ภายในข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ ฮวาฟางเฟยสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรงทันทีที่ก้าวเข้าไป ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพในวันนี้แตกต่างจากที่นางเผชิญคราก่อนอย่างสิ้นเชิงและมันแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว แม้สำหรับผู้ที่ถือว่าทรงพลังและมากฝีมือเช่นฮวาฟางเฟย เพียงก้าวเข้ามาในวงล้อมของมัน นางก็แทบหายใจไม่ออกทันที
คลื่นพลังรุนแรงกระหน่ำโจมตีนางอย่างต่อเนื่องส่งผลให้สีหน้าของฮวาฟางเฟยเหยเกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ม่านป้องกันรอบตัวนางล้วนถูกทำลายไปหลายครั้งหลายคราโดยที่ไม่อาจต้านทานพลังของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพได้เลย
“มันพัฒนาขึ้นมากเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ?!”
สีหน้าของนางแสดงให้เห็นถึงความตกใจเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพคราก่อนไม่เป็นภัยต่อนางมากนัก ทว่าภายในเวลาเพียงไม่นาน พลังของมันกลับพัฒนาขึ้นจนน่าทึ่งเช่นนี้ได้อย่างไร ?
“หึหึ เชิญเพลิดเพลินกับพลังของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพได้เลย !”
ฉินอวี้โม่หัวเราะในลำคอเบา ๆ ในขณะที่ยังร่ายมือถ่ายทอดพลังมายาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพต่อไป
ตูม ตูม ตูมมม !
แรงปะทะทำให้เกิดแสงสว่างจ้าไปทั่วบริเวณและเสียงดังสนั่นอื้ออึ้งจนทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกปวดแก้วหู
มังกรที่ก่อตัวจากพลังมายาเหล่านั้นเหมือนจะกลายเป็นมังกรที่แท้จริงขณะบินโฉบไปมาและปลดปล่อยพลังตรงไปที่ฮวาฟางเฟยอย่างต่อเนื่อง
มังกรขนาดใหญ่ทั้งเก้ามีรูปร่างและความแข็งแกร่งเกือบจะเหมือนกันทุกประการ โดยแต่ละตัวมีพลังในระดับราชาเซียนขั้นสูงสุด ทว่าเมื่อพวกมันโจมตีประสานกัน พลังของมันก็เหนือยิ่งกว่าพลังของฮวาฟางเฟยเสียอีกซึ่งเป็นพลังที่บรรลุถึงขอบเขตเทพยุทธ์ห้าดารา
สีหน้าของฮวาฟางเฟยซีดเผือดและดูน่าสังเวชยิ่งกว่าเดิม การกระหน่ำโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อนเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยากจะรับมือได้ ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดที่มี นางก็ไม่อาจต้านทานได้อีกนานนัก
“บัดซบ !”
นางกัดฟันและสบถออกมา ในเวลานี้นางก็รู้สึกผิดกับการที่ตกลงรับคำท้าของฉินอวี้โม่และยอมเข้ามาอยู่ในวงล้อมของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพด้วยตัวเอง
คนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กันและคิดไม่ถึงเลยว่าข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพจะทรงพลังมากเพียงนี้ ฉินอวี้โม่เป็นสตรีที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ด้วยข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้เพียงอย่างเดียว นางก็แทบจะกลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานในดินแดนมหาเทพแล้ว
“ข่ายอาคมยังคงเป็นศาสตร์ที่ทรงพลังที่สุดไม่เคยเปลี่ยน !”
ฟู่ชางอดถอนหายใจเบา ๆ ไม่ได้และแววตาแสดงความเคารพในความสามารถของฉินอวี้โม่มากยิ่งขึ้น
นับตั้งแต่ยุคอดีต ผู้ใช้ข่ายอาคมถือเป็นผู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในดินแดน ผู้ใช้ข่ายอาคมผู้ทรงพลังเหล่านั้นต่างก็ทำให้บรรดาจอมยุทธ์ระดับสูงต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน ข่ายอาคมของพวกเขาที่ถูกวางไว้มีพลังที่สามารถทำลายล้างทั้งผืนพิภพและกำจัดยอดฝีมือผู้แกร่งกล้าได้อย่างง่ายดาย
ก่อนหน้านี้เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อในพลังของข่ายอาคมดังกล่าวมากนักทว่าตอนนี้มั่นใจอย่างแท้จริงแล้ว ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพของฉินอวี้โม่เป็นสิ่งที่เขารับมือไม่ได้เลยสักนิด ยิ่งไปกว่านั้น ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพนี้ก็เพียงพัฒนาขึ้นมาถึงระดับสูงเท่านั้น ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพที่อยู่ในระดับสมบูรณ์จะทรงพลังเพียงใด…
ในเวลานี้หัวใจของทุกคนก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมายและพวกเขาก็มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับความแข็งแกร่งของผู้ใช้ข่ายอาคม
ฮวาฟางเฟยภายในวงล้อมของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับจนหนทางเต็มที นางพยายามใช้ไพ่ตายทั้งหมดที่มีทว่าไม่สามารถทำให้ข่ายอาคมสั่นคลอนได้เลย
ข่ายอาคมอันทรงพลังนี้เป็นข่ายอาคมที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติอย่างแท้จริง เว้นแต่จะหาศูนย์ควบคุมของมันได้ก็ไม่มีทางอื่นที่จะฝ่าทำลายมันได้อย่างแน่นอน
ฉินอวี้โม่ยังคงควบคุมข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพต่อไปและตำแหน่งของมังกรทั้งเก้าก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่เปิดโอกาสให้ฮวาฟางเฟยพบศูนย์ควบคุมนั้น
สีหน้าของฮวาฟางเฟยบิดเบี้ยวเหยเกจนแทบดูไม่ได้ หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป นางจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย !
ประกายความมุ่งร้ายฉายวาบในแววตาของฮวาฟางเฟยและกระบี่เปล่งแสงเล่มยาวซึ่งก่อตัวจากพลังมายาก็ปรากฏในมือ จากนั้นนางก็เหวี่ยงกระบี่ไปมาเพื่อโจมตีมังกรเก้าตัวอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในมังกรเหล่านั้นถูกจ้วงแทงอย่างจังและสลายกลายเป็นความว่างเปล่าทันที ทว่าเพียงครู่เดียว มันก็ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งและโจมตีฮวาฟางเฟยต่อไป
“อย่ามัวแต่รับชมความสนุกอยู่เลย ทุกคนรีบจบการต่อสู้ของตนเองเร็วเข้า !”
ฉินอวี้โม่หันไปกล่าวกับทุกคนซึ่งทำให้ฟู่ชางและคนอื่น ๆ พุ่งตัวโจมตีคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็วโดยที่ฉวยโอกาสในขณะที่คนของจอมยุทธ์ปีศาจยังไม่ทันตั้งตัว
“ช่างไร้ยางอายยิ่งนัก !”
ผู้อาวุโสหลายคนของจอมยุทธ์ปีศาจไม่ทันสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้และตอบสนองได้ไม่ทัน พวกเขาเหล่านั้นจึงรับการโจมตีของอีกฝ่ายเข้าไปเต็ม ๆ และประสิทธิภาพในการต่อสู้ก็ลดน้อยลงไปมาก
“เหอะ ไม่ว่าจะไร้ยางอายเพียงใด เราก็เทียบกับจอมยุทธ์ปีศาจอย่างพวกเจ้าไม่ได้หรอก !”
ทุกคนไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ในการประจันหน้ากับจอมยุทธ์ปีศาจ วิธีการที่ถูกต้องและมีคุณธรรมล้วนเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อที่จะเอาชนะคนเหล่านี้ พวกเขาสามารถใช้ทุกวิถีทางโดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกกดดันหรือรู้สึกผิดแม้แต่น้อย
ในเวลานี้ สถานการณ์ของฝ่ายดินแดนมหาเทพซึ่งชะงักไปเล็กน้อยก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบในที่สุด
ครานี้หานโม่ฉือก็ไม่ยั้งมืออีกต่อไปและปล่อยการโจมตีเข้าใส่เสียอวิ๋นอย่างต่อเนื่อง
บุรุษลึกลับจากโลกปีศาจผู้นั้นก็มิใช่คนดีเป็นทุนเดิม ในเมื่อฉินอวี้โม่เปิดเผยพรสวรรค์อันน่าทึ่งและแสดงพลังของข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพออกมา เขาไม่มีทางอยู่เฉยและปล่อยนางไป เพราะเหตุนั้น หานโม่ฉือจึงตระหนักว่าเขาจะต้องสังหารเสียอวิ๋นให้สำเร็จก่อนที่บุรุษผู้นั้นจะลงมือและร่วมมือกับฉินอวี้โม่เพื่อกำจัดเขาในภายหลัง
เสียอวิ๋นรับรู้ได้เพียงว่าความแข็งแกร่งของหานโม่ฉือเพิ่มขึ้นมากภายในพริบตาและเริ่มสับสนขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนี้เขาและหานโม่ฉือยังคงติดอยู่ในสภาวะชะงักงัน ต่อให้มีจังหวะได้เปรียบอยู่บ้าง ภายในไม่นานเขาก็ถูกหานโม่ฉือควบคุมได้อีกครั้ง เสียอวิ๋นมิใช่คนโง่เขลาเบาปัญญาและทราบว่าหานโม่ฉือคงจะซ่อนเร้นพลังที่แท้จริงไว้ เพียงแต่เขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดหานโม่ฉือจึงต้องปกปิดความแข็งแกร่งที่แท้จริงในสงครามชี้ชะตาครั้งสำคัญเช่นนี้ ?
ส่วนเรื่องที่หานโม่ฉือคือเป้าหมายที่คนของเผ่าปีศาจกำลังตามหานั้น เสียอวิ๋นคิดไม่ถึงเลยสักนิด ถึงอย่างไรพวกเขาก็ทำการสืบประวัติของหานโม่ฉือมาก่อนแล้วและมันไม่เกี่ยวข้องกับเผ่าปีศาจแม้แต่น้อย
สถานการณ์ของการต่อสู้เปลี่ยนแปลงไปแล้วและฝ่ายดินแดนมหาเทพเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน ฟู่ชางและคนอื่น ๆ ก็กำราบควบคุมผีดิบเกราะทองได้แล้วส่งผลให้ทั้งผีดิบเกราะทองและเกราะเงินล้มตายไปอย่างไม่หยุดหย่อน ความแข็งแกร่งของฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจกำลังลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ หากสถานการณ์ยังดำเนินไปเช่นนี้ พวกเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในไม่ช้า
สิ่งที่น่าปวดหัวที่สุดสำหรับจอมยุทธ์ปีศาจคืออวิ๋นซื่อเทียนและเซิ่งเซียว ทั้งสองมีระเบิดพลังมายาอยู่ในมือเป็นจำนวนมากและล้วนมีพลังที่ไม่ธรรมดา ภายในเวลาเพียงสั้น ๆ ผีดิบเกราะทองถึงห้าชีวิตก็ต้องตายไปด้วยฝีมือของคนทั้งสอง
หลังจากสังหารผีดิบเกราะทองห้าตน ทั้งสองก็เปลี่ยนเป้าหมายไปยังผีดิบเกราะเงิน ระเบิดพลังมายาที่ทรงพลังถูกโยนออกไปโจมตีผีดิบเหล่านั้นอย่างรวดเร็วและทำให้พวกมันระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ โดยไม่เหลือซาก
สมาชิกฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจล้วนตกตะลึงกับพลังรุนแรงของวัตถุทรงกลมขนาดเล็กขณะรีบซ่อนตัวไกลออกไปด้วยหวังว่าจะหนีออกจากสมรภูมิรบให้ได้และไม่ต้องการประจันหน้ากับคนทั้งสองอีก
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่เพียงแต่พวกเขาจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเท่านั้น ทว่าขวัญและกำลังใจของพวกเขาก็สูญเสียไปมากเช่นกัน
“จอมยุทธ์ปีศาจใกล้ที่จะแพ้แล้ว !”
บรรดาจอมยุทธ์ที่ชมการต่อสู้จากด้านข้างอดกล่าวออกไปไม่ได้ เว้นแต่ว่าจอมยุทธ์ปีศาจจะยังมีไพ่ตายที่ยังไม่เปิดเผยออกมา ครานี้พวกเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
สำหรับฝ่ายดินแดนมหาเทพ สงครามชี้ชะตาครานี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและประสิทธิภาพการต่อสู้ที่แกร่งกล้าของทุกคนได้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือฉินอวี้โม่และสหายที่เป็นเหมือนผู้กอบกู้ของดินแดน หากมิใช่เพราะคนเหล่านี้ บางทีฝ่ายดินแดนมหาเทพอาจจะพ่ายแพ้ในสงครามครานี้ไปนานแล้ว
เสียอวิ๋นถูกหานโม่ฉือบีบไล่ต้อนไปทีละก้าว ๆ และบาดแผลเริ่มปรากฏให้เห็นทั่วร่างกายแล้ว ฮวาฟางเฟยที่ติดอยู่ในข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็อ่อนกำลังลงเรื่อย ๆ และความพ่ายแพ้ของนางก็เป็นที่ประจักษ์ชัดเจน
คนอื่น ๆ ล้วนตกกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทั้งสิ้นและไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะฝ่ายดินแดนมหาเทพได้อีกต่อไป
“บัดซบ ! บัดซบชะมัด !”
เสียอวิ๋นเดือดดาลอย่างที่สุด เดิมทีเขาเคยมั่นใจว่าจอมยุทธ์ปีศาจเตรียมความพร้อมมาอย่างสมบูรณ์แบบและมีข้อได้เปรียบหลายด้าน ไม่คาดคิดเลยว่าสถานการณ์จริงจะแตกต่างจากที่พวกเขาคาดการณ์ไว้อย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าพวกเขาประเมินความแข็งแกร่งของผู้คนในดินแดนมหาเทพต่ำเกินไป…