คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 439 ฟู่อวิ๋นเซินคือท่านนั้นของศาลสถิตยุติธรรม

ตอนที่ 439 ฟู่อวิ๋นเซินคือท่านนั้นของศาลสถิตยุติธรรม

“แกรู้เหรอ” เซี่ยเฟิงสีหน้าเย็นชา

“แกรู้แล้วยังไม่รีบปล่อยฉันอีกเหรอ ไม่อยากอยู่ในศาลสถิตยุติธรรมแล้วใช่ไหม”

ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่า เขาถูกคนของศาลสถิตยุติธรรมจับมาขังแน่นอน

ก็เหมือนกับที่หน่วยอีจื้อคอยตรวจสอบพวกตระกูลในตี้ตู แต่ศาลสถิตยุติธรรมดูแลในโลกจอมยุทธทั้งหมด

ไม่ต่างจากพวกตระกูลใหญ่ของจอมยุทธหรือแพทย์แผนโบราณ ศาลสถิตยุติธรรมก็มีคณะผู้อาวุโสเหมือนกัน

ในคณะผู้อาวุโสมีผู้อาวุโสทั้งหมดสิบคน ฝึกวิทยายุทธมาไม่ต่ำกว่าร้อยปี

แน่นอนว่าความสามารถระดับนี้ถ้าเป็นตระกูลเซี่ย ตระกูลหลิน หรือตระกูลเย่ว์ ก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา

แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ศาลสถิตยุติธรรมก็กุมจุดอ่อนทั้งหมดของจอมยุทธไว้ในมือเช่นกัน

กรงที่ทำจากแร่ชนิดพิเศษนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ด้วยเหตุนี้ศาลสถิตยุติธรรมถึงเป็นที่เกรงกลัวของตระกูลจอมยุทธทั้งหมด รักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยในโลกจอมยุทธเอาไว้ได้

เพียงแต่ภายในศาลยุติธรรมเองก็ไม่ได้สงบมีระเบียบ มีการแก่งแย่งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอยู่ไม่น้อย

เซี่ยเฟิงก็รู้ว่า เส้นสายที่ตระกูลเซี่ยมีในศาลสถิตยุติธรรมตอนนี้กำลังมีอิทธิพลมาก

ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงสามารถอนุญาตให้ใครก็ได้ออกไปจับคนกลับมา

“ศาลสถิตยุติธรรมเหรอ” อวิ๋นซานได้ฟังก็เอามือกอดอก หัวเราะออกมา

“แกน่าจะถามมากกว่านะว่า ตระกูลเซี่ยของแกยังอยากอยู่ในศาลสถิตยุติธรรมหรือเปล่า”

เซี่ยเฟิงขมวดคิ้วอีกครั้ง พูดเสียงแข็งกร้าว

“พวกแกหมายความว่าไง พวกแกมีตำแหน่งอะไรในศาลสถิตยุติธรรม”

เขาเคยไปศาลสถิตยุติธรรมหลายครั้ง ไม่เคยเจอคนแต่งตัวแบบนี้มาก่อน

ศาลสถิตยุติธรรมฝ่ายไหนกันที่ยังจะใส่หน้ากากมาทำงานด้วย

ฟู่อวิ๋นเซินนั่งลงบนโซฟา เอามือชี้พลางพูด “เอาตัวออกมา”

อวิ๋นซานกับอวิ๋นอู้เดินขึ้นหน้าทันที ลากเซี่ยเฟิงออกมาจากกรง

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในลูกหลานมีฝีมือที่เป็นคนโปรดมากที่สุดในรุ่น เซี่ยเฟิงไม่เคยถูกหยามศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน

มีใครบ้างที่เจอเขาแล้วยังจะไม่เคารพ

แม้แต่นายใหญ่ตระกูลจอมยุทธอย่างตระกูลเยี่ยพอเจอเขาก็ยังต้องเรียกเขาว่า ‘คุณชายรองเซี่ย’

เซี่ยเฟิงสีหน้าเย็นชายิ่งกว่าเดิม เพิ่งจะพูดว่า “พวกแก…”

“พลั่ก!”

อวิ๋นอู้เดินขึ้นหน้า ถีบขาของเซี่ยเฟิงโดยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

เซี่ยเฟิงถูกบังคับให้คุกเข่าบนพื้น โมโหแทบบ้า

ปกติเขาเป็นคนอวดดี ใครกล้าหาเรื่องเขา เขาก็จะลงมือทันทีโดยไม่แม้แต่จะคิด

ตอนนั้นที่ไปบ้านตระกูลอิ๋งเขาถึงได้ไม่สนว่าจงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิงจะเป็นแค่คนธรรมดา

สามคนนี้เป็นใครกันแน่!

ฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ เดินขึ้นหน้าแล้วยืนนิ่งตรงหน้าเซี่ยเฟิง และในเวลานี้เองในที่สุดเซี่ยเฟิงก็พบจุดบอดที่เขามองข้ามไป สีหน้าเปลี่ยนทันที

กำลังภายในของเขากลับมาแล้ว แต่ทำไมก็ยังคงสัมผัสไม่ได้ถึงการมีตัวตนของผู้ชายคนนี้แม้แต่นิดเดียว!

ความรู้สึกนี้ไม่ใช่ว่าใช้ตามอง แต่ใช้กำลังภายในจับ

หูของจอมยุทธไวเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นตรวจจับได้ไกล

เวลาไปสืบข้างนอกล้วนอาศัยกำลังภายในจับความเคลื่อนไหวของดอกไม้ใบหญ้า

กำลังภายในที่ถูกปล่อยออกไปของเขาบอกเขาว่าภายในห้องใต้ดินนี้มีแค่สองคน

ทั้งๆ ที่ตรงหน้าเขามีคนยืนอยู่สามคน

คนที่สามนี้กลับ ‘ว่างเปล่า’ ในขอบเขตที่กำลังภายในของเขาปกคลุม

พูดง่ายๆ ก็คือไม่มีตัวตน

ในที่สุดเซี่ยเฟิงก็ตื่นตระหนก “แก…”

เขาสัมผัสไม่ได้ แสดงว่าวิทยายุทธ์ของผู้ชายคนนี้อยู่เหนือกว่าเขามาก เก่งยิ่งกว่าพวกผู้อาวุโสในตระกูลเซี่ย

แต่ทั้งๆ ที่ผู้ชายคนนี้ยังหนุ่มอยู่!

“อย่ามายุ่งกับคนของฉัน” ฟู่อวิ๋นเซินนั่งยอง ริมฝีปากยิ้มอย่างเย็นชา

“เธอบอกว่าเวรกรรมเป็นไปตามวัฏจักร ทำชั่วไว้ก็ต้องรับกรรม มีเหตุถึงมีผล”

“แกใช้กำลังก็ต้องรับผิดชอบ”

“ฉันไม่ถือสาถ้าตระกูลเซี่ยจะออกมาลงมือทีละคน จากนั้นก็ทยอยดับสูญไปทีละคน”

ฟู่อวิ๋นเซินแสยะยิ้ม “ก็ดีนะ ทางที่ดีพวกแกเร่งมือหน่อย”

ทางตระกูลเซี่ยมีผู้อาวุโสที่เป็นนักพยากรณ์ที่ชำนาญในด้านนี้

การพยากรณ์สามารถโจมตีฝ่ายอื่นได้

อย่างเช่นเปลี่ยนแปลงดวงชะตา

นักพยากรณ์บางคนจะเปลี่ยนแปลงดวงชะตาของตระกูลคู่แค้นของพวกเขา

แก้เรื่องที่ดีเป็นเรื่องร้ายทั้งหมด

ตระกูลคู่แค้นก็จะตกต่ำ ล้มเหลวตกอับ

ดังนั้นพวกเขาต้องรอตระกูลเซี่ยลงมือก่อน

เมื่อเป็นแบบนั้นตระกูลเซี่ยก็จะสร้างเวรกรรมกับพวกเขา

พวกเขาจะเอาคืนยังไงก็ไม่มีทางเสียหายอะไร

หูของเซี่ยเฟิงอื้อไปชั่วขณะ ไม่ค่อยเข้าใจคำพูดพวกนี้

เขาไปแตะต้องใครในโลกจอมยุทธกันแน่

ถึงทำให้บุคคลคนนี้ในศาลสถิตยุติธรรมถึงต้องออกมา

เวลาเขาจะไปแตะต้องใครก็ล้วนดูความสามารถของคนนั้นกับอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังก่อน

คนของตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์ เขาไม่มีทางไปแตะต้องแน่นอน

“ส่งไปที่ศาลสถิตยุติธรรม” ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น

“ทำตามกฎของโลกจอมยุทธทั้งหมด”

อวิ๋นซานกับอวิ๋นอู้กำมือคารวะ “ครับคุณชาย”

เซี่ยเฟิงยังคงตะลึงอยู่ อวิ๋นซานที่อยู่ข้างๆ ยกฝ่ามือฟันไปที่หลังคอของเขาอีกครั้ง

เซี่ยเฟิงสลบไปอีกรอบ

อวิ๋นซานเอากระสอบคลุมตัวเขา เงยหน้าขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

“คุณชาย คุณอิ๋งเธอพูดเรื่องเวรกรรมเหรอครับ”

ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว ยิ้มเล็กน้อย ตอบอย่างใจเย็น

“เหตุเกิดได้ ผลก็ตามมา มีเหตุย่อมมีผล มีผลย่อมมีเหตุ ผลเกิดเพราะเหตุ ทุกอย่างชัดแจ้ง”

“ความละโมบเป็นบ่อเกิดแห่งการทำชั่ว การทำชั่วนำมาซึ่งความทุกข์ นี่ก็คือเหตุและผล”

อวิ๋นซานฟังแล้วก็งงหนักมาก

เวรกรรมเป็นวัฏจักรอะไรกัน สิ่งที่กำหนดสิ่งที่แปรผันอะไรกัน เขาฟังพวกนี้จบก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นพวกไร้ความรู้

อวิ๋นซานรู้สึกนับถือพวกนักพยากรณ์เลยจริงๆ วันๆ นั่งมองหล่อแก วางแผนภูมิแปดทิศ แต่สภาพจิตใจยังเป็นปกติ

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

เวลานี้อวิ๋นอู้ที่เงียบมาตลอดได้พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“พี่รอง พี่ไปอ่านหนังสือธรรมะบ้างนะ”

อวิ๋นซาน “?”

เวลานี้

ในโลกจอมยุทธ

บ้านตระกูลเซี่ย

ก่อนเซี่ยเฟิงจะออกไปลงมือได้ส่งข่าวกลับมาที่โลกจอมยุทธแล้ว

ตอนที่ผู้อาวุโสใหญ่ได้รู้ว่าอิ๋งจื่อจินยังมีชีวิตอยู่ก็ตกใจมาก

“หรือว่า ทางยุโรปยังมีนักทำนายที่เปลี่ยนแปลงคำพยากรณ์ของผมได้ด้วย”

เป็นเพราะการพิพากษาคดีแม่มดที่ยาวนานถึงสามร้อยปีครั้งนั้น ทำให้นักทำนายในยุโรปตายลงทั้งหมด

นักทำนายที่ปรากฏตัวในภายหลังความสามารถก็สู้พวกคนที่ตายไปแล้วไม่ได้

แต่ไม่ว่าจะมีการพิพากษาคดีแม่มดหรือไม่ ศาสตร์พยากรณ์ตะวันออกก็ล้ำหน้ายุโรปมาตลอด

อย่างไรเสียก็มีนักพยากรณ์เกิดขึ้นมากมายตั้งแต่ก่อนยุคสมัยซย่า ซัง โจวแล้ว

นักพยากรณ์สมัยนั้นเก่งกว่าสมัยนี้มาก

คุณนายเซี่ยก็ตกใจมาก “เปลี่ยนแปลงคำทำนายของท่านเหรอคะ”

“ไม่ ความเป็นไปได้นี้น้อยมาก” ผู้อาวุโสใหญ่เงียบไปสักพัก แต่กลับส่ายหน้า

“อยู่ห่างกันมากเกินไป การทำแบบนั้นจะคลาดเคลื่อนได้ง่าย บวกกับผมถูกนักทำนายทางนั้นขัดขวางไว้ ก็เลยพยากรณ์ได้ผลแบบนี้”

ต่อให้เป็นตี้อู่ชวนนายใหญ่ตระกูลตี้อู่ก็ไม่มีทางมาเปลี่ยนแปลงคำพยากรณ์ของเขาได้

ผู้อาวุโสใหญ่พูดต่อ “แต่ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่ คุณชายใหญ่ก็มีทางรอดแล้ว ถือเป็นเรื่องดีครับ”

“ผู้อาวุโสใหญ่คะ” คุณนายเซี่ยมองผู้ชายตัวซีดที่นอนอยู่บนเตียง

“ตอนนี้อาอวี้เป็นแบบนี้ ต่อให้เฟิงเอ๋อร์พาตัวคนธรรมดาคนนั้นกลับมาได้ แต่จะแต่งงานยังไงคะ”

“คุณนายไม่ต้องเป็นห่วง” ผู้อาวุโสใหญ่ลูบเครา

“ถ้าอยากให้คุณชายใหญ่ฟื้นขึ้นมา จัดพอเป็นพิธีก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วม”

พิธีแต่งงานในโลกจอมยุทธยังคงเป็นพวกธรรมเนียมที่สืบทอดมาจากโบราณ

เพียงแต่มีแค่ลูกหลานสายตรงของตระกูลจอมยุทธใหญ่ๆ อย่างเซี่ยอวี้ เซี่ยเฟิง หรือคนรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์ทางด้านจอมยุทธเพียงพอ พิธีแต่งงานของพวกเขาถึงจะจัดอย่างใหญ่โต

คุณนายเซี่ยพยักหน้า “ในเมื่อเฟิงเอ๋อร์ใกล้กลับมาแล้ว ฉันจะไปหารือกับนายใหญ่ รีบแจกบัตรเชิญออกไปให้เร็วที่สุด เตรียมงานแต่งทันที”

ของที่ต้องใช้ในพิธีแต่งงานพวกเขาเตรียมไว้แล้วตั้งแต่เดือนก่อน ตอนนี้ในที่สุดก็ได้ใช้แล้ว

หลังจากคุณนายเซี่ยไปหารือกับนายใหญ่ตระกูลเซี่ยเสร็จก็เริ่มเขียนบัตรเชิญ

รออีกหนึ่งชั่วโมง เซี่ยเฟิงกับคนคุ้มกันที่เขาพาออกไปก็ยังไม่กลับมา

กลับเป็นจอมยุทธคนหนึ่งของศาลสถิตยุติธรรมที่มาหาถึงบ้านด้วยตัวเอง

นายใหญ่ตระกูลเซี่ยกับคุณนายเซี่ยต่างสงสัย แต่ก็รีบออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง

“ไม่ทราบว่าท่านมาบ้านตระกูลเซี่ยเย็นขนาดนี้ด้วยเรื่องอะไรหรือครับ”

แต่ไหนแต่ไรมาคณะผู้อาวุโสของศาลสถิตยุติธรรมจะไม่ออกโรง พวกเขาเป็นตัวแทนของอำนาจของศาลสถิตยุติธรรม ต้องนั่งประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่

จอมยุทธคนนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายพิพากษาของศาลสถิตยุติธรรม

หัวหน้าฝ่ายพิพากษามาหาถึงที่ย่อมไม่ใช่เรื่องเล็ก

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ ก็แค่มาบอกพวกคุณ” หัวหน้าฝ่ายพิพากษาพูด

“คุณชายรองของตระกูลเซี่ยตอนนี้ถูกขังอยู่ที่ศาลสถิตยุติธรรม แต่จะถูกขังนานแค่ไหน ถูกลงโทษอะไรบ้าง พวกคุณไม่ต้องรู้หรอกครับ”

พูดจบเขาก็ไม่สนว่าสองสามีภรรยาตระกูลเซี่ยจะมีสีหน้าอย่างไร และก็ไม่ชักช้าอยู่นาน หันตัวเดินออกไปทันที

พอคำพูดนี้ออกมาคุณนายเซี่ยก็หน้าซีด เกือบเป็นลม

“เฟิงเอ๋อร์ถูกศาลสถิตยุติธรรมจับไปได้ยังไง” นายใหญ่ตระกูลเซี่ยสีหน้าเปลี่ยน

“เขาทำผิดอะไร”

“เขาทำผิดอะไรพวกคุณมีเหรอจะไม่รู้”

หัวหน้าฝ่ายพิพากษาหยุดเดิน ยิ้มให้ แต่กลับเป็นรอยยิ้มสมเพช

“ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกท่านนั้นสอบสวนและจับขังด้วยตัวเองได้ยังไง”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset