ตอนที่ 853 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (73)
อวี๋กานกานคาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะไม่ได้ฆ่าเธอในทันที แค่จับเธอมาขังเอาไว้
งั้นพวกเขาวางแผนจะฆ่าตัวเธออย่างไรกันล่ะ?
ไม่ว่าคำพูดของตนเมื่อสักครู่ที่อวี๋กานกานพูดกับจูอวี้ลู่จะได้ฟังบ้างไหม ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้ลงมือในทันที เธอก็ถือว่าชนะแล้ว
อวี๋กานกานตรวจดูเสี่ยวเล่อเล่ออีกครั้ง หลังจากมั่นใจว่าเขาปลอดภัยก็เดินไปที่ประตูแล้วลองดึงดู
ประตูถูกล็อกจากข้างนอก
อีกทั้งเป็นเหล็ก น่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทุบออก
หนีไม่รอด หรือว่านั่งรอความตายอย่างนี้เหรอ?
เวลาผ่านไปทุกวินาทีทุกนาทีแล้ว ด้านนอกยิ่งเงียบลงเรื่อยๆ เหมือนกับจมอยู่ในความเงียบงันแห่งความตาย
และก็ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ในตอนที่อวี๋กานกานกำลังคิดว่าทำยังไงกันแน่ถึงจะหาโอกาสในการหลบหนีไปได้ ในหูได้ยินเสียงน้ำเบาๆ
ต่อมาเธอจึงพบว่ามีน้ำค่อยๆ ไหลซึมเข้ามาจากรอยแยกของประตู
อวี๋กานกานหน้าถอดสี
ทำไมถึงมีล่ะ?
เมื่อกี้พวกเขาไม่ได้สนใจเธอ ไม่ใช่ว่าปล่อยเธอไปชั่วคราวแล้ว แต่วางแผนขังเธอเอาไว้ในห้องจากนั้นก็ให้จมน้ำตาย
ทำยังไงดี?
มองน้ำเข้ามาตามใต้ประตู ไหลเข้ามาในห้องทีละนิดๆ
เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เกินครึ่งชั่วโมงเธอกับเสี่ยวเล่อเล่อก็จะจมน้ำอยู่ในห้องนี้
เธอไม่อยากตาย เธอจำเป็นต้องหาวิธีหนีออกไป
ใจเย็น
จะต้องใจเย็น!
สายตาของอวี๋กานกานจับไปที่ม่านหน้าต่างกำมะหยี่สีดำด้านข้าง รีบไปเปิดผ้าม่านกำมะหยี่สีดำออก ข้างหลังเป็นหน้าต่างกระจก
ประตูเปิดไม่ได้ แรงของเธอก็น่าจะทุบไม่ออก แต่ว่าหน้าต่างจะต้องไม่มีปัญหาแน่
ภายในห้องมีของแหลม สามารถทำให้กระจกแตกได้
อวี๋กานกานอุ้มเสี่ยวเล่อเล่อวางไว้กับพื้น และใช้โต๊ะวางไว้เป็นเกราะกำบัง จากนั้นก็หยิบของหนักทุบไปที่หน้าต่างกระจกอย่างแรง
หลังจากทุบไม่กี่ครั้ง เสียงเพล้งดังขึ้น ในที่สุดกระจกก็แตก อวี๋กานกานรีบอุ้มเสี่ยวเล่อเล่อขึ้นมาแล้วออกไปทางหน้าต่าง
ตอนนี้เธออยู่ที่ชั้นล่างสุดของเรือยอชท์ ด้านล่างโดนน้ำซึมเข้ามาเต็มไปหมด และนอกจากนี้ปริมาณน้ำยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อวี๋กานกานอุ้มเสี่ยวเล่อเล่อรีบเดินขึ้นไปจากนั้นก็ค่อยๆ หาทางเอาชีวิตรอด
ที่ทางเดินชั้นสอง เธอเห็นจูอวี้ลู่นอนจมอยู่ในกองเลือดก็ตกใจอย่างแรง แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
จูอวี้ลู่ทำไมถึงตายล่ะ?
ว่าตามเหตุผลเฉียนต้าเซิงต้องการเงินค่าไถ่ก็ไม่ควรลงมือกับจูอวี้ลู่ในทันที จะลงมือก็น่าจะเป็นจูอวี้ลู่
หรือว่าจูอวี้ลู่เชื่อคำพูดของเธอ จะแตกคอกับเฉียนต้าเซิงแล้ว เพียงแต่คาดไม่ถึงเลยว่าเฉียนต้าเซิงจะน่ากลัวอย่างนี้ กลับลงมือฆ่าจูอวี้ลู่ในทันที
อวี๋กานกานใจเต้นอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด แขนขาอ่อนแรง เกือบจะเดินไม่ไหวแล้ว
เธอวนหาหนึ่งรอบ ไม่พบอุปกรณ์ในการเอาชีวิตรอดใด เทียบกับเรือเร็ว แพชูชีพอะไร แม้แต่ห่วงยางก็ไม่มี
แต่โชคดีที่มีเสื้อชูชีพ
และใช่ พวกเราคิดเอาไว้แล้วว่าจะใช้กลนี้จัดสถานที่ตายให้เธอ แล้วจะเป็นไปได้ยังไงที่บนเรือยอชท์จะมีเรือเร็วขนาดเล็ก แพชูชีพบนนี้
เสื้อชูชีพถูกซ่อนอยู่ใต้เก้าอี้ อาจทำให้พวกเขาพลาดไปแล้ว
อวี๋กานกานใส่เสื้อชูชีพให้ตนเอง และเอาอีกหนึ่งชุดห่อตัวเสี่ยวเล่อเล่อไว้ ขณะเดียวกันก็ยังเอากะละมังใบใหญ่ใบหนึ่งมา สุดท้ายอุ้มเสี่ยวเล่อเล่อวิ่งไปที่ไม้แผ่นชั้นบนสุดของเรือ
ฟ้ายังไม่สว่าง ความน่ากลัวของทะเลที่เงียบสงบ พื้นสีดำสุดลูกหูลูกตามองไม่เห็นฝั่ง คล้ายกับสัตว์ร้ายที่จะกลืนกินได้ทุกเมื่อ
ยิ่งน้ำข้างในเรือสูงขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วในการจมก็ไวขึ้น
อวี๋กานกานกอดเสี่ยวเล่อเล่อแน่น มองเรือยอชท์ที่แช่อยู่ในน้ำครึ่งหนึ่งไปแล้วก็อดตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
ตอนที่ 854 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (74)
เพราะว่าส่วนหัวกับท้ายของเรือมีน้ำหนักที่ต่างกัน ส่วนหางเรือค่อยๆ เชิดขึ้น
อวี๋กานกานตัวเซ เกือบจะล้มลง
แทบจะใช้แรงทั้งหมดที่มีจึงจะสามารถทรงตัวเอาไว้ได้
จะทำยังไงดี?
ฟังจือหันทำไมยังไม่มา?
แสงยามค่ำคืนดูเหมือนจะอ่อนลง ราวกับว่ารุ่งอรุณกำลังจะมาถึง แต่ว่าเธอกลับเข้าใกล้ความตายมากขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้เดิมทีควรจะเป็นวันแต่งงานของเธอกับฟังจือหัน
เวลานี้เธอน่าจะตื่นขึ้นมา กำลังให้ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าให้ตนอยู่ จากนั้นก็รอให้ฟังจือหันมารับ
คิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าวันแต่งงานวันนี้เธอกลับ…เธอหลุบตาลงมองเสี่ยวเล่อเล่อในอ้อมแขน
แต่ว่าเขายังเด็กขนาดนั้น เพิ่งจะมาบนโลกใบนี้ จะมาฝังร่างลงทะเลไปพร้อมกับเธอเพราะเรื่องบุญคุณความแค้นของพวกผู้ใหญ่ได้ยังไงกันล่ะ?
ตัวครึ่งหนึ่งของอวี๋กานกานอยู่ในน้ำ เธอวางเสี่ยวเล่อเล่อเอาไว้ในถัง ขอแค่ถังไม่จมน้ำก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เธอภาวนาไม่หยุด หวังให้รีบมีคนมาให้เร็วหน่อย รีบมีคนมา…
แต่ว่าด้วยเวลาที่เดินไป ทั้งสี่ทิศยังคงนิ่งสงบ
เริ่มร้อนใจ เป็นกังวล หวั่นวิตกและหวานกลัว ชาไปทีละน้อย อวี๋กานกานแช่อยู่ในน้ำทั้งตัวแล้ว พึ่งเสื้อชูชีพให้ลอยอยู่บนผิวน้ำอย่างยากลำบาก
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ เรี่ยวแรงในร่างกายค่อยๆ หายไป รู้สึกเหนื่อยค่อยๆ ไล่ไปทีละนิด เหนื่อยจนแทบจะประคองถังเอาไว้ไม่อยู่แล้ว เหนื่อยจนแทบจะลืมตาเสียไม่ขึ้น
ทำยังไงดี?
จะไม่มีใครมาช่วยเธอกับเสี่ยวเล่อเล่อเลยจริงๆ เหรอ?
อย่างน้อยก็ต้องช่วยเสี่ยวเล่อเล่อไปให้ได้ อย่างน้อยก่อนเธอตาย ให้เห็นหน้าฟังจือหันสักทีหนึ่ง
การมองเห็นเริ่มพร่ามัว หนังตาแทบจะปิด สติก็ค่อยๆ หายไป…อวี๋กานกานรู้สึกว่าตนเองคล้ายกับเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่งต้องการจะวิ่งมาหาตน
“เสี่ยวอวี๋ หิวรึยัง พี่เจียงจะพาเธอไปกินข้าว”
“เสี่ยวอวี๋ ขอแค่เธอชอบ พี่เจียงก็จะซื้อมาให้เธอหมด”
หนุ่มน้อยใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ทั้งตัวมีรังสีสีทองราวกับเทวดาที่มากับวงแหวนแห่งแสง จากนั้นก็อุ้มเด็กสาวขึ้นมา
เด็กสาวกอดรอบคอเขา มีเสียง “จุ๊บ” ดังขึ้นที่แก้มของเขา “พี่เจียง ฉันชอบพี่”
“เธอโตเป็นสาวแล้ว ต่อไปห้ามหอมคนอื่นไปเรื่อย”
“พี่เจียงไม่ใช่คนอื่น โตขึ้นฉันจะแต่งงานกับพี่เจียง” เด็กสาวถักเปียสองข้างมัดสูง ดวงหน้าทั้งสวยและน่ารัก ตกอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ดูสวยจับใจเป็นพิเศษพร้อมกับอ้อนหนุ่มน้อยไม่หยุด “ดีไหมๆ…”
หนุ่มน้อยมีสีหน้าเอ็นดู รับคำอย่างเขินอายเล็กน้อย “ดี!”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าพี่เจียงดีกับฉันที่สุดเลย”
“พี่เจียง พี่พาฉันไปสวนสนุกหน่อย”
“พี่เจียง พี่พาฉันไปกินล่าเถียว*หน่อย”
“พี่เจียง ฉันฉันไม่อยากแยกจากพี่ตลอดไป”
“พี่เจียง เรากำลังจะไปไหน?”
“คุณตาของพี่เจียงจะชอบเสี่ยวอวี๋ไหม?”
“พี่เจียง งั้นต่อไปจะเป็นบ้านของเราไหม?”
“พี่เจียงจะอยู่กับเสี่ยวอวี๋ตลอดไหม?”
“ฉันก็จะอยู่กับพี่เจียงไปตลอด ตลอดมาตลอดไป…มีพี่เจียงอยู่ ฉันก็ไม่ต้องกลัวคนชั่วอีกแล้ว” ช่วงเวลานี้ ในสมองของอวี๋กานกานเกิดภาพลวงตาขึ้นมาเลือนราง เธอนึกเรื่องราวมากมายขึ้นมาได้ในชั่วขณะ เธอกำลังจะตายแล้วเหรอ?
ได้ยินว่าตอนที่คนกำลังจะตายก็จะนึกถึงเรื่องที่เคยลืมไป ช่างน่าเสียดายเหลือเกินที่เธอไม่อาจบอกพี่เจียงได้แล้วว่าเธอรักเขาแค่ไหน
แต่ว่าหนุ่มน้อยดูเหมือนจะโตขึ้น กำลังตรงมาหาเธอด้วยความรวดเร็ว เผชิญหน้ากับแสงสีขาวที่โผล่มาจากทางทิศตะวันออกเหมือนกับเทวดาที่มีปีกขนาดใหญ่กำลังบินมาหาเธอ…