ตอนที่ 175 ฮองเฮา
หลังจากอวี่มั่วจากไป เทียนซีก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง แม้จะไม่ได้ออกไปภาพเหตุการณ์ขึ้นครองราชย์ของอวี่มั่ว แต่เขาก็สามารถจินตนาการได้ อวี่มั่วทรงอำนาจมากเพียงใด แล้วทำให้คนไม่อาจโยกย้ายสายตาได้อย่างไร
รอจนเวลาผ่านไปสักพักใหญ่แล้ว หน้าประตูมีเสียงดังขึ้น เทียนซีคิดว่าอวี่มั่วกลับมาแล้ว จึงออกไปต้อนรับ กลับพบว่าไม่ใช่
ผู้ที่เข้ามาเป็นข้ารับใช้หญิงหลายคน มีคนนำหนึ่งคน เหมือนว่าเป็นนางกำนัลหญิงนางหนึ่ง ยิ้มแย้มแจ่มใสมองเทียนซีและทำความเคารพ จากนั้นก็เรียกบ่าวหญิงสองสามคนด้านหลังให้นำสิ่งของเข้ามา
“นี่คือ?” เทียนซีไม่เข้าใจ
“บ่าวเข้าเฝ้าองค์ฮองเฮาเพคะ” หลังจากที่กลุ่มคนวางของลงแล้ว ก็ทำความเคารพขนานใหญ่แก่เทียนซีทีหนึ่ง ทำให้เทียนซีตกใจเป็นอย่างมาก
“นี่เกิดอะไรขึ้น รีบลุกขึ้นมา”
“ฮองเฮาเหนียงเหนียง ฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์แล้วเพคะ ก่อนที่จะจากไป สั่งให้บ่าวเตรียมสิ่งของเหล่านี้เอาไว้ ให้ฉลองรับองค์ฮองเฮาเหนียงเหนียงเมื่อถึงเวลาอันสมควรเพคะ”
“หา?” เทียนซีจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่บรรดาบ่าวรับใช้ทั้งหลายได้เริ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เทียนซีแล้ว
“พวกเจ้าทำอะไร” เทียนซีหลบไม่ทัน รีบเขยิบตัวหนี
“นี่คือเรื่องที่ฮ่องเต้รับสั่งไว้เพคะ ให้พวกเราจำต้องพาฮองเฮาเหนียงเหนียงไปเพคะ” นางกำนัลหญิงกล่าว
มองดูเครื่องแต่งกายและเครื่องหัวของฮองเฮาที่อยู่บนโต๊ะ เทียนซีกลืนน้ำลายลงคอ ขยับมือพลิกเล็กหน่อย เห็นว่าเป็นชุดผู้ชายถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ข้าใส่เอง พวกเจ้าออกไปก่อนเถิด”
“เกรงว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงไม่ทราบว่าต้องสวมใส่อย่างไร ให้บ่าวปรนนิบัติพระองค์เถิดเพคะ”
“ไม่เป็นไร ข้าใส่เองก็พอ พวกเจ้าออกไปเถิด” เทียนซีหน้าแดงก่ำ ให้พวกเขาออกไป นางกำนัลหญิงผู้นั้นเห็นเทียนซีมีท่าทีเช่นนี้ก็หัวเราะออกมา ดูท่าฮ่องเต้จะตรัสเอาไว้ไม่ผิด ฮองเฮาเหนียงเหนียงช่างขี้อายเสียจริง
“เช่นนี้ หลังจากที่เหนียงเหนียงเปลี่ยนชุดชั้นกลางแล้วก็ตะโกนเรียกพวกบ่าวนะเพคะ ชุดหลังจากนี้พวกบ่าวจะมาเปลี่ยนให้พระองค์อีกครั้งเพคะ”
“ได้ ข้าจะเรียกพวกเจ้า พวกเจ้าออกไปเถิด” หลังจากบรรดาบ่าวรับใช้ออกไป ภายในห้องก็เหลือเพียงเทียนซีคนเดียว มองดูเสื้อผ้าที่อยู่บนโต๊ะ เทียนซีหัวเราะออกมา อวี่มั่ว ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต
หลังจากเทียนซีสวมชุดเสร็จแล้ว หยิบเสื้อผ้าที่เหลือขึ้นมา มองไปมองมา ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่รู้ต้องสวมใส่เช่นไร จำต้องเปิดประตูให้บรรดาบ่าวรับใช้เข้ามาด้วยความจนปัญญา
บรรดาบ่าวรับใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เทียนซีเสร็จแล้ว เห็นการปรนนิบัติที่ซับซ้อนนี้ เทียนซีดูแล้วปวดหัวยิ่งนัก ซับซ้อนเช่นนี้ อีกทั้งยังมีเครื่องประดับมากมายเช่นนี้ หนักเสียจริง
เสื้อผ้าถูกเปลี่ยนเรียบร้อย นางกำนัลหญิงให้เทียนซีนั่งลงหน้ากระจก เพื่อที่จะมัดผมให้เขา หลังจากทำผมเสร็จแล้ว ตบแต่งเครื่องประดับสองสามชิ้น ทำให้นางกำนัลหญิงที่มองดูต้องตะลึงไป
“ฮองเฮาเหนียงเหนียงพระองค์ช่างงามเหลือเกินเพคะ ทำให้บ่าวรู้สึกละอายใจยิ่งนัก!”
เทียนซีมองตนเองที่อยู่ในกระจก เครื่องประดับเป็นกลางสองสามชิ้นประดับอยู่บนศีรษะ ทำให้เทียนซีไม่เพียงดูอ่อนโยนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังดูบุคลิกดีเป็นอย่างมาก เหมือนเดินออกมาจากภาพวาด เทียนซีเองยังรู้สึกอึ้งไป
“ฮ่องเต้ช่างสายตาแหลมคมนักเพคะ สิ่งของเหล่านี้ฮ่องเต้ล้วนเตรียมด้วยตนเองทั้งนั้นเพคะ! แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีฮองเฮาชายมาก่อน ฮ่องเต้ทุ่มเทใส่ใจไม่น้อยเลยเพคะ!” นางกำนัลหญิงเอ่ยชื่นชมอวี่มั่วและเทียนซีอยู่ด้านข้าง หลังจากเทียนซีได้ยินก็ยิ้มออกมาน้อยๆ สวยมากกว่าเดิมอีก
“เหนียงเหนียงเพคะ พวกเราไปกันเถิด เกี้ยวเตรียมพร้อมแล้วเพคะ”
“ดี”
เทียนซีลุกขึ้น ทันใดนั้นก็รู้สึกหนักไปทั้งตัว แต่เมื่อคิดถึงอวี่มั่วก็ไม่มีซึ่งความรู้สึกนั้นแม้แต่นิดเดียว หลังจากเดินออกไปสายตาที่ทิ่มแทงเล็กน้อยทำให้เทียนซีอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
เกี้ยวถูกวางรออยู่ด้านนอกประตูแล้ว เทียนซีถูกนางกำนัลประคองขึ้นเกี้ยวไป ไม่ใช่ว่าตนเองขึ้นไม่ได้ แต่เพราะสิ่งของบนร่างกายยุ่งยากมากเกินไป ทำให้เขาไม่ทันระวังจนโดนบาดเอา
ตอนที่ 176 แผ่นดินกว้างใหญ่จะสู้เจ้าได้อย่างไร
หลังจากพวกเขามาถึงอวี่มั่ว อวี่มั่วก็พูดเรื่องแต่งตั้งฮองเฮาเสร็จพอดี เทียนซีถูกประคองมาด้วยนางกำนัลหญิง ค่อยๆ เดินขึ้นมาบนบันได ทีละก้าวๆ อวี่มั่วยืนอมยิ้มมองเขาจากด้านบน
เดินมาถึงชั้นบนสุด รับมือของเทียนซีไปจับไว้ให้มายืนอยู่จุดที่สูงที่สุดกับเขา ขุนนางบุ๋นบู๊นับร้อยนายด้านล่างพากันคุกเข่าทำความเคารพในทันใด
อวี่มั่วรับตราประทับพญาหงส์มาจากมือคนข้างกาย มอบให้เทียนซี
“นับแต่นี้ใต้หล้าแห่งนี้ข้าและเจ้ามองดูอยู่ด้วยกัน พิธีการออกจะรีบเร่งเกินไป หลังจากนี้จะต้องมีขบวนสินสอดร้อยลี้ ชดเชยให้แก่เจ้า” ตอนที่ทุกคนคุกเข่าทำความเคารพอยู่ด้านล่างอวี่มั่วได้พูดกับเทียนซี
“เท่านี้ก็พอแล้ว เท่านี้ก็พอ” เทียนซีพูดออกมาด้วยความตื้นตัน มือที่ถูกอวี่มั่วจับเอาไว้สั่นอย่างไม่รู้ตัว ในดวงตามีประกายน้ำตาคลอ
“มีความสุขเสียจริง หลานเฟิง มีวันหนึ่งพวกเราเองจะเป็นเช่นนี้หรือไม่” หลานเยี่ยที่อยู่อีกฟากส่งเสียงทอดถอนใจออกมา
“หากเจ้าชอบ ทำเช่นนี้ทุกวันก็ย่อมได้”
“ครั้งเดียวก็พอแล้ว ขอเพียงครั้งเดียวก็พอ หลานเฟิง ข้ารักเจ้าเหลือเกิน” มองดูอวี่มั่วและเทียนซีด้านบน หลานเยี่ยสารภาพรักกับหลานเฟิงอย่างไม่อาจควบคุม
สายตาคลุมเครือของหลานเฟิงไม่อาจควบคุมได้ กอดหลานเยี่ยเอาไว้แน่น
“หลานเฟิง พวกเรากลับกันเถิด ข้าต้องการเจ้า” หลานเยี่ยกอดหลานเฟิง พูดเสียงเบา
“ได้” หลานเฟิงอุ้มหลานเยี่ย ใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดกลับไป
แผ่นดินกว้างใหญ่จะสู้เจ้าได้อย่างไร
รอจนทุกอย่างสิ้นสุดลงแล้ว อวี่มั่วและเทียนซีก็กลับไปพักผ่อนชั่วครู่ จากนั้นก็ไปจัดการเรื่องราวต่างๆ ต่อ
“เสี่ยวซี หลังจากนี้เจ้าสามารถออกว่าราชการพร้อมข้าได้หรือไม่” อวี่มั่วนั่งอยู่ข้างหน้าเทียนซีจับมือของเขาไว้
“วังหลังไม่อาจยุ่งเกี่ยวเรื่องราชการ” เทียนซียิ้มพูดกับเขา
“ฮองเฮาของข้า เจ้าคือฮองเฮาของข้า แต่ วังหลังของข้ามีเพียงเจ้าคนเดียว เจ้าออกว่าราชการพร้อมข้า ย่อมไม่มีใครกล้าพูดอะไร”
“ข้าไม่ไปออกราชการ ข้าคอยอยู่ข้างหลังเป็นอย่างไร”
“ได้”
“เสี่ยวซี ข้าปรึกษาเจ้าเรื่องหนึ่ง วันนั้นข้าไปเดินรอบวังหลังมารอบหนึ่ง พบว่าใหญ่เกินไป มีเพียงพวกเราสองคนจะแลดูใหญ่โตมากเกินไป ข้าอยากให้คนที่หอต้วนอวิ๋นมาที่นี่ทั้งหมดดีหรือไม่
“ได้ ล้วนฟังเจ้า ถึงตาข้าแล้ว” เทียนซียิ้ม พูดพลางมองอวี่มั่ว
“เปลี่ยนแปลงระบบภายในวัง ภายในวังกำจัดระบบขันที และกำจัดระบบที่เคร่งครัดมากจนเกินไป หากมีสองคนที่มีใจสมัครรักใคร่ก็ทำให้พวกเขาสมหวัง และให้พวกเขามาพักอาศัยในวังหลัง เจ้าว่าอย่างไร”
“เสี่ยวซี เจ้าสุดยอดมาก แต่พวกเราจะต้องพูดกล่อมบรรดาขุนนางใหญ่เสียก่อน พยายามไปด้วยกันเถิด”
“อืม พยายามไปด้วยกัน”
อวี่มั่วออกว่าราชการ เทียนซีนั่งฟังอยู่ด้านหลัง หลังจากที่อวี่มั่วพูดความคิดของเขาและเทียนซีออกมา บางครั้งที่มีคนสองคนออกมาต่อต้าน รู้สึกไม่เหมาะสม แต่ล้วนถูกหลานอวี่กดลงไป
รอจนหลังเรื่องราวเหล่านี้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว อวี่มั่วก็เอ่ยปากพูดเรื่องสำคัญ
“เรื่องแรกของการขึ้นครองราชย์ ทุกคนคงรู้แล้วกระมัง” อวี่มั่วถาม ด้านล่างกลับไม่มีคนตอบรับ
“เหตุใดจึงไม่พูดจา” อวี่มั่วถามขึ้น หลานอวี่เงยหน้าขึ้นมองอวี่มั่วทีหนึ่ง ยืนขึ้นมา
“เรื่องแรก ย่อมเป็นการกำจัดพรรคพวกตระกูลเยี่ย ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จากนั้นก็อบรมฝึกซ้อมพลทหาร ป้องกันการบุกรุกจากตระกูลเยี่ยพ่ะย่ะค่ะ”
“ดี คนที่รู้ใจข้า ท่านที่ปรึกษา ทุกท่านด้านล่าง ยังมีพรรคพวกตระกูลเยี่ยอยู่หรือ” อวี่มั่วเงยหน้าขึ้นถาม
มีหลายคนที่เกิดไม่สบายใจขึ้นมาในฉับพลัน อวี่มั่วถือครองข้อมูลของทุกคนไว้แล้ว ฉะนั้นใครเป็นผู้ปกป้องตระกูลเยี่ย ไม่จำเป็นต้องให้เขาตรวจสอบอีก
“ทุกคนไม่ต้องกังวลใจ หากเจ้าคิดได้แล้ว ราชสำนักย่อมต้องรับเจ้าเหมือนเดิม แต่หากเจ้ายังหลงผิดอย่างกู่ไม่กลับก็อย่าได้มาโทษข้า”
คำพูดของอวี่มั่วเพิ่งจบลง ก็มีคนสองสามคนยืนขึ้นมา คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยอาการตัวสั่นสะท้าน
“หม่อมฉันยินยอมกลับเข้าราชสำนัก มีใจมุ่งมั่นต่อราชสำนัก นับแต่นี้ถอนความสัมพันธ์กับตระกูลเยี่ย”
“ดีมาก คนอื่นเหล่า” อวี่มั่วกวาดตามองด้านล่าง ไม่มีความเคลื่อนไหว จากนั้นอวี่มั่วตบมือเรียกองครักษ์สองสามนายเข้ามา