คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 584 เจ็บหน้า คนหนุนหลังของอิ๋งจื่อจิน

ตอนที่ 584 เจ็บหน้า คนหนุนหลังของอิ๋งจื่อจิน

เธอหันไปพูด “ไม่จำเป็นต้องร่วมทางกันหรอกค่ะ แต่บังเอิญเจอกันหน้างานก็พอไหว”

ถ้าซีซาร์ไม่ได้ยัดตั๋วเข้างานเทศกาลภาพยนตร์มาให้ เธอก็ไม่เคยสนใจว่ามีงานเทศกาลภาพยนตร์แบบนี้ด้วย

รางวัลตุ๊กตาทองก็เกิดจากเทศกาลภาพยนตร์นี้ มีประวัติมายาวนานร้อยปีแล้ว เป็นรางวัลอันทรงเกียรติและให้เป็นกำลังใจแก่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างๆ

เทศกาลภาพยนตร์นี้มีชื่อเต็มว่าเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ (International Film Festival) มีชื่อย่อในระดับสากลว่าไอเอฟเอฟ

ครั้งล่าสุดที่ภาพยนตร์จากประเทศจีนถูกเสนอชื่อเข้าชิงในงานไอเอฟเอฟก็คือเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน

แต่ก็แค่ได้เสนอชื่อเข้าชิง ยังห่างชั้นกับการได้รับรางวัลอีกมาก

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกคัดทิ้งตั้งแต่การคัดเลือกรอบแรก

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ก็ยังทำให้นักแสดงนำในภาพยนตร์ โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ มีสถานะที่สูงมากในวงการภาพยนตร์ของประเทศจีน

ตอนนี้ผ่านมายี่สิบแปดปี ภาพยนตร์เรื่องชีวิตใหม่เป็นเรื่องที่สองที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในงานไอเอฟเอฟ

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานไอเอฟเอฟหรือไม่ ถือว่ามีความหมายมากสำหรับชูกวงมีเดีย

แต่อิ๋งจื่อจินไม่ได้ให้ความสำคัญกับรางวัลมากนัก

เธอปล่อยทุกเรื่องให้เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องฝืน

ถึงแม้เมื่อสองปีก่อนอิ๋งจื่อจินจะเคยทำนายอนาคตให้ซังเย่าจือ ไพ่ทาโรต์บอกว่าเขาจะคว้ารางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

แต่อนาคตก็มีตัวแปรมากมาย แม้จะเป็นเพียงปัจจัยที่เล็กน้อยมากก็ตาม

ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ยกเว้นเคราะห์ที่ถูกกำหนดไว้แล้วอย่างความตาย การได้รับบาดเจ็บ ที่ต้องอาศัยการแลกเปลี่ยนครั้งใหญ่ถึงจะเปลี่ยนแปลงได้

สรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ล้วนกำลังเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา

อิ๋งจื่อจินไม่มีทางจงใจเปลี่ยนแปลงอนาคต และเธอเองก็ไม่มีทางใช้ญาณพยากรณ์อยู่ตลอด เว้นเสียแต่จำเป็น

เพราะบางครั้งเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยอาจมีความเป็นไปได้สูงที่จะส่งผลอย่างมากในอนาคต

เท้าของคลาร์คหยุดชะงัก รอยยิ้มที่มุมปากก็ค้างเติ่ง

เขาหรี่ตามอง “คุณอิ๋งเข้าใจล้อเล่นนะครับ”

ขนาดตั๋วเข้างานที่อยู่ในมือเขายังต้องเอาจากตระกูลแพชช์

คลาร์คส่ายหน้า รีบเดินตามไดน่าออกไป

ซีอีโออิ๋งคนนี้อายุยังไม่ถึงยี่สิบ แต่ไฟแรงไม่เบา รู้จักปะทะคารม

ไดน่าก็ย่อมได้ยินแล้ว เธอขมวดคิ้ว “พวกเขามีตั๋วเหรอ”

ตั๋วชมนอกงานหาได้สบายมาก ใครๆ ก็ซื้อตั๋วเข้าไปได้

ที่หายากก็คือตั๋วเข้าภายในงาน

เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของตั๋วอยู่ในมือบริษัทภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซลพิกเจอร์ส หรือก็คือตระกูลลอเรนท์

ส่วนอีกสิบเปอร์เซ็นต์ถึงจะแบ่งไปตามบริษัทต่างๆ

ไทม์มีเดียเป็นบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่อันดับสองของโลก เบื้องหลังมีตระกูลแพชช์ ถึงเอาตั๋วภายในงานมาได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรเสียตระกูลแพชช์ก็เป็นผู้นำของสี่ตระกูลมหาเศรษฐีแห่งยุโรป ไม่มีใครกล้ายุ่ง

เรื่องติดสินบนคณะกรรมการก็ไม่ได้พูดส่งเดช

ใช้คำว่าติดสินบนก็ไม่ถูกนัก แค่เห็นนามสกุลแพชช์ รางวัลก็ถูกนำมามอบให้ถึงมือแล้ว

หากว่ากันด้วยเรื่องภูมิหลังกับชาติตระกูล ไดน่าก็ติดสิบอันดับแรกของทั้งโลก

คนที่อยู่เหนือเธอได้ นอกจากคุณชายอีกคนหนึ่งของตระกูลแพชช์ก็เหลือแค่สมาชิกสายตรงของตระกูลลอเรนท์แล้ว

บอสของบริษัทบันเทิงประเทศจีนงั้นเหรอ

ต่อให้เป็นบริษัทที่ใหญ่กว่านี้ก็เป็นได้แค่มดที่จะถูกเหยียบตายเมื่อไรก็ได้ในสายตาตระกูลมหาเศรษฐีหลายร้อยปี

เว้นเสียแต่จะทำได้ถึงขั้นวีนัสกรุ๊ป

นี่เป็นกรณีพิเศษเพียงกรณีเดียวที่อยู่เหนือความคาดหมายของสี่ตระกูลมหาเศรษฐี

สี่ตระกูลมหาเศรษฐีเคยร่วมมือกันเล่นงานวีนัสกรุ๊ป ทว่าไม่เพียงแต่วีนัสกรุ๊ปจะไม่พ่ายแพ้ กลับยืนหยัดอยู่ได้ ทั้งยังเข้าซื้อกิจการของบริษัทใหญ่หลายบริษัท ก้าวกระโดดเป็นเครือบริษัทอันดับหนึ่งของโลก

ตอนนี้ต่อให้เป็นสี่ตระกูลมหาเศรษฐีก็ไม่มีทางล้มวีนัสกรุ๊ปได้ง่ายๆ แล้ว

ถ้าพวกเขาลงมือ ผลลัพธ์สุดท้ายก็มีแต่จะเสียหายหนักทั้งสองฝ่าย

“คุณไดน่าครับ ก็แค่เด็กสาวหัวรั้น ทนเห็นคนอื่นดูถูกไม่ได้น่ะครับ” คลาร์คยิ้ม “ใช่ว่าใครจะเป็นเหมือนคุณได้ ที่ต่อสู้ในตระกูลแพชช์มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้”

การต่อสู้แย่งชิงในตระกูลแพชช์ไม่ด้อยไปกว่าสามตระกูลอย่างตระกูลหลิน เซี่ย และเย่ว์

มือของสมาชิกสายตรงแต่ละคนล้วนเคยเปื้อนเลือดมาไม่น้อย

ไดน่าเข้าวงการบันเทิงก็แค่เล่นๆ เธอยังมีงานหลักที่สำคัญยิ่งกว่า

ไดน่าลังเล หันกลับไปมอง

บนโต๊ะมีตั๋วสีทองอยู่ปึกหนึ่ง

ส่วนตั๋วที่ตระกูลแพชช์ให้พวกเขามาเป็นตั๋วสีน้ำเงิน

สีของตั๋วแตกต่างกับตั๋วที่พวกเขาได้มา

ไดน่าไม่สนใจ ขึ้นรถแล้วออกจากโรงแรม

ไม่ว่าอย่างไรรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมครั้งนี้ก็ต้องเป็นของเธอ

ภายในล็อบบี้

ทุกคนมองอิ๋งจื่อจินเอาตั๋วปึกหนึ่งวางบนโต๊ะ เข้าสู่ห้วงความเงียบ

ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ หรือซังเย่าจือกับผู้จัดการส่วนตัว ต่างก็ตะลึง

เลขาสาวติดตามอิ๋งจื่อจินมานาน ชินแล้ว แต่ก็ยังคงอดตกใจไม่ได้ “บอสคะ คือ…”

ขายส่งเหรอ

เมื่อกี้ตั๋วเข้างานภายในที่คลาร์คเอามาอวดพวกเขามีแค่สามใบเอง

นี่มาเป็นปึก อย่างน้อยก็ห้าสิบหกสิบใบหรือเปล่า

“หืม?” อิ๋งจื่อจินเหลือบตาขึ้น “เหลือก็เอาไปแจกพนักงาน ไม่พอเดี๋ยวฉันไปขอเพิ่ม”

พวกพนักงานที่อยู่ด้านข้างเงยหน้าทันที รู้สึกเซอร์ไพรส์

พวกเขาก็แค่ตามมาช่วยขนย้ายของ ทำงานทั่วไป ยังมีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ

บอสดีๆ แบบนี้จะไปหาที่ไหนได้อีก

“อ่อค่ะ” เลขาสาวเอาไปแจกให้คนละใบ ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “บอสคะ ตั๋วสีทองกับตั๋วสีน้ำเงินแตกต่างกันยังไงเหรอคะ ฉันเห็นตั๋วของไทม์มีเดียเป็นสีน้ำเงิน”

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด “เดี๋ยวขอถามก่อน”

ซีซาร์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

รักแค่เงินรักบอสด้วย : [ตั๋วสีน้ำเงินสวยสู้ตั๋วสีทองได้เหรอ สีทองหมายถึงทองคำ สีน้ำเงินหมายถึงอะไร]

รักแค่เงินรักบอสด้วย : [อย่างผมยังจะทำให้ฝ่ายจัดงานสั่งทำตั๋วสีทองให้โดยเฉพาะไม่ได้อีกเหรอ ถ้าพวกเขาไม่ทำให้ ต่อไปผมก็ไม่ลงทุนแล้ว ดูซิว่าพวกเขาจะแจกรางวัลได้ยังไงอีก หึ T^T!]

อิ๋งจื่อจิน “…”

เหตุผลแบบนี้ เธอก็เถียงไม่ออก โคตรจะซีซาร์ ลอเรนท์

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “ตั๋วสั่งทำ เน้นดูดี”

เลขาสาวถือตั๋วสีทอง นึกถึงรถสีทองอร่ามแสบตาคันเมื่อเช้า “…”

“ฉันไม่ไปเทศกาลภาพยนตร์” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้แล้วพูดขึ้น “พวกคุณไปเดินเล่นกันเถอะ”

เลขาสาวพยักหน้า “ค่ะบอส แล้วถ้าตระกูลแพชช์ติดสินบนกรรมการจริงๆ ล่ะคะ”

อิ๋งจื่อจินตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ก็ให้พวกเขาลองดู”

ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ใครมาทำลายกระบวนการตัดสินได้

พอได้ยินแบบนี้เลขาสาวก็วางใจแล้ว

เธอรู้ว่าอิ๋งจื่อจินมีเส้นสายกับทางตระกูลเบวิน แต่ตระกูลเบวินด้อยกว่าตระกูลแพชช์

เธอก็เลยใจคอไม่ดีอยู่ตลอด กลัวจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ดูจากตอนนี้ บอสของพวกเขาดูเหมือนจะมีคนหนุนหลังมากกว่าที่คิด

หลังจากคุยกันเสร็จอิ๋งจื่อจินก็ขึ้นไปพักผ่อน

เธอเปิดคอมพิวเตอร์ ใช้แอ๊กเคานท์สำรองล็อกอินเข้าเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

กระทู้ของหน้าหลักยังคงมีแต่แบบเดิมๆ ข่าวซุบซิบที่เกี่ยวกับไอบีไอเยอะที่สุด มีกระทู้ที่บอกว่าลิซิเนียสกางเกงหลุด เดี๋ยวก็แอนโทนี่ถูกถีบตกน้ำ

