คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 662 ไม่กล้ามีเรื่องกับไอบีไอ นักทำนาย

ตอนที่ 662 ไม่กล้ามีเรื่องกับไอบีไอ นักทำนาย

ส่วนนอกของศูนย์วิจัยเป็นปราการ โครงสร้างคล้ายเมืองที่ตระกูลแพชช์อยู่

ระบบป้องกันทำงานรอบด้าน อาวุธที่อยู่ในป้อมปราการก็จะทำงานด้วย

ขอแค่ก้าวล้ำเข้ามาในเขตโจมตีของระบบป้องกัน ไม่ว่าศัตรูหรือมิตรก็จะถูกโจมตีอย่างไม่มีข้อยกเว้น

บรรดาทหารรับจ้างต่างตกใจจนเหงื่อแตก ร่างกายหดเกร็ง

ระบบป้องกันมีแค่มานูเอลคนเดียวที่ควบคุมได้ ปุ่มเซ็นเซอร์รอยนิ้วมือก็อยู่ด้านในศูนย์วิจัย

เห็นได้ชัดว่ามานูเอลสังเกตเห็นความผิดปกติ ถึงได้กดให้ระบบป้องกันทำงาน

แต่พวกเขายังอยู่ข้างนอก นี่ไม่เท่ากับว่าจะพรากชีวิตพวกเขาไปด้วยเหรอ

กึก กึก…

อาวุธหนักยิงระยะไกลเริ่มเข้าประจำที่ ปากกระบอกปืนเล็งไปยังคนที่อยู่นอกปราการ

ปัง!

ปังๆ!

ลูกกระสุนพุ่งออกไป ประกายไฟกระจายทุกทิศทาง

วาเลนส์ตะโกน “ทุกคนหลบ!”

พวกนักสืบคล่องแคล่ว รีบหาที่หลบทันที ย่อตัวลง จับปืนที่อยู่ตรงเอว

ทว่าฟู่อวิ๋นเซินกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย แค่ยกมือขึ้น

คลื่นกำลังภายในอันหนักหน่วงถูกปล่อยออกไป

เพียงแค่ชั่วพริบตา!

ตูม

กระสุนทุกนัดหยุดค้างกลางอากาศตอนที่กำลังจะถึงเป้าหมาย

ไม่กี่วินาทีถัดมากระสุนที่สูญเสียแรงส่งเหล่านี้ก็ร่วงกราวลงบนพื้น

นี่ยังไม่เท่าไร

วาเลนส์เห็นอาวุธขนาดใหญ่พวกนั้นระเบิดเรียงกันภายใต้แรงโจมตีด้วยกำลังภายใน

ภายในปราการติดตั้งอาวุธขนาดใหญ่ไว้สองร้อยกว่าชิ้น แต่กลับพังกลายเป็นเศษเหล็กในเวลาหนึ่งนาที

แม้แต่จะเอากลับมาใช้ใหม่ก็ยังทำไม่ได้

วาเลนส์ที่ยังไม่ทันได้ควักปืนมองตาค้าง “…”

นี่มันความสามารถแบบไหนกัน

มนุษย์ครอบครองได้จริงๆ เหรอ

ฟู่อวิ๋นเซินชักมือกลับ “ไปเถอะ”

วาเลนส์จับปืนแน่นรีบตามไป

อยู่ๆ เขาก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง

ลิซิเนียสเคยบอกว่าผู้บัญชาการของพวกเขาเป็นจอมยุทธ์ด้วย

ภายในศูนย์วิจัย

หลังจากที่มานูเอลเปิดใช้ระบบป้องกันก็ไม่ได้สนใจอีก ทำการทดลองที่เกี่ยวข้องกับสารอันตรายต่อ

เมื่อเทียบกับการสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ เขาชอบคิดค้นสิ่งที่มีความท้าทายมากกว่า

มานูเอลดันแว่นตา ผสมของเหลวในหลอดทดลองเข้าด้วยกัน

ขณะที่เขาเพิ่งหยิบหลอดทดลองอันใหม่ ทันใดนั้นประตูห้องทดลองก็ถูกถีบออก

มานูเอลยังไม่ทันตั้งตัวก็ได้ยินเสียง ปัง หลอดทดลองในมือเขาแตกกระจาย

เขาเงยหน้าทันที มองพวกวาเลนส์ที่บุกเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก “พวกแกเข้ามาได้ยังไง!”

ระบบป้องกันนี้ตระกูลเทเลอร์ใช้เงินมหาศาลสั่งทำมาจากเว็บบอร์ดเอ็นโอเค

เมื่อเปิดใช้สามารถทำลายล้างทหารรับจ้างได้ถึงห้าหมื่นคน

ด้วยเหตุนี้มานูเอลถึงไม่ได้สนใจการโจมตีข้างนอก

ศูนย์วิจัยมีการคุ้มกันหนาแน่น ต่อให้มีคนเข้ามาถึงโซนใจกลางได้จริง แต่ตระกูลเทเลอร์ก็ต้องมาถึงก่อน

แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่มีคนบุกเข้ามาโดยไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย ตระกูลเทเลอร์ก็ไม่ส่งสัญญาณอะไรมาเลยด้วย

วาเลนส์เดินเข้าไปกระชากเสื้อมานูเอล ยกตัวเขาขึ้นมาด้วยมือข้างหนึ่ง

วาเลนส์ยิ้ม สายตาเย็นชา “ศาสตราจารย์ ชอบทำยาพิษขนาดนี้เลยเหรอ ลองไปทำในคุกสักหน่อยไหม”

ฟู่อวิ๋นเซินกวาดตามองพวกสารเคมีที่อยู่ในห้องทดลอง เงยหน้าขึ้น “เก็บไปให้หมด เอาไปพร้อมกัน”

พวกนักสืบลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็ว เก็บพวกขวดสารเคมีต่างๆ ใส่กล่องนิรภัยด้วยความระมัดระวัง

ในที่สุดสีหน้าของมานูเอลก็เปลี่ยนไป

เขาตระหนักได้ว่าเรื่องที่ผู้ช่วยทำ ความแตกหมดแล้ว

แต่ยาพิษสองขวดนั้นเป็นผลงานที่เขาภาคภูมิใจ ฆ่าคนได้อย่างไร้ร่องรอย

ต่อให้ฆ่าไม่สำเร็จ แต่ก็ต้องไม่มีทางถูกจับได้ถึงจะถูก

ทำไมนี่ยังไม่ถึงหนึ่งวันไอบีไอก็มาหาถึงที่แล้ว

“ไม่…พวกแกจับฉันไม่ได้!” มานูเอลขัดขืน “รู้หรือเปล่าว่าฉันมีสถานะสูงขนาดไหนในโลก พวกแกจับฉันโดยพลการ อยากสูญเสียความน่าเชื่อถือเหรอ”

มานูเอลรู้ดีว่า หากไอบีไอลงมือ ต่อให้เป็นตระกูลเทเลอร์ก็ปกป้องเขาไม่ได้

ไม่มีอิทธิพลไหนในโลกที่กล้าเป็นศัตรูกับไอบีไอ ต่อให้เป็นธุรกิจสีเทาก็ต้องทำกันอย่างลับๆ ไม่กล้าเปิดเผย

อย่างไรเสียไอบีไอก็ทำหน้าที่ปกป้องสันติสุขของโลกและความปลอดภัยของพลเรือน ไม่มีใครกล้ารับประกันว่าตัวเองจะไม่มีทางถูกคุกคามจากผู้ก่อการร้ายระดับโลก

“บังเอิญจริง นักวิชาการคนอื่นน่าจะรู้ธาตุแท้ของศาสตราจารย์แล้ว” ไม่เพียงแต่วาเลนส์จะไม่ปล่อยมือ กลับจับแน่นขึ้น “ผู้บัญชาการครับ เอาตัวกลับสำนักงานใหญ่เลยไหมครับ”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “เอาตัวคนที่วิจัยร่วมกับเขากลับสำนักงานใหญ่ สอบสวนให้ละเอียดแล้วตั้งข้อหา ส่วนเขายกให้ฉันก่อน”

เห็นได้ชัดว่ามานูเอลมีการติดต่อกับคนของเมืองแห่งโลก

อีกทั้งมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นอิทธิพลโหดเหี้ยมที่ใช้สัญลักษณ์หัวกะโหลกสีดำ

“ครับผู้บัญชาการ” วาเลนส์ไม่พูดพล่ามทำเพลง มัดมานูเอลไว้แล้วถีบไปหนึ่งที “ทำตัวดีๆ”

มานูเอลเหงื่อแตกท่วมหลัง

มันเรื่องอะไรกัน ตระกูลเทเลอร์ทอดทิ้งเขาแล้วจริงเหรอ

“ถ้าแกกำลังรอตระกูลเทเลอร์ วางใจได้ พวกเขาไม่มีทางมาหรอก” ฟู่อวิ๋นเซินโน้มตัวลง “พักผ่อนให้ดี เรื่องที่ฉันจะถามแกพรุ่งนี้ ถ้าแกตอบไม่ได้…”

เขาหยุดเล็กน้อย ไม่พูดต่อ ยืดตัวขึ้น “เอาตัวไป”

ในเวลาเดียวกัน

ตระกูลเทเลอร์

ตระกูลเทเลอร์สังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์ของไอบีไอเข้าอาณาเขตแห่งนี้แล้ว

แต่ไม่กล้าทำอะไร

นั่นไอบีไอเชียวนะ!

ยังจะมีอิทธิพลไหนในโลกที่อาวุธเยอะกว่าไอบีไอได้อีกเหรอ

เป็นศัตรูกับไอบีไอ เว้นเสียแต่ตระกูลเทเลอร์จะอยากสูญสิ้น

พ่อบ้านเช็ดเหงื่อ หยั่งเชิงถาม “นายใหญ่ครับ พวกเราจะยอมแพ้แบบนี้เหรอครับ”

สิบปีมานี้ มูลค่ารวมที่ตระกูลเทเลอร์ลงทุนให้ห้องทดลองของมานูเอลร่วมแสนล้านได้

เดิมทีพวกงานวิจัยก็สิ้นเปลืองเงินมากอยู่แล้ว

แน่นอนว่ามานูเอลก็ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ได้ไม่น้อย

แต่การทดลองที่สำคัญที่สุดเพิ่งเริ่มไปได้ครึ่งเดียว

มานูเอลถูกไอบีไอจับตัวไป การทดลองก็จำต้องหยุดลงกลางคัน เงินลงทุนก็สูญเปล่าแล้ว

นายใหญ่เทเลอร์หน้าบึ้ง กำมือแน่นจนมีเสียงกระดูกลั่น “ไม่ยอมแพ้แล้วจะทำยังไงได้ เขารนหาที่ตายเอง ไปเหยียบหางไอบีไอเข้า!”

แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกโชคดี

ยังดีที่เขายังไม่ได้ลงมือกับพวกผู้บริหารระดับสูงของวีนัสกรุ๊ป แค่อยู่ในช่วงวางแผน

ไม่อย่างนั้นคนที่ถูกไอบีไอจับตอนนี้ก็คือเขาแล้ว

นายใหญ่เทเลอร์ส่ายมือด้วยความเหนื่อยล้า ขึ้นชั้นบนไปพักผ่อนแล้ว

นี่เป็นค่ำคืนที่ไม่สงบ

ในเขตบ้านนอกที่อยู่ติดกับเมืองหลวงของประเทศเจ บนถนนมีไฟริมทางแค่สองดวง แสงไฟสลัว

หญิงสาวเคาะประตูบ้านไม้หลังหนึ่ง

ประตูเปิดออกพร้อมเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด

เสียงพูดแก่ชราดังขึ้น “เข้ามาสิฮอลลี่ของฉัน”

“คุณยาย” ฮอลลี่เดินเข้าไป วางกระเป๋าลง เสยผมเล็กน้อย “จำได้ไหมคะว่าเมื่อคืนหนูบอกว่าหนูไปร่วมงานเต้นรำมา”

“ในงานนั้นมีคนเก่งๆ มากมาย หนูเจอสองคนที่หนูค่อนข้างถูกใจ ก็เลยมาขอให้คุณยายช่วยค่ะ”

หญิงชรานั่งอยู่หน้าเตาผิง

พอได้ยินแบบนี้ก็ลืมตาขึ้น ดวงตาสีเขียวเข้ม

ดวงตาของเธอขุ่นมัว แต่กลับเจือด้วยประกายเฉียบคม ชวนให้ยำเกรง

หญิงชราค่อยๆ พูดขึ้น “ใคร”

“นี่รูปค่ะ” ฮอลลี่เปิดสองรูปให้ดูในโทรศัพท์มือถือ “คุณยายคะ ช่วยดูให้หน่อยว่าลงมือกับคนไหนง่ายกว่า”

สองรูปที่ว่านี้รูปหนึ่งคือฟู่อวิ๋นเซิน อีกรูปคือซีซาร์ ลอเรนท์

หญิงชรารับโทรศัพท์มาจ้องอยู่สักพัก “ใช้ได้ ดูจากโหงวเฮ้ง ดวงของพวกเขาสองคนแข็งแกร่งมาก อีกทั้งลูกหลานไม่มีทางล่มจมในร้อยปี”

“แน่นอนค่ะ” ฮอลลี่ยิ้ม “ตอนนี้สองคนนี้เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจ”

“เดี๋ยวยายดูให้” หญิงชรายืนขึ้น เดินโขยกเขยกไปหยิบอุปกรณ์บนชั้น

ฮอลลี่ดีใจมาก “ขอบคุณค่ะคุณยาย”

ฮอลลี่ไม่เคยบอกเพื่อนคนไหนมาก่อนว่าแท้จริงแล้วเธอเกิดในตระกูลนักทำนาย

อย่างไรเสียอาชีพนักทำนายก็มีภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ทำให้ไม่ค่อยมีคนเชื่อแล้ว

นักทำนายที่แท้จริงถอยไปอยู่เบื้องหลัง ตามหานักทำนายที่แท้จริงในตลาดไม่ง่าย

ยายของฮอลลี่ก็คือนักทำนายฝีมือฉมัง

แต่ก็เพราะการล่าแม่มดที่ยาวนานถึงสามร้อยกว่าปีในยุคกลางครั้งนั้น ทำให้นักทำนายของยุโรปล้มตายจำนวนนับไม่ถ้วน

นักทำนายชั่วร้ายถูกเรียกว่า ‘พ่อมดแม่มด’

ก็เหมือนกับคำทำนายของเทพพยากรณ์ พ่อมดแม่มดเหล่านี้จะตายไปหมดไม่มีเหลือในปีหนึ่งเจ็ดแปดศูนย์

แน่นอนว่าในเหตุการณ์ล่าแม่มดนั้นนักทำนายที่ไม่มีส่วนรู้เห็นอะไรก็ถูกฆ่าไปด้วย

จนกระทั่งครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเก้า วงการนักทำนายถึงเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาบ้าง

แต่เทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าขึ้นทุกวัน นักทำนายมากพรสวรรค์ก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ

ฮอลลี่ไม่ได้สืบทอดการทำนายจากครอบครัว

เธอแค่เล่นไพ่ทาโรต์ทั่วไป ทำนายเรื่องเล็กๆ พอได้ แต่ให้แก้กรรมยังทำไม่ได้

หญิงชราถือไพ่ทาโรต์กับตำราเล่มเก่ามาวางที่โต๊ะ “อยากดูคนไหนก่อน”

ฮอลลี่ชี้รูปฟู่อวิ๋นเซินแล้วตอบอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย “เขาค่ะ”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset