู่ แต่กลับมีพลังบีบให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นตาม โซกังค่อยๆ เงยหน้ามองสบตาอีกฝ่าย หลังจากจับจ้องหน้าเขา คนตรงหน้าก็หัวเราะร่าออกมา 

 

 

“รูปลักษณ์ควรค่าแก่การใช้แผนสาวงามเช่นนี้นี่เอง ช่างเป็นบุรุษที่มีเสน่ห์ยิ่ง” 

 

 

“หามิได้ขอรับ” 

 

 

มีเสน่ห์หรือ ตัวเขาไม่มีอะไรเช่นนั้นหรอก แม้จะต้องดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ไม่เป็นไปดั่งคาดคิด ทว่าเขาก็เป็นบุรุษที่เคยมีสตรีคู่หมาย การใช้ถ้อยคำเช่นนี้กับบุรุษด้วยกันเองมิใช่เรื่องน่าขันหรอกหรือ ไม่ใช่ว่าต้องการเปิดเผยร่างกายให้คนพวกนั้นด้วยความเต็มใจ คนที่มีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเช่นนี้ มีเสน่ห์อย่างนั้นหรือ… 

 

 

เพียงแค่พยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเท่านั้น อุตส่าห์ขบคิดวิธีการไล่คนพวกนั้นโดยเร็วที่สุดจึงจำต้องแสดงท่าทางเช่นนั้น ทว่าเมื่อได้ยินคำพูดคล้ายดูแคลนก็พานไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง 

 

 

ร่างบางก้มหน้าลงอีกฝ่าย เมื่อร่างสูงเห็นท่าทางเช่นนั้นก็ต้องส่ายหน้าไปมา ไม่รู้เพราะเหตุใดถึงรู้สึกคุ้นเคยใบหน้างดงามตรงหน้าเหลือเกิน แต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยพบที่ใด บุรุษผู้มีรูปร่างสะโอดสะองเช่นนี้ก็ไม่ได้มีมากมายนัก  

 

 

เคยพบที่ใดกันแน่นะ เจ้าตัวขบคิดอยู่ชั่วครู่พลางกระเดาะลิ้นแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยถาม 

 

 

“เจ้ามีนามว่าอะไร” 

 

 

“สกุลยู นามโซกังขอรับ” 

 

 

“โซกัง… ยูโซกัง” 

 

 

กระทั่งชื่อก็ยังคุ้นเคยนัก… ทว่าขณะนั้นโซกังก็ร้องอึกออกมาพร้อมทรุดตัวลงกับพื้น เนื่องจากยังไม่ได้เอาสิ่งแปดเปื้อนเหล่านั้นออกตั้งแต่ช่วงเย็นจึงเกิดอาการเช่นนี้ คราบคาวสะสมอยู่เป็นเวลานานส่งผลให้มีอาการเฉกเช่นเวลานั้น บุรุษชุดดำเองก็ตกใจเมื่ออยู่ๆ คนตรงหน้าก็ทรุดตัวลงและส่งเสียงร้องคล้ายเจ็บปวดจึงก้มตัวลงไปหา 

 

 

“เป็นอันใดหรือไม่” 

 

 

“มิได้ขอรับ หากไม่มีอันตรายแล้ว ท่านควรรีบออกไปเสียดีกว่านะขอรับ” 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น อีกฝ่ายก็พลันขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์ ร้องอย่างทรมานเช่นนี้ แทนที่จะขอความช่วยเหลือกลับปกปิดและเอ่ยไล่กันเสียนี่ หน้านิ่วคิ้วขมวดพลางขยับริมฝีปากยกยิ้มบิดเบี้ยว ก่อนจะคว้ารั้งปลายคางมนขึ้น 

 

 

“เหตุใดจึงพูดเช่นนั้น เจ้าช่วยเหลือข้า ข้าก็สมควรต้องช่วยเหลือเจ้า เช่นนี้จึงจะถือว่าหายกัน” 

 

 

“ไม่ต้องถือเป็นบุญคุณอันใดหรอกขอรับ” 

 

 

“ช่างดื้อดึงเสียจริง รีบพูดมา” 

 

 

“ได้โปรดออกไปเถิด!” 

