คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย – ตอนที่ 136 มีคนร่ำรวยเสมอ

ชายชราขั้นกำเนิดใหม่เดินขึ้นแท่นประมูล พลิกฝ่ามือหยิบขวดหยกสีขาวคอแคบใบหนึ่งออกมา ทั้งขวดสูงเพียงฝ่ามือ ตัวขวดสีขาวงาช้างเรียบลื่น บนขวดวาดทิวทัศน์ชนบท

พอขวดหยกสีขาวปรากฏในมือ ปราณวิญญาณที่ทำให้คนสดชื่นก็พุ่งเข้ามาปะทะหน้า ทำให้คนอดคิดจะสูดปราณวิญญาณเพิ่มไม่ได้

“ขวดใบนี้มีนามว่าขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื่น ด้านในมีสถานที่ซึ่งมีปราณวิญญาณเข้มข้น สามารถทำให้พืชวิญญาณเติบโตจนเก็บเกี่ยวได้ในระยะเวลาสั้นลง หญ้าวิญญาณร้อยปี ใช้เวลาเพียงยี่สิบปีก็เก็บเกี่ยวได้ ทว่ายามนี้ภายในขวดปลูกหญ้าวิญญาณเต็มแล้ว ราคาของพื้นที่มิติชิ้นนี้ คาดว่าคงไม่ต้องให้ข้าเอ่ยมากความอีก ทุกท่านคงเข้าใจความสำคัญของมันแล้ว” ชายชราขั้นกำเนิดใหม่ลูบหนวดเครายาว พยักหน้าเล็กน้อยจึงเอ่ย

ในสถานที่ประมูลเงียบกริบ ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐานเหล่านั้น แต่ละคนตกตะลึงราวกับเป็นใบ้ ขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ฝืนลิขิตฟ้า เพียงแค่ทำให้ระยะเวลาเติบโตของหญ้าวิญญาณลดน้อยลงห้าเท่าได้ก็ทำให้คนหวั่นไหวจนแทบจะร้องคำรามออกมา

ที่จริงนี่ไม่นับเป็นอะไร ถ้าเป็นพื้นที่มิติชั้นยอด คงไม่หลุดมาถึงโลกระดับวิญญาณ ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ขึ้นไป ในช่วงเวลาหลายร้อยปีพบการประมูลเช่นนี้หลายครั้ง พื้นที่มิติเหล่านั้นต่างมีลักษณะพิเศษของมัน อย่างไรเสียขอเพียงได้มาสักชิ้น ก็กลายเป็นสมบัติล้ำค่าของสำนัก

พื้นที่มิติซึ่งปรากฏขึ้นในปีก่อนๆ ส่วนมากผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ขึ้นไปหรือตระกูลสำนักส่งคนมาซื้อไป ถ้าความสามารถไม่พอภูมิหลังไม่แข็งแกร่ง ต่อให้มีกำลังทรัพย์ซื้อพื้นที่มิติเหล่านี้ไป พกติดตัวได้ไม่กี่วันก็ต้องถูกคนไล่ล่าสังหารชิงสิ่งของไป

จินเฟยเหยายิ่งตกตะลึงสุดเปรียบปาน สามารถเร่งการเติบโตของพืชวิญญาณได้ เช่นนั้นก็จะมีพืชวิญญาณมากกว่าผู้อื่น จะมียาระดับสูงก็มากขึ้น ผู้อื่นจะแข่งความเร็วในการฝึกบำเพ็ญด้วยได้อย่างไร นี่มันโลกอะไรกัน หรือว่าพื้นที่มิติไม่ใช่แค่พื้นที่ว่างโดดเดี่ยวที่เปิดออกได้? เหตุใดจึงมีความสามารถเช่นนี้ด้วย

ถ้าจริงอย่างที่ชายชราคนนั้นพูด พื้นที่มิติของโลกระดับเทพมีวางขายในร้าน ความเร็วการฝึกบำเพ็ญของแต่ละคนไยมิใช่เหนือล้ำกว่าโลกอื่นๆ อย่างมาก?

