ตอนที่ 441 จงมั่นหวา ‘อิ๋งเย่ว์เซวียน เธอทำกับฉันแบบนี้เหรอ’
สีหน้าของอิ๋งเย่ว์เซวียนเปลี่ยนไปมาก เธอตะโกน “คุณแม่!”
เธอรีบพุ่งเข้าไปโดยไม่แม้แต่จะคิด ต้องการปิดคอมพิวเตอร์
แต่มือกลับหยุดระหว่างทาง
หลายปีมานี้เธอเชื่อฟังจงมั่นหวา จงมั่นหวามีอิทธิพลในการควบคุมเธอมาก มากเสียจนเธออึดอัด
แม้แต่ตอนมัธยมต้น แต่ละวันเธอจะใส่ชุดอะไรก็ต้องให้จงมั่นหวาตัดสินใจ
พอขึ้นมอปลายดีขึ้นมาหน่อย แต่อิ๋งเย่ว์เซวียนก็ไม่กล้าขัดใจจงมั่นหวา แม้แต่สิ่งที่เธอไม่อยากให้จงมั่นหวาเห็นก็ตาม
หูของอิ๋งเย่ว์เซวียนอื้อไปหมด นอกเหนือจากความหวาดกลัว ที่มากกว่าคือความรู้สึกเหลือเชื่อ
บัตรประจำตัวเข้าสอบอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเธอ
แล้วจงมั่นหวามีเลขประจำตัวเข้าสอบกับรหัสผ่านของเธอได้ยังไง
“ลูกเป็นอะไรไป” จงมั่นหวาจ้องคอมพิวเตอร์ น้ำเสียงเย็นชาลงไปมาก
“แม้แต่เลขประจำตัวเข้าสอบกับรหัสผ่านของตัวเองก็จำไม่ได้ ยังดีที่แม่โทรหาอาจารย์ที่ปรึกษาของลูก ก็เลยได้มา”
มือของอิ๋งเย่ว์เซวียนชุ่มไปด้วยเหงื่อ หวั่นใจขึ้นเรื่อยๆ
เธอมองเว็บไซต์ที่กำลังประมวลผล จากนั้นก็มีกล่องข้อความเด้งขึ้นมา
หัวใจแทบหยุดเต้น
[ไม่สามารถดูผลคะแนนได้ในขณะนี้]
จงมั่นหวาขมวดคิ้ว คลิกโหลดหน้าเว็บใหม่แล้วใส่เลขประจำตัวเข้าสอบกับรหัสผ่านอีกครั้ง
ทว่าก็ยังคงมีข้อความเดิมปรากฏ
[ไม่สามารถดูผลคะแนนได้ในขณะนี้]
อิ๋งเย่ว์เซวียนโล่งอกนิดหน่อย “แม่คะ ตอนนี้มีคนเข้าดูเยอะมาก ระบบก็เลยมีปัญหาค่ะ”
“งั้นก็รอเดี๋ยว” จงมั่นหวาชักหงุดหงิดใจ แต่ก็ทำได้แค่อดทนรอ “ทำเว็บมาไม่ดีเลย”
สิบนาทีต่อมาจงมั่นหวาก็เริ่มเช็กคะแนนอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของอิ๋งเย่ว์เซวียน ผลคะแนนออกมาแล้ว
ชื่อ-นามสกุล : อิ๋งเย่ว์เซวียน
เลขประจำตัวผู้สอบ : 1916xxxx2039
ภาษาจีน : 102
คณิตศาสตร์ : 87
ภาษาอังกฤษ : 140
วิทยาศาสตร์ : 206
คะแนนรวม : 535
อันดับของทั้งเมือง : 18239
ผลคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะแสดงแค่อันดับของเมืองหรือมณฑล ไม่มีแสดงอันดับของทั้งประเทศ
จงมั่นหวาไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เห็น
เธอกดโหลดหน้าเว็บอีกครั้ง ทำซ้ำสี่รอบ ก็ยังคงเห็นเหมือนเดิม
ตัวเลข ‘535’ กับ ‘18239’ เสียดแทงดวงตาของเธอ
ฮู่เฉิงนับแยกเป็นเมืองเดียว ดังนั้นจำนวนคนที่เข้าสอบไม่ได้มีเยอะเท่ามณฑล
จำนวนคนที่เข้าสอบทั้งหมดในปีนี้มีหกหมื่นคน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ฮู่เฉิงมีอัตราการสอบติดมหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าสูงกว่ามณฑลอื่น มีเปอร์เซ็นต์อยู่ที่สามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์
ซึ่งก็หมายความว่าในบรรดาผู้เข้าสอบมีเพียงสามสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ที่จะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าได้
อันดับคะแนนของอิ๋งเย่ว์เซวียนก็แค่คาบเส้นพอดี
ถ้าปีนี้อัตราเฉลี่ยต่ำลงอีกแค่นิดเดียว เธอก็เข้ามหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าไม่ได้แล้ว
อิ๋งเย่ว์เซวียนที่อยู่ข้างๆ มองอยู่ มือเท้าเย็นเฉียบ
ห้าร้อยสามสิบห้าคะแนน
อย่าว่าแต่มหาวิทยาลัยชั้นยอดเลย แม้แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วไปก็ยังยาก
ถ้าอยากเข้ามหาวิทยาลัยชั้นยอดก็ต้องได้คะแนนเกินกว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำอีกหนึ่งร้อยคะแนนถึงจะเข้าได้
คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยตี้ตูในปีก่อนๆ อยู่ที่หกร้อยเก้าสิบห้าคะแนนขึ้นไป
คลาสเด็กอัจฉริยะของชิงจื้อทั้งคลาสสามารถเข้ามหาวิทยาลัยตี้ตูได้ทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ถึงถูกเรียกว่าเป็นห้องที่เก่งที่สุด
อิ๋งเย่ว์เซวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าตัวเองจะสอบได้แย่ขนาดนี้
เดิมทีเธอคิดว่าไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องได้คะแนนเกินมหาวิทยาลัยชั้นนำอยู่หลายสิบคะแนน
จงมั่นหวารู้สึกเพียงเลือดลมสูบฉีด สมองตื้อไปหมด
เธอลุกพรวด ง้างมือขึ้นตบอิ๋งเย่ว์เซวียนด้วยความโมโหอย่างรุนแรง
สมองของอิ๋งเย่ว์เซวียนเกิดเสียงหวีดไปชั่วขณะ ถูกตบจนเบลอ
ตั้งแต่เล็กจนโต อย่าว่าแต่ตีเธอเลย แม้แต่ดุด่าจงมั่นหวาก็ไม่เคยทำกับเธอ
อิ๋งเย่ว์เซวียนเอามือจับหน้า ตัวสั่นเงยหน้าขึ้น พูดด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“…คุณแม่?”
ครั้งนี้จงมั่นหวากลับไม่ได้มีท่าทีจะปลอบใจแม้แต่น้อย
สายตาเย็นชา น้ำเสียงดุดัน ดูผิดจากปกติ “อิ๋งเย่ว์เซวียน เธอทำแบบนี้กับฉันเหรอ!”
เธอเลี้ยงดูอิ๋งเย่ว์เซวียนมาสิบแปดปี เพียงเพื่อรอวันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ตระกูลอิ๋งจะได้มีคนที่สอบได้อันดับหนึ่ง เป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูล
จงมั่นหวาเป็นคนหัวโบราณ ในสายตาของเธอไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการสอบได้อันดับหนึ่งในการเข้ามหาวิทยาลัย เธอไม่มีความคิดจะส่งอิ๋งเย่ว์เซวียนไปต่างประเทศ อย่างมากสุดก็ให้แค่เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนปีสองปี
ทางที่ดีที่สุดคือให้พัฒนาก้าวหน้าอยู่ในประเทศ
คำพูดนี้เสียดแทงใจมาก
อิ๋งเย่ว์เซวียนเริ่มหน้าซีด
“ห้าร้อยสามสิบห้า” ขณะพูดจงมั่นหวาก็หัวเราะ
“อิ๋งเย่ว์เซวียน บอกฉันมาซิ คะแนนเท่านี้จะไปเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหนได้ พูดสิ!”
“เธอจะเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย!”
คุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งสอบไม่ติดแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยชั้นนำ เกิดลือออกไปได้กลายเป็นเรื่องตลก
เธอก็จะยิ่งไม่เหลือหน้าแม้แต่น้อย
จงมั่นหวาโมโหจนหายใจแรงหน้าอกกระเพื่อมไม่หยุด โกรธหน้าดำหน้าแดง
“แม่คะ ผลสอบของหนูอาจผิดพลาดก็ได้ค่ะ”
อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้ว่าเธอลนลานไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอเม้มริมฝีปาก
“แม่คะ ตอนจำลองการสอบหนูได้คะแนนเท่าไร แม่ยังไม่รู้อีกเหรอคะ”
“ต่อให้หนูทำพลาดก็ไม่มีทางหายไปถึงสองร้อยคะแนน”
พอได้ยินแบบนี้จงมั่นหวาก็คิด ก็รู้สึกว่ามีความเป็นไปได้
แต่สีหน้าของเธอก็ยังคงไม่ผ่อนคลาย น้ำเสียงเย็นชา
“งั้นตอนนี้ไปที่โรงเรียน ไปถามพวกอาจารย์ดู”
…
ทางด้านชิงจื้อ
เนื่องจากอิ๋งจื่อจินยังอยู่ตี้ตู กลับมาตอนนี้ไม่ได้ อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็เลยวิดีโอคอลหาเธอ
อิ๋งจื่อจินที่อยู่ในจอนั่งอยู่ตรงโต๊ะ ด้านหลังเป็นบานหน้าต่างยาวขนาดใหญ่
“นักเรียนอิ๋งดูนี่สิ เป็นไง” อาจารย์ฝ่ายวิชาการยกป้ายผ้าสองผืนให้เธอดูด้วยความตื่นเต้น
“ถ้าอันนี้ไม่สวยแล้วนี่ล่ะ”
รสนิยมความงามของอาจารย์ฝ่ายวิชาการเรียกได้ว่าแปลกประหลาดในโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ แต่เขากลับรักในงานออกแบบ
ประกาศนียบัตรกับถ้วยรางวัลจำนวนมากในงานต่างๆ เช่น งานกีฬาสี เทศกาลศิลปะ เป็นต้น ก็ล้วนเป็นฝีมือการออกแบบของเขาทั้งนั้น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาออกแบบถ้วยรางวัลทรงเกลียว แถมยังกำหนดเป็นสีเหลือง
นักเรียนในโรงเรียนต่างอึดอัดกับผลงานการออกแบบของเขาจนพูดไม่ออก
ผู้อำนวยการโรงเรียนรู้ก่อนแล้ว จึงให้พวกอาจารย์คนอื่นๆ เตรียมป้ายผ้าไว้อีกหลายอันด้วย
อิ๋งจื่อจินมองป้ายผ้าสีแดงที่ประดับด้วยดอกไม้สีเหลืองขาวจำนวนมาก “…”
นี่ไม่ใช่ป้ายแสดงความยินดี นี่มันป้ายผ้างานศพ
อีกผืนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน
ประดับด้วยลูกบอลผ้าปักสีแดงสดสองลูก
คนไม่รู้คงคิดว่าเธอแต่งงานตามธรรมเนียมโบราณ
อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ ชี้ป้ายผ้าผืนที่อาจารย์ฝ่ายวิชาการจงใจวางไว้ไกลๆ “หนูว่าผืนนั้นก็ดีนะคะ”
ผืนนั้นเป็นของที่อาจารย์คนอื่นเตรียมไว้
“อ่อ ก็ได้” อาจารย์ฝ่ายวิชาการม้วนเก็บป้ายผ้าที่เขาตั้งใจออกแบบด้วยความเสียดาย
“เธอชอบผืนนี้ก็ผืนนี้แล้วกัน”
เขาหยิบป้ายผ้าที่อิ๋งจื่อจินเลือก
“นักเรียนอิ๋ง เธอจะเลือกมหาวิทยาลัยไหนเหรอ”
แต่ไหนแต่ไรมามหาวิทยาลัยต่างประเทศไม่ดูผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่อิ๋งจื่อจินเป็นกรณีพิเศษ
ด้วยผลงานที่เธอทำไว้ในรอบชิงชนะเลิศไอเอสซี มหาวิทยาลัยทั่วโลกแทบอยากกราบกรานให้เธอเข้าไปเรียน
อิ๋งจื่อจินตอบโดยไม่ต้องคิด
“หนูจะไปอยู่มหาวิทยาลัยตี้ตูค่ะ”
เธอเห็นมหาวิทยาลัยนอร์ตันมาตั้งแต่ก่อตั้ง และก็ใช้เวลาอยู่ในนั้นมายาวนานมาก หมดความสนใจอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เธอกลัวว่าถ้าเธอไปอยู่ที่นั่นก็จะต้องถูกรองอธิการบดีรบเร้าให้ไปสอนคณะเล่นแร่แปรธาตุกับคณะดาราศาสตร์
อีกทั้งจนถึงตอนนี้นอร์ตันก็ยังไม่กลับมา
หลังจากครั้งนั้นเธอก็ได้ลองทำนายอีกหลายครั้ง ก็ยังคงไม่พบพิกัดของนอร์ตัน
เรื่องเดียวที่แน่ใจได้คือ ไม่มีอันตรายถึงชีวิต
นอร์ตันเป็นคนทำอะไรชอบเล่นใหญ่ นิสัยก็มุทะลุ แต่ก็ไม่เคยหายไปนานขนาดนี้
อิ๋งจื่อจินเอามือนวดหว่างคิ้ว
“ไปมหาวิทยาลัยตี้ตูก็ดี” อาจารย์ฝ่ายวิชาการพูด
“ช่วงหลังๆ มานี้มหาวิทยาลัยตี้ตูก้าวหน้าไปมาก อาจารย์จะไปติดป้ายผ้าให้เธอแล้วนะ นักเรียนอิ๋ง อาจารย์จะรอเธอกลับมาฉลองกัน”
พูดจบเขาก็กดปิดวิดีโอคอลแล้วลงจากตึกอย่างอารมณ์ดี
…
ยี่สิบนาทีต่อมา
จงมั่นหวากับอิ๋งเย่ว์เซวียนก็มาถึงโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ
นอกจากพวกเธอแล้วยังมีผู้ปกครองและนักเรียนคนอื่นอีกไม่น้อย
หลังจากผลคะแนนออกก็ต้องเลือกสาขาที่จะเรียน
โรงเรียนมัธยมชิงจื้อจัดอาจารย์แนะแนวการเลือกสาขาเรียนไว้ให้นักเรียนโดยเฉพาะ ทำหน้าที่ช่วยเลือกตามความชอบ นิสัย และจุดเด่นของนักเรียน เพื่อป้องกันนักเรียนเลือกผิดพลาด
เมื่อก่อนไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ แต่เนื่องจากเคยมีนักเรียนที่เลือกสาขาไม่ตรงตามความถนัดจนเรียนต่อไปไม่ไหว ทำให้ต้องซิ่วไปเข้าคณะใหม่
แต่ตอนนี้บรรดาผู้ปกครองเหล่านี้ต่างมุงกันอยู่ด้านนอก ไม่ได้เข้าไป
“คุณแม่ดูตรงนั้นสิคะ!” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเขย่ามือแม่ด้วยความตื่นเต้น “อันดับหนึ่งของพวกเรา!”
แม่ของนักเรียนหญิงตะลึงมาก “เจ็ดร้อยห้าสิบคะแนนเหรอ คะแนนเต็ม เก่งเกินไปแล้วหรือเปล่า”
“นั่นสิคะ!” นักเรียนหญิงตื่นเต้นมากกว่าเดิม
“เธอเป็นแรงบันดาลใจในการเรียนของพวกเรา แม่คะ ที่ครั้งนี้หนูสอบได้หกร้อยเจ็ดสิบคะแนนก็เพราะไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเธอ”
จงมั่นหวาได้ยินก็ตกใจมาก
ข้อสอบรวมปีนี้ยากขนาดนั้นยังมีคนได้เต็มด้วยเหรอ
ใครกันที่เก่งขนาดนี้
จงมั่นหวาหยุดเดิน มองไปทางกลุ่มผู้ปกครองด้วยความสงสัย
ตรงนั้นมีป้ายผ้าขนาดใหญ่ปลิวอยู่ท่ามกลางสายลม
สีแดงสะดุดตา บนนั้นมีอักษรสีทอง
ปรากฏตรงหน้าจงมั่นหวา แค่มองไปก็เห็น
[ขอแสดงความยินดีกับอิ๋งจื่อจินนักเรียนห้องสิบเก้าที่ได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม 750 คะแนนเต็ม เป็นอันดับหนึ่งของฮู่เฉิงและอันดับหนึ่งของประเทศ!]