“มันน่าสงสัยมาก ท่านเอาเเต่บอกข้าว่าไม่ต้องคิดมากอย่าตื่นตัว และให้ไว้ใจท่านได้” ชูชูกล่าว ขณะที่เธอจ้องมองหลินเสี่ยวเฟย
“ข้าเข้าใจ เเต่ไม่เป็นไร เพราะเราก็ค่อนข้างเหมือนกัน” หลินเสี่ยวเฟยถอนหายใจ
เเละตัดสินใจ ที่จะไม่บังคับให้ชูชูเชื่อเธอ ตรงกันข้าม เธอดีใจที่ชูชูคอยระวังตัวอยู่เสมอ และไม่เชื่อใจใครง่ายๆ เเต่เกรงว่ามันจะส่งผลเสียกับเธ
หลินเสี่ยวเฟย เปรียบได้กับหญิงสาวผู้นี้ จิตใจของพวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อใจใครง่ายๆ หลังจากถูกหักหลังมาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอได้รับโอกาสครั้งที่สอง ภายในร่างของอีกคนหนึ่ง หลินเสี่ยวเฟยรู้ว่าเธอสามารถไว้วางใจชูชูได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าเธอจะไม่มีวันได้รับความไว้วางใจจากชูชูก็ตาม
เธอเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายและจากความยากจน โดยมีชูชูที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ในขณะที่ประสบกับความโหดร้ายของโลก พวกเขามีชื่อเสียงในฐานะ ‘เจ้าหญิงแสนซนสองคน’ ในเมืองเล็กๆของพวกเขา ด้วยเหตุผลนั้น ผู้คนในเมืองจึงพยายามส่งพวกเธอออกไป เพราะพวกเขาไม่อยากให้พวกเธอสร้างความวุ่นวายให้แก่พวกเขา
หลินเสี่ยวเฟย เอามือเท้าคางขณะที่เธอมองดูกลีบดอกไม้ ที่กำลังลอยอยู่ในถ้วยน้ำชาของเธอ
ชูชู รู้สึกไม่สบายใจกับสถานการณ์เช่นนี้ จึงกล่าวว่า
“ท่านจะทำอะไรกับ ‘กล่อง’? ท่านอาจจะใช้มันเพื่อประโยชน์ของท่านเอง หรือปล่อยให้ผู้อื่นใช้มัน?” จากนั้น เธอก็พูดต่ออีกเล็กน้อยอย่างช้าๆว่า
“ข้าคงจะให้กล่องกับท่านไม่ได้ เมื่อเราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่ามีตัวตนแบบไหนอยู่เบื้องหลัง ท่านอาจไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะปกป้องผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์นี้ และสิ่งที่ท่านวางแผนไว้อาจล้มเหลวได้เช่นกัน”
เมื่อพิจารณาแล้วว่า หลินเสี่ยวเฟยเป็นหญิงสาวผู้สูงศักดิ์จากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง
ในอาณาจักรเซิง แผนการที่เธอวางไว้ อาจจะส่งผลกับคนอื่น
ชูชู เพียงแค่กลัวว่าผู้บริสุทธิ์จะเดือดร้อนจากสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ในอนาคต
นอกจากนี้ หลินเสี่ยวเฟยยังมีชื่อเสียงในเรื่องความงี่เง่าและความชั่วร้าย
ซึ่งอาจจะมีปัญหากับตัวเธอเองในภายหลัง
นั่นคือเหตุผลที่ชูชูมองว่ามันยาก ที่จะมอบกล่องให้กับหลินเสี่ยวเฟย ซึ่งจู่ๆเธอก็โผล่มาและอ้างว่ารู้จักกับเสี่ยวเฟยเพื่อนของเธอ
น่าแปลกใจที่ชูชูลืมไปเลย ว่าจะถามความเกี่ยวข้องระหว่างหญิงสาวตรงหน้ากับเพื่อนของเธอ พวกเธอพูดคุยกันถูกคอจนหน้าประหลาดใจ จนไม่สามารถหยุดพูดคุยกันได้
หลินเสี่ยวเฟย อ้างว่ารู้จักเสี่ยวเฟยเพื่อนของเธอ แต่ใครจะรู้ว่าเธอโกหกเรื่องทั้งหมด
ดังนั้น ชูชูจึงเริ่มไม่แน่ใจมากขึ้น ว่าเธอควรทำอะไรและพูดอะไรในตอนนี้
ชูชูไม่สามารถช่วยได้ เธอได้เเต่ระวังคำตอบของหลินเสี่ยวเฟย ในขณะที่ หลินเสี่ยวเฟยตอบเธอในทันที
“ข้าจะใช้มันด้วยเหตุผลส่วนตัว หรือให้ผู้อื่นใช้มันมันต่างกันอย่างไร เมื่อสิ่งของภายกล่องใช้ได้กับคนที่หวาดกลัวมันเท่านั้น” หลินเสี่ยวเฟยยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าถามถึงประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับข้าหรือไม่ถ้าข้าใช้มันเพื่อเป้าหมายของข้าเอง แล้วการที่ให้คนอื่นใช้มันล่ะ พวกเขาจะได้อะไรจากมันไหม”
“ไม่.” เธอโน้มตัวไปข้างหน้า และจ้องตรงไปที่ชูชู “ไม่มีใครได้อะไร เราจะสูญเสียบางสิ่งเมื่อสิ่งของในกล่องถูกนำออกมาเปิด หัวจะกลิ้งบนพื้นและอาณาจักรเซิงจะถูกกินทั้งเป็นโดยอาณาจักรที่กำลังจับจ้องเหมือนดังเดรัจฉาน”
“นั่นเป็นความอันตรายของสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในกล่อง”
“แล้วทำไม ท่านถึงยังต้องการมันอีก หลังจากที่รู้ถึงความเสี่ยงและผลที่จะตามมาจากสิ่งที่ผูกติดอยู่กับกล่อง” ชูชูขมวดคิ้ว ก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อ “ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะยอมสละทั้งทรัพย์สมบัติ และอยู่อย่างสงบสุขเพียงเพื่อสร้างความหายนะ และก่อความสับสนในอาณาจักร”
ในฐานะหญิงคนหนึ่งที่เคยทำงานในหอนางโลม ชูชูรู้ว่าหญิงสาวมักเลือกที่จะอยู่อย่างสบายเเละสงบสุข พวกเขาต้องการแต่งงานกับขุนนางที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด เพื่อที่หลุดพ้นจากความตกต่ำที่พวกเขาอยู่ แม้แต่หญิงสาวจากตระกูลที่ดีก็ยังใฝ่ฝันที่จะได้ครองคู่กับคนที่จะทำให้ทุกคนอิจฉาเมื่อแต่งงานแล้ว
ดังนั้น หลินเสี่ยวเฟย ซึ่งเป็นคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน ควรพิจารณาเรื่องนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ชูชูสามารถคาดเดาได้ว่า หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอไม่มี กลิ่นอายของผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่ฝันกลางวันถึงอนาคตในจินตนาการ
ด้วยคำพูดของหลินเสี่ยวเฟย ในที่สุดชูชูก็เข้าใจว่าทำไมกล่องถึงมีความสำคัญต่อเพื่อนของเธอมาก จนเธอเต็มใจที่จะรับการทรมานไม่รู้จบและตายโดยไม่เปิดปาก
ทันใดนั้น หญิงสาวที่นั่งตรงหน้าเธอยกมือขึ้นจิบชาจากถ้วย จากนั้น ขณะที่เธอค่อยๆลดถ้วยน้ำชาลง ใบหน้าของเธอก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเชื่อข้า” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวว่า “จะเสียสละเพื่ออะไรหรือผู้ใด ข้าคิดไว้แล้ว”
“ท่านจะทำ?” ชูชูกล่าวถามอย่างกังวล
“ใช่.” หลินเสี่ยวเฟยยิ้มอย่างชั่วร้าย ขณะที่เธอมองออกไปข้างนอก ผ่านหน้าต่างที่เปิดออกเล็กน้อย
…
เมื่อชูชูออกจากรถม้า เธอสังเกตเห็นว่าท้องฟ้าตอนนี้มืดเล็กน้อย ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ที่จุดสูงสุดสูงสุดทันทีที่เธอเข้าไปในรถม้า ตอนนี้กำลังจะหายไป เมฆไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยแม้ว่าวันนั้นจะมืดเเล้ว แต่ยังมีโคมไฟที่สว่างสดใสและมีชีวิตชีวาของทุกๆร้านค้าที่ตั้งอยู่ตามถนน
เมื่อหันหลังกลับไปมอง ชูชูไม่แน่ใจว่าเธอควรรู้สึกอย่างไร กับหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถม้า
พวกเขาพูดคุยกันหลายเรื่อง และแต่ละกรณีที่หลินเสี่ยวเปิดปากของเธอ ชูชูไม่สามารถหยุดความรู้สึกสับสนพร้อมกับความรู้สึกหนาวเหน็บ ที่เธอได้รับจากการครุ่นคิดตลอดเวลา
เธอไม่เคยพบใคร ที่มีความคิดที่ชั่วร้ายได้เหมือนกับหลินเสี่ยวเฟย
แม้แต่เพื่อนของเธอเสี่ยวเฟย ซึ่งเธอเป็นที่รู้จักในเรื่องความชั่วร้าย ก็ยังคิดทบทวนสิ่งต่างๆ มากมาย และพยายามที่จะไม่เสียสละอะไรไปได้ เเต่หลินเสี่ยวเฟยคล้ายกับทหารพลีชีพ ที่สามารถเสียสละทุกอย่างได้ แม้กระทั่งชีวิตเพื่อบรรลุเป้าหมาย