ตำนานรักพันปีตอนตู๋กุยหย่วน
“ใครกันที่กล้าบุกตู๋กุยหย่วนของข้า ยังไม่แจ้งนามมาอีก” หลานเซียวนั่งค่อมอยู่บนต้นไม้ ในมือถือขลุ่ยหยกเล่น
“ข้ามาบ้านตัวเองยังถือว่าบุกรุกหรือ? เจ้ามาอธิบายให้ข้าฟังหน่อยว่าเป็นการบุกรุกหรือไม่” มือทั้งสองข้างชิวจือเว่ยจับต้นไม้เอาไว้ กักหลานเซียวเอาไว้ในอ้อมแขน
“ไหนคือบ้านเจ้า ยังไม่กลับชุนอวี้หว่านของเจ้าอีก”
“เจ้าดูซิว่าชุนอวี้หว่านของข้าน่าฟังเพียงใด ตู๋กุยหย่วน มาเพียงลำพังมักทำให้ทางเดินดูยาวนาน ทำไมถึงไม่หาเพื่อนร่วมทาง สามีภรรยาทำให้บ้านเต็ม ทุกเสี้ยวนาทีในคืนแต่งงานล้ำค่า ใช่หรือไม่?”
“พูดจากะล่อนปลิ้นปล้อน นั่นก็ต้องดูว่าคู่กับใคร” หลานเซียวใช้ขลุ่ยหยกผลักหน้าอกชิวจือเว่ย ชิวจือเว่ยขยับเข้าไปใกล้หลานเซียวขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเข้าไปจูบแล้ว
“ภรรยาใจร้อนแล้ว คิดจะถอดเสื้อสามี”ชิวจือเว่ยจับมือข้างที่ถือขลุ่ยหยกของหลานเซียวเอาไว้
“ใครเป็นภรรยาของเจ้ากัน”
“เช่นนั้นข้าเป็นภรรยาเจ้าก็ได้”
หลานเซียวหลุดหัวเราะออกมา
“เอาเถิด บรรยากาศที่ดีขนาดนี้กลับถูกเจ้าทำลายเสียหมด
“ไหนเล่า ภรรยาคิดจะทำอะไรก็ได้ มิเช่นนั้นก็เริ่มตอนนี้เลยดีหรือไม่?”
“เจ้าว่าอย่างไรเล่า” หลานเซียวใช้มือทั้งสองข้างคล้องคอชิวจือเว่ย ขยับตัวเข้าไป
แสงอาทิตย์ลอดผ่านใบไม้เขียวขจี กลิ่นหอมที่พัดพาตกลงไปบนเงาของคนสองคนที่เกี่ยวรัดกันอยู่ ห่างไปไม่ไกลมีนกที่ปีนอยู่บนขอนไม้ส่งเสียงร้องอย่างเขินอาย เหมือนกับเด็กน้อยจอมซน ยินดีปรีดาไปกับท้องฟ้าที่สดใส
เวลาล่วงเลยไปถึงกลางวันสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเหมือนกับมีหางเล็กๆ งอกออกมา
“ทำไมวันนี้ภรรยาถึงเชื่อฟังจัง? แต่ก่อนไม่ยอมให้ข้าเข้ามาเหยียบซีเชวียแม้แต่ก้าวเดียว” เมื่อจบธุระชิวจือเว่ยให้ศอกประคองศีรษะนอนมองหลานเซียวที่อยู่บนพื้น
“ใช้ชีวิตในวันแสนสงบธรรมดามานานมากจนเกินไป จะต้องหาเรื่องน่าตื่นเต้นเสียหน่อย เจ้าว่าใช่หรือไม่”
“ไม่รู้ว่าเป็นคนแก่ที่ไหนตั้งกฎเอาไว้ ตระกูลหลานและตระกูลเยี่ยไม่อาจแต่งงานข้ามตระกูลได้ บรรดาชายแก่ในตระกูลเยี่ยมักจะต่อต้านข้าที่จะตบแต่งเจ้ากลับไปอยู่เสมอ
“เจ้ากลัวชายแก่พวกนั้นตั้งแต่เมื่อใด”
“อย่างไรหลังจากที่ประมุขคนก่อนตายไปก็เหลือแค่ชายแก่เหล่านั้นไม่กี่คน หลายปีมานี้ข้าโตขึ้นมาได้ก็เพราะพวกเขา แล้วยังจงรักภักดีต่อข้า ข้าไม่อาจทำเกินไปได้”
“แล้วทำไมเจ้าถึงยังก่อการศึกขึ้นอีก?”
“ทั้งสองตระกูลไม่อาจแต่งงานข้ามสกุลได้ เช่นนั้นหากทั้งแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีทั้งตระกูลเยี่ยและตระกูลหลานยังจะมีอะไรที่ไม่อาจแต่งข้ามตระกูลได้อีก”
“หลังจากนี้วางแผนเช่นไร?”
“หลังจากนี้เมืองหลวงล้วนมีแต่ราชสำนัก แล้วก็เป็นเขาเทียนปี้ ทีละก้าวๆ ล้วนต้องแย่งชิงมา”
“ดังนั้นหลานเซียวรอข้ารวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียวแล้ว เจ้าแต่งงานกับข้าเถิด” จู่ๆ ชิวจือเว่ยก็พูดออกมาด้วยความจริงจัง
หลานเซียวจ้องมองเขานิ่งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ มองอยู่ครู่หนึ่งจู่ๆ ก็หัวเราะออกมา
“คนก็เป็นของเจ้าไปแล้ว มาพูดเช่นนี้ตอนนี้มีประโยชน์อะไรกัน? ถึงเวลานั้นเจ้าอย่าผลักความรับผิดชอบก็พอ”
“เป็นไปไม่ได้แน่นอน ข้าชิวจือเว่ยเป็นคนเช่นไรเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ?”
“เช่นนั้นข้าจะเชื่อถือคำสัญญาที่ไม่มีราคานี้ของเจ้า”
“ทำไมจะไม่มีราคาเล่า คำสัญญาของข้ามีราคาที่สุด” ชิวจือเว่ยพูดออกมาด้วยความน้อยใจ
“เช่นนั้นมีราคาเท่าไรเล่า”
“ถึงเวลาแผ่นดินทั้งหมดล้วนเป็นของเจ้า เจ้าว่ามีราคาหรือไม่”
“ข้าไม่ต้องการทั้งแผ่นดิน”
“เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร” ชิวจือเว่ยขยับเข้าไปใกล้อย่างไม่กระมิดกระเมี้ยน
หลานเซียวชี้นิ้วใส่หน้าเขา
“ต้องการข้าหรือ เช่นนั้นก็ง่าย จะเอาอีกสักครั้งหรือไม่”
“อือ…ชิวจือเว้ยเจ้าคนหน้าไม่อาย เจ้าไปอีกฝั่งเลยนะ”
“เจ้า…”