อิ๋งจื่อจินกวาดตามองคร่าวๆ หนึ่งรอบ สายตาไปหยุดอยู่ที่กระทู้ใหม่กระทู้หนึ่ง

[ตระกูลแพชช์เจอเบาะแสของเดวิลแล้ว โลกใต้ดินก็บอกว่าเดวิลจะออกมาปรากฏตัวอีกแล้ว มาๆๆ บอสทุกท่านมาพนันกันว่าถ้าสองฝ่ายนี้สู้กันอีกครั้ง ตระกูลแพชช์จะมีผู้อาวุโสตายอีกคน หรือเดวิลจะตกจากอันดับหนึ่งของชาร์ตนักฆ่า]

กระทู้ที่เกี่ยวกับนักล่ามีค่าหัวจะได้รับความนิยมสูงมาตลอด

โดยเฉพาะเดวิลที่มีค่าหัวเป็นอันดับหนึ่ง

ในเวลาไม่กี่นาทีก็มีคนมาตอบหลายร้อยแล้ว

[ครั้งก่อนเดวิลฆ่าผู้อาวุโสของตระกูลแพชช์ได้ เป็นเพราะเขาลึกลับเกินไป ครั้งนี้ตระกูลแพชช์มีการเตรียมพร้อม ป้องกันหนาแน่น โอกาสที่เดวิลจะชนะมีไม่มากหรอก]

[ฉันลงข้างเดวิล เขาเป็นเทพบุตรของฉัน!]

[พนันแล้วมีรางวัลหรือเปล่า ไม่มีไม่เล่น น่าเบื่อ]

ดวงตาหงส์ของอิ๋งจื่อจินหรี่ลงเล็กน้อย นิ้วเคาะแป้นคีย์บอร์ด พิมพ์สนับสนุน “เดวิล”

แต่ก็ไม่ใช่เพราะเธอคิดว่าเดวิลมีความสามารถที่จะต่อกรกับตระกูลแพชช์ได้ แต่เป็นเพราะเธอไม่ชอบตระกูลแพชช์

หลายร้อยปีก่อนตอนอยู่ฟลอเรนซ์ ตระกูลนี้ก็สร้างปัญหาให้เธออยู่ไม่น้อย

แต่เธอสงสัยจริงๆ ว่าเดวิลคือใครกันแน่

ถ้าได้เจอกันน่าประลองกันสักตั้ง

งานไอเอฟเอฟจัดขึ้นสองวันก่อนงานประกาศรางวัลตุ๊กตาทอง มีคนจากหลายประเทศมาเข้าร่วม

งานด้านนอกเต็มไปด้วยนักแสดง ผู้กำกับ รวมถึงโปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์ของประเทศต่างๆ และยังมีขนมที่จัดทำขึ้นอย่างประณีต

ไดน่าไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ถือตั๋วเดินเข้าไปด้านในโดยตรง

คลาร์คก็ตามเธอไป

เขารู้ว่าถ้าไม่มีไดน่าอยู่ เขาก็เข้ามาที่นี่ไม่ได้

“คุณไดน่าครับ วางใจได้ครับ ชูกวงมีเดียสู้พวกเราไม่ได้แน่ พวกเขา…” คลาร์คยังไม่ทันพูดจบก็ได้ยินเสียงเบรกรถดังแสบแก้วหู

เขาหน้านิ่ว

ที่นี่เป็นงานด้านใน ใครกล้าขับรถเข้ามากัน

คลาร์คหันไปมอง

ตรงนั้นมีรถสีดำสนิท ด้านที่หันมาทางพวกเขาคือท้ายรถ

ด้านขวาของป้ายทะเบียนมีสัญลักษณ์

ไม่มีใครในยุโรปไม่รู้จัก

บัลลังก์สีทองกับมงกุฎสีทอง

ตระกูลอันดับหนึ่งของโลก สัญลักษณ์ประจำตระกูลลอเรนท์

คลาร์คอึ้ง

ประตูรถเปิดออก มีคนเดินลงมา

เลขาสาวโบกมือให้คลาร์คพร้อมยิ้มกว้างทักทาย “ไฮ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset