ตอนที่ 815 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (35)
ตอนนั้นหลอกใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจของฟังจือหัน ตอนนี้ฟังจือหันก็หลอกใช้ความไว้เนื้อเชื่อใจจากเขาเหมือนกัน แต่ฟังจือหันแผนสูงกว่า หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง หลินเซินจึงยอมรับ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณชายหันจะจัดการกับผมยังไงก็แล้วกันครับ”
ความหมายในคำพูดนั้นชัดเจนมาก ไม่ว่าฟังจือหันจะจัดการยังไง เธอก็จะไม่พูดให้มากความ
ฟังจือหันมองเขาแล้วพูดว่า “นายไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับเรื่องสูตรยารั่วไหล พอคิดดูแล้วเป็นไปไม่ได้ที่นายจะไม่รู้ นายได้เจอพ่อฉันก่อนตายหรือเปล่า แต่เห็นนายปกป้องเขาขนาดนี้ ฉันยังนึกว่าถึงนายจะเป็นศัตรูกับเขาแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกัน แต่เห็นได้ชัดว่านายไม่ได้รับความไว้วางใจจากอีกฝ่าย หรืออีกฝ่ายไม่ถือว่านายเป็นเพื่อน แต่เห็นนายเป็นแค่…หมากตัวหนึ่งเท่านั้น!”
หลินเซินเอ่ยขึ้น “คุณอย่ายุพวกผมเลย ผมขอบคุณเขาที่บอกความจริง รู้ว่าพ่อและลุงรองของคุณทำเรื่องเลวทรามเพื่อชื่อเสียงและเงินทอง ในเมื่อกฎหมายไม่สามารถนำพวกเขาไปสู่ความยุติธรรมได้ งั้นก็ให้ลงโทษพวกเขาในแบบของพวกผมเอง!”
“ตกลงที่ทำไปมันคือการลงโทษหรือเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองกันแน่ นายลองไตร่ตรองดูแล้วจะเข้าใจทุกอย่างได้”
“พวกเราต่างเป็นคนที่ถูกพ่อและลุงของนายทำร้าย บางทีฉันก็แค่ต้องการแก้แค้นพวกเขา เพราะสมาคมยาไป่ฟางบ้านแตกสาแหรกขาด นอกจากเขาต้องการให้พวกเขาตายแล้ว ยังจะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาป่นปี้และต้องการทำลายสมาคมยาไป่ฟางอีกด้วย”
“ถ้ามันเป็นเพียงการแก้แค้น หลักฐานในมือของเขาก็สามารถโจมตีสมาคมยาไป่ฟางอย่างแรงได้ในคราวเดียว แต่เขากลับไม่ทำ แต่กลับเอาสูตรยาไปขาย นายก็ไม่ใช่เพื่อนที่ลงเรือลำเดียวกับเขา แต่เป็นแค่หุ่นเชิดที่เขาจะเชิดไปทางไหนก็ได้ ถ้าหากไม่มีอะไรทุกอย่างก็จะไม่เป็นอะไรเลย แต่ถ้าหากมีเรื่อง นายก็เป็นคนที่ต้องตายแทนเขา ไม่ว่านายจะจ้างเขาหรือไม่ก็ตาม แต่เขาสามารถล้างมลทินของตัวเองได้สะอาดหมดจดแน่”
หลินเซินขมวดคิ้ว แววตาเป็นประกายความสงสัย
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องขบกรามแน่น พยายามเก็บกดทุกความรู้สึกสงสัยและกระวนกระวายใจเอาไว้ “ไม่ว่าคุณจะพูดยังไง ผมก็ไม่มีทางเชื่อคุณหรอก”
เขาเชื่อสหายร่วมรบของเขา ไม่ใช่เพื่อนแต่ก็เป็นสหายร่วมรบ
ในเมื่อสามารถแก้แค้นได้แล้ว แล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนลงมือเอง ต่อให้รู้ทุกอย่าง ฟังจือหันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ อย่างมากที่สุดก็คงฟ้องร้องเขาเรื่องบริษัท และเขาก็กลายเป็นวีรบุรุษเมื่อเขาออกมาในอีกสิบปีต่อมา
ไม่ว่ายังไงหลินเซินก็ไม่ยอมพูด ฟังจือหันก็ไม่ได้ซักไซ้ถามต่อ
อวี๋กานกานพึมพำในห้องทำงานของฟังจือหัน “ทำไมหลินเซินถึงได้หัวแข็งแบบนี้”
“ความแค้นทำให้คนตาบอด เฉียนต้าเซิงจับจุดอ่อนของเขาได้เลยล้างสมองหลินเซิน ให้ถามต่อก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่ยอมบอกเราว่าเฉียนต้าเซิงอยู่ที่ไหนหรอก” ฟังจือหันกุมมือเธอเอาไว้ “ผมจะให้คนส่งคุณกลับไป”
อวี๋กานกานทราบดีว่าฟังจือหันอยู่ต่อเพื่อจัดการเรื่องของหลินเซิน เธอจึงพยักหน้ายอมให้ฟังจือหันจูงมือตัวเองเดินไปด้านนอกแต่โดยดี
ภายในลิฟต์ เมื่อเห็นใบหน้าเรียบนิ่งของฟังจือหันแล้วครุ่นคิดได้จึงกอดเอวเขาและเอ่ยปลอบ “คุณก็อย่าใจร้อนไปเลยนะคะ เดี๋ยวก็ตามหาเฉียนต้าเซิงเจอในไม่ช้าแน่นอนค่ะ”
ฟังจือหันยกยิ้มเล็กน้อย “ผมไม่ได้ใจร้อน เพียงแค่กำลังคิดว่าตอนนี้เฉียนต้าเซิงไปมุดหัวอยู่ที่ไหน”
มีดวงตาของคนข้างกายซ่อนอยู่ในความมืด นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัว อวี๋กานกานลอบถอนหายใจ “เฉียนต้าเซิงต้องสวมรอยเป็นคนอื่นแน่ๆ มิฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะตามสืบไม่เจอเบาะแสเขาเลยสักนิด”
เธอพึมพำ “ไม่แน่ คนคนนี้ก็อาจจะอยู่ใกล้ตัวเราก็ได้”
ทันใดนั้นฟังจือหันก็หันขวับไปมองเธอ ดวงตาลึกล้ำดั่งมหาสมุทร แล้วจดจ่อไม่กะพริบตา
ตอนที่ 816 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (36)
เขาไม่ได้มองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งคาดเดาไม่ถูกแบบนี้มานานแล้ว อวี๋กานกานอึ้งไปชั่วขณะแล้วยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเอง “ทำไมเหรอ ทำไมมองฉันแบบนี้ หรือว่ามีอะไรติดหน้าฉัน…”
ฟังจือหันเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ”
อวี๋กานกานกะพริบตาปริบๆ “ฉันบอกว่าเฉียนต้าเซิงอาจใช้สถานะตัวตนของคนอื่นแน่ๆ ไม่งั้นไม่มีทางที่คุณจะหาเขาไม่เจอ ฉันก็พูไปเรื่อยเปื่อย ถึงยังไงคนคนหนึ่งจะหายไปแบบไม่มีมีขลุ่ยไม่ได้ ต้องเป็นเพราะ…”
ฟังจือหันเอ่ยขัดคำพูดของเธอ “ประโยคสุดท้าย”
อวี๋กานกานย้อนกลับไปคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ไม่แน่ คนคนนี้อาจจะอยู่ใกล้ตัวพวกเรา”
ฟังจือหันยกยิ้ม
แน่นอนว่าเขาเคยคิดแบบนี้ สาเหตุที่หาเฉียนต้าเซิงไม่เจอ เพราะเฉียนต้าเซิงใช้สถานะปลอม แต่เฉียนต้าเซิงปลอมตัวเป็นใครกันล่ะ
เพราะว่าอีกฝ่ายต้องการแก้แค้น เพราะการวางเค้าโครงอย่างชาญฉลาด จิตใต้สำนึกกำหนดอีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ทางธุรกิจหรือสถานะที่แข็งแกร่งกว่า
ดังนั้นเขาจึงคัดกรองผู้ต้องสงสัยทุกคน
แต่ไม่มีคนที่เป็นเฉียนต้าเซิง
ประโยคที่อวี๋กานกานพูดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้เขาได้สติ
“กลับไปอาบน้ำนอนพักผ่อนนะครับ แสงสว่างของพรุ่งนี้จะต้องสวยงามแน่นอน”
ประโยคนี้เป็นประโยคที่มีความหมายลึกซึ้ง พรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น อวี๋กานกานยิ้มและจูบแก้มฟังจือหัน “ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านนะคะ”
บอดี้การ์ดสาวรอเธอที่ล็อบบี้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก อวี๋กานกานก็เห็นเธอเข้าพอดี ฟังจือหันส่งเธอให้กับบอดี้การ์ดสาวแล้วกลับไป
เมื่อเขาออกจากลิฟต์ก็ให้ผู้ช่วยตรวจค้นคนทั้งบริษัท ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงช่างซ่อมบำรุง
รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากสมาคมยาไป่ฟาง อวี๋กานกานมองออกไปนอกหน้าต่าง หวังว่าทุกอย่างจะสว่างสดใสขึ้นในวันพรุ่งนี้
ทันใดนั้น เธอเห็นชายชราคนหนึ่งเดินไปข้างหน้าตามใต้โคมไฟถนน ดูเหมือนจะมีความวิตกกังวลมาก เพราะเดินโซซัดโซเซเล็กน้อย ไฟถนนทอดยาวไปทางด้านหลังของชายชรา ช่างดูอ้างว้างและโดดเดี่ยวเป็นอย่างมาก
นี่คือคุณลุงพนักงานทำความสะอาดของสมาคมยาไป่ฟางที่พึ่งเจอเมื่อครู่นี้ไม่ใช่เหรอ
เขาก็พึ่งออกมาจากสมาคมยาไป่ฟังเหมือนกันนี่นา แล้วนี่เขาจะรีบไปไหน ทำไมถึงไม่เรียกรถล่ะ
อวี๋กานกานให้บอดี้การ์ดสาวจอดรถข้างทาง จากนั้นจึงลงรถแล้วยิ้มให้กับชายชราคนนั้น “สวัสดีค่ะคุณลุง”
เมื่อลุงพนักงานทำความสะอาดเห็นอวี๋กานกานก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นเขาจึงยิ้มทักทายกลับไป “สวัสดีครับคุณอวี๋”
“คุณลุงจะไปไหนเหรอคะ ให้ฉันไปส่งคุณลุงไหม”
“ไม่เป็นไรครับ ลุงพึ่งเลิกงานก็เลยรีบกลับบ้าน”
“งั้นให้ฉันไปส่งคุณลุงไหมคะ” อวี๋กานกานเปิดประตูรถเชื้อเชิญเขา ลุงคนนั้นจึงรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไรๆๆ ลุงเกรงใจ บ้านลุงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ลุงเดินกลับเองก็ได้ครับ”
“แม้จะไม่ไกลก็ให้ฉันไปส่งเถอะนะคะ แค่ไม่กี่นาทีเอง คุณลุงเดินเองต้องเดินอีกนานเลยนะคะ”
เมื่อชายชราเห็นว่าปฏิเสธไม่ได้ เขาจึงยิ้มให้อย่างใจดีแล้วขึ้นไปนั่งบนรถ “ขอบคุณคุณจริงๆ ครับคุณอวี๋ คุณเป็นคนดีมีน้ำใจจริงๆ”
อวี๋กานกานยิ้มเคอะเขิน “ลุงพูดอย่างนี้ฉันก็เขินแย่สิคะ แค่แวะส่งลุงที่บ้านเพราะเป็นทางเดียวกันเท่านั้นเอง คุณลุงไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”
“ถึงยังไง ลุงก็ต้องขอบคุณจริงๆ ครับคุณอวี๋” ชายชราพูดแล้วยิ้มให้ก่อนจะเอ่ยถาม “ได้ยินมาว่าคุณกับประธานหันกำลังจะแต่งงานกันเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ งานแต่งก็คือเดือนหน้านี่เองค่ะ” ตอนแรกอวี๋กานกานคิดจะเชิญชวนเขาไปร่วมงานแต่ง แค่พอคิดไปคิดมาก็ช่างมันเถอะ ไปร่วมงานแต่งของเธอกับฟังจือหันอาจจะไม่ใช่เรื่องดีอะไรสำหรับคุณลุงท่านนี้