ตอนที่ 79 สถานการณ์ศึก
ลางสังหรณ์ไม่ดีของหลานเยี่ยยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเร่งความเร็วในการเดินทางขึ้นไปอีก
การเดินทางที่ใช้เวลาหนึ่งวันนั้นจะบอกว่ายาวก็ไม่ใช่ จะสั้นก็ไม่เชิง จะบอกว่าเหนื่อยก็ไม่ใช่เหนื่อยกาย แต่เป็นเหนื่อยใจ
ตอนที่เดินผ่านประตูใหญ่เขาเทียนปี้นายทหารที่คอยเฝ้าประตูนั้นไม่ได้ผิดปกติไปจากแต่ก่อน ยืนเฝ้าประตูใหญ่อยู่ที่เดิมด้วยท่าทางปกติ
นี่ทำให้หลานเยี่ยแปลกใจเป็นอย่างมาก หรือว่าไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นที่เขาเทียนปี้?
เมื่อเห็นหลานเยี่ยนำทหารมา นายทหารนายหนึ่งก็ขวางพวกเขาเอาไว้
“ท่านประมุขตระกูลหลาน ขออนุญาตถามท่านว่านำทหารมายังเขาเทียนปี้ทำไมหรือ?” นายทหารคนนั้นทำความเคารพก่อน จากนั้นจึงเอ่ยปากถาม
“เขาเทียนปี้…” หลานอีเอ่ยปากพูดก่อน แต่กลับถูกหลานเยี่ยยกมือห้ามไว้
นายทหารคนนั้นเหลือบมองพวกเขาทีหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร
“ตามคำสั่งของหัวหน้าวัง ให้พวกเรามายังเขาเทียนปี้เพื่อฝึกฝน ไปแจ้งหัวหน้าวังอวิ๋นเถิด บอกว่าพวกเรามาถึงแล้ว”
“ท่านประมุขหลานโปรดรอชั่วครู่”
ทหารคนนั้นเข้าไปสอบถาม ทหารอีกนายก็เขามายืนประจำตำแหน่งเดิมของเขา
ไม่นานทหารคนนั้นก็วิ่งออกมาด้วยความลนลาน
“ท่านประมุขหลาย แย่แล้ว คนภายในเขาเทียนปี้สู้กับคนที่ไม่มีที่มาที่ไป ธิดาศักดิ์สิทธิ์พาทหารไปซีเชวีย ขอให้ท่านช่วยเขาเทียนปี้ด้วยเถิด”
“พวกเรารีบเข้าไป”
หลานเยี่ยพาทัพทหารและหลานอีเข้าไปในเขาเทียนปี้ด้วยความกระวีกระวาดร้อนใจ แต่ต้องพบกับคนชุดดำกลุ่มหนึ่งที่ไม่อาจระบุตัวตนได้ กำลังสู้กับทหารเขาเทียนปี้
กระแสพลังที่ใช้นั้นเป็นสถานะไร้สี ไม่ใช่สีฟ้าและไม่ใช่สีม่วง อีกทั้งวิธีการโจมตีหลานเยี่ยก็ไม่อาจอ่านขาด หรือว่าบนแผ่นดินที่กว้างใหญ่นี้ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นอีก?
สถานการณ์นั้นเห็นชัดว่าเอนไปด้านหนึ่ง คนที่เหลืออยู่ในเขาเทียนปี้ล้วนเป็นคนแก่ คนอ่อนแอ คนเจ็บหรือพิการ คนที่เหลือล้วนถูกอวิ๋นหรูพาไปหมดแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่อาจทัดทานได้นานเท่าไร
“ทำไมอวิ๋นหรูถึงได้จากไป?” หลานเยี่ยร้อนใจอย่างมาก
“เจ้าไปช่วยพวกเขาเสียหน่อย ข้าจะไปดูที่อื่น” หลานเยี่ยพูดกับหลานอีจบตนเองก็วิ่งไปที่อื่นแล้ว
หลานเยี่ยรีบรุดเดินทางไปยังเรือนหรงอี้ หลังจากผ่านเข้าประตูไปแล้วถึงพบว่าอาหารบนโต๊ะล้วนเสียหมดแล้ว ด้านนอกไม่มีคน หลานเยี่ยเดินเข้าไปในห้องเห็นอวิ๋นอี้นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบนิ่ง
“ท่านลุง” หลานเยี่ยลองตะโกนเรียก แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับ
หลานเยี่ยลองวัดลมหายใจอวิ๋นอี้ ทันใดนั้นใจก็ต้องกระตุกขึ้นมา
“ท่านลุง” หลานเยี่ยเสียใจอย่างมาก กัดริมฝีปากแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตน อารมณ์ตนเองนั้นจะส่งไปยังหลานเฟิง เขาไม่อาจส่งผลกระทบไปถึงหลานเฟิงได้
หลานเยี่ยขับพลังค้นหาสาเหตุการตายของอวิ๋นอี้ พบว่าอวิ๋นอี้ตายเพราะยาพิษ หลานเยี่ยก็คิดถึงอาหารขึ้นมา หลังจากตรวจดูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่ามีเพียงเหล้าเท่านั้นที่มีพิษ
แต่ยาพิษภายในเหล้าคนที่มีพลังสามารถรับรู้ได้ แล้วทำไมท่านลุงถึงได้ยินยอมพร้อมใจที่จะดื่มลงไป ในที่เกิดเหตุก็ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ บนร่างท่านลุงก็ไม่ได้มีวี่แววโดนบังคับ แท้จริงแล้วเป็นเพราะอะไรกันแน่?
หลานเยี่ยขยับไปพิงโต๊ะข้างหลัง เมื่อกับชนเข้ากับจดหมายฉบับหนึ่งที่ถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยวางอยู่บนโต๊ะ
ข้างบนนั้นเขียนว่าถึงหรูเอ๋อร์
หลานเยี่ยหยิบจดหมายขึ้นมา พบว่าบนนั้นมีเศษชิ้นส่วนของม่านพลังหลงเหลืออยู่ บางทีก่อนหน้านี้มีการตั้งท่านพลังเอาไว้ แต่หลังจากนั้นก็ถูกคนทำลายลง
แต่คนคนนั้นน่าจะไม่สมปรารถนาแค่มองจากกองเลือดข้างๆ ก็พอรู้
หลานเยี่ยเปิดออกดู อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายก็ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง
หลานเยี่ยเก็บจดหมายไว้ที่หน้าอก ตั้งม่านพลังไว้รอบกายอวิ๋นอี้ ทำให้คนอื่นไม่อาจสัมผัสร่างของอวิ๋นอี้ได้
หลานเยี่ยออกมาจากเรือนหรงอี้ด้วยน้ำตาอาบหน้า เข้าร่วมการต่อสู้ในเขาเทียนปี้
ท่านลุง ข้าเชื่อว่าหรูเอ๋อร์จะเข้าใจท่าน แต่ข้าไม่อาจให้อภัยนาง
ตอนที่ 80 เผาวอดเขาเทียนปี้
หลานเยี่ยได้รับการกระตุ้น เมื่อครู่นี้ได้ประสบพบผ่านความเป็นความตาย แม้อวิ๋นอี้จะไม่ต้อนรับเขาอยู่ตลอดตั้งแต่อวิ๋นหรงตายไป แต่เขาก็เข้าใจ
สำหรับเขาอวิ๋นอี้ก็เป็นเหมือนบิดา ตนเองสูญเสียมารดาไปด้วยสถานการณ์เช่นนั้น หลังจากนั้นก็เกือบจะสูญเสียบิดาไป ท่านลุงเพิ่งจะปล่อยวางเรื่องในอดีตได้ ยังไม่ทันได้สัมผัสกับความสุขของครอบครัวที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาก็มาจากไปเสียก่อน
สาเหตุที่สำคัญที่สุดก็คืออวิ๋นหรู เขาไม่อาจให้อภัยนางได้ เขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว นางมีแต่กลับไม่รักษาให้ดี สุดท้ายแล้วต้องการอย่างไรกันแน่? ทำไมถึงได้เอาแต่ใจเช่นนี้
หลังจากที่ตระกูลหลานเข้าร่วมการต่อสู้ก็กลายเป็นดีขึ้นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายนั้นต่อสู้กันด้วยฝีมือที่พอฟัดพอเหวี่ยง พอหลานเยี่ยมาร่วมต่อสู้ก็เปิดการโจมตีแบบบ้าคลั่ง สู้กับชายชุดดำเหมือนมีความแค้นรากเลือดฝังลึก
ไม่นานกลุ่มชายชุดดำก็ตกเป็นรอง
จู่ๆ ชายชุดดำคนหนึ่งก็เขวี้ยงระเบิดควันสองลูกมาทางพวกเขา หลานเยี่ยเพิ่งจะสูดหายใจเข้าก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“กลั้นลมหายใจไว้ ในควันมีพิษ”
แต่เวลาก็ช้าเกินไป ทหารพลังส่วนใหญ่ล้มลงไปแล้ว หลานเยี่ยขับเคลื่อนกระแสพลังมาสู้กลับ แต่พบว่ากระแสพลังเคลื่อนที่ได้ไม่ราบรื่น ควันได้ปิดทางการไหลเวียนของกระแสพลัง
เมื่อเห็นว่าหลานอีที่อยู่ข้างๆ ก็ใกล้จะไม่ไหวแล้ว หลานเยี่ยใช้พลังเฮือกสุดท้ายพาหลานอีออกไปหาพื้นที่บริเวณลับตาแห่งหนึ่ง หลานเยี่ยนอนกองลงไป สติสัมปชัญญะค่อยๆ เลือนราง
ก่อนที่จะสูญเสียสติสัมปชัญญะไปทั้งหมด หลานเยี่ยเหมือนสังเกตเห็นว่าบริเวณฝั่งเขาเทียนปี้นั้นแดงแสบตา
ท่านลุง…
ระหว่างทางกลับเขาเทียนปี้อวิ๋นหรูก็ยังคงคิดถึงเรื่องจดหมายฉบับนั้น ไม่ใช่ท่านพี่เขียนจริงๆ อย่างนั้นหรือ? ถ้าหากไม่ใช่ แล้วเป็นใครกัน? ทำไมถึงได้ทำเช่นนี้ หรือว่ามีคนคิดว่าฉวยโอกาสลอบโจมตีเขาเทียนปี้?
ตระกูลเยี่ยเพิ่งได้รับความพ่ายแพ้ หรือจะยังใช้แผนการอันน่ากลัวอื่นอีก? แต่พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าข้าจะต้องพาทหารไปที่ซีเชวียอย่างแน่นอน?
ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องขึ้นที่เขาเทียนปี้จริงหรอกกระมัง?
อวิ๋นหรูส่งกองทหารให้กับหัวหน้าทัพ ตนเองไล่ตามครุ่นคิดอยู่ข้างหลัง แล้วยิ่งออกห่างตามหลังไปเรื่อยๆ
จู่ๆ แม่ทัพที่ดินนำอยู่ด้านหน้าก็วิ่งมา พูดสิ่งที่ทำให้นางรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“เขาเทียนปี้ ถูกเผาวอดหมดแล้ว”
กลุ่มคนชุดดำเหมือนไม่ได้จากไปไหน แอบอยู่ในบริเวณมืดรอการมาถึงของอวิ๋นหรู
อวิ๋นหรูวิ่งไปข้างหน้า เห็นเขาเทียนปี้อยู่ท่ามกลางทะเลเพลิง เปลวไฟสีแดงนั้นกระจายเต็มพื้นที่ทุกบริเวณ สะท้อนเต็มดวงตาอวิ๋นหรู
“เป็นไปได้อย่างไร ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ท่านพ่อ ท่านอย่าเป็นอะไรไปนะ ท่านพ่อ” อวิ๋นหรูร้องไห้อย่างเจ็บปวด ไม่เชื่อสิ่งที่นางมองเห็น
จู่ๆ คนชุดดำกลุ่มนั้นก็วิ่งออกมา ต่อสู้ไล่ฆ่ากับทหารเขาเทียนปี้ที่เพิ่งกลับมา พวกเขาเหมือนได้รับคำสั่งไม่ให้กลับไป แต่จะต้องต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย
ก่อนที่จะตายกำลังที่ระเบิดออกมานั้นล้วนเป็นพลังการต่อสู้ที่น่าตกใจ ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ต้องพ่ายแพ้ลงเพราะความเหน็ดเหนื่อยที่พานพบก่อนหน้านี้
ชายชุดดำคนหนึ่งตั้งเป้าหมายเป็นอวิ๋นหรูที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก ยกดาบคิดจะฟันลงไป อวิ๋นหรูเงยหน้าขึ้นมาในสภาพน้ำตานองหน้า เพียงมองดาบที่พุ่งมาทางตนเองอย่างนิ่งๆ
แต่ดาบไม่ได้แทงลงมาบนร่างกายของตน ข้างหน้านางมีคนคนหนึ่งยืนอยู่ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนชุดดำ แต่น่าจะเป็นคนที่ได้เห็นภาพในอุโมงค์ลับเป็นคนสุดท้าย
“เจ้าเหมือนกับนางอย่างมาก สวยทั้งนั้น นางมีฉีฮวน แล้วเจ้าหาคนที่ตนรักมากที่สุดพบแล้วหรือยัง?” พูดจบก็ล้มลงไป
ทำไม? ทำไมจะต้องมาตายแทนตน ตนเองที่เป็นเช่นนี้ไม่ควรค่า
อวิ๋นหรูวิ่งไปดูหน้าคนคนนั้น แต่กลับไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร
คนชุดดำเห็นความเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ก็คิดจะแทงอวิ๋นหรูอีกครั้ง อวิ๋นหรูปัดคนคนนั้นออก ผ้าปิดหน้าตกลงมา ใบหน้าที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
“ผิงเอ๋อร์!”