 

 

ท้ายที่สุดโซกังก็แผดเสียงตะโกนพร้อมกับปัดมือใหญ่ออกจากคางตัวเอง หลังการกระทำเช่นนั้นจึงสังเกตเห็นถึงขนาดร่างกายที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก จนเรี่ยวแรงเพียงน้อยนิดของตนไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายขยับเขยื้อนได้  

 

 

ชายตรงหน้ามีสีหน้าคุกกรุ่นยิ่งขึ้น ด้วยฐานะที่ครอบครองแล้ว ตนไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน แม้จะรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเกิดขึ้นภายในความทรงจำอันเลือนราง น่าแปลกที่รู้สึกเหมือนเคยพบกัน ทั้งๆ ที่เพิ่งจะพบหน้ากันเป็นครั้งแรก และน่าประหลาดที่อีกคนตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัว 

 

 

แต่ถึงอย่างไรคนผู้นี้ก็ปฏิเสธความช่วยเหลือถึงเพียงนี้ ตัวเขาก็คงทำได้เพียงแค่กลับออกไปเท่านั้น 

 

 

“เข้าใจแล้ว หากเจ้ารังเกียจจะรับความช่วยเหลือจากข้า ข้าก็คงต้องขอลา ขอบคุณสำหรับที่หลบซ่อน” 

 

 

เอ่ยทิ้งท้ายเช่นกันก่อนจะจากไป ทันทีที่ประตูปิดลง โซกังก็คลานช้าๆ นำกระโถนที่อยู่ตรงมุมหนึ่งออกมา เนื่องจากตนไม่สามารถเผยสภาพน่าสมเพชด้วยการนั่งลงบนกระโถนให้ผู้อื่นเห็นได้ จึงทำได้เพียงกัดฟันอดทน 

 

 

เขานั่งลงบนกระโถนทั้งๆ ที่ยังเอาผ้าคลุมตัวอยู่พลางกดนวดลงบนท้อง หลังจากความทรมาน โซกังก็ลงไปแช่ตัวในน้ำที่เย็นชืดไปแล้วอีกครั้ง พยามอดทนกับความเจ็บปวดกวาดควานทำความสะอาดภายในจนหมด ก่อนจะป้ายยาลงบนบริเวณบาดแผลและยัดเม็ดยาเข้าไปด้านในด้วย แม้น้ำจะเย็นเฉียบ ก็ไม่สามารถละเลยการล้างตัว ร่างบางจึงชำระร่างกายด้วยน้ำเย็น จากนั้นก็สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จัดการทำความสะอาดกระโถน ถึงจะก้าวออกจากโรงอาบน้ำ 

 

 

ทหารยามนอนสลบนิ่งสนิท ยามเขาเดินออกมา อีกฝ่ายก็ยังนอนหมอบอยู่บนพื้นเช่นเดิม ด้วยไม่ชอบตะโกนโหวกเหวกเป็นทุนเดิมจึงไม่ได้ส่งเสียงใดๆ ขณะเดินกลับไปยังเรือนนอนอย่างระมัดระวัง และมันก็เป็นเหตุการณ์ที่แน่นอน เพราะในวันถัดมายามเสียงระฆังดังขึ้น โซกังก็ไม่สามารถลุกจากการนอนซมได้ 

 

 

 

 

 

* * * 

 

 

 

 

 

[1] ฮังอา (ฉางเอ๋อ) เป็นเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ตามความเชื่อปรัมปราของจีน โดยนางประทับเฉพาะแต่บนดวงจันทร์เท่านั้น 

(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย

(Yaoi) รุ่งอรุณเคียงหทัย

ยูโซกัง บุตรชายเพียงคนเดียวของอดีตขุนนางกรมราชเลขา ชีวิตต้องพลิกผันจากทายาทขุนนางชั้นสูงกลายเป็นเพียงทาสผู้ต่ำต้อย หลังผู้เป็นบิดาได้รับการตัดสินโทษประหารด้วยข้อหากบฏ จำต้องอดทนอดกลั้นถูกเหล่าทาสข่มเหงรังแกทุกวี่ทุกวัน ทว่าวันหนึ่ง ขณะกำลังชำระล้างร่างกาย เขาบังเอิญช่วยชีวิตคนผู้นึงไว้ได้ โดยหารู้ไม่ว่าคนผู้นั้นคือองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฮยอนวอน ยังจาฮอน ด้วยสาเหตุนั้นเอง ทำให้โซกังได้มีโอกาสเข้าวังหลวง จาฮอนตกหลุมรักโซกัง และพยายามรั้งอีกฝ่ายเอาไว้ข้างกาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาคือบุตรชายของอดีตนักโทษประหารข้อหาร้ายแรงต่อแผ่นดิน ความรักต่างชนชั้นของทั้งคู่จะข้ามผ่านอุปสรรคและคำครหาทั้งหลายไปได้หรือไม่นะ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset