ตอนที่ 476 พี่เหยี่ยน
เจียงมู่เฉินโบกมือไปมาอยู่ต่อหน้าซือเหยี่ยน เหมือนซือเหยี่ยนอยากจะคว้ามือเจียงมู่เฉินเอาไว้ แต่ไขว่คว้าเท่าไหร่ก็จับไว้ไม่ได้เสียที
เจียงมู่เฉินอดจะหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้
ซือเหยี่ยนไม่ได้เมาที่ไหนกัน ถ้าเขาเดาไม่ผิด ตั้งแต่ที่ซือเหยี่ยนไม่พูดไม่จา ก็เมาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพียงแต่ว่าเวลาที่ซือเหยี่ยนเมากลับดูไม่ได้แตกต่างอะไรจากตัวเขาในยามปกติเท่านั้นเอง
ดังนั้นคนรอบข้างจึงสังเกตเห็นไม่ได้มาตั้งแต่แรกแล้ว
อย่าพูดถึงคนอื่นเลย ถ้าหากว่าไม่มองอย่างจริงจังขนาดนี้ ตัวเขาเองก็มองไม่ออก
“ซือเหยี่ยน…พี่ชาย…พี่เหยี่ยน…” เจียงมู่เฉินจงใจแกล้งแหย่เขา
ก็เห็นแค่ดวงตาที่เดิมทีมีความน่ารักอยู่แล้วของซือเหยี่ยนกรอกไปกรอกมา แล้วจ้องมองใบหน้าของเจียงมู่เฉินในทันใด
เจียงมู่เฉินเชิดหางตาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เมาหรือยัง”
ซือเหยี่ยนกะพริบตาปริบๆ พลางเอ่ยเสียงต่ำ “เปล่า”
“เหล้าอร่อยไหม”
“ไม่อร่อย”
“ยังรู้จักฉันไหม”
“รู้จัก”
เจียงมู่เฉินเห็นเขามีท่าทีที่ ‘ถามมาตอบไป’ ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความขบขัน รู้สึกว่าเขาเป็นแบบนี้ น่ารักระเบิดระเบ้อจริงๆ เลย
แตกต่างซือเหยี่ยนก่อนหน้านี้ราวกับฟ้ากับเหวทีเดียว
ใครจะไปคิดว่าดอกไม้บนยอดเขาสูงอย่างซือเหยี่ยนดื่มเหล้าทีจะน่ารักอย่างคาดไม่ถึงได้ขนาดนี้
เจียงมู่เฉินบีบแก้มซือเหยี่ยนเป็นการให้รางวัล เสียงต่ำเอ่ยถามอีกครั้ง “ฉันเป็นใคร”
ซือเหยี่ยนกรอกตาอีกครั้ง “เจียงมู่เฉิน”
“แล้วนายชอบใคร”
“เจียงมู่เฉิน”
“พูดอีกครั้งสิ นายชอบใคร”
ซือเหยี่ยนเอ่ยอีกครั้ง “เจียงมู่เฉิน”
เจียงมู่เฉินเห็นเขาจริงใจซื่อสัตย์ขนาดนี้ ก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ เขาก้มหน้าโน้มเข้าไปใกล้แล้วประทับรอยจูบที่ริมฝีปากของซือเหยี่ยน
“เห็นนายว่าง่ายขนาดนี้ จูบนายเป็นรางวัลนะ”
เจียงมู่เฉินจูบเสร็จ เขาก็ถอยหลังไป ซือเหยี่ยนกุมมือเขาไว้แน่น
ซือเหยี่ยนดึงมือเจียงมู่เฉินมา ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “อยากได้อีก! รางวัล!”
เจียงมู่เฉินถูกความน่ารักของเขาละลายหัวใจแล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้รีบจูบเข้าไปทันที แล้วเอ่ยถามขึ้น “นอกจากเจียงมู่เฉิน นายยังเคยชอบคนอื่นไหม”
ซือเหยี่ยนเงียบไม่พูดจาสักพัก ราวกับว่ากำลังคิดคำถามนี้อย่างจริงจัง
“เคย”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว เขาก็แค่ถามไปงั้นๆ เคยชอบคนอื่นอีกจริงๆ เหรอ
“ใคร”
“เฉินเฉิน”
เจียงมู่เฉินตะลึงงันไปครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะคิกคักทันทีหลังจากนั้น
ซือเหยี่ยนที่ดื่มเหล้าจนเมาดึงมือเจียงมู่เฉินไปมาอีกครั้ง “ขอรางวัลอีก”
“อืมๆ รางวัล ได้ จะให้รางวัลนายนะ” เจียงมู่เฉินพูดไปพลางก้มหน้าลงจูบซือเหยี่ยนอีกที
เจียงมู่เฉินเอ่ยถามอีก “งั้นถ้าทั้งเจียงมู่เฉินและเฉินเฉินไม่ชอบนายแล้ว จะทำยังไง”
ซือเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาที่เดิมทีมีความน่ารักอยู่ในนั้นประกายความอันตรายขึ้นมาวาบหนึ่ง
มือเขาที่ซือเหยี่ยนกุมเอาไว้แต่เดิมก็กระชับแน่นขึ้นมากะทันหัน ซือเหยี่ยนดึงเขาให้ล้มลงไปกองกับพรมปูพื้น
เจียงมู่เฉินเสียหลักล้มลงก็เวียนหัวนิดหน่อย เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นคิดไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะทำอะไรกะทันหันแบบนี้
เขารอเพียงไม่กี่วินาที ถึงได้มองเห็นชัด พอลืมตาขึ้นก็สบกับดวงตาสีดำขลับคู่นั้นที่ดูไม่เหมือนเดิมของซือเหยี่ยน
“ไม่ได้”
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว ไม่ได้อะไร
“ของผม! ไม่ได้”
ซือเหยี่ยนกดเขาไว้อย่างดึงดัน ราวกับว่าถ้าเจียงมู่เฉินกล้าพูดว่า ‘ได้’ เขาก็จะลงมือเดี๋ยวนั้นทันที
ซือเหยี่ยนผู้ในอาการเมาไม่รู้จักออมแรงมือของตัวเอง เจียงมู่เฉินโดนเขากดจนปวดไหล่
เขาขยับตัวอย่างไม่เป็นอิสระ เดิมอยากจะหาท่าทางที่สบายขึ้นมาหน่อย ใครจะคิดว่าพอเขาขยับ ซือเหยี่ยนก็ยิ่งออกแรงมากกว่าเดิม ราวกับกลัวเจียงมู่เฉินจะเดินหนี
เจียงมู่เฉินผ่อนคลายร่างกายนอนอยู่บนพื้นพรม เขาหัวเราะเบาๆ “อืม ของนาย จะชอบคนอื่นไม่ได้”
เหมือนซือเหยี่ยนจะได้ยินคำตอบนี้ ยังไม่พออย่างไรอย่างนั้น
ตอนที่ 477 ผมก็เป็นของคุณเหมือนเดิม
เขาก้มหน้าลงเลียนแบบการกระทำเมื่อครู่นี้ของเจียงมู่เฉิน แล้วประกบจูบริมฝีปากของเจียงมู่เฉิน “คุณเป็นของผม!”
ใบหน้าเจียงมู่เฉินแต่งแต้มรอยยิ้ม โน้มเข้าใกล้ ก่อนจะเอ่ยถามกลับ “แล้วนายล่ะ เป็นของใคร”
“ผมเป็นของคุณ!”
“ถ้าหากว่านายไม่ชอบฉันแล้วล่ะ”
“ผมก็เป็นของคุณเหมือนเดิม”
เจียงมู่เฉินเห็นสีหน้าจริงจังของซือเหยี่ยน เขาก็อดจะอยากเอื้อมมือไปจับซือเหยี่ยนมากดไว้แทน
แต่ว่ายังไม่ทันได้รอเขากดซือเหยี่ยน ซือเหยี่ยนก็ลงมือไปแล้ว
เจียงมู่เฉินรีบยื่นมือไปดึงเขาออกทันที
“เดี๋ยวๆๆ นายอย่าพูดคำสองคำแล้วก็ลงมือเลยสิ”
ซือเหยี่ยนไม่ฟังไม่รับรู้แล้ว
เจียงมู่เฉินเอ่ยอีก “พี่ชาย พี่เหยี่ยน…”
เวลานี้เองซือเหยี่ยนถึงได้เงยหน้าขึ้นมองเขา
เจียงมู่เฉินดึงเสื้อผ้าคนตรงหน้าไว้ “หารือกันหน่อยสิ”
เสียงเขาเพิ่งจะหยุดลง ซือเหยี่ยนก็ดึงเขาออกอย่างรวดเร็วทีเดียวด้วยแรงมหาศาล
เจียงมู่เฉินเห็นสถานการณ์แล้ว ก็ถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ จำใจต้องปล่อยเขาทำอย่างนี้ไป
ผ่านไปครู่ใหญ่ จู่ๆ เขาก็ร้องเรียกขึ้นมา
“ซือเหยี่ยน…”
จู่ๆ เจียงมู่เฉินร้องเรียกเขาขึ้นมา ซือเหยี่ยนได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วหยุดการกระทำในมือลง
เดิมทีเจียงมู่เฉินแค่ร้องเรียกไปเล่นๆ ใครจะคิดว่าซือเหยี่ยนจะหยุดจริงๆ
เขาหัวเราะเบาๆ แล้วโน้มตัวเข้าใกล้ที่ข้างหูซือเหยี่ยน “พี่เหยี่ยน…”
ภายใต้แสงไฟสลัว รอยยิ้มของเจียงมู่เฉินช่างดูเชิญชวนเป็นพิเศษ
เสียงร่ำร้องว่า ‘พี่เหยี่ยน’ นี้ได้ปลุกเร้าซือเหยี่ยนแล้ว ตอนนี้ได้ยินเพียงแค่เสียงฉีกขาด เสื้อเชิ้ตบนตัวเจียงมู่เฉินก็แยกกันไปคนละทางเพียงชั่วพริบตาเดียว
……
ทั้งคืนถูกจับพลิกไปพลิกมา เจียงมู่เฉินรู้สึกว่าซือเหยี่ยนใกล้จะหักเขาแยกออกเป็นสองท่อนแล้ว
เจียงมู่เฉินนอนฟุบอยู่บนเตียง ซือเหยี่ยนยังไม่รู้จักเหนื่อย ไม่รู้จักง่วง
จู่ๆ ซือเหยี่ยนก็ก้มหน้าลงกัดเขาเข้าไปคำหนึ่ง
“ซี๊ด…” เจียงมู่เฉินเอ่ยร้อง ในใจครุ่นคิดอย่างจริงจัง ดูท่าว่าคราวหน้าคราวหลังจะให้ซือเหยี่ยนดื่มจนเมาไม่ได้แล้ว
ดื่มจนเมามาที พละกำลังในการต่อสู้มากกว่าเดิมเป็นสองเท่าจริงๆ
จนกระทั่งท้องฟ้าเปลี่ยนสีสว่างขึ้น เจียงมู่เฉินถึงได้นอนฟุบอยู่บนตัวซือเหยี่ยนด้วยความอ่อนเพลีย หรี่ตาลงแล้วผล็อยหลับไปทั้งอย่างนี้
พวกเขานอนหลับยาวกันจนถึงเที่ยงวันของวันต่อมา เจียงมู่เฉินตื่นขึ้นมาก็เห็นซือเหยี่ยนที่ยังคงหลับสนิทอยู่ เขาอดจะขบกรามไปมาไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เพราะหมดเรี่ยวแรงไปทั้งร่างแล้ว เขาอยากจะต่อยซือเหยี่ยนสักสองหมัดจริงๆ
‘เขาเป็นผู้ชายอกสามศอก มาโดนจับกดไปกดมาแบบนี้ทั้งวัน จะดีจริงๆ เหรอ’
เขาตะเกียกตะกายขึ้นมาจากร่างของซือเหยี่ยนด้วยความยากลำบาก เจียงมู่เฉินคิดอย่างจริงจังว่า เขาต้องไปหาหมอดูอาการที่เอวดีไหม
‘โดนจับดัดไปงอมาแบบนี้ทุกวัน เอวจะรับไม่ไหวแล้วนะ’
ตะเกียกตะกายไปถึงห้องน้ำได้ก็เข้าไปแช่อาบน้ำอยู่สักพัก เพิ่งจะเตรียมลุกขึ้นมา เขาก็เห็นประตูห้องน้ำถูกผลักเปิดเข้ามาจากข้างนอก
ซือเหยี่ยนทรงผมยุ่งนิดหน่อย เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินตรงเข้ามาเลย
เจียงมู่เฉินปวดหัว “พี่ใหญ่ นายไม่รู้จักใส่เสื้อผ้าแล้วค่อยวิ่งมาหรือไง”
ซือเหยี่ยนแทรกตัวเข้ามาอยู่ข้างกายเจียงมู่เฉิน “ถึงยังไงก็ต้องถอดอยู่ดี”
ทั้งสองคนนั่งพิงเรียงหน้ากระดานแช่น้ำอาบด้วยกัน ดีที่น้ำในอ่างอาบน้ำรักษาอุณหภูมิได้ ทั้งสองคนแช่น้ำอาบกันสักพักถึงค่อยออกไปจากห้องน้ำ
หลังจากกินข้าวเสร็จ เจียงมู่เฉินพาซือเหยี่ยนออกไปข้างนอก
ก่อนหน้านี้เขาได้หาสถานที่ที่เหมาะสมไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้มีนัดลงนามในสัญญาร่วมกัน
เมื่อออกไปข้างนอก เจียงมู่เฉินก็โทรหาจี้ฉิง บอกกล่าวถึงที่ตั้งของสถานที่ ให้เธอตามเข้าไป
ทั้งสองคนรีบไปถึงยังสถานที่ที่นัดกันไว้ เจ้าของอาคารนั้นรออยู่ตรงนั้นก่อนแล้ว
พวกเขาทักทายกัน เจียงมู่เฉินหยิบสัญญาขึ้นมาอ่านสักพัก รู้สึกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วพยักหน้ารับ “รอสักครู่ ผมยังมีเพื่อนอีกคนหนึ่ง”
พวกเขานั่งดื่มกาแฟรอกัน ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นในที่สุดจี้ฉิงก็ตามมาทัน
เธอเข้ามาแล้วยิ้มหัวเราะอย่างเคอะเขิน “ขออภัยค่ะ ฉันมาสายนิดหน่อย”
ซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉิน และจี้ฉิง ทั้งสามคนอยู่ในฉากเดียวกันอีกครั้ง คนในร้านกาแฟก็ส่งเสียงอึกทึกครึกโครมกัน
นึกถึงข่าวลือระหว่างสามคนเมื่อก่อนหน้านี้กันโดยอัตโนมัติ
ตามหลักการแล้วจี้ฉิงกับซือเหยี่ยนอยู่ในฐานะแฟนเก่าและแฟนใหม่ ทำไมเวลาส่วนตัวที่อยู่ด้วยกันดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวทีเดียว