ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 95: เหมือนกับหักแขน!

เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ข้าขอจ่ายด้วยหินวิญญาณ 10,000 ก้อน!”
 
ในตอนที่การประมูลกำลังดุเดือดนั้น เฉินเฉินก็ตะโกนขึ้นมาอย่างกะทันหัน และจากนั้นก็เดินตรงเข้ามาเก็บเห็ดหลินจือม่วงกลับไป
 
ทุกคนพากันตกตะลึง จ่ายหินวิญญาณ 10,000 ก้อนเพื่อเห็ดหลินจือม่วงชิ้นเดียวเป็นอะไรที่เกินจินตนาการของพวกเขาอย่างสมบูรณ์
 
เฉินเฉินไม่สนใจสายตาที่ตื่นตกใจของฝูงชน แล้วหันหลังเดินจากไป ในขณะที่โยวหลานชินเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ
 
“พี่ใหญ่เฉิน นี่ทำอะไรของพี่คะ?”
 
“ข้าก็แค่นึกเสียดายขึ้นมาหน่ะ”
 
“ข้าบอกแล้ว ขายของดีๆแบบนั้นมันน่าเสียดายจะตาย แถมพี่ใหญ่เฉิน ท่านก็ดูไม่ใช่คนที่ขาดหินวิญญาณด้วย” โยวหลานชินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
 
“ข้าชอบที่ได้ยินแบบนั้นจากเจ้านะ”
 

 
ในตอนที่เขากลับมาถึงโรงเตี๊ยมหยี่หลาน สิ่งแรกที่เฉินเฉินทำก็คือขอให้จางจีและซุนเทียนกังออกไปข้างนอกเพื่อสืบข่าวเกี่ยวกับสมบัติสวรรค์ต่างๆ
 
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนก็กลับมาในเวลาไม่นาน
 
เป็นไปตามที่เฉินเฉินคิดไว้ ร้านขายยาและโรงประมูลของเมืองได้ถอนสมบัติสวรรค์ที่ช่วยในการรักษาออกจากหน้าร้านทั้งหมด
 
ผู้สืบทอดของ 36 สำนักสามารถส่งคนออกไปและลองเสี่ยงโชคเพื่อให้ได้สมบัติสวรรค์มา หรือไม่ก็ซื้อพวกมันจากพวกผู้สืบทอดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
 
เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้สืบทอด พวกเขาจะต้องมีของพวกนั้นอยู่ไม่ใช่น้อยในแหวนเก็บของของพวกเขาอย่างแน่นอนแต่มันเป็นเรื่องที่ยากเกินไปในการฟื้นคืนพละกำลังและความแข็งแกร่งของพวกเขาให้กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ในระยะเวลาอันสั้น
 
ซึ่งพวกเขาต้องดูดซับสมบัติสวรรค์จำนวนมากเพื่อทำสิ่งนั้น
 
แต่ว่าพวกเขาไม่มีสมบัติสวรรค์ที่แข็งแกร่ง
 
มันไม่มีอะไรที่พวกเขาทำได้!
 
แล้วพวกเขาจะทำยังไงหล่ะ? พวกเขาทำได้แค่ส่งคนไปขอผู้สืบทอดคนอื่น
 
อย่างไรก็ตาม ผู้สืบทอดพวกนั้นจะกล้าขายสมบัติสวรรค์ของพวกเขาทั้งที่รู้ว่าการต่อสู้จัดอันดับยังเหลืออีกสองวันได้ยังไงหล่ะ? ถ้าเกิดหลังจากนี้พวกเขาได้รับบาดเจ็บขึ้นมาจะทำยังไง?
 
ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาคงจะไม่มีอะไรเหลือแล้วจริงๆ!
 
“น่าสมเพชจังเลยนะ”
 
ในขณะที่ยืนอยู่บนหลังคาของโรงเตี๊ยมหยี่หลาน เฉินเฉินก็มองเหล่าผู้คนที่กำลังยุ่งเหมือนกับผึ้งงาน และถอนหายใจออกมาเบาๆ
 
ในตอนนี้เอง เสียงที่ฟังดูเศร้าสร้อยก็ดังมาจากข้างหน้าโรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
“สำนักวิหคสีชาดมาที่นี่เพื่อขอซื้อยาค่ะ!”
 
ในทันทีที่เธอพูดแบบนั้น ศิษย์สำนักวิหคสีชาดก็เข้ามาในโรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
“ผู้สืบทอดแห่งสำนักเทียนหยุน ท่านเซียนหญิงของข้าบอกว่าเธอยอมจ่ายด้วยหินวิญญาณ 5,000 ก้อนค่ะ…”
 
ศิษย์หญิงแห่งสำนักวิหคสีชาดโค้งคำนับด้วยท่าทีที่ถ่อมตัว
 
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็ถูกเฉินเฉินพูดขัด
 
“ข้าไม่ได้ขัดสนหินวิญญาณซะหน่อย”
 
ในทันทีที่เขาพูดแบบนั้น ศิษย์ของสำนักวิหคสีชาดก็มีสีหน้าสิ้นหวัง
 
นี่คือสิ่งแรกที่ผู้สืบทอดหลายคนพูด แต่ว่าในโลกนี้จะไม่มีคนที่ขลาดแคลนหินวิญญาณอยู่ได้ยังไงกัน?
 
สุดท้ายแล้วนี่ก็เป็นแค่วิธีปฏิเสธอย่างสุภาพ
 
ในขณะที่เธอกำลังจะออกไปหวังพึ่งดวงกับผู้สืบทอดคนอื่น เฉินเฉินก็พูดอีกครั้ง
 
“เจ้าสามารถขอยาจากข้าได้แต่ให้เซียนหญิงของเจ้ามาที่นี่ พวกที่อยู่ข้างนอกก็เหมือนกัน เลิกแอบฟังได้แล้ว ถ้าอยากได้ยาก็ให้มาด้วยตัวเอง”
 
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินเฉิน ศิษย์หญิงของสำนักวิหคสีชาดก็มองออกไปข้างนอกประตูด้วยความหวาดหวั่น
 
‘ให้ตายสิ มีคู่แข่งเยอะขนาดนี้ แต่ข้ากลับไม่รู้ตัวเลยหรอเนี่ย!’
 
ฟิ้ว ฟิ้ว!
 
เสียงสายลมพัดผ่าน และคนพวกนี้ก็หายตัวไปในความมืดเหมือนกับศรที่ถูกยิงออกไปแล้ว
 
เนื่องจากผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนยอมมอบสมบัติสวรรค์ให้กับพวกเขา พวกเขาจึงต้องรีบกลับไปแจ้งผู้สืบทอดของพวกเขา เพราะเกรงว่ายาของพวกเขาจะถูกคนอื่นชิงไป!
 
เมื่อเห็นแบบนี้ ศิษย์สำนักวิหคสีชาดก็กัดฟังของเธอแล้วรีบตามออกไปอย่างรวดเร็ว
 
ในตอนนี้เอง จางจีก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย “พี่ชาย ท่านจะยอมยกสมบัติสวรรค์ให้ผู้สืบทอดพวกนี้ไปรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขาจริงๆหรอครับ?”
 
“แน่นอนว่าต้องให้อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นข้าจะตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้สำนักอู๋ซินผนึกกำลังกัน พวกเรายังต้องพึ่งพาผู้สืบทอดพวกนี้อยู่ แต่ถ้าพวกเขาอยากได้สมบัติของข้า พวกเขาก็ต้องจ่ายอะไรมาให้ซักหน่อย”
 
เฉินเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม
 
จางจีครุ่นคิดอยู่ข้างๆเป็นเวลาพักใหญ่ๆและเข้าใจได้ในที่สุด มีความประทับใจอยู่ในดวงตาของเขา ‘พี่ใหญ่ช่างเป็นคนที่ฉลาดจริงๆ!’
 
