“ บ้าฉิบหาย ! ”
เขาตวาดพลางขว้างกล่องคุ้กกี้นั้นลงบนเตียง ของที่อยู่ในนั้นกระจัดกระจายออกมาทั้งจดหมายสิบสองฉบับ เสื้อกาวน์ และภาพวาดด้วยดินสอบนกระดาษเอสี่
เขาหยิบมันขึ้นดูด้วยมืออันสั่นเทา ชายสวมแมสก์ในชุดกาวน์นั้นมันคือเขา เขาในวันนั้น วันแรกที่เธอและเขาได้พบกันนี่นา
พลิกดูด้านหลังมีลายมือเป็นระเบียบเขียนไว้ด้วยดินสอจาง ๆ
คุณหมอดุจตะวัน แก้วกานดา
น้ำตาของเขาเอ่อคลอ รูปหัวใจนั่นสื่อถึงความรัก
เธอรักเขางั้นเหรอ ใช่สิ เธอคงรักที่เขาเป็นคุณหมอดุจตะวันผู้สมบูรณ์แบบ แต่ไม่ใช่เป็นชายหนุ่มที่ชีวิตแหว่งวิ่น อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แถมยังนอนละเมอไม่หาย บางครั้งหากมีเรื่องกดดันในชีวิตหนัก ๆ ยังถึงขั้นปัสสาวะรดที่นอน !
คนอย่างเขาไม่เหมาะให้ใครรัก และไม่เหมาะที่จะรักใครหรอก
ไปเสียได้ก็ดี !
“ ใครก็ได้ไปหาเหล้ามาให้ฉันดื่มที ! ” เสียงดุดันตวาดลั่นบ้านดังมาจากเจ้านายผู้เงียบขรึม แม้จะเด็ดขาดและน่าเกรงขามแต่เขาไม่เคยโมโหร้าย เกรี้ยวกราดอะไรเช่นนี้มาก่อน ทำให้คนรับใช้ตกอกตกใจไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณวันเพ็ญ แม่บ้านนั่นเอง เธอรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับนายมิ่ง คนสวน
“ คุณซันต้องการอะไรนะคะ ” คุณแม่บ้านระล่ำระลักถาม
“ เหล้า ฉันต้องการเหล้า หูแตกหรือไง ”
“ แต่คุณซันไม่เคยดื่มเหล้าเลยนะคะ ”
“ ก็จะเคยอยู่นี่ไง ไปหามา ”
“ แต่คุณซันจะดื่มตอนเจ็ดโมงเช้าเนี่ยนะครับ ” นายมิ่งแย้งขึ้นอีกเสียง คนเป็นนายตาขวางทันที
“ ฉันจะดื่มตอนไหนมันก็เรื่องของฉัน บอกให้ไปหาก็ไปสิ ไป ! ”
“ แล้ว… แล้วคุณซันจะดื่มอะไรครับ ผมจะไปหาซื้อให้ ”
“ ไม่รู้ อะไรก็เอามา ”
“ แต่คุณซันไม่เคยดื่ม… ”
“ ไปหามา เดี๋ยวนี้ ! ”
ผู้รับใช้ทั้งคู่จึงรีบหลบอารมณ์เกรี้ยวกราดของคนเป็นนายออกมาทันที
“ คุณซันเกิดเป็นอะไรขึ้นมาถึงนึกจะดื่มครับคุณเพ็ญ ” นายมิ่งคนสวนว่า
“ ฉันคิดว่าน่าจะเพราะที่คุณแก้วหนีกลับบ้านไปแน่ ๆ ฉันไม่น่าปล่อยให้เธอไปเลย ”
“ อ้าว ที่ไอ้หมายมันไปส่งน่ะหรือครับ ”
“ ใช่ เออ ค่อยมาสงสัยทีหลังเถอะนะ ตอนนี้รีบไปหาของที่คุณซันต้องการมาเถอะ สงสัยจะโกรธหนักเลย เรียกหาเหล้ามาดื่มทั้งที่ไม่เคยแตะอะไรที่ทำร้ายสุขภาพตัวเอง ”
“ ไม่เคยดื่มแบบนี้ถ้าดื่มแรง ๆ ไปจะแย่ เดี๋ยวผมหาอะไรอ่อน ๆ มาให้ดีกว่า ”
“ นั่นแหละ อย่าให้แรงมากนะ นี่เงิน ” คุณแม่บ้านว่าพลางส่งธนบัตรให้กับนายมิ่ง
สองชั่วโมงถัดมา
ได้ยินเสียงอาเจียนโอ้กอ้าก แต่คนรับใช้จะเข้าไปช่วยก็ถูกไล่ตะเพิดออกมาเข้าหน้าไม่ติด ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่บ้านวันเพ็ญ
“ ไม่ไหวแล้วก็ยังจะดื่มต่ออีก เดี๋ยวก็เป็นอะไรขึ้นมาจะแย่เอาหรอก คุณซันนี่บทจะดื้อก็ดื้อจริง ๆ ” เธอบ่นอุบอิบ โดยมีนายมิ่งและคนรับใช้อื่น ๆ ชะแง้ชะเง้อมองอย่างเป็นห่วง
“ ตัวแดงไปหมดเลยนะครับคุณแม่บ้าน ”
“ ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ฉันจะต้องทำอะไรบางอย่าง ต้องตามใครสักคนมาหยุดคุณซัน ”
“ ใครครับ ” คุณแม่บ้านไม่ตอบแต่รีบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกทันที
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คุณหมอธารเมฆาผู้เป็นน้องชายก็มาถึง เขารีบถามคนรับใช้ที่นั่งรอด้วยความกระวนกระวาย
“ อยู่ไหนครับ ”
“ ดื่มอยู่ริมสระครับ ไอ้ผมก็กลัวจะเมาหัวทิ่มตกสระจังเลยคุณเมฆ พอจะเข้าไปก็โดนไล่ นี่อ้วกไปสองหนแล้วแต่ก็ยังกินต่อ ” นายมิ่งว่าอย่างกังวล
“ แล้วเค้าเป็นอะไร จู่ ๆ ก็นึกอยากจะดื่ม ”
“ คือ… คุณแก้วเธอกลับบ้านน่ะค่ะ ” คุณแม่บ้านตอบ คนเป็นนายเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“ แค่เด็กแก้วกลับบ้าน แล้วทำไมพี่ซันต้องเป็นขนาดนี้ ”
“ ฉันก็ไม่ทราบค่ะ นี่พยายามโทรหาคุณแก้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ปิดเครื่องค่ะ ”
“ มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น ไม่งั้นจะปิดเครื่องทำไม พี่ซันเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
“ ก็หลังจากที่กลับมาจากโรงพยาบาลตอนเช้าค่ะ ตอนนั้นก็ยังไม่ขนาดนี้ เป็นหลังจากที่กลับจากเรือนรับรองค่ะ ”
“ แล้วคุณเพ็ญไปดูหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ”
“ ยังค่ะ ”
“ ไปดูกับผมแป๊บนึงก่อน นายมิ่งดูพี่ซันไว้นะ ”
“ ครับคุณเมฆ ”