ไม่รอให้นางได้สติคืนมาจากการตกตะลึง ชายชราบนแท่นประมูล ก็หยิบเจดีย์วิญญาณสีดำสนิทออกมาอีก “เจดีย์ขุ่นมัวเจ็ดชั้น ในเจดีย์แต่ละชั้นสามารถทำให้เวลาช้าลง ทั้งยังมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน สามารถช่วยในการฝึกบำเพ็ญได้ เจดีย์ชั้นแรก ภายนอกหนึ่งวัน ภายในคือหนึ่งปี ทั้งยังไม่เร่งความแก่ชราของคนเรา ชั้นที่สองภายนอกหนึ่งวัน ภายในเจดีย์ห้าปี เหมาะสำหรับใช้ปิดด่านกักตนที่สุด”

พอเอ่ยแนะนำพื้นที่มิติสองชิ้นจบ ภายในสถานที่ประมูลยังคงเงียบกริบ แม้แต่ในหัวใจผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐานยังเต็มไปด้วยความปรารถนา อยากจะทุบตีคนผู้นี้ให้ตายคาที่อย่างยิ่ง แล้วแย่งชิงพื้นที่มิติสองชิ้นหลบหนีไป

ทว่าก็แค่คิดเท่านั้น ผู้อื่นกล้านำออกมาขายก็ไม่กลัวว่าเจ้าจะปล้นชิง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ขึ้นไปล้วนนั่งสงบนิ่งอยู่ในห้องแก้ว ขั้นสร้างฐานขั้นหลอมรวมจะเข้ามาร่วมความคึกคักทำไม

เยวี่ยปู้ชิงก็นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวแบบไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขามาประมูลพื้นที่มิติโดยเฉพาะ อยากจะเพิ่มสถานที่ฝึกบำเพ็ญให้ตระกูลสักชิ้น อาศัยอยู่ในเมืองวั่นเซียนสุ่ยอะไรก็ดีไปหมด เพียงแต่พื้นที่เล็กเกินไป ทว่าคิดไม่ถึงว่าพื้นที่มิติในครั้งนี้จะมีความสามารถราวปาฏิหาริย์ถึงเพียงนี้ ไม่เหมือนกับป่าเขาหมื่นหมู่ที่เคยประมูลมา

สิ่งของที่สามารถยกระดับการฝึกบำเพ็ญได้หลายเท่าแบบนี้ ถ้าให้สำนักประมูลได้ไป ต้องมีศิษย์จำนวนมากเป็นขั้นหลอมรวมจากนั้นก็ขั้นกำเนิดใหม่อย่างรวดเร็ว ตระกูลเล็กๆ ของเขาจะแย่งชิงชนะพวกเขาได้อย่างไร ต่อให้แย่งมาไว้ในมือได้ ก็ยากบอกได้ว่าจะถูกฆ่าล้างตระกูลทั้งหมดหรือไม่

ตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนในเมืองวั่นเซียนสุ่ยทั้งหมด มีเพียงตระกูลเจียงที่มีพื้นที่มิติ เพียงแค่พลังวิญญาณเข้มข้นนิด พื้นที่กว้างหน่อย มีสัตว์ปิศาจเกิดขึ้นเองบ้าง ให้ศิษย์ในตระกูลใช้ฝึกประสบการณ์ แต่ละครั้งที่สำนักใหญ่คัดเลือกคน ก็มักจะเลือกคนของตระกูลเจียงไป ทำให้ตระกูลอื่นๆ อิจฉาตาร้อนไม่หาย

ถ้าประมูลพื้นที่มิติในครั้งนี้ไม่ได้จะทำอย่างไรดี ขอเพียงเริ่มประมูลก็ไม่สามารถออกจากที่นี่ก่อนหรือส่งข่าวได้ เยวี่ยปู้ชิงคิดจะขอคำแนะนำจากผู้อาวุโสในตระกูลก็ไม่ได้ เขาครุ่นคิด ได้แต่ฝืนใจเตรียมตัวอีกสักครู่จะตะโกนประมูล ผู้ใดจะรู้ว่าคนในตระกูลจะคิดอย่างไร ถ้าพวกเขาต้องการแล้วตนเองไม่ตะโกนประมูล พวกเขาคงทุบตีตนเองตายแน่

อย่างไรเสียตนเองก็มีศิลาวิญญาณในแผนการเพียงพอ ขอเพียงไม่เกินราคานี้ก็ใช้ได้ ถ้าเกินก็ต้องปล่อยมือ เยวี่ยปู้ชิงคิดคำนวณ คนส่วนมากก็คิดเช่นเดียวกัน พวกเขาส่วนมากก็มาเพื่อพื้นที่มิติสองชิ้นนี้ และคิดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าสิ่งของสองชิ้นนี้จะมีความสามารถราวปาฏิหาริย์ขนาดนี้ ต่างกังวลว่าศิลาวิญญาณที่ตนเองนำมาจะไม่เพียงพอ

ในขณะนี้เอง ชายชราขั้นกำเนิดใหม่บนเวทีก็เอ่ยปาก “เนื่องจากพื้นที่มิติสองชิ้นนี้ลูกค้าฝากมาประมูล ดังนั้นราคาก็ต้องตามที่เขาตัดสินใจ ไม่ให้หอผิ่นเมิ่งของพวกเราเปิดราคา”

พอคำพูดนี้ออกมา บรรดาผู้บำเพ็ญเซียนก็ส่งเสียงดังอื้ออึง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสิ่งที่คนคนเดียวกันครอบครอง ทั้งยังนำออกมาประมูลอย่างใจป้ำ บรรดาคนด้านล่างแท่น ขอเพียงมีคนครอบครองพวกมันเพียงชิ้นเดียว จนตายก็ไม่นำออกมาประมูล

จินเฟยเหยาแทบจะหลั่งน้ำตาอาบหน้า คนประเภทใดกันจึงร่ำรวยถึงปานนี้ ไม่รู้ว่าเขาหาคู่บำเพ็ญอยู่หรือไม่ ไม่เช่นนั้นนางก็อยากจะไปต่อแถวด้วย ถ้าไม่ถูกใจนาง เช่นนั้นส่งเนี่ยนซีไปยกชาเทน้ำให้เขาแลกพื้นที่มิติมาใช้ได้ก็ดีสิ

ขณะที่นางครุ่นคิดวุ่นวาย ชายชราขั้นกำเนิดใหม่ก็ประกาศราคาที่ผู้ขายฝากมา “ครั้งนี้ไม่รับศิลาวิญญาณชั้นกลาง ทว่าใช้ศิลาวิญญาณชั้นบนห้าล้านก้อนเปิดประมูล และสามารถใช้ของแลกของ ทุกท่านครุ่นคิดดูสักครู่”

ศิลาวิญญาณชั้นบน จินเฟยเหยาตกตะลึง คนของโลกระดับวิญญาณจะร่ำรวยเกินไปแล้ว ศิลาวิญญาณชั้นบนก็มีอยู่ทั่วไปหรือ ไม่ได้ นางต้องหาวิธีให้ได้ศิลาวิญญาณมา ที่นี่มีเพียงคนธรรมดาเท่านั้นที่ใช้ศิลาวิญญาณชั้นล่าง

“ที่นี่ไม่ใช่โลกระดับเทพ ไหนเลยจะมีศิลาวิญญาณชั้นบนมากมายปานนั้น ของวิเศษสองชิ้นล้ำค่าจริงๆ ทว่าราคาสูงขนาดนี้ มิใช่มีความคิดไม่อยากขายหรือ เพียงนำออกมาให้คนมองอย่างละโมบเท่านั้น” ในห้องแก้วกลางอากาศพลันมีเสียงเย็นชาของสตรีดังมา ฟังออกว่าเจ้าของน้ำเสียงไม่พอใจอยู่บ้าง

ส่วนในห้องแก้วอีกห้องหนึ่งก็มีเสียงดังมา “พวกเจ้าบอกเงื่อนไขในการใช้ของแลกของมาเถอะ พื้นที่มิติสองชิ้นนี้ คิดจะแลกกับสิ่งของใด ทุกคนจะได้ไม่ต้องคาดเดาเปะปะจนเสียเวลา ศิลาวิญญาณนั้นช่างเถอะ ราคาหนึ่งล้านศิลาวิญญาณชั้นบนสามารถซื้อหอผิ่นเมิ่งของพวกเจ้าได้ทั้งหอ ก็ยังจ่ายไม่ไหวเหมือนเดิม”

เชอะ ที่แท้คนเหล่านี้ก็จ่ายราคานี้ไม่ไหว จินเฟยเหยารู้สึกดีขึ้นมาก คนเหล่านี้ก็จ่ายศิลาวิญญาณชั้นบนจำนวนมากขนาดนี้ไม่ไหวเช่นเดียวกัน มิได้มีเพียงนางที่เป็นยาจก ถ้าคนเหล่านี้ตะโกนประมูลหลายสิบล้านอีก นางที่ไม่เคยเห็นแม้แต่ศิลาวิญญาณชั้นบนมิน่าสงสารแทบตายหรือ

ชายชราขั้นกำเนิดใหม่บนแท่นประมูลราวกับคาดเดาได้ว่าจะเป็นเช่นนี้แต่แรก จึงไม่ได้ปฏิเสธ ทว่าเริ่มเอ่ยวาจา “ใช้ของแลกของมีรายการดังนี้ ข้าจะพูดเงื่อนไขสิ่งของที่ใช้แลกเจดีย์มลทินเจ็ดชั้นก่อน หญ้าหมู่จือพันปีสิบชุด เหล็กในผึ้งนิลกาฬหนึ่งชิ้น ลูกสัตว์ลุ่นโซ่วที่ยังไม่รับนายหนึ่งตัว วิญญาณมังกรเทียนอวิ๋นหนึ่งส่วน…”

ไม่รอให้เขาเอ่ยจบ ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ในห้องแก้วก็ทนไม่ไหว มีคนเอ่ยตัดบทคำพูดของเขา “เฒ่าหยวน พวกเจ้าจะเอาสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดเดี๋ยวนี้เลยหรือ? เจ้ามิใช่ไม่รู้ว่าผึ้งนิลกาฬเป็นสัตว์ปิศาจขั้นเก้า สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้นานแล้ว จะดึงเหล็กในที่ก้นของมันออกมาง่ายๆ ได้อย่างไร? ลูกสัตว์ลุ่นโซ่วยิ่งน่าขำเข้าไปใหญ่ ต่อให้โชควาสนาดีสามารถหาพบได้ คิดจะรวบรวมสิ่งของเหล่านี้ต้องใช้ระยะเวลาหลายร้อยปี เจ้าคิดจะเอาทั้งหมดนี้ในงานประมูลครั้งเดียว?”

สิ่งของเหล่านี้จินเฟยเหยาไม่รู้เลยว่าคืออะไร แค่สัตว์ปิศาจขั้นเก้าก็เพียงพอสำหรับนางแล้ว สิ่งของอื่นๆ คาดว่าเป็นของล้ำค่าเช่นเดียวกัน ดูแล้วสมควรไปซื้อของวิเศษติดบ้านเผื่อออกไปข้างนอกสักชิ้น และแผนที่ถูกๆ มาดูเสียหน่อย

ชายชราขั้นกำเนิดใหม่เอ่ยสิ่งของจำนวนมากออกมา ถูกคนปฏิเสธกลับยังยิ้มแย้มไม่เอ่ยวาจามาตลอด จากนั้นเพียงหยิบป้ายหยกออกมากองหนึ่ง โยนเข้าไปในห้องแก้วแต่ละห้อง “นี่คือสิ่งของทั้งหมดที่อยากแลกเปลี่ยนกับพื้นที่มิติสองชิ้นนี้ ทุกท่านสามารถดูได้ ข้ารู้ว่าในมือของทุกท่านมีสิ่งของจำนวนไม่น้อย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มี ถ้าอย่างไรพวกท่านหลายคนร่วมมือกัน นำออกมาคนละไม่กี่ชิ้น จากนั้นก็ผลัดกันใช้งาน”

“ข้าก็อยากได้ป้ายหยกชิ้นหนึ่ง” ภายในห้องส่วนตัวพลันมีเสียงดังมา ทุกคนอดมองไปไม่ได้ ผู้ใดไม่ประมาณตนขนาดนี้ สิ่งของเหล่านี้เพียงฟังผ่านๆ ก็รู้ว่าต้องเป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ขึ้นไปจึงนำออกมาได้ คนที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวคือต่ำกว่าขั้นกำเนิดใหม่ อย่างมากที่สุดก็เป็นคนของตระกูลผู้บำเพ็ญเซียนจึงกล้าเอ่ยปาก

“คุณ…คุณชายรอง สิ่งนี้พวกเราได้ไปก็ไร้ประโยชน์”

คนที่เอ่ยปากต้องการป้ายหยกคือเยวี่ยปู้ชิง เขาพลันคิดขึ้นได้จึงเอ่ยปากออกมาราวกับภูติผีดลใจ ยามนี้ถูกบ่าวรับใช้ข้างกายพูดเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกสำนักเสียใจก็ไม่ทันแล้ว เอ่ยปากไปแล้ว ยังมีเหตุผลใดให้บอกว่าไม่ต้องการ เขาเพียงคิดจะนำกลับไปรายงานเท่านั้น พี่ใหญ่จะได้ไม่หาเรื่องเขาอีก

ชายชราขั้นกำเนิดใหม่ไม่ได้ปฏิเสธ ใช้นิ้วดีดเบาๆ ป้ายหยกชิ้นหนึ่งก็ลอยเข้าไปในห้องส่วนตัว อย่างไรเสียป้ายหยกก็ไม่มีราคาเท่าใด ถ้าอยากดู ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นสร้างฐานเหล่านี้ก็สามารถได้คนละชิ้น

เยวี่ยปู้ชิงรับป้ายหยก จะดูยังไม่กล้าดู รีบเก็บในถุงเฉียนคุนทันที ถึงจะมีม่านแสงกั้นหน้าห้อง เขายังรู้สึกได้ถึงสายตาอยากชมเรื่องสนุกและดูแคลนของคนจำนวนไม่น้อย ในจำนวนนั้นก็มีจินเฟยเหยาเงยหน้าขึ้นมองอย่างประหลาดใจ แล้วถูกเขาเห็นเข้าพอดี

ขณะที่ทุกคนกำลังดูแคลนเยวี่ยปู้ชิง น้ำเสียงแก่ชราอย่างยิ่งก็ดังมาจากในห้องแก้ว “ข้ามีโชคไม่เลว เฒ่าหยวน ข้าต้องการขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้น”

เงื่อนไขสาหัสสากรรจ์ขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะมีคนแลกได้ นั่นต้องเก็บสะสมมากี่ปี จินเฟยเหยาคันในหัวใจ อยากจะดูว่าสิ่งที่ขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้นต้องการมีวัสดุอะไรบ้าง จะได้เห็นเป็นบุญตา

นางโผล่ศีรษะออกมาก็เห็นตรงมุมห้อง มีคนโยนถุงเฉียนคุนใบหนึ่งออกมาจากในห้องแก้วอย่างไม่สะดุดตา ลอยไปอยู่ในมือเฒ่าหยวนชายชราขั้นกำเนิดใหม่

เฒ่าหยวนใช้การรับรู้กวาดดู แล้วผลักมือในความว่างเปล่า ขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้นก็ลอยข้ามศีรษะของทุกคนเข้าไปในห้องแก้วภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน

การประมูลก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายไม่ได้แลกศิลาวิญญาณและสิ่งของในที่นั้นทันที ทั้งหมดเพียงแต่จดบันทึกไว้ หลังจากการประมูลสิ้นสุดจึงดำเนินการแลกเปลี่ยน ทว่าพื้นที่มิติกลับจ่ายตรงนั้นเลย เหนือความคาดหมายของทุกคนอยู่บ้าง

เห็นวัสดุของเจดีย์มลทินเจ็ดชั้นไม่มีใครนำออกมาแลก ชายชราขั้นกำเนิดใหม่ก็ไม่รีบร้อน วันนี้แลกขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้นออกไปได้ เกินความคาดหมายของเขาแล้ว ถือว่าเก็บเกี่ยวได้เกินคาด

เขายิ้มพลางเอ่ยว่า “ทุกท่านไม่ต้องรีบร้อน วันนี้เดิมทีเพียงคิดจะมาแสดงของล้ำค่าสองชิ้นนี้ ถ้ามีสหายเซียนยังอยากได้เจดีย์ขุ่นมัวเจ็ดชั้น พวกเราจะเก็บไว้รอตลอดเวลา การประมูลครั้งหน้าก็จะนำออกมา ทุกคนสามารถไปค้นหาสิ่งของบนป้ายหยกก่อน พวกเราจะรอคอยทุกท่านด้วยความเคารพเสมอ ถ้าของสิ่งนี้ถูกประมูลไปแล้ว พวกเราจะประกาศในซื่อเต้าจิง ให้ทุกท่านไม่ต้องเสียเวลาเปล่าอีก การประมูลในวันนี้จบลงแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมา”

หลังสิ้นเสียงของเขา ห้องแก้วเหนือศีรษะก็เปล่งแสงสว่างจ้า คนด้านในถูกส่งตัวออกไปพร้อมกันทั้งหมด ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครซื้อขวดหมื่นวิญญาณชุ่มชื้นไป

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตายเวลาเช้าตรู่ บนเส้นทางอันยาวไกลของยอดเขาลั่วซี มีเด็กสาวผู้หนึ่งกำลังแบกถังไม้ขนาดใหญ่สูงเจ็ดฉื่อ[1]เดินไปยังวังอวิ๋นเย่ที่สร้างอยู่กลางยอดเขาด้วยฝีเท้าเบาและรวดเร็ว นางอายุประมาณสิบสองสิบสามปี เกล้าผมเป็นมวยสาวน้อยคู่หนึ่ง บนมวยแต่ละอันมีแถบผ้าสีเขียวพันประดับ บนร่างสวมชุดศิษย์สายนอกสีเทาทั้งตัว บนเข่ามีรอยปะชุนแห่งหนึ่ง หน้าตางดงามน่ารัก รูปร่างพอเหมาะพอดี ทว่ากลับแบกถังไม้ที่สูงกว่านางสองเท่า ก้าวเดินบนบันไดศิลาดุจเหินบิน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset