คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 304 จัดระเบียบตระกูลฟู่ จีบเด็กน้อย

อีกสาเหตุหนึ่งที่เขาแกล้งทำเป็นคนไม่เอาไหนก็เพื่อปกป้องผู้เฒ่าฟู่

ถึงแม้ผู้เฒ่าฟู่จะจดให้เขาอยู่ในนามของฟู่หมิงเฉิงกับคุณนายฟู่ แต่ถ้าเขาทำตัวเด่นเกินไป ก็ยังคงจะถูกกลุ่มคนเมื่อยี่สิบปีก่อนสังเกตเห็นได้

ด้วยความสามารถของคนพวกนั้น แค่ไปสืบดูอย่างละเอียดก็จะรู้ได้ว่าตอนนั้นฟู่หลิวอิ๋งตั้งท้องแล้ว

ตอนนั้นที่ปิดบังคนพวกนี้ได้เป็นเพราะเหยียนเย่ว์หวากับฟู่หลิวอิ๋งยอมตาย ส่วนผู้เฒ่าฟู่ก็ยอมกินยาพิษ

สุดท้ายคนกลุ่มนั้นถึงออกไป

ในขณะที่ความสามารถของเขายังไม่เพียงพอ ยังตั้งตัวไม่ได้ การแสร้งเป็นอีกตัวตนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

แต่ต่อมาเขาก็พบว่าทำตัวเป็นคนไม่เอาไหนมันสนุกดี

ก็เลยเป็นต่อไป

ฟู่หมิงเฉิงกลับคลั่งยิ่งกว่าเดิม เขาทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ พูดเสียงหลง “สะ…สนุกงั้นเหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินไม่มองเขาอีก ลุกขึ้น “เอาตัวเขาไปที่ฟู่ซื่อกรุ๊ป”

อีกด้านหนึ่ง

ซูเหลียงฮุยที่พักอยู่ในโรงแรมถูกตัดสาย เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม

เขาคิดจริงว่าฟู่อวิ๋นเซินไม่มีอำนาจอะไร ถึงได้ร่วมมือกับฟู่หมิงเฉิง

เขาช่วยฟู่หมิงเฉิงเอาอวี้เซียงฟังกลับมาเพื่อที่จะได้ร่วมงานกับบีไมน์ พอถึงเวลาฟู่หมิงเฉิงก็จะช่วยเขารับมือกับคนอื่นๆ ที่แย่งชิงอำนาจในตระกูลซู

แต่เพียงชั่วพริบตาฟู่อวิ๋นเซินก็กลายเป็นประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิกไปแล้ว

นี่มันเรื่องราวพิสดารอะไรกัน!

ซูเหลียงฮุยรู้ดีกว่า เขาอาศัยประโยชน์จากทรัพย์สินของผู้เฒ่าฟู่เพื่อให้ฟู่อวิ๋นเซินยอมคืนอวี้เซียงฟัง นั่นถือเป็นการล้ำเส้นฟู่อวิ๋นเซินแบบที่ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวแล้ว

ถ้าเขารู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินเป็นผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ป มีเหรอที่เขาจะไปหาฟู่หมิงเฉิง

ซูเหลียงฮุยนึกเสียใจเหลือเกิน เขาเกลียดตัวเองที่ตัดสินใจไวไป ถ้าอดทนอีกหน่อย เรื่องราวคงไม่มีทางกลายเป็นแบบวันนี้

แล้วตอนนี้จะทำอย่างไร

ซูเหลียงฮุยเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องของโรงแรม เครียดจนหัวจะระเบิด แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกเรื่องสำคัญออกเรื่องหนึ่ง

“ไม่สิ ยังมีโอกาส” เขาพึมพำ อยู่ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ยังมีโอกาส!”

ซูหร่วนเป็นเหมือนแสงจันทร์ที่ฟู่อวิ๋นเซินมิอาจครอบครอง อีกทั้งยังเป็นอดีตคู่หมั้นของเขา

ขอเพียงแต่ซูหร่วนยอมหย่ากับฟู่อี้หันแล้วไปหาฟู่อวิ๋นเซิน ทุกอย่างก็ยังทัน

พอถึงเวลา เขาก็จะได้เป็นพ่อตาของประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิกแล้ว

ซูเหลียงฮุยนึกถึงตรงนี้ก็รีบออกไปหาซูหร่วนทันที

เวลานี้ที่ฟู่ซื่อกรุ๊ป

ภายในห้องประชุม

บรรดาผู้ถือหุ้นกำลังเรียกประชุมกันอยู่

ผู้ถือหุ้นที่สนับสนุนผู้เฒ่าฟู่และยืนยันจะให้ทำตามพินัยกรรมมีแค่สองคนเท่านั้น

หุ้นที่อยู่ในมือพวกเขามีรวมกันยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์ สิทธิ์ในการพูดมีอยู่ไม่น้อย

การประชุมดำเนินมาตั้งแต่บ่ายสองจนถึงตอนนี้ ประตูปิดอยู่ตลอด บรรดาผู้ถือหุ้นยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเวยปั๋ว

จนกระทั่งประตูถูกถีบออก ฟู่หมิงเฉิงถูกอวิ๋นซานโยนเข้ามา

พอเห็นเหตุการณ์นี้พวกผู้ถือหุ้นก็ตะลึง

“ประธานฟู่!” คนสนิทสองคนของฟู่หมิงเฉิงเข้าไปพยุงเขาขึ้นมา มองผู้ชายข้างหลังที่เดินเข้ามา “ฟู่อวิ๋นเซิน คิดจะทำอะไร นายคิดจะฮุบฟู่ซื่อกรุ๊ปยังไม่พอ ถึงขั้นทำร้ายร่างกายด้วยเหรอ!”

“ตลกน่า” อวิ๋นซานแสยะยิ้ม “คุณชายของพวกเรามีวีนัสกรุ๊ปหนุนหลัง ต้องคิดฮุบฟู่ซื่อกรุ๊ปด้วยเหรอ”

พอคำพูดนี้ออกมาก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องประชุม

หนึ่งในคนสนิทพูดถากถาง “วีนัสกรุ๊ปเหรอ กล้าโม้ขนาดนี้เชียวเหรอ”

คราวนี้คนที่พูดกลับเป็นฟู่หมิงเฉิง “เขา เขาเป็นประธานวีนัสกรุ๊ปโซนเอเชียแปซิฟิก…”

พวกผู้ถือหุ้นรู้สึกเหลือเชื่อ

พวกเขาไปคุยความร่วมมือกับบีไมน์ก็เหมือนไปขอร้องทั้งนั้น

แต่ฟู่อวิ๋นเซินกลายเป็นผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ปเลยงั้นเหรอ

ล้อเล่นอะไรน่ะ

“มากันครบแล้ว” ฟู่อวิ๋นเซินกวาดตามอง “ผู้เฒ่าฉี ผู้เฒ่าอู๋ ทั้งสองท่านออกไปก่อนนะครับ”

ผู้เฒ่าฉีกับผู้เฒ่าอู๋ก็คือคนของผู้เฒ่าฟู่

ผู้ถือหุ้นทั้งสองมองหน้ากัน พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินออกไป

พอสองคนนี้ออกไป มีเหรอที่ผู้ถือหุ้นคนอื่นจะไม่รู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินต้องการทำอะไร

ต้องการจัดระเบียบตระกูลฟู่!

ยังไม่ทันที่พวกผู้ถือหุ้นจะได้ตั้งตัว ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามา “ท่านประธาน แย่แล้วครับ วีนัสกรุ๊ปกำลังทุ่มซื้อหุ้นของพวกเราใหญ่เลยครับ คุมไม่อยู่แล้วครับ!”

ฟู่หมิงเฉิงสีหน้าเปลี่ยน “ฟู่อวิ๋นเซิน!”

“ฟู่อวิ๋นเซิน!” ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งตวาดเสียง “คนเรามันต้องเหลือทางให้กันบ้าง นายหมายความว่าไง”

วีนัสกรุ๊ปไม่เคยถามความคิดเห็นของพวกเขาด้วยซ้ำ แล้วยังจะมาซื้อกิจการของฟู่ซื่อกรุ๊ป

ถ้าฟู่ซื่อกรุ๊ปถูกซื้อกิจการจริง พวกเขาก็จะถูกไล่ออกไปหมด

แบบนี้จะได้ยังไง

“เอียน” ฟู่อวิ๋นเซินกลับไม่สนใจพวกเขา เขานั่งลง คุยโทรศัพท์ “ให้โจเซฟโพสต์ข้อมูลที่ฉันให้เขาไป”

โจเซฟก็คือประธานฝ่ายเทคโนโลยีของวีนัสกรุ๊ป ตอนที่เขายังไม่ได้เข้ามาอยู่วีนัสกรุ๊ปได้เคยเป็นแฮกเกอร์อันดับหนึ่งของสมาพันธ์แฮกเกอร์นิรนามที่ยกเว้นแฮกเกอร์นิรนามคนนั้น

“ได้ครับพี่ ผมจะบอกเดี๋ยวนี้” เอียนตอบกลับทันที “แล้วก็ พอพี่เสร็จจากฟู่ซื่อกรุ๊ปแล้วพี่ไปไหนต่อ”

“จีบเด็กน้อย”

เอียน “?”

เขาวางสายอย่างงงๆ แล้วไปติดต่อโจเซฟที่ยังอยู่ยุโรป

วันต่อมา

ไม่นานก็มีกระแสใหม่ปรากฏบนเวยปั๋ว

#ฟู่หลิวอิ๋งราชินีแห่งการปรุงน้ำหอม#

#ฟู่หลิวอิ๋งฟู่อวิ๋นเซิน#

แฮชแท็กเหล่านี้คงอันดับอย่างต่อเนื่องภายใต้การผลักดันของวีนัสกรุ๊ป

โดยเฉพาะตอนที่รูปถ่ายพวกนั้นของฟู่หลิวอิ๋งถูกโพสต์ออกไป เวยปั๋วแทบแตก

ผู้หญิงสวยในยุคนั้นไม่ต้องพึ่งโหมดบิวตี้หรือใส่ฟิลเตอร์ใดๆ แค่ฉีกยิ้มก็สะกดใจ

[กรี๊ดดด ขุ่นแม่สวยขนาดนี้ มิน่าล่ะ!]

[นี่คือคุณหนูไฮโซอันดับหนึ่งแห่งฮู่เฉิงจริงๆ เหรอ ยัยอิ๋งลู่เวยที่เล่นเปียโนได้ขยะคนนั้นยังจะมีหน้ามาบอกว่าตัวเองมากความสามารถ แหวะ!]

[สรุปว่าเดิมทีท่านประธานก็เป็นคนของตระกูลฟู่อยู่แล้วเหรอ การแก่งแย่งชิงดีของตระกูลใหญ่นี่มันน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ]

[ขำจะตายอยู่แล้ว ถ้าผู้ไม่ประสงค์ดีบางคนในตระกูลฟู่ไม่ทำถึงขั้นนั้น ไม่ต้องพูดอย่างอื่นเลย ตอนนี้พวกคุณคงได้เข้าไปอยู่ในวีนัสกรุ๊ปแล้วหรือเปล่า ไม่ทราบว่านึกเสียใจกันบ้างไหม]

พอเนี่ยอี้เห็นข่าวพวกนี้ก็ขับรถไปหาฟู่อวิ๋นเซิน

ทั้งสองคนเจอกันในร้านชานมที่อยู่หน้าโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

เวลานี้คนน้อย บุคลิกของทั้งสองคนน่าเกรงขาม พนักงานร้านชานมก็ไม่กล้าคุยเล่นด้วย

“อวิ๋นเซิน” เนี่ยอี้ขมวดคิ้ว “นายเปิดเผยตัวเองขนาดนี้แล้ว ไม่กลัวพวกคนเมื่อยี่สิบปีก่อน…”

เขายังไม่ทันพูดจบก็หยุดอยู่แค่นั้น

หลายปีมานี้ไม่มีคนพูดถึงฟู่หลิวอิ๋งก็เป็นเพราะเรื่องเมื่อก่อนนี้

ฟู่อวิ๋นเซินหันมา ยิ้มเล็กน้อย “ฉันก็อยากให้เป็นอย่างนั้น”

เนี่ยอี้ตะลึง จากนั้นก็เงียบไป

คนกลุ่มนั้นเมื่อยี่สิบปีก่อนโหดเหี้ยมอำมหิตเหลือเกิน

เมื่อก่อนมีผู้เฒ่าฟู่อยู่ ฟู่อวิ๋นเซินทนได้

แต่ตอนนี้ไม่ต้องอดทนแล้ว

เขาให้ลูกน้องปล่อยข่าวพวกนี้ก็เพื่อประกาศสงครามกับกลุ่มคนเมื่อยี่สิบปีก่อน

แม้จะต้องเอาตัวเองเป็นเหยื่อล่อก็ตาม

ฟู่อวิ๋นเซินพูด “หวังว่าบ้านพวกเขาจะมีเน็ตนะ”

เนี่ยอี้ถอนหายใจ เขาแค่พยักหน้า “งั้นฉันกลับตี้ตูก่อนนะ มีเรื่องอะไรนายก็มาหาฉันได้”

“อืม ฉันยังมีอีกเรื่องที่สำคัญมาก” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน ครุ่นคิดพลางพูด “เล่าประสบการณ์ของนายให้ฟังหน่อย จีบสาวยังไง”

เนี่ยอี้ “…”

หลังจากที่วีนัสกรุ๊ปดันกระแสในเวยปั๋วอยู่ห้าคืนห้าวัน ใครก็ตามที่เข้าเวยปั๋วก็ไม่มีทางไม่รู้จักฟู่อวิ๋นเซินแล้ว

เวลานี้เป็นช่วงปลายปี วงการบันเทิงกำลังโหวตนางฟ้ากับเทพบุตรขวัญใจมหาชน

แฟนคลับของแต่ละด้อมทุ่มโหวตสุดพลัง โดยเฉพาะดาราหน้าใหม่ที่เพิ่งแจ้งเกิดปีนี้

ส่วนแฟนคลับของซังเย่าจือเป็นสายธรรมะธรรมโมมาตลอด ไม่เคยยุ่งการแข่งขันพวกนี้

แฟนคลับแต่ละกลุ่มทุ่มเทเต็มที่เพื่อดันให้ไอดอลของตัวเองขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง

ปรากฏว่าวันนี้ บรรดาแฟนคลับของดาราดังแต่ละคนได้แต่นั่งมองคนที่ไม่ได้เข้าแม้แต่วงการบันเทิงไต่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด

อันดับ 1 : ฟู่อวิ๋นเซิน 120304910

อันดับ 2 : หวาอิ้น 18290329

คนที่อยู่อันดับสองคือหนุ่มน้อยหน้ามนที่เพิ่งโด่งดังในปีนี้ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นผลโหวตก็ยังห่างกับฟู่อวิ๋นเซินไกลลิบ

พวกแฟนคลับช็อก “…”

แต่กลับต้องยอมรับว่า ถ้าว่ากันด้วยเรื่องหน้าตา ไม่มีใครเทียบได้

ถ้าว่ากันด้วยเรื่องความสามารถ ก็ยังไม่มีใครเทียบได้อยู่ดี

“ผู้บัญชาการ ตอนนี้ดังจริงๆ แล้วนะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองผลโหวตในโทรศัพท์ กัดถุงนมเปรี้ยวฉีกออก มือข้างหนึ่งเท้าคาง “มีด้อมของตัวเองแล้วนะ”

“หืม” ฟู่อวิ๋นเซินไม่ค่อยสนใจวงการบันเทิง ไม่รู้จักคำนี้ “ด้อมคืออะไร”

“ด้อมก็คือกลุ่มที่แฟนคลับจัดตั้งขึ้นมา” อิ๋งจื่อจินดื่มนมเปรี้ยวจนหมด “เอาไว้ติดตามตารางงานของดาราโดยเฉพาะ จากนั้นก็ไปถ่ายรูปเอารูปมาแต่งอะไรทำนองนี้”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “ตามถ่ายเหรอ”

“อืม” อิ๋งจื่อจินกดติดตาม “แต่พวกเขาไม่เคยเห็นคุณ เสียใจกันน่าดู”

เธอเงยหน้า ตั้งใจมองสำรวจผู้ชายที่สยบใจสาวๆ คนนี้ “ฉันยังโชคดีที่ได้กินข้าวกับท่านประธาน”

“เยาเยา เธอไม่ใช่แค่ได้มอง ยังแตะเนื้อต้องตัวได้ด้วย” ดวงตาดอกท้อโค้งมน “ดูสิ อยากลองดูไหม”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset