ตอนที่ 286 คดในข้อ งอในกระดูก
ซังจิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อยกำลังจะเตรียมปฏิเสธก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของเจียงมู่เฉิน เอ่ยตอบรับ “ก็ได้ ฉันก็ไม่ได้มีความเห็นไม่พอใจอะไร แต่ไม่รู้ว่าคนข้างกายนายคนนี้จะมีความเห็นไม่พอใจอะไรหรือเปล่า”
ซูเตอร์คว้าแขนของซือเหยี่ยนไว้ “เหยี่ยน นายว่าพวกเรากินข้าวกับคุณชายเจียงด้วยกัน โอเคไหม”
เจียงมู่เฉินได้ยินเสียงหวานจนเลี่ยนเสียงนั้นของเขา ก็อดจะเลิกคิ้วไม่ได้ ไม่รู้จริงๆ ว่าที่แท้ซือเหยี่ยนชอบบุคลิกนิสัยแบบนี้นี่เอง
‘ลำบากเขาแล้วจริงๆ คบกับตัวเองที่หัวร้อนออดอ้อนไม่เป็นมาตั้งนานขนาดนี้’
มิน่าล่ะ ถึงได้คืนดีกับซูเตอร์ แล้วก็สลัดเขาทิ้งไปเลยในทันที
ถึงอย่างไรก็ใช่ ใครจะไม่ชอบคนอ่อนหวานที่ออดอ้อนเป็นบ้าง
เจียงมู่เฉินเชิดตามองซือเหยี่ยนอย่างเย็นชา ความยั่วยุปรากฏในแววตาเล็กน้อย
ซือเหยี่ยนมองเจียงมู่เฉิน แล้วก็เก็บสายตาเข้าไปทันทีหลังจากนั้น “ในเมี่อคุณชายเจียงพูดมาขนาดนี้แล้ว งั้นก็กินด้วยกันก็ได้”
ซูเตอร์ยิ้มอย่างสบายใจ ดูเหมือนจะมีความสุขมาก “ดีไปเลย เหยี่ยน ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะต้องเห็นด้วยแน่นอน”
สายตาเจียงมู่เฉินกวาดมองไล่ตั้งแต่มือของซูเตอร์ที่กอดซือเหยี่ยนด้วยท่าทีเรียบเฉย สีหน้าอารมณ์ไม่สะทกสะท้าน เขาหันข้างเอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อย “ในเมื่อเห็นด้วยก็เข้าไปกันเถอะ”
พูดจบ เจียงมู่เฉินมุ่งหน้าเข้าไปข้างใน ซังจิ่งเดินอยู่ข้างกายเขา ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก บางครั้งก็พูดคุยกันเสียงต่ำ ดูสนิทชิดเชื้อกันเสียเหลือเกิน
ซูเตอร์ลากซือเหยี่ยนเดินอยู่ข้างหลัง เขาเห็นพวกเขาก็จงใจทำเป็นพูดมาจากใจ “คุณชายเจียงพวกเขาสองคนช่างดูเหมาะสมกันดีจริงๆ”
เขาพูดไปด้วยก็แอบสังเกตสีหน้าอารมณ์ของซือเหยี่ยน เห็นใบหน้าของเขาเย็นชาไม่ไหวติงอะไรเกินเลยออกมา ในใจถึงได้ผ่อนคลายลง
ทั้งสี่คนนั่งอยู่ในร้านอาหาร เจียงมู่เฉินนั่งด้วยกันกับซังจิ่ง ซือเหยี่ยนนั่งด้วยกันกับซูเตอร์ ไม่รู้ว่าซูเตอร์จงใจหรือเปล่า ซือเหยี่ยนนั่งอยู่ตรงข้ามเจียงมู่เฉินพอดี
ขอเพียงแต่เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของเจียงมู่เฉินทันที
เริ่มตั้งแต่ที่ลานจอดรถมา ซือเหยี่ยนก็ทำสีหน้าเย็นชามาตลอด ซูเตอร์รินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง “เหยี่ยน คราวหน้าถ้านายยุ่ง ไม่ต้องตั้งใจมารับฉันโดยเฉพาะตลอดหรอก ฉันกลับไปเองก็ได้อยู่”
“ไม่เป็นไร ผมจะมารับคุณ” ซือเหยี่ยนปฏิเสธไปตรงๆ
ซังจิ่งได้ยินคำพูดของทั้งคู่ก็อดจะเลิกคิ้วไม่ได้ “คิดไม่ถึงว่าประธานซือจะเป็นคนที่เอาใจใส่ดูแลกันขนาดนี้”
ซูเตอร์มองซังจิ่ง “เหยี่ยนเขาดีกับฉันมากๆ เลย ครั้งที่แล้วยังบาดเจ็บเพื่อช่วยฉัน ทำเอาฉันตกใจจนอยู่เฝ้าเขาในห้องทั้งวันทั้งคืน”
เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ “ดูท่าว่าประธานซือจะรักนายจริงๆ สินะ”
มือซือเหยี่ยนที่ห้อยลงมาใต้โต๊ะกำแน่นขึ้นมาทันที
“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันรู้จักเหยี่ยนมาตั้งหลายปีขนาดนี้ เขาเคยช่วยชีวิตฉันไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งกี่คราแล้ว”
ซังจิ่งยิ้มหัวเราะ ส่งมือไปรินน้ำให้เจียงมู่เฉินแก้วหนึ่ง “ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ ดื่มน้ำก่อนสิ”
ซูเตอร์เห็นท่าทางเหมือนได้ทำจนชินของซังจิ่งก็จงใจเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “คุณชายเจียง พวกนายคงจะไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นหรอกใช่ไหม…”
ซังจิ่งเอียงหน้ามองเจียงมู่เฉินแวบหนึ่ง แล้วกะพริบตาให้ซูเตอร์ “ใช่สิ ผมกำลังจีบเขาอยู่ เพียงแต่ว่า เขายังไม่ได้ตกลงปลงใจด้วย”
อีกนิดเจียงมู่เฉินจะสำลักน้ำแล้ว รู้ว่าซังจิ่งต้องการจะปั่นเรื่องนี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเรื่องตามจีบตัวเองอย่างเปิดเผยขนาดนี้
ซูเตอร์มองเขาอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่ “จริงเหรอ มิน่าล่ะถึงรู้สึกว่าพวกนายเหมาะสมกันมากทีเดียวเชียว”
ในที่สุดเจียงมู่เฉินก็ทนไม่ไหวยิ้มออกมา เขาวางแก้วลง หยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดที่มุมปาก ฝีมือการแสดงของซูเตอร์ออกจะห่วยไปหน่อย โอเคไหม
เขาเอียงหัวมองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง ถัดมาก็กะพริบตาให้เขา
เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ รินน้ำให้เขาเองด้วยเช่นกัน “ให้นาย รินมารินกลับ”
ทั้งสองคนเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ในท่าทางการกระทำแฝงความรู้ใจกัน สายตาซือเหยี่ยนหยุดลงที่มุมปากที่เชิดขึ้นของเจียงมู่เฉิน ม่านตาหดตัวลงเล็กน้อย
ตอนที่ 287 เกิดอุบัติเหตุ
ซังจิ่งเห็นสีหน้าของซือเหยี่ยนก็อดจะยกมุมปากขึ้นเบาๆ ไม่ได้ เขากวักมือเรียกพนักงานบริการ “ช่วยสั่งโจ๊กไก่ฉีกให้ผมชามหนึ่ง”
เจียงมู่เฉินเอียงหน้ามองซังจิ่ง “ทำไมถึงกินเมนูนี้อีกแล้ว”
“คุณลืมไปแล้วเหรอ ว่าหมอในโรงพยาบาลที่ตรวจคุณพูดว่ายังไงบ้าง” ซังจิ่งยักคิ้ว “วางใจเถอะ ผมรับประกันว่าของที่นี่อร่อยกว่าที่ผมทำ”
เจียงมู่เฉินถอนหายใจเล็กน้อย “นายยังมีหน้ามาพูดอีก โจ๊กนั้นของนาย ถ้าไม่ติดว่าฉันหิวจนไส้กิ่วล่ะก็ กลืนลงไปได้ยากแล้ว”
“คุณชายน้อย นี่คุณจะถีบหัวส่งกันใช่ไหม กินเสร็จก็แขวะกันเลย คุณทำแบบนี้ก็ได้เหรอ”
เจียงมู่เฉินถอยหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตากวาดมองซือเหยี่ยนอย่างไม่สนิทใจ “มีบางคนอยากให้ฉันแขวะ ฉันก็ไม่แขวะ นายก็พอใจในสิ่งที่ได้เถอะ”
ซูเตอร์เห็นพวกเขาสองคนโต้ตอบกันไปมา เขาหรี่ตาลงดูละครฉากเด็ด แล้วจะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ “พวกนายสองคนพักอยู่ด้วยกันเหรอ”
มุมปากเจียงมู่เฉินเชิดขึ้นเล็กน้อย มองซูเตอร์อย่างตามใจ “ใช่สิ มีคนดูแลใกล้ชิดข้างกายทั้งวันยี่สิบสี่ชั่วโมง จะไม่เห็นดีเห็นงามด้วยเหรอ”
เขายิ้มหัวเราะเล็กน้อย “คุณซูเองก็ควรจะชัดเจนกับความรู้สึกที่ได้รับแบบนี้มากอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ซูเตอร์เอียงหน้ามองซือเหยี่ยนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข “แน่นอน เหยี่ยนเขาดีกับฉันเป็นพิเศษเลย”
เจียงมู่เฉินเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของซูเตอร์ ความเย็นชาก็ปรากฏขึ้นในแววตา เขายิ้มเยาะมองคนสองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม
‘นี่ซือเหยี่ยนกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองมากมายเพื่อซูเตอร์จริงๆ’
เมื่อก่อนตอนที่พวกเขาคบกัน ซือเหยี่ยนไม่เคยให้เขาได้สัมผัสอะไรแบบนี้
เจียงมู่เฉินขำหัวเราะ รู้สึกว่าแบบนี้ยิ่งไม่มีความหมายอะไร ในใจเขาโกรธเคืองอยู่ไม่เป็นสุข แต่ซือเหยี่ยนกลับสงบนิ่งดั่งสายน้ำ
เขาไม่รู้ว่าแบบนี้ตัวเองต้องการอยากจะพิสูจน์อะไร
พิสูจน์ว่าตัวเองจะยังปลุกคลื่นแม้เพียงนิดในใจของซือเหยี่ยนได้อยู่อีกหรือเปล่า หรือว่าจะพิสูจน์ว่าตอนนั้นซือเหยี่ยนจริงใจกับเขาสักเท่าไหร่
เจียงมู่เฉินจนใจ ก่อนจะมาอเมริกาอีกครั้ง เขายังหลอกตัวเองไปได้ตั้งเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือ หรือความจริงที่มาวางไว้ตรงหน้า ทั้งหมดก็แจ่มแจ้งชัดเจนที่สุดแล้ว
‘ซูเตอร์ก็ควรจะเป็นแฟนเก่าคนนั้นที่ซือเหยี่ยนเอ่ยถึงสินะ’
เขาลืมไม่ลง แล้วก็เป็นคนที่ไม่กล้าจะลืมด้วย
เจียงมู่เฉินอดจะฝืนยิ้มไม่ได้ ตอนนั้นที่เขาถามซือเหยี่ยน ซือเหยี่ยนปฏิเสธไม่ยอมรับ ที่จริงก็ไม่ได้อะไร เขาเจียงมู่เฉินก็ไม่ใช่คนใจแคบขนาดนั้น
ซือเหยี่ยนชอบซูเตอร์แล้วอย่างไร สำหรับเขา มันเป็นอดีตไปหมดแล้ว
เขาจะไม่แคร์ว่าแฟนเก่าของซือเหยี่ยนคือซูเตอร์ก็ได้ แต่ว่าเขาไม่มีทางจะไม่แคร์ที่พอซูเตอร์หันหลังกลับมา ซือเหยี่ยนก็ทิ้งเขาแล้วจากไปโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
เจียงมู่เฉินกวาดสายตามองทั้งสองคนที่อยู่ตรงข้ามแวบหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็ลุกยืนขึ้นมาทันที “ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ”
เขานั่งอยู่ข้างในลุกยื่นขึ้นเดินมุ่งออกไปข้างนอก ขณะที่เดินอ้อมข้างหลังซังจิ่งไป พนักงานก็มาเสิร์ฟโจ๊กไก่ฉีกที่ซังจิ่งต้องการมาพอดี
เจียงมู่เฉินเดินผ่านด้านข้างของซังจิ่ง กำลังจะเตรียมเดินออกไปข้างนอก เพียงรู้สึกว่าเอียงข้างก็ชนเข้ากับพนักงานเสิร์ฟ
โจ๊กร้อนๆ ในมือที่เพิ่งจะยื่นส่งมา เทเอียงไปทางซูเตอร์
ซือเหยี่ยนเห็นเหตุการณ์แล้วรีบยื่นมือไปดึงซูเตอร์มา แต่ชามโจ๊กร้อนๆ นั้นก็ยังคงเทมาโดนหลังมือของซูเตอร์ไปกว่าครึ่งแล้ว
ซูเตอร์ร้องด้วยความเจ็บปวด เห็นได้ด้วยตาเปล่าว่าหลังมือขาวผ่องแดงถึงขั้นสุด
เขาเจ็บจนดวงตาแดงก่ำ คว้ามือซือเหยี่ยนไว้ “เหยี่ยน เจ็บ…เจ็บจังเลย…”
ซือเหยี่ยนขมวดคิ้ว คว้าตัวเขาพาตัวพุ่งไปล้างมือในห้องน้ำ
เจียงมู่เฉินตะลึงงันทันที หลังจากมองซังจิ่งปราดเดียวแล้ว ถึงได้ตามหลังเข้าไป
“เหยี่ยน มือของฉันจะเหลือเป็นรอยแผลเป็นได้หรือเปล่า…” ความสั่นเครืออยู่ในน้ำเสียงของซูเตอร์ กลัวจนดวงตาหลุบต่ำลง ดูน่าสงสารชัดเจน
“วางใจเถอะ ไม่เกิดรอยแผลเป็นได้หรอก” ซือเหยี่ยนเอ่ยเสียงต่ำ
“เหยี่ยน เจ็บจริงๆ นะ…” เขาเงยหน้ามองซือเหยี่ยน น้ำตาคลออยู่ในดวงตากลมโตคู่นี้
ซือเหยี่ยนรีบเอาน้ำเย็นช่วยเขาชะล้าง แผลน้ำร้อนลวกบนหลังมือพุพองขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ยังเกิดตุ่มน้ำพองขึ้นมาสองตุ่ม ดูๆ ไปแล้วน่าตะลึงต่อกับภาพที่เกิดขึ้นทีเดียว
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไป ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
ซูเตอร์สูดหายใจ พยักหน้าอย่างน่าสงสาร “แล้วพวกคุณชายเจียงจะทำยังไงดี”
ซือเหยี่ยนเอ่ยอย่างเย็นชา “ไม่ต้องสนใจ”