ข้อเสนอของฉินเทียนและฟู่ชางทำให้ทุกคนฉุกคิดอย่างจริงจัง
พวกเขาเหล่านี้มิใช่คนเขลาเบาปัญญาและตระหนักต่อสถานการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างดี เพราะเหตุนั้น พวกเขาจึงเชื่อมั่นเช่นกันว่าการถอนกำลังออกจากขุมกำลังเป็นการชั่วคราวคือทางที่ดีที่สุดในตอนนี้
ต่อให้จอมยุทธ์ปีศาจจะยึดครองฐานที่มั่นของขุมกำลังจำนวนมากได้สำเร็จ มันก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ
ภายในขุมกำลังทุกแห่งล้วนมีปริศนาความลับบางอย่างซ่อนไว้และไพ่ตายที่แท้จริงของพวกเขาก็ถูกเก็บไว้ในที่เหล่านั้นซึ่งมีคนทราบเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และจอมยุทธ์ปีศาจไม่มีทางค้นพบพวกมันได้ในเวลาสั้น ๆ
เพียงการยึดครองขุมกำลังใหญ่จำนวนมากในเวลาเดียวกันก็ยากที่จะควบคุมได้แล้ว เมื่อคนของขุมกำลังเหล่านั้นรวมพลกันก่อนโจมตีโต้กลับ พวกเขาก็จะทวงคืนฐานทัพของพวกตนได้อย่างรวดเร็ว
“ถ้าเช่นนั้นให้นิกายกระบี่สายฟ้าและสำนักเบิกภูผาถอนกำลังคนออกมาก่อนเถอะ”
ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวเพื่อให้สองขุมกำลังนำกำลังคนออกมาและเดินทางมารวมตัวกันที่สำนักเมฆาครามโดยเร็วที่สุด
“ถ้าเช่นนั้นเราก็ควรไปรับพวกเขาเช่นกัน”
จ้าวนิกายนภาครามกล่าวขึ้นเบา ๆ ตอนนี้ทั้งสองขุมกำลังถูกคนของจอมยุทธ์ปีศาจล้อมรอบไว้แล้วและการถอนกำลังอาจไม่ง่ายดายอย่างที่คิด ในเมื่อตอนนี้ไม่มีเรื่องสำคัญใดต้องทำ พวกเขาจึงสามารถเดินทางไปเพื่อช่วยคนเหล่านั้นได้
“ถ้าเช่นนั้นให้บรรดาผู้นำของแต่ละขุมกำลังเดินทางไปด้วยกัน ส่วนคนที่เหลือรออยู่ที่นี่และอย่าเพิ่งทำสิ่งใดบุ่มบ่าม”
ฟู่ชางตัดสินใจอย่างรวดเร็วทว่าในใจของเขาก็กังวลอยู่ไม่น้อย
จู่ ๆ จอมยุทธ์ปีศาจก็เดินหน้าโจมตีขุมกำลังใหญ่หลายแห่งอย่างกะทันหันในขณะที่สถานการณ์ในสมรภูมิรบโบราณก็ยังไม่สู้ดีนัก เมื่อพิจารณาถึงสิ่งนี้ เขาก็คาดเดาได้ว่าการเปลี่ยนแปลงในสมรภูมิรบโบราณจะต้องเป็นแผนการที่จอมยุทธ์ปีศาจจงใจก่อขึ้นเพื่อหลอกล่อให้ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ เข้าไปติดหลุมพรางอย่างแน่นอน
แม้ฉินอวี้โม่และคณะจะมีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา ทว่าหากต้องประจันหน้ากับจอมยุทธ์ปีศาจที่เตรียมความพร้อมล่วงหน้ามานาน ไม่อาจทราบได้เลยว่าพวกนางจะเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัยหรือไม่…
ผู้นำขุมกำลังหลายคนก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าก่อนที่จะมุ่งหน้ากันออกไป พวกเขาก็มองเห็นฉินอวี้โม่และคณะที่เดินเข้ามาจากข้างนอก
“เสี่ยวอวี้โม่ พวกเจ้ากลับมาแล้ว !”
เมื่อพบหน้าฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ทุกคนก็ตื่นเต้นกันทันที ก่อนหน้านี้พวกเขาก็กำลังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในสมรภูมิรบโบราณ ทว่าตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็โล่งใจได้เสียที
“ท่านพ่อ สถานการณ์ของสามสำนักและเก้านิกายเป็นอย่างไรบ้างขอรับ ?”
ฟู่อวิ๋นซิวเอ่ยถามถึงสถานการณ์ของขุมกำลังในดินแดนทันที
ก่อนที่ฟู่ชางจะกล่าวตอบ ทุกคนก็เริ่มอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฉินอวี้โม่และคณะได้ทราบอย่างชัดเจน
เมื่อทราบว่านิกายกระบี่สายฟ้าและสำนักเบิกภูผายังไม่ถูกยึดครองไป ฉินอวี้โม่ หานโม่ฉือและคนอื่น ๆ ก็คิดเช่นเดียวกันว่าทั้งสองขุมกำลังควรถอนกำลังคนออกมาก่อนที่จะหารือถึงแผนการต่อไป
“อีกอย่าง…เมืองราชวงศ์ก็ยังไม่ตกอยู่ในอำนาจของจอมยุทธ์ปีศาจซึ่งน่าจะเป็นเพราะจอมยุทธ์ปีศาจยังหวาดหวั่นต่อเมืองราชวงศ์พอสมควร พวกเขาจึงยังไม่เดินทัพโจมตีที่นั่น”
ก่อนหน้านี้ฟู่ชางได้ส่งคนไปสืบข่าวทั่วทั้งดินแดนแล้วและทราบว่าจอมยุทธ์ปีศาจบุกยึดขุมกำลังส่วนใหญ่ในดินแดนมหาเทพ ทว่ายังไม่ได้ย่างกรายไปที่เมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลาง
ความแข็งแกร่งโดยรวมของเมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลางเหนือชั้นยิ่งกว่าสำนักเมฆาครามเสียอีก เพราะฉะนั้น การที่จอมยุทธ์ปีศาจยังหวาดหวั่นและไม่กล้าลงมือโจมตีพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจ
หากจอมยุทธ์ปีศาจต้องแบ่งกำลังคนออกไปให้เพียงพอสำหรับการโจมตีเมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลาง เกรงว่าพวกเขาคงไม่มีทางพิชิตขุมกำลังอื่น ๆ ของดินแดนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้
“นั่นเป็นเรื่องที่ดี”
หลงเพ่ยเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที เมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลางยังไม่ถูกโจมตี นั่นหมายความว่าญาติพี่น้องและตระกูลของนางจะไม่ตกอยู่ในอันตราย
“ท่านลุงฟู่เจ้าคะ หาทางติดต่อท่านลุงหลงจะดีกว่า หากเราคิดจะหาทางตอบโต้จอมยุทธ์ปีศาจ เราคงต้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลราชวงศ์เช่นกัน”
ฉินอวี้โม่กล่าวบอกฟู่ชาง นางเชื่อว่าฝ่ายของพวกนางสามารถตอบโต้จอมยุทธ์ปีศาจและทวงคืนฐานทัพของพวกตนกลับคืนมาได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน แม้จะไม่มีความช่วยเหลือจากตระกูลราชวงศ์ นางก็มั่นใจว่าจะมีโอกาสเอาชนะที่สูง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สามารถทำให้หลายขุมกำลังในดินแดนมหาเทพร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้มากขึ้น เพราะเหตุนั้นตระกูลราชวงศ์จึงต้องมีส่วนร่วมด้วย
“ตกลง ข้าจะส่งสาส์นไปแจ้งตระกูลราชวงศ์”
ฟู่ชางเข้าใจความหมายของฉินอวี้โม่เป็นอย่างดีและพยักศีรษะตอบรับ
“เอาล่ะ ตอนนี้ท่านผู้นำของขุมกำลังทั้งหลายเดินทางไปรับสมาชิกจากนิกายกระบี่สายฟ้าและสำนักเบิกภูผาก่อนเถอะเจ้าค่ะ หลังจากนั้นเราจะได้พูดคุยหารือถึงเรื่องอื่น ๆ ต่อไป”
ฉินอวี้โม่โค้งคำนับผู้นำขุมกำลังทุกคนที่วางแผนจะออกเดินทางและอวยพรให้พวกเขาเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย
คนเหล่านั้นก็เพียงพยักศีรษะก่อนหันหลังและเดินจากไป
“ถ้าเช่นนั้นเราขอตัวกลับไปที่ตระกูลราชวงศ์ก่อน”
นอกเหนือจากจุดประสงค์ของการกระจายข่าว หลงเพ่ยเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองราชวงศ์แห่งมณฑลกลางยิ่งนักและกล่าวการตัดสินใจของตน
“ตกลง ระวังตัวด้วยล่ะ”
แน่นอนว่าทุกคนไม่คัดค้านและเพียงกำชับให้พวกนางระวังตัว
“สหายน้อยอวี้โม่ สถานการณ์ในสมรภูมิรบโบราณเป็นอย่างไรบ้างรึ ?”
ฟู่ชางนั่งลงอีกครั้งและเอ่ยถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในสมรภูมิรบโบราณ
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ ซากศพที่จอมยุทธ์ปีศาจฟื้นคืนชีพถูกกำจัดไปทั้งหมดแล้ว มังกรกระดูกดำเองก็ถูกไล่ต้อนจนได้รับบาดเจ็บและจำใจต้องหลบหนีออกไป ตอนนี้สมรภูมิรบโบราณก็กลายเป็นเพียงซากปรักหักพังธรรมดา ๆ และจะไม่สร้างความเสียหายหรือเป็นภัยต่อดินแดนมหาเทพได้อีกต่อไป”
ฉินอวี้โม่อธิบายกับทุกคนเกี่ยวกับสถานการณ์ในสมรภูมิรบโบราณ
“ดีเลย ครานี้พวกจอมยุทธ์ปีศาจชิงลงมือในขณะที่เราไม่ทันตั้งตัวจริง ๆ แม้จะทำอะไรพวกเราไม่ได้มากนัก แต่ขวัญและกำลังใจของผู้คนก็สั่นคลอนกันไม่น้อย”
ฟู่ชางถอนหายใจด้วยความรู้สึกซับซ้อน การเคลื่อนไหวของจอมยุทธ์ปีศาจในครานี้เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงอย่างแท้จริง
โชคดีที่บุคคลสำคัญของขุมกำลังใหญ่ทั้งหมดรวมตัวอยู่ในสำนักเมฆาคราม ต่อให้คนที่เหลือถูกควบคุมตัวโดยจอมยุทธ์ปีศาจ ชีวิตของคนเหล่านั้นก็จะไม่เป็นอันตราย ตราบใดที่สามารถโจมตีและยึดฐานทัพทั้งหมดกลับคืนมาได้ ขุมกำลังทั้งหลายก็จะไม่เผชิญกับความเสียหายที่มากเกินไป
“อีกไม่นานพลังของทุกคนก็จะฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ บังเอิญว่าตอนนี้กำลังจะมีการประชันของสามสำนักและเก้านิกายพอดิบพอดี ท่านลุงฟู่สามารถหารือกับผู้นำของขุมกำลังต่าง ๆ และเปลี่ยนแปลงกฎของการแข่งขันได้โดยที่หาทางร่วมมือกันเพื่อกอบกู้อาณาเขตของแต่ละขุมกำลังกลับคืนมา”
ฉินอวี้โม่ครุ่นคิดครู่หนึ่งและกล่าวข้อเสนอออกไป
คาดว่าการแข่งขันประชันฝีมือของสามสำนักและเก้านิกายในครานี้จะดำเนินไปตามปกติไม่ได้อีกต่อไป ทว่าในขณะเดียวกัน สถานการณ์ในตอนนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคน การให้บรรดาจอมยุทธ์ร่วมมือกันเพื่อโจมตีทวงคืนฐานทัพของแต่ละขุมกำลังกลับคืนมาสามารถช่วยให้พวกเขามีความเข้าใจที่ตรงกันได้ หลังจากสะสางเรื่องนี้เสร็จสิ้น ขวัญและกำลังใจที่หายไปในตอนแรกจะถูกฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งและทุกคนอาจปรองดองกันมากขึ้นกว่าเดิมซึ่งจะเป็นผลดีต่อดินแดนอย่างยิ่ง
“เป็นความคิดที่ดีทีเดียว หลังจากที่พวกเขากลับมา เราจะหารือกันว่าจะทำอย่างไร”
ฟู่ชางพยักศีรษะและคิดว่าข้อเสนอของฉินอวี้โม่น่าสนใจไม่น้อย
“พวกเจ้าแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อนเถอะ ก่อนหน้านี้ทุกคนคงจะเผชิญกับการต่อสู้ที่ดุเดือดเข้มข้นในสมรภูมิรบโบราณ อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ มากนักและพวกเจ้ายังไม่ต้องกังวลจนเกินไป”
เขากล่าวเพื่อให้ฉินอวี้โม่และทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนในขณะที่ตนวางแผนจะออกไปสำรวจสถานการณ์โดยรอบ
ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ไม่กล่าวสิ่งใดมากนัก ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนในที่พักของตน นางและหานโม่ฉือก็เข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวโดยตรงและต้องการพักผ่อนกันสักพัก
ภายในคฤหาสน์เฟิงหัว เสี่ยวอ้ายโม่กำลังเล่นสนุกกับบรรดาอสูรหลายตัว เมื่อพบหน้าบิดาและมารดา นางก็วิ่งปรี่เข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้างทันที
“ท่านพ่อ~ ท่านแม่~”
นางกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของหานโม่ฉือด้วยท่าทางกระตือรือร้นราวกับก่อนหน้านี้เกิดเรื่องบางอย่างที่ทำให้เด็กสาวสุขใจอย่างที่สุด
“ดูสิเจ้าคะ เสี่ยวอ้ายฉือส่งข้อความมาให้ข้า”
เป็นจริงดังที่คิดไว้ แผ่นหยกเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งปรากฏในมือของเสี่ยวอ้ายโม่ หลังจากเติมพลังมายาเข้าไป ข้อความสั้น ๆ ประโยคหนึ่งก็ปรากฏชัดเจนบนนั้น
“อ้ายโม่ ดูแลท่านพ่อท่านแม่แทนข้าด้วย”
ข้อความที่ถูกเขียนมานี้เป็นลายมือของเสี่ยวอ้ายฉืออย่างแท้จริงและเจือปนมาด้วยพลังมายาที่ทั้งฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ในขณะเดียวกันนั้น จู่ ๆ ร่างหนึ่งก็ปรากฏกายในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจอย่างกะทันหัน
.