ไม่นานนัก…
 
เซียนหญิงของสำนักวิหคสีชาดเซียวฮวงเป็นคนแรกที่มาถึงแต่ใบหน้าของเธอซีดเผือดจนน่ากลัว เธอเข้ามาอย่างเงียบๆเหมือนกับผี จนแทบจะทำให้ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในโรงเตี๊ยมหยี่หลานขวัญผวา
 
“ข้าอับอายตัวเองจริงๆ น้องเล็ก ข้าได้รับบาดเจ็บในระหว่างการต่อสู้กับนังร่านนั่นในวันนี้”
 
เซียวฮวงฝืนยิ้มออกมา นังร่านที่เธอพูดถึงนั้นเห็นได้ชัดว่าคือเซียนหญิงของสำนักซวนปิ่ง
 
เฉินเฉินอึ้งไปเล็กน้อย ถึงยังไงเซียวฮวงก็เป็นเซียนหญิง แต่เธอก็ยังเรียกคนอื่นว่านังร่าน เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังโมโหอยู่
 
ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร ประตูของโรงเตี๊ยมหยี่หลานก็เปิดออกอีกครั้ง หลังจากนั้นในทันที ผู้สืบทอดก็แห่เข้ามากันทีละคน
 
หลินจินแห่งสำนักมังกรมรกต เย่หวู่เชิงแห่งสำนักพยัคฆ์ขาว ซวนฮงจากสำนักซวนวู… พวกเขาทุกคนมาอยู่ที่นี่แล้ว
 
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้สืบทอดสิบเอ็ดคนก็ได้มารวมตัวกันในโรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
สีหน้าของผู้สืบทอดพวกนี้ไม่ได้ต่างจากเซียวฮวงมากนัก เพราะพวกเขาต่างก็หน้าซีดเหมือนกับกระดาษ ถ้าเฉินเฉินไม่เคยเจอพวกเขามาก่อน เขาอาจจะคิดว่ามีกลุ่มผีดิบแห่เข้ามาที่นี่ก็ได้
 
“นี่มันเลวร้ายเลยนะเนี่ย!”
 
เฉินเฉินถอนหายใจ เมื่อวาน ผู้สืบทอดพวกนี้ต่างก็เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงแต่ตอนนี้ พวกเขาอยู่ในสภาพที่เลวร้ายจนถึงขนาดที่พวกเขาดูน่ากลัวเลยหล่ะ ความตรงข้ามโดยสิ้นเชิงนี้มันคืออะไรกัน!
 
อย่างไรก็ตาม เฉินเฉินยังคงชื่นชมพวกเขา
 
ในช่วงการประลอง พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บหนักหรือไม่ก็โดนทำให้หมดสติ อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านไปช่วงสั้นๆ พวกเขาก็เริ่มเดินได้เองแล้ว
 
เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีพื้นฐานที่ดี
 
“น้องเฉิน เจ้ามีสมบัติสวรรค์มากแค่ไหน? แล้วเจ้าจะยอมยกให้มากแค่ไหน?”
 
หลินจินผู้สืบทอดของสำนักมังกรมรกตเป็นคนแรกที่พูดขึ้น มีความอ่อนโยนและความน่าเอ็นดูแสดงอยู่บนใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา ทำให้เขาดูน่าสงสาร
 
เขาทำอะไรไม่ได้จริงๆ ในเมื่อเขาอยู่ใต้ชายคาของคนอื่น เขาก็ต้องกล้ำกลืนศักดิ์ศรีของตัวเอง แม้จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่อันดับสองเขาก็ต้องฝืนยิ้มและทักทายด้วยความเป็นมิตร
 
“ไม่มากเท่าไหร่”
 
เฉินเฉินพูดอย่างเฉยเมย หลังจากนั้นผู้สืบทอดที่อยู่ในที่นี้ก็ดูตึงเครียดขึ้นมาในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นเอง บรรยากาศที่ดูไม่เป็นมิตรก็แผ่ออกมา
 
เนื่องจากมีสมบัติสวรรค์อยู่ไม่มาก พวกเขาจึงต้องแข่งกัน ซึ่งทุกคนที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็คือคู่แข่ง
 
“ระบบ ของที่มีค่ามากที่สุดในรัศมี 30 เมตรอยู่ตรงไหน?”
 
“ชุดเกราะโซ่วิญญาณพยัคฆ์ที่ระยะสามเมตรทางซ้ายของท่านค่ะ”
 
“ของที่มีค่าเป็นอันดับสองหล่ะ?”
 
“สร้อยคอดอกไม้เลือดฟีนิกซ์ที่ระยะสองเมตรทางขวาของท่านค่ะ”
 

 
เมื่อได้ฟังคำตอบ เฉินเฉินก็รู้สึกประหลาดใจ
 
ผู้สืบทอดพวกนี้รวยใช้ได้เลยทีเดียว แค่ของที่อยู่นอกแหวนเก็บของก็มีจำนวนไม่น้อยแล้วที่มีค่ามากกว่าอุปกรณ์ที่เขาสวมใส่
 
อย่างที่คิดเอาไว้ ของที่สามารถซื้อได้นั้นไม่ใช่ของที่ดีที่สุด
 
ของที่ดีที่สุดคือของที่ซื้อไม่ได้ต่างหาก
 
อย่างไรก็ตาม ของพวกนี้จะต้องถูกเปลี่ยนเจ้าของในวันนี้แหล่ะ
 
แต่ว่าก่อนหน้านั้นเขาต้องลองหยั่งเชิงดูซะก่อน
 
ด้วยความคิดนี้เอง เฉินเฉินก็หยิบโสมแดงอายุ 10,000 ปีออกมาจากแหวนเก็บของของเขา
 
“ข้ามีโสมแดงอายุ 10,000 ปีอยู่ที่นี่ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการของหนึ่งในพวกเจ้าให้หายเป็นปลิดทิ้ง พวกเจ้าบอกสิ่งที่จะนำมาแลกได้เลย แต่ข้าขอพูดให้ชัดเจนเอาไว้ก่อนนะ ข้าไม่อยากได้ของต่ำต้อยอย่างหินวิญญาณ”
 
ในขณะที่มองโสมแดง ดวงตาของผู้สืบทอดก็เป็นประกายขึ้นมา ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับผีดิบของพวกเขา
 
แม้ว่าพวกเขาเองก็เคยมีของแบบนี้มาก่อน แต่สิ่งที่พวกเขามีก็คือชิ้นส่วนโสม อย่างไรก็ตามผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนนั้นได้เอาโสมแดงทั้งต้นออกมา
 
“พี่ใหญ่เฉิน ข้ามีขนนกวิหคสีชาดอยู่ที่นี่ มันมีคุณสมบัติศักดิ์สิทธิ์ค่ะ!”
 
ในตอนนี้เองเซียวฮวงเรียกเขาว่า ‘น้องเล็ก’ ต่อไปไม่ได้แล้วและเปลี่ยนไปเรียกเขาว่า ‘พี่ใหญ่’ แทน อย่างไรก็ตามเขาเองก็หยิบขนนกที่เป็นประกายออกมาจากแหวนเก็บของของเขา
 
เมื่อเห็นขนนกนั่น เหล่าผู้สืบทอดก็พากันหวาดหวั่น
 
‘บ้าจริง นี่มันเป็นของที่ประเมินค่าไม่ได้ มันคือขนนกของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์!’
 
“เฉิน… อะแฮ่ม ข้ามีไข่อยู่ทีนี่! มันมีโอกาสที่จะฟักออกมาเป็นเต่าดำ
 
ในจุดนี้เอง ซวนฮงก็ไม่มีความเย่อหยิ่งอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากในการที่จะกล้ำกลืนศักดิ์ศรีของเขาและเรียกเฉินเฉินว่า ‘พี่ใหญ่’ อย่างไรก็ตาม ของที่เขานำออกมานั้นมันทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจได้จริงๆ!
 
‘มีโอกาสฟักออกมาเป็นเต่าดำหรอ!’
 
‘นี่มันสุดยอดไปเลย!’

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset