ตอนที่ 266 ข่าวเดตซุบซิบเต็มหน้าจอ
ช่วงเช้าวันที่สอง จี้ฉิงขลุกตัวอยู่ในโซฟาอ่านหัวข้อพาดหัวข่าวของวันนี้
[เทพธิดาแห่งยุคจี้ฉิงเดตลับๆ กับคุณชายน้อยตระกูลเจียง คุณชายน้อยตระกูลเจียงรักและปกป้องจี้ฉิงขนาดนี้ คิดแล้วอาจจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น]
การพาดหัวข่าวเช่นนี้ระเบิดกระจายไปทั้งโลกออนไลน์ ด้านข้างยังมีรูปประกอบที่เจียงมู่เฉินช่วยเหน็บผมให้จี้ฉิงและที่เขายื่นมือไปโอบประคองจี้ฉิงไว้ด้วยเช่นกัน
มุมที่ถ่ายรูปออกมาดูดีมาก ถ่ายพวกเขาสองคนออกมาได้อย่างชัดเจน
จี้ฉิงนอนฟุบอยู่บนโซฟาเอ่ยจากใจ “เจียงมู่เฉิน รูปนี้ถ่ายคุณออกมาได้ดูดีมากจริงๆ ถ้าได้เข้าวงการบันเทิง คงจะทำให้คนอื่นไม่มีที่ยืนแล้วจริงๆ”
เจียงมู่เฉินหัวเราะเบาๆ “เธอเองก็ไม่เลว”
“เมื่อวานคุณจงใจทำให้ฉันสะดุดใช่ไหม” เธอเดินมาดีๆ ไม่มีทางจะมาล้มกะทันหันได้
เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว “ก็เลียนแบบเธอดู คนเขาลำบากกันไม่เบา ก็ให้ดูมีความหวานบ้าง”
จี้ฉิงส่ายหัวถอนหายใจ “ยังดีที่ฉันไม่ได้ชอบคุณ ไม่งั้นความคิดของคุณแบบนี้ คงโดนคุณปั่นเล่นจนหัวหมุนไปนานแล้ว”
เจียงมู่เฉินมองดูเวลา “สามชั่วโมงแล้ว ฉันก็ควรจะไปได้สักที”
เขาวางนิตยสารในมือลงแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมาอย่างไม่รีบร้อน
จี้ฉิงพินิจมองดูเจียงมู่เฉิน ขาเรียวยาวนี้ รูปร่างนี้ ทำให้คนอิจฉาไม่ไหวเสียจริง
เจียงมู่เฉินกวาดสายมองเธอแวบหนึ่ง “มีอะไรก็ค่อยบอกฉันแล้วกัน ฉันไปแล้ว”
เขาไม่ลังเลอะไร ออกจากคอนโดมิเนียมของจี้ฉิง ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
……
ณ แก๊งมังกรคราม ซูเตอร์เลื่อนอ่านพาดหัวข่าวนี้ก็ยิ้มหัวเราะ คิดไม่ถึงว่าหลังจากเจียงมู่เฉินเลิกกับซือเหยี่ยนแล้ว จะหาดาราสาวคนหนึ่งมา แล้วยังกลายเป็นคนดังในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
เขายกมุมปากขึ้น ไม่รู้จริงๆ ว่าถ้าให้ซือเหยี่ยนเห็นพวกนี้ จะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรได้บ้าง
“คุณชายน้อยครับ คุณซือมาหาครับ”
ซูเตอร์ตาลุกวาว รีบเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เขาเดินถึงประตูก็เห็นซือเหยี่ยนยืนอยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินเข้าไปยืนข้างๆ ซือเหยี่ยน “เหยี่ยน นายมีธุระหาฉันเหรอ”
“วันนี้ต้องไปบ่อน คุณลืมแล้วเหรอ”
“เข้าไปตอนนี้เหรอ” ซูเตอร์นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานเรย์มอนตั้งใจให้วันนี้เขาไปตรวจสอบและสำรวจดูที่บ่อนการพนันสักหน่อย
“อืม ผมเตรียมเสร็จแล้ว ตอนนี้ก็ออกเดินทางกันเถอะ”
ซูเตอร์พยักหน้า เดินออกไปพร้อมซือเหยี่ยน ทั้งสองคนขึ้นรถไป ซือเหยี่ยนเป็นคนขับให้ ซูเตอร์นั่งอยู่ด้านข้าง แกล้งทำทีเป็นเล่นมือถือ
เขาเปิดข่าวที่เพิ่งอ่านเมื่อเช้านี้อีกครั้ง จงใจทำเป็นเลิกคิ้วประหลาดใจ “เป็นข่าวที่สุดยอดจริงๆ เปิดโลกทัศน์ให้ฉันจริงๆ”
ซือเหยี่ยนสีหน้าเย็นชาขับรถไป ไม่ได้พูดอะไร
ซูเตอร์โน้มตัวเข้าไปใกล้ทางฝั่งเขา “เรื่องเกี่ยวกับเจียงมู่เฉิน นายอยากรู้หรือเปล่า”
มือซือเหยี่ยนที่จับพวงมาลัยรถเกร็งแน่น ซูเตอร์ดูสภาพการณ์แล้วก็หัวเราะเบาๆ ไม่รอซือเหยี่ยนพูดก็อ่านออกมา “สาวคนใหม่ของคุณชายน้อยตระกูลเจียงเป็นดาราสาวหน้าตาสะสวยจริงๆ ไม่น่าเลยพวกนายเพิ่งจะเลิกกัน เขาก็ใจเร็วด่วนได้ไปเดตกับคนอื่นซะแล้ว”
ซูเตอร์หัวเราะ “ฉันยังคิดว่าเจียงมู่เฉินชอบนายมาก ตอนนี้คิดๆ ดูก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่”
“พอเถอะ อย่าพูดเลย” สีหน้าซือเหยี่ยนเก็บกดอารมณ์หนักหน่วง เสียงต่ำเอ่ยตำหนิ
ไม่ว่าอย่างไรซูเตอร์ก็จะทำให้เขาสมปรารถนาให้ได้ “ซือเหยี่ยน ฉันรักนายรักเดียวใจเดียว และก็ไม่แย่กว่าเจียงมู่เฉินด้วยหรอกใช่ไหม”
“ซูเตอร์!” ซือเหยี่ยนกล่าวเตือนเสียงดัง
“นายอย่าใจร้อนสิ ที่จริงข่าววก็ไม่ได้มีอะไร ก็แค่คุณชายน้อยเจียงโอบกอดกับดาราสาวคนหนึ่ง แล้วยังไปพักค้างคืนอยู่ในบ้านดาราสาวด้วย จากนั้นโลกออนไลน์ก็แชร์ต่อๆ กันเรื่องข่าวดีของสองคนนี้ก็เท่านั้นเอง”
ซือเหยี่ยนเหยียบเบรกเสียเดี๋ยวนั้น สายตามองซูเตอร์แวบหนึ่งอย่างรวดเร็วและดุดัน “ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต้องเอ่ยถึงเจียงมู่เฉินต่อหน้าผมอีก ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา”
ตอนที่ 267 ซือเหยี่ยนโดนลอบทำร้าย
ซูเตอร์เห็นว่าเขาโกรธจริงๆ แล้ว จึงจำใจต้องเงียบปากไม่พูดอะไรอีก
ถึงอย่างไรเป้าหมายของเขาก็ถึงตามเป้าแล้ว ขอเพียงแต่ซือเหยี่ยนได้รู้เรื่องพวกนี้ของเจียงมู่เฉินก็เพียงพอแล้ว
เขาก็แค่ต้องการให้ซือเหยี่ยนรู้ ว่าเจียงมู่เฉินเป็นคนโลเลสองจิตสองใจ เลิกกับซือเหยี่ยนไม่ทันไร ก็ไปหาคนอื่นแล้ว
‘ไม่มีค่าอะไรคู่ควรให้ซือเหยี่ยนโหยหาคิดถึง’
“เอาล่ะๆ ฉันไม่พูดแล้ว ยังไม่โอเคอีกเหรอ” ซูเตอร์เอ่ยอย่างไม่รู้ไม่ชี้
หลังจากซือเหยี่ยนได้ยิน ถึงได้สตาร์ทรถขับมุ่งหน้าออกไป ซูเตอร์มองดูใบหน้ามุมข้างของเขา สันกรามเกร็งแน่น ความโกรธยังคุกรุ่นแม้จะพร่าเลือน
ความพอใจทอประกายในแววตาซูเตอร์ ขอเพียงแต่ซือเหยี่ยนตัดใจจากเจียงมู่เฉิน แล้วยอมรับเขา ทางก็สะดวกแล้ว
รถขับไปข้างหน้าเรื่อยๆ ด้านหลังก็มีรถคันสีดำขับตามพวกเขามาเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน ซือเหยี่ยนเอียงหัวมองแวบหนึ่ง ดูเหมือนรถคันนี้จะขับตามเขาตลอดหลังจากพวกเขาออกมาได้ไม่นาน
นัยน์ตาฉายแวว หักเลี้ยวเข้าถนนเล็กๆ ข้างทางทันที
ซูเตอร์เห็นเขาเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน ก็รีบถาม “เป็นอะไรไป”
ซือเหยี่ยนบอกใบ้ให้เขามองดูกระจกหลัง ซูเตอร์เอียงหัวมองเข้าไป “รถข้างหลังคันนั้นสะกดรอยตามพวกเรา?”
“อืม พวกเราออกมาได้ไม่นานก็ตามมาเลย ดูท่าว่าจะมีคนรู้ว่าวันนี้พวกเราต้องออกมา”
รถคันนั้นที่ตามมาข้างหลังรู้ว่าพวกเขาไหวตัวทันรับรู้ถึงความผิดปกติแล้ว ก็รีบเร่งความเร็วตามให้ทัน
ซือเหยี่ยนดูสถานการณ์แล้วก็พูดกับซูเตอร์ “นั่งดีๆ”
“อ้อ” เอ่ยรับเสียงเดียว รถก็เร่งความเร็วแล่นไปบนถนนทันที
รถคันข้างหลังก็ไม่ยอมน้อยหน้ารีบขับตามให้ทัน
ความเร็วในการขับรถของซือเหยี่ยนหนีจากรถคันอื่น หลายครั้งที่ใกล้จะชนรถคันข้างหน้า เขาก็จะเปลี่ยนทิศทางมุ่งทะลุไปด้านข้างอย่างรวดเร็วและเต็มกำลัง
รถคันสีขาว รถคันสีดำ รถสองคันนี้ไล่ตามกันไปบนถนน ซือเหยี่ยนสีหน้าเคร่งเครียดเอาแต่จ้องเขม็งไปรอบทิศทาง คิดหาทางหนีไปด้วย พลางป้องกันไม่ให้รถคันข้างหลังไล่ตามมาทันไปด้วย
“ซือเหยี่ยน ทางนั้น”
ด้านข้างมีรถตามมาอีกคัน พุ่งตรงมาจะชนพวกเขา
ซือเหยี่ยนเหยียบเบรกอย่างรวดเร็วและรุนแรง ถอยหลังกลับ หักโค้งไปด้านข้าง
โครมคราม เสียงรถชนสองคันพุ่งชนใส่กัน
ซูเตอร์เห็นรถสองคันข้างหลังนั้น ก็โล่งใจ “ในที่สุดก็คลี่คลายแล้ว”
สีหน้าซือเหยี่ยนกลับคร่ำเคร่งในทันใด “เพิ่งจะเริ่มต่างหาก”
รถสองคันที่จอดอยู่ข้างหน้า ในมือยังถือปืน ดูท่าว่าวันนี้จะไม่คิดให้พวกเขามีชีวิตกลับไปแล้วจริงๆ
ซูเตอร์นัยน์ตาแปรเปลี่ยนฉายความเฉียบคม เขาควานหาคว้าปืนออกมาสองกระบอก ตัวเองถือหนึ่งกระบอก อีกกระบอกส่งให้ซือเหยี่ยน “ระวังด้วย”
ซือเหยี่ยนถือปืนไว้ ขับรถถอยหลังเลี้ยวออกไป รถสองคันนั้นคิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะหนีออกไป จึงรีบตามไปทันที
ซือเหยี่ยนขับรถเร็วสะบัดหนีพวกเขา เอารถจอดไว้ด้านข้าง ทั้งสองคนทิ้งรถอยู่บริเวณไม่ไกลนัก แล้วหนีเข้าภูเขาไป
คนกลุ่มนั้นตามเข้าไปทันทีหลังจากนั้น เห็นรถที่ใต้เขาก็รีบเอ่ย “คนยืนอยู่ข้างบน รีบตามมาให้ฉัน”
คนในชุดดำกลุ่มหนึ่งพุ่งตัวตามเข้าไป
ซือเหยี่ยนพาซูเตอร์มาหาที่ซ่อนตัวที่เหมาะสม เห็นสภาพการณ์ทางด้านล่างได้พอดี
ทั้งสองคนมองข้างล่างภูเขาอย่างใจจดใจจ่อ เป็นอย่างที่คิดไว้ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที ก็มีคนวิ่งขึ้นมา
ซือเหยี่ยนหรี่ตาลงมองคนที่ขึ้นมา มีประมาณหกคน ทั้งหมดมีปืนในมือ
เขามองอย่างละเอียดสักพัก เอ่ยเสียงต่ำกับซูเตอร์ “คุณจัดการสองคนฝั่งนั้น สี่คนฝั่งนี้ผมเอง”
ซูเตอร์จ้องเขม็งมองดูคนไม่กี่คนคนนั้น แล้วพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ ฝีมือยิงปืนฉันยังได้อยู่”
“ดี”
คนกลุ่มนั้นยิ่งเดินยิ่งเข้ามาใกล้ ค้นหาอย่างระมัดระวัง
“พวกเขาสองคนต้องอยู่แถวนี้ ทุกคนระวังตัวให้ดี ไว้ชีวิตไม่ได้สักคน”
“รับทราบครับ” คนไม่กี่คนขานรับอย่างพร้อมเพรียง