ถูกพาตัวไปต่อหน้าสาธารณชน
เพล้ง! ซือเหยี่ยนบีบแก้วแตกคามือ เขาคลายแก้วในมือออก สายตาจับจ้องมาที่เจียงมู่เฉินไม่ละไปไหน ขบกรามแน่นจนเห็นสันกรามชัดตา เขาแทบจะอยากกระโดดขึ้นเวทีไปฉุดปีศาจแสนยั่วเสน่ห์ตนนี้แบกขึ้นบ่ากลับบ้านไปให้รู้แล้วรู้รอด
สีหน้าดำคร่ำเคร่งของซือเหยี่ยนทำให้บริกรที่ยืนอยู่ข้างๆ พอดีตกใจกลัว เห็นกับตาตัวเองทั้งหมดแบบนี้ หนาวคอขึ้นมายังไงชอบกล สองคนสบตากัน ค่อยๆ ถอยออกห่างอย่างเงียบๆ
เจียงมู่เฉินที่อยู่บนเวทีโยนเสื้อเชิ้ตสีขาวบนตัวทิ้งไปเรียบร้อย บรรยากาศร้อนแรงขึ้นทันตา มือของเจียงมู่เฉินวางไว้ตรงกางเกงสีดำที่เหลือเพียงตัวเดียว
ยามเขาใช้มือปลดกระดุมกางเกงเม็ดแรกเม็ดนั้นลงมา คนทั้งไนต์คลับหายใจติดขัดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ทุกคนมองเอวเพรียวบางของอีธานตาไม่กะพริบ
เสียงดังโครมดังสนั่นมาจากข้างหลัง
เนื่องจากในไนต์คลับเงียบลงกะทันหัน เสียงดังนั้นจึงดังชัดเจนเป็นพิเศษ
ทุกคนพร้อมใจกันหันมามองหาต้นตอของเสียง แต่เห็นเพียงแค่โต๊ะที่พลิกคว่ำลงไป ซือเหยี่ยนนั่งหน้าตายอยู่โซฟาข้างๆ
บรรยากาศถูกแช่แข็งไปชั่วขณะ แม้แต่ความรุ่มร้อนในไนต์คลับก็เย็นลงไปเพียงชั่วพริบตา
แววตาเจียงมู่เฉินฉายรอยยิ้มขึ้นมาวาบหนึ่ง เขาไม่กลัวเดินเท้าเปล่าลงเวทีไปทันที คนรอบข้างชะงักงัน ต่างหลีกทางให้อัตโนมัติ
เจียงมู่เฉินเดินตรงไปอยู่ข้างกายซือเหยี่ยน เขานึกสนุกเอามือโอบไหล่ของซือเหยี่ยน ทั้งตัวแนบชิดไปกับร่างของซือเหยี่ยน
ทุกคนตะลึงงันกับภาพตรงหน้า ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ซือเหยี่ยนยังคงสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม เพียงแต่กลิ่นอายแสนเย็นเฉียบราวกับว่าเพียงชั่วเวลานั้นค่อยๆเลือนลางจางลงไปอย่างช้าๆ
เจียงมู่เฉินยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของซือเหยี่ยน เขาโน้มตัวลงมากัดหูชายหนุ่มตรงหน้าเบาๆ
‘นี่ นี่เขาคือซือเหยี่ยนคนนั้น’
คิดไม่ถึงว่าอีธานจะพอใจในตัวซือเหยี่ยน มิหนำซ้ำยังทำเรื่องแบบนี้กับเขาอีก เวลานี้คนในไนต์คลับต่างก็มองมาที่ทั้งสองคน
ส่วนหนึ่งพากันอิจฉาซือเหยี่ยน
อีกส่วนหนึ่งพากันเป็นห่วงอีธาน กลัวซือเหยี่ยนปฏิเสธไม่ไว้หน้าเขา
เพียงครู่เดียวบรรยากาศก็ดูน่าระทึกขึ้นมา
เจียงมู่เฉินกัดหูซือเหยี่ยนเบาๆ ใช้เสียงต่ำที่มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่จะได้ยิน เอ่ยกระซิบ “ทำไม ฉันยังเต้นไม่เสร็จเลย นายก็ทนไม่ได้แล้วเหรอ”
ซือเหยี่ยนใช้มือโอบเอวเปลือยเปล่ากักตัวคนตรงหน้าเอาไว้ อดทนกอดร่างขาวบางไว้ในอ้อมอกของตัวเอง “ลงโทษจบหรือยัง”
เจียงมู่เฉินยกยิ้มเบาๆ “ไฟยังมอดไม่หมด แต่เห็นประธานซือรอฉันมาทั้งบ่ายแบบนี้ ต้องไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนายอยู่แล้ว”
เขาพูดไป พลางฉวยโอกาสกัดมุมปากซือเหยี่ยนไปทีหนึ่ง
ซือเหยี่ยนรัดเอวเขากระชับแน่นขึ้น เขากดหน้าลงกัดฟันพูด “ผมขอโทษ”
เจียงมู่เฉินมองเขาขำๆ “ไม่ใช่มั้ง ซือเหยี่ยน พวกเราเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว จะต้องมาขอโทษให้มากความที่ไหนกันล่ะ”
“คุณจะให้ผมทำยังไง”
“ประธานซือ นายก็ทำอย่างนั้นสิ” เจียงมู่เฉินจูบเขาเบาๆ กดเสียงต่ำเอ่ยเตือน
เสียงเจียงมู่เฉินเพิ่งจะหยุดลงก็มีเสื้อคลุมมาปกปิดเรือนร่าง ทั้งร่างก็ถูกอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว
เขามองดูเสื้อสูทของซือเหยี่ยน ไม่รู้ว่าถอดออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเอามาคลุมตัวเขาแบบนี้
ซือเหยี่ยนอุ้มเขาขึ้นมาแล้วจะเดินออกไปข้างนอก เจียงมู่เฉินเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ทั้งร่างอยู่ในอ้อมอกของซือเหยี่ยนอย่างว่าง่าย
“นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ใครอนุญาตให้นายเอาตัวอีธานไป”
พนักงานในไนต์คลับยังคงตะลึงค้างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตรงหน้า หันมาสบตากันเลิกลั่กถามกันว่าจะต้องไปชิงตัวคนกลับมาไหม
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เฉิงฉีปรากฏตัวออกมา เขามองผู้จัดการไนต์คลับแวบหนึ่ง แล้วส่ายหัวไปมา
พนักงานในไนต์คลับถึงได้พากันหยุดการกระทำไม่เข้าไปยุ่งแล้ว ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ยอมให้พาตัวเจียงมู่เฉินออกไป
แต่…เจียงมู่เฉินถูกพาตัวไปต่อหน้าสาธารณชน ต่อให้พนักงานในไนต์คลับจะไม่เข้าไปยุ่ง พวกแขกที่ตั้งใจมาดูอีธานเป็นพิเศษก็ไม่มีทางยอม
ทุกคนจ้องซือเหยี่ยนเขม็งราวกับต้องการให้เขาปล่อยคนลงเดี๋ยวนั้น