ตอนที่ 256 ทางเลือกที่ยากลำบาก
เจียงมู่เฉินเห็นแม่เขาค้านหัวชนฝาถึงขั้นนี้ ก็ค่อนข้างประหลาดใจทีเดียว เขาคิดว่าตามความชอบที่คุณแม่เจียงมีต่อซือเหยี่ยน จุดนี้ก็ควรจะไม่ได้เสียใจขนาดนั้น
แต่เห็นคุณแม่เจียงในวันนี้ เจียงมู่เฉินถึงได้เข้าใจ ต่อให้คุณแม่เจียงจะชอบซือเหยี่ยนอีกสักแค่ไหน แต่ในความสัมพันธ์ประเภทนี้ เธอไม่มีทางจะยอมรับได้เป็นธรรมดา
เจียงมู่เฉินมองคุณแม่เจียงด้วยใจที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ “ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม่เองก็ชอบซือเหยี่ยนเอามากๆ เขาอยู่ที่บ้านเรากับลูกชายของแม่ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง ทำไมแม่ถึงไม่เห็นด้วยล่ะครับ”
คุณแม่เจียงขอบตาแดงก่ำ เธอพยายามข่มกลั้นอารมณ์ที่อยากระเบิดออกมา พยายามแสดงออกถึงความเป็นคนที่พอมีเหตุผลอยู่บ้างเล็กน้อย
“เจียงมู่เฉิน ลูกมาหาแม่ ตั้งแต่วันนี้ไปกลับบ้านเราไปกับแม่”
“แม่ครับ ที่นี่ก็เป็นบ้านของผมเหมือนกัน”
“หยุดพูด มีแค่บ้านตระกูลเจียงเท่านั้นถึงจะเป็นบ้านของลูก” ในที่สุดคุณแม่เจียงก็ทนไม่ได้ เอ่ยตวาดออกมา
ซือเหยี่ยนเห็นคุณแม่เจียงอารมณ์เดือดดาล ก็รีบดึงเจียงมู่เฉินเข้าหาตัว อยากจะปลอบโยนเขา แต่คุณแม่เจียงกลับเห็นมือที่พวกเขาสอดประสานกันอยู่ฉากนี้พอดี
เธอรีบพุ่งตัวมากระชากมือของทั้งสองคนแยกออกจากกัน “ปล่อยมือ ปล่อยมือ ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!”
ซือเหยี่ยนกลัวจะทำให้คุณแม่เจียงบาดเจ็บ จึงจำใจต้องปล่อยมือเจียงมู่เฉินชั่วคราว เขามองคุณแม่เจียง เอ่ยชี้แจงด้วยความนอบน้อมและจริงใจ “น้าเจียงครับ ผมกับเฉินเฉินชอบกันด้วยใจจริงนะครับ”
คุณแม่เจียงยิ้มเยาะ “ชอบกันด้วยใจจริง?” เธอมองซือเหยี่ยน “น้าเองก็ชอบเราด้วยใจจริง แต่เราล่ะ ไม่ปริปากพูดสักคำก็ทำให้ลูกชายเพียงคนเดียวของน้าเบี่ยงเบน…
…ซือเหยี่ยน เราไม่ละอายใจต่อความรักความชอบที่น้ามีต่อเรามาหลายปีขนาดนี้บ้างเหรอ”
เจียงมู่เฉินฟังไม่เข้าหู รีบออกปาก “แม่ครับ นี่มันไม่เกี่ยวกับซือเหยี่ยนเลย ผมเป็นฝ่ายชอบเขาก่อน และก็เป็นผมที่ต้องการให้เขามาคบกับผม ถ้าแม่จะโทษก็โทษผม”
เวลานี้คุณแม่เจียงฟังประโยคใดใดไม่เข้าหูโดยสิ้นเชิง เธอได้ยินคำพูดปกป้องซือเหยี่ยนได้เต็มปากเต็มคำของเจียงมู่เฉิน ก็ยกฝ่ามือขึ้นมาฟาดใส่เจียงมู่เฉินฉาดใหญ่อย่างรุนแรง
เจียงมู่เฉินโดนตบจนหน้าหันไปอีกฝั่ง ไม่ค่อยกล้าจะเชื่อ หลายปีมานี้แม่เขารักใคร่เอ็นดูเขา ไม่เคยลงไม้ลงมือกับเขาแม้แต่ปลายเล็บ
ซือเหยี่ยนเห็นรอยแดงบนใบหน้าของเจียงมู่เฉิน หัวใจก็อดจะบีบคั้นไม่ได้ ฝ่ามือเดียวยังเจ็บกว่าเฆี่ยนตีไปบนตัวเขา
คุณแม่เจียงมองดูมือตัวเอง รู้ว่าทุกอย่างที่ทำไป เธอสูญเสียการควบคุมไปแล้ว ในใจนึกเสียใจทีหลังอยู่ไม่เบา แต่ในเมื่อฟาดไปแล้ว เวลานี้พูดอะไรไปก็ชดเชยคืนมาไม่ได้
เธอหลับตาลงด้วยความยากลำบาก มองไปทางเจียงมู่เฉินอีกครั้ง แล้วเอ่ยเน้นคำต่อคำ “แม่จะพูดกับลูกเป็นครั้งสุดท้าย กลับบ้านกับแม่เดี๋ยวนี้”
เจียงมู่เฉินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดิมทีเขาคิดจะค้านหัวชนฝาให้ถึงที่สุด อยากจะสู้จนแม่เขาใจอ่อน
แต่ซือเหยี่ยนกลับส่ายหัวอยู่ด้านข้าง…
เจียงมู่เฉินใจสั่นสะท้าน ตัวเองอยู่ต่อหน้าเขาและต่อหน้าแม่เขาแบบนี้ ในใจซือเหยี่ยนเองก็ไม่อาจจะสบายได้ หลายปีมานี้แม่เขาทั้งรักทั้งเอ็นดูซือเหยี่ยนเหมือนลูกคนที่สองมาตลอด
เวลานี้เรื่องของพวกเขาสองคนโดนคุณแม่เจียงจับได้แบบนี้ จะสักเพียงใดก็ยากจะยอมรับได้
คุณแม่เจียงมองเจียงมู่เฉินด้วยอารมณ์เดือดดาล “วันนี้แม่มีสองทางเลือกให้ลูก ต้องการแม่กับของลูก หรือต้องการซือเหยี่ยน เจียงมู่เฉินลูกต้องเลือกด้วยตัวเองแล้ว”
‘ทางหนึ่งคือซือเหยี่ยน อีกทางหนึ่งคือคุณพ่อเจียงและคุณแม่เจียง เขาจะเลือกได้ยังไง’
“แม่ แม่อย่าบีบบังคับผมสิ” เจียงมู่เฉินมองเธออย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาต้องการทั้งสองทางเลือก
“เจียงมู่เฉิน ลูกนั่นแหละบีบบังคับแม่!” คุณแม่เจียงตัวสั่นโดยไม่ตั้งใจ
ทั้งสองคนต่างไม่มีใครยอมใคร กัดไม่ยอมปล่อยทั้งคู่ ซือเหยี่ยนกำมือแน่น เขาเอ่ยเสียงต่ำยุติเหตุการณ์ไม่ยอมอ่อนข้อนี้ลง
“น้าเจียง ให้ผมคุยกับเฉินเฉินสักคำจะได้ไหมครับ”
คุณแม่เจียงมองเขาแวบหนึ่ง สุดท้ายก็ยังพยักหน้าให้อย่างไม่เต็มใจนัก
ซือเหยี่ยนลากเจียงมู่เฉินมาถึงบริเวณหลังรถ ห่างกับคุณแม่เจียงกั้นเพียงหนึ่งฝาผนัง เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าของเจียงมู่เฉิน เอ่ยถามเสียงเบา “เจ็บไหม”
ตอนที่ 257 พวกเราเลิกกัน
เจียงมู่เฉินส่ายหัว “แม่ฉันจะมีแรงได้สักเท่าไหร่ มีอะไรให้เจ็บ”
ซือเหยี่ยนจ้องมองเขาชั่วครู่หนึ่งถึงเอ่ยเสียงต่ำ “คุณกลับไปกับแม่คุณเถอะ”
เจียงมู่เฉินเบิกตากว้างถลึงตามองเขาด้วยความตกใจ “ซือเหยี่ยนนายหมายความว่าไง”
“ผมบอกว่า คุณกลับไปกับแม่คุณเถอะ” ซือเหยี่ยนเอ่ยซ้ำอีกครั้ง
เจียงมู่เฉินกำมือแน่นยืนอยู่ตรงนั้น อุณหภูมิทั่วร่างกายผันผวนถึงจุดต่ำสุด หัวใจเหมือนถูกคนจับมาบีบไว้แน่นสนิทจนหายใจไม่ออก เขาจ้องมองซือเหยี่ยนเอ่ยถามทีละคำ “นี่เป็นครั้งที่สองที่นายให้ฉันไปกับแม่ฉัน ซือเหยี่ยน นายรู้ไหม ถ้าครั้งนี้ฉันไปแล้ว ฉันจะกลับมาไม่ได้แล้วนะ”
ซือเหยี่ยนกดหน้าต่ำลง สีหน้าไม่แปรเปลี่ยน ดูสุขุมใจเย็นอย่างยิ่ง “ผมรู้”
“ถ้าอย่างนั้น…นายยังจะต้องการให้ฉันกลับไปกับแม่ฉันอีกเหรอ”
เจียงมู่เฉินจ้องมองซือเหยี่ยน อยากจะจับพิรุธในตัวเขาสักนิด แต่สีหน้าอารมณ์ของซือเหยี่ยนสงบนิ่งเกินไป เขาดูอะไรไม่ออกสักอย่าง
ซือเหยี่ยนพูดอีกครั้ง “คุณควรจะกลับไป”
เจียงมู่เฉินปัดมือของเขาออก ถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองเขาอย่างเยือกเย็น “ซือเหยี่ยน ขอเพียงแต่วันนี้ฉันจากไป ก็จะเป็นสัญลักษณ์ว่าระหว่างพวกเราเลิกกันโดยสมบูรณ์”
เขาจ้องมองซือเหยี่ยนให้ลึกเข้าไปข้างใน “แม้ว่าจะเป็นแบบนี้ นายก็ยังต้องการให้ฉันไป?”
นัยน์ตาของซือเหยี่ยนฉายสะท้อนความร้าวรานใจขึ้นมาวาบหนึ่ง เพียงไม่นานก็ถูกเขาหยุดยั้งเอาไว้ พลันสูญสลายไปในแววตา
เขาพูดอย่างไม่ช้าไม่เร็ว แต่เสียงกลับเด็ดเดี่ยวผิดปกติ “ใช่ ผมหวังว่าคุณจะไป”
ได้ยินคำว่า ‘ใช่’ ของเขา ความคาดหวังในแววตาที่มีเหลือแค่เพียงน้อยนิดก็ดับสลายไม่เหลือชิ้นดี เขาเห็นใบหน้าของซือเหยี่ยน ก็รู้สึกน่าขันไม่เบาจนอดจะยกยิ้มมุมปากขึ้นไม่ได้
เพียงเสี้ยวนาทีเดียวที่โดนแม่เขาจับได้ ทั้งใจเขาก็คิดว่าจะต้องทำอย่างไรให้แม่เขาเห็นด้วยให้เขาได้คบกับซือเหยี่ยน
จะต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้แม่เขายอมรับซือเหยี่ยนได้
คิดว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะพูดจากโน้มน้าวใจแม่เขาได้
เขาเชื่อมาตลอด ว่าซือเหยี่ยนจะยืนอยู่ข้างเขาตรงนี้ตลอดไปได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็จะสนับสนุนเขาทุกอย่างได้ อยู่เป็นเพื่อนคอยพูดโน้มน้าวแม่เขาทีละนิดๆ
แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าคนที่เขาเชื่อมาตลอดว่าจะยืนอยู่ฝั่งนี้กับตัวเอง จะกลับลำเปลี่ยนไปยืนอยู่ฝั่งนั้นกับแม่ของเขาพูดโน้มน้าวใจตัวเอง…
พูดขึ้นมาก็ตลกไม่เบา เขาเชื่อมั่นทั้งใจ คิดว่าซือเหยี่ยนจะเหมือนกันกับเขาได้ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็จะไม่ปล่อยมือกันไปง่ายๆ
‘แต่ตอนนี้ล่ะ’ เพียงแค่แม่เขารู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาแล้ว เพิ่งจะเริ่มคัดค้าน ซือเหยี่ยนก็ปล่อยมือแล้ว
เจียงมู่เฉินมองดูซือเหยี่ยน อยากรู้ว่าเนิ่นนานมาถึงเพียงนี้ ซือเหยี่ยนจริงใจกับเขาแค่ไหนกันแน่
หรือว่า ตั้งแต่ต้นจนจบซือเหยี่ยนไม่เคยรักเขาเลยสักนิด
ดังนั้นถึงได้พูดให้เลิกกันได้ง่ายดายขนาดนี้
เจียงมู่เฉินยกมุมปากขึ้น เขาเจียงมู่เฉินชั่วชีวิตนี้ไม่เคยพลาดพลั้งเสียทีคนอื่นได้มากขนาดนี้เลย
มอบใจจริงส่งออกไปให้ กลับโดนซือเหยี่ยนทุบลงกับพื้นอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
‘นี่ก็คือคำว่าชอบที่ออกมาจากปากเขาเหรอ’
‘เขาเจียงมู่เฉินไม่ต้องการ!’
“ซือเหยี่ยน ฉันจะถามนายอีกเป็นครั้งสุดท้าย”
“ทุกอย่างในวันนี้ที่นายพูดมาทั้งหมดออกจากใจจริงๆ เหรอ ต่อให้หลังจากนี้ระหว่างพวกเราไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ” เจียงมู่เฉินกำมือไว้ “ต่อให้หลังจากนี้นายกลับมาหาฉันอีก ฉันก็จะไม่ต้องการนายได้”
คำพูดอีกไม่กี่คำสุดท้าย ทุกๆ คำสำหรับเจียงมู่เฉินแล้วช่างยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน ราวกับต้องใช้แรงกำลังจากทั้งร่างกายถึงเค้นออกมาจากคอหอยได้ “ถ้าเป็นแบบนี้ นายยังต้องการให้ฉันไปอีกไหม”
เงียบไม่พูดจากันสั้นๆ เพียงไม่กี่นาที สำหรับเจียงมู่เฉินแล้วมันคือเวลาที่เนิ่นนานชั่วชีวิต…
เขาจดจำได้เพียงซือเหยี่ยนที่พยักหน้าอย่างไร้ความรู้สึก
ราวกับเป็นการใคร่ครวญครั้งสุดท้าย สำหรับซือเหยี่ยนแล้วไม่ต้องใช้เวลามากมาย ก็ให้คำตอบนี้ออกมาได้
“ผมยืนยัน”
สั้นๆ แค่สามคำ ก็เพียงพอจะทำให้เจียงมู่เฉินใจเสีย
เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะ ความเย็นชาปรากฏอยู่ในนัยน์ตาดอกท้อคู่นี้ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็เห็นด้วยเช่นกัน”
เขาพูดจบก็หันกลับมุ่งหน้าเดินออกไป เดินไปได้ระยะห่างประมาณสามก้าว เขาก็หยุดลงกะทันหัน
น้ำเสียงเย็นชาดังทะลุออกมา “ซือเหยี่ยน พวกเราเลิกกัน ต่อไปจะไม่เจอกันอีก”
เขาพูดจบก็เดินจากไปโดยไม่เหลือเยื่อใยความรู้สึกเลยสักนิด
เพียงไม่นานเสียงสตาร์ทรถดังขึ้น รอจนกว่ารถเคลื่อนตัวออกไปลับตาแล้ว ซือเหยี่ยนถึงได้ค่อยๆ ขดตัวทรุดลงไปนั่งยองๆ
เหงื่อท่วมหน้าผากเขา ราวกับเจ็บปวดรวดร้าวถึงขีดสุดอย่างไรอย่างนั้น คนทั้งคนขดตัวลงรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ดูเหมือนจะแข็งทื่อเป็นพิเศษ ปรากฏให้เห็นความบิดเบี้ยวอยู่ในที
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เขาถึงได้ยืนขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้ากลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิม
เพียงแต่ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นไร้เกลียวคลื่น ดุจดั่งน้ำตาย ไม่มีชีวิตชีวาอีกต่อไป…