ปกติแล้วไม่ว่าจะยุ่งแสนยุ่ง เหนื่อยแสนเหนื่อย คุณซันจะไม่ละเลยการดูแลสุขภาพ มื้อเช้าเป็นสิ่งสำคัญเสมอ แต่วันนี้ต้องโมโหเบอร์ไหนถึงได้จะไม่กินกันล่ะ
“ ขอโทษนะคะคุณซัน ” คุณแม่บ้านพึมพำเบา ๆ อย่างรู้สึกผิดเหลือเกิน
ส่วนผู้เป็นนายเดินกระแทกส้นเท้าตึง ๆ เข้าไปในห้องโถง โยนกระเป๋าโครมลงบนโต๊ะ ทิ้งตัวลงบนโซฟาหรูแล้วปลดกระดุมเชิ้ตลงสามเม็ด
หลับตาลง หายใจเข้าออกลึก ๆ ยาว ๆ เพื่อบรรเทาอาการหัวใจเต้นแรงเพราะความโกรธ เลือดในกายกำลังสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง
เด็กบ้านั่นกล้าดียังไงถึงได้ไปโดยไม่ได้รับอนุญาต !
เขารึอุตส่าห์รีบกลับมาหาเพราะคิดถึง แค่คืนเดียวที่ห่างกันก็เล่นเอาเขาหัวหมุน
“ ดื้อ ! ”
เขาตะโกนออกมาดัง ๆ
มือเขาคว้ามือถือมาเปิดดู เห็นว่ามีหมายเลขโทรศัพท์และข้อความเข้า แต่พอกดดูก็พบว่าเป็นคุณแม่บ้านวันเพ็ญเท่านั้น ไม่มีสายหรือข้อความแจ้งจากแก้วกานดาแต่อย่างใด
กรามถูกขบเป็นสันนูน นี่เธอเห็นเขาเป็นหัวหลักหัวตอหรือไงนะ นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
เขานั่งมองมือถืออยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจกดโทรออกมีเพียงเสียงตอบกลับมาว่า
หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
ปิดเครื่องงั้นเหรอ ?
ทำไมต้องปิดเครื่อง ไม่อยากให้เขาติดต่อได้หรือไงกัน กล้าดียังไงวะ !
เขาหงุดหงิดขั้นสุด กะว่าจะรีบกลับบ้านมากอด มาหอม มีเซ็กส์กันให้หนำใจเพราะไหน ๆ ก็เป็นวันหยุด มีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่เธอกลับมาหายไปแบบนี้
หายไป ใช่ ทำไมจู่ ๆ จึงหนีหาย หรือว่าเธอจะโกรธที่เขาตวาดคืนนั้น
ไม่รู้เพราะอะไร แต่สัญชาตญาณบอกให้ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่เรือนรับรองอันเป็นเรือนพักของเธอ
เขาเปิดประตู เดินเข้าไปในห้องนอนแล้วก็ต้องใจหาย เมื่อเห็นโทรศัพท์มือถือของเธอที่เขาซื้อให้ถูกวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ปิดเครื่องเรียบร้อย
ทำไมไปแต่ตัว ทำไมไม่เอามือถือไป ?
บนโต๊ะหนังสือคอมพิวเตอร์ถูกเก็บใส่กระเป๋าไว้เรียบร้อย เขารีบเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าสำรวจภายใน ใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่ยังเห็นเสื้อผ้าอยู่ในนั้น แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วมันคือเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เขาซื้อให้ ส่วนของเก่าไม่มีเลย
อะไรของเธอ แก้วกานดา !
ศีรษะของเขาเริ่มปวดตุบ ๆ แค่กลับบ้านไปวันสองวันไม่น่าจะต้องเก็บเสื้อผ้าไปหมดนี่นา แถมมือถือก็ไม่เอาไปอีก
เขาปิดประตูตู้ กวาดตามองไปทั่วห้อง พบกล่องคุ้กกี้อันหนึ่งวางไว้บนเตียง คิ้วเข้มขมวดมุ่นว่าทำไมเด็กนั่นถึงได้เอาของหวานมากินบนเตียงแบบนี้ แต่พอเดินเข้าไปใกล้พบว่ามีกระดาษสีขาวพับครึ่งแปะไว้บนฝากล่องด้วยกาวสองหน้า ด้านบนมีข้อความเขียนเอาไว้
ถึงคุณหมอดุจตะวัน
และเมื่อหยิบกระดาษขึ้นมาก็พบว่ามันพับครึ่ง เขาคลี่มันออกเพื่ออ่าน
หนูขอคืนของให้คุณหมอทั้งหมด ทั้งเสื้อกาวน์และจดหมาย ถึงแม้ว่าจดหมายนี้คุณหมออาจจะไม่ได้เขียนเองก็ตามแต่มันทำให้หนูซาบซึ้งและเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาตลอดขอโทษที่ต้องออกไปแบบนี้ แต่หนูอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกแล้ว ขอให้คุณหมอมีความสุขมาก ๆ กับคนรักนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างค่ะ
“ พูดบ้าอะไรของเธอ ยัยเด็กบ้า ! ”
คนรักบ้าบอคอแตกอะไรกัน เขาเคยรักใครที่ไหนเล่า ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่อยู่ในห้วงคำนึง แทบทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่เธอ แต่เธอ !
จดหมายนั่นก็ลายมือเขา และจดหมายของเธอทุกฉบับเขาก็ยังเก็บเอาไว้อย่างดีในตู้เซฟ เอามาเปิดอ่านไม่รู้กี่สิบร้อยรอบจนแทบจะท่องได้อยู่แล้ว
เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ เธอถึงหนีไปแบบนี้ ?
แค่โกรธที่เขาตวาด หรือเธอรังเกียจที่ได้ล่วงรู้ความลับที่ในยามค่ำคืนเขาร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กชายตัวน้อย ๆ แถมพูดอะไรออกไปโดยที่ไม่รู้ตัว มากไปกว่านั้นเธออาจจะรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คุณหมอดุจตะวันผู้สมบูรณ์แบบ แต่เป็นแค่ของมีตำหนิที่แม้แต่แม่ตัวเองยังไม่ต้องการ เป็นเด็กที่เกิดมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ !
เขาพยายามแก้ไขมันแล้วเพื่อเธอ แต่ทำไมเธอถึงได้ไม่รอเล่า…