กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess – ตอนที่ 39 เฝ้ามองหญิงสาว

เมื่อฉู่เซียวซูออกจากห้องลับ หนึ่งในลูกน้องของเขากำลังรอต้อนรับเขาอยู่ มือขวาของผู้ใต้บังคับบัญชาทับตรงหน้าอก และก้มศีรษะลงเพื่อแสดงความเคารพ

 

เสียงกรีดร้องที่ทุกข์ทรมาน ยังคงดังออกมาจากภายในห้อง อย่างไรก็ตาม ลูกน้องของเขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อเสียงกรีดร้องนั้น เขาดูเฉยชาราวกับว่าได้ยินใครบางคนร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา

 

“เจ้ากำลังกล่าวว่า คุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน ออกไปพบหญิงสาวผู้หนึ่งหรือ?”

ฉู่เซียวซู กล่าวถามผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ในขณะที่เขาถือผ้าเช็ดหน้าที่สะอาดอีกผืน

เพื่อเช็ดมือ

 

เขาตัดสินใจมอบหมายให้คนของเขาติดตามการเคลื่อนไหวของหลินเสี่ยวเฟย และรายงานทุกอย่างให้เขาทราบ

 

ซายี่พยักหน้าและรายงานต่อ

 

หลังจากได้ยินรายงานของชายี่ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ปากของฉู่เซี่ยวซูโค้งเล็กน้อยขณะที่เขาเลิกคิ้ว ดูเหมือนกำลังสนุก

 

เขาแปลกใจเล็กน้อย ที่หลินเสี่ยวเฟยเชิญหญิงสาวจากหงเป่ยโหลว ให้ขึ้นมานั่งในรถม้าของเธอ แม้จะใช้เวลานานกว่าจะแยกจากกัน เเต่เขาอดคิดไม่ได้ว่าคุณหนูสี่เเห่งตระกูลหลิน คงจะเปลี่ยนความชอบของเธอ หลังจากที่เธอโดนยกเลิกการหมั้นหมาย

 

“เจ้าได้ยินที่พวกเขาคุยกันในรถม้าหรือไม่” เขากล่าวถามซายี่ด้วยความสนใจอย่างโจ่งแจ้ง

 

อย่างไรก็ตาม ซายี่ส่ายหัวและกล่าวว่า “หญิงสาวพบ มีผู้ติดตามที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมเพราะกลัวว่าจะถูกค้นพบ ผู้ต่ำต้อยจึงไม่กล้าเข้าใกล้อย่างข้า”

 

ฉู่เซียวซูพยักหน้า ขณะที่เขาประสานมือไว้ด้านหลัง เขาเดินต่อไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ความคิดของเขา มักจะเหนือความคาดหมายของผู้คนเสมอ เเม้ลูกน้องของเขา ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับราชวงศ์ ซายี่ไม่กล้าที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเพียงแค่เดินตามเจ้านายของเขาอย่างเงียบๆ

 

จากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรเซิงทั้งหมด เจ้านายของเขา ฉู่เซียวซูเป็นคนดีอย่างแท้จริง คงจะเป็นอะไรที่ดีมากที่เขาได้ติดตามเจ้านายเช่นนี้ต่อไป แม้ขุนนางต่างๆก็แสดงความเคารพต่อเขา ตระกูลต่างๆพร้อมที่จะยกบุตรสาวให้แต่งงานกับเขา

 

เนื่องจากศักดิ์ศรีของท่านนายกคนก่อนซึ่งเป็นปู่ของเขาที่ล่วงลับไปแล้ว และชื่อเสียงที่เขาได้รับในช่วงสงครามเมื่อไม่กี่ปีก่อน ดยุคเซียวจึงเทียบได้กับเจ้าชายจากสี่อาณาจักร ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ใครๆที่พบเห็นก็สามารถคลั่งไคล้ได้เพียงแค่เห็นหน้า แม้แต่เหล่าบริวาร ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมอง

 

น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถจ้องมองทุกอย่างที่ต้องการได้ เพราะกลัวว่าจะถูกปลดออกโดยฉู่เซียวซู

 

คฤหาสน์ตระกูลหลิน

 

…..เมื่อออกมาจากลานบ้าน หวู่จิงหยานพาคนใช้ของเธอไปที่ลานเล็กๆ แต่ตกแต่งอย่างหรูหราเธอเห็นคนใช้ที่หน้าลาน คำนับเธอด้วยความเคารพ เพราะ เธอเป็นแม่ของคนที่อยู่อาศัยที่นี่

 

เมื่อเธอเข้าไปในที่พัก หวู่จิงหยานเห็นลูกสาวของเธอที่ข้างหน้าต่าง ขณะที่ก้มศีรษะลงขณะอ่านหนังสือ มือของเธอกำลังจดอะไรบางอย่าง ลงบนกระดาษ

 

“มันรวดเร็วเกินไป แต่โหลวเอ๋อของข้ากำลังขยันเรียนอยู่” หวู่จิงหยานกล่าว ขณะที่เธอนั่งข้างหลินฮัวโหลว “ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือนไม่มีอะไรจะสอนเจ้าอีกแล้ว”

 

หลินฮัวโหลวหัวเราะเบาๆ วางพู่กันลงและมองดูแม่ของเธอ “ท่านเเม่ล้อข้าเล่นแล้ว หนังสือเพียงแค่นี้จะสามารถเทียบกับความฉลาดของท่านแม่ได้อย่างไร ข้าดีใจที่สุดที่ท่านเเม่จะมาสอนข้าที่นี่”

 

หวู่จิงหยาน ยิ้มเบาๆกับคำพูดของลูกสาวเธอ ขณะที่เธอยกมือขึ้นโอบลูกสาวด้วยความรัก

 

หลินฮัวโหลวเอียงศีรษะ เเละรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ที่ท่านเเม่ของเธอมาเยี่ยมเธอถึงที่นี่ เธอจึงกล่าวถามว่า “ท่านพ่อกับท่านแม่ ทะเลาะกันอีกแล้วหรือ?”

 

หวู่จินหยานตกใจ เเละส่ายหัวทันที และกล่าวว่า “ทำไมโหลวเอ๋อลูกถึงคิดเช่นนั้น พ่อกับแม่ปฏิบัติต่อกันอย่างดี”

 

“ท่านแม่…” หลินฮัวโหลวรู้สึกขัดแย้ง เเละเธอควรบอกท่านแม่ของเธอให้พูดตรงๆ

 

ในคฤหาสน์ตระกูลหลิน ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าหลินเฟิงและหวู่จิงหยานอยู่ในสงครามเย็นกันนับตั้งแต่นางสนมเข้ามาในบ้าน

 

แม้ว่าทั้งสองจะไม่ยอมให้เเสดงให้ผู้ใดรู้ แต่คนรอบข้างก็สามารถสังเกตและรู้สึกว่าพวกเขาปฏิบัติต่อกันอย่างเย็นชา เเละไม่เหมือนในอดีต

 

ในฐานะลูกสาวของพวกเขา หลินฮัวโหลวไม่ใช่คนโง่ ที่เพิกเฉยต่อสัญญาณการแต่งงานที่ล้มเหลวของพ่อแม่ของเธอ

 

อย่างไรก็ตาม ในฐานะหญิงสาวจากตระกูลที่มีชื่อเสียง เธอไม่สามารถโวยวายเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อแม่เธอได้ มิฉะนั้น ผู้อื่นจะคิดว่าเธอมีอคติมากเกินไป

 

หลินฮัวโหลว เป็นที่รู้จักในฐานะหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบและอ่อนโยน เธอไม่สามารถเสี่ยง

เอาภาพลักษณ์ของเธอ ลากลงไปในโคลนเพียงเพราะพ่อแม่ของเธอ ดังนั้น เธออาจดูเหมือนกังวลเรื่องอาการของแม่ แต่ความจริงแล้ว เธอกังวลเรื่องภาพลักษณ์ตัวเองมากกว่า เธอแค่อยากจะทำทุกอย่างให้สำเร็จ และสมบูรณ์แบบ

 

หวู่จิงหยาน ไม่ได้เห็นว่าอารมณ์ในดวงตาของลูกสาวเธอเปลี่ยนไปกี่ครั้ง เพราะเธอก้มศีรษะลง ขณะที่เธอจ้องมองมือของเธอ ด้วยความละอาย

 

ความจริงที่ว่า ลูกสาวของเธอสังเกตเห็นปัญหาที่ทำให้เธอปวดหัวไม่รู้จบ ทำให้เธอรู้สึกอนาถใจมากขึ้นทุกวันนี้ นางสนมเริ่มมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าพวกเขากินความกล้าของเสือดาว พวกเขายังคงเอาหัวโขกกับหวู่จินหยาน เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างภรรยาที่ถูกกฎหมายและนางสนม

 

เธอรู้สึกขมขื่น หวู่จิงหยานตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง และกล่าวว่า ” โหลวเอ๋อ ลูกพี่ลูกน้องของเจ้ามีบางอย่างเปลี่ยนไป”

 

“ท่านแม่หมายความว่าอย่างไร” หลินฮัวโหลวเงยหน้าขึ้น เมื่อใดก็ตามที่หลินเสี่ยวเฟยถูกกล่าวถึง พวกเขามักจะกล่าวถึงเธอว่า เป็นผู้ที่ชอบก่อปัญหาที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความเจ็บปวด

 

“เเม่บอกเจ้าไม่ได้ว่าตรงไหน แต่เเม่คิดว่าเธอเปลี่ยนไปมากจริงๆ”

 

“คนเรามักจะเปลี่ยนไป ท่านแม่”

 

“แต่ไม่ใช่เช่นนั้น” หวู่จิงหยานส่ายหัวและเตือนเธอ “อย่างไรก็ตาม อย่าพยายามเข้าใกล้เธอ”

 

หลินฮัวโหลว ถอนหายใจและไม่คัดค้านแม่ของเธอ เนื่องจากเธอยืนกรานต่อต้านความคิดที่จะเข้าใกล้ลูกพี่ลูกน้องที่โง่เขลาและไร้ค่าอยู่เเล้ว

The Birth of a Villainess

The Birth of a Villainess

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว เราเป็นหุ้นส่วนในอาชญากรรม หากเจ้าเป็นแม่มด ข้าก็จะเป็นพ่อมดของเจ้า” … หลังจากการตายอย่างโหดร้ายของเธอ เสี่ยวเฟยพบว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้งในร่างของคุณหนูที่งดงามจากตระกูลหลินผู้สูงศักดิ์ที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับใบหน้าอันงดงามที่ไม่มีใครเทียบได้ เอาชนะใจชายทุกคนและแม้แต่ผู้หญิงก็ต่างอิจฉาในชีวิตที่แล้วของเธอ แต่เธอกลับตกหลุมรักองค์ชายอย่างโง่เขลา และถูกลิขิตให้ตายอย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของคนที่เธอรัก ในชีวิตและร่างกายใหม่นี้ กลอุบายอันชั่วร้ายและเรื่องอื้อฉาวก็ยังวนเวียนอยู่รอบตัวเธอ แม้จะเกิดใหม่แล้วก็ตาม เธอก็เริ่มทำแบบเดียวกันกับคนเหล่านั้นและจะโหดเหี้ยมต่อผู้ที่คิดต่อต้านเธอ ชายหนุ่มและและหญิงสาวต้องโค้งคำนับ บัลลังก์ทองคำต้องถูกส่งต่อ อาณาจักรจะต้องถูกพิชิตและเผาทำลาย หัวใจต้องถูกแย่งชิง ด้วยยุคอันโหดร้ายเช่นนี้ ผู้คนทำได้เพียงพยายามบังคับและป้องกันตนเองจากอันตราย อย่างไรก็ตาม ใครจะคิดว่าชายที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเย่อหยิ่งจะเข้ามาในชีวิตของเสี่ยวเฟยอย่างกะทันหัน? และเขายังกระซิบข้างหูของเธออย่างไร้ยางอายว่า “ศัตรูของภรรยาข้าก็คือศัตรูของข้า และความปรารถนาของภรรยาข้าก็คือความปรารถนาของข้าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ข้ายังมีความปรารถนาอีกอย่างหนึ่งที่มีแต่ภรรยาข้าเท่านั้นที่จะมอบให้แก่ข้าได้” “นั่นคือภรรยาข้าต้องกลายเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น ให้แก่ข้า” เสี่ยวเฟย: “……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset