คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 677 ศิษย์เฟิงซิว คารวะอาจารย์!P

ตอนที่ 677 ศิษย์เฟิงซิว คารวะอาจารย์!

“…”

เกิดความเงียบสงัด

มีเพียงเฉิงหย่วนที่จำชายชราคนนี้ได้ เขาร้องเสียงหลง

“อะ…อาจารย์!”

อาจารย์ของเขายังมีชีวิตอยู่!

มีทางรอดแล้ว!

เฟิงซิวเหมือนเพิ่งเห็นลูกศิษย์ตัวเอง ออกอาการตะลึงนิดหน่อย “อาหย่วน นายก็อยู่ด้วยเหรอ”

เฉิงหย่วน “…”

ทำไมฟังดูเหมือนเขาเป็นผลพลอยได้

“เซี่ยฮ่วนหราน” เฟิงซิวหันไป สีหน้าเย็นชา

“โลกจอมยุทธ์เป็นของตระกูลเซี่ยงั้นเหรอ กล้าพูดนักนะ”

เซี่ยฮ่วนหรานลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาได้ยินคำพูดนี้

มองไปยังชายชราที่สวมหมวกงอบ สีหน้าตกใจ “เฟิงซิว!”

เฟิงซิวควรตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ

มาปรากฏตัวตอนนี้ได้ยังไง

ในความเป็นจริงเฟิงซิวก็อกสั่นขวัญแขวนมาตลอดทาง ตอนนี้เพิ่งโล่งอก มีเหงื่อออกที่มือ

บนยอดเขาหิมะที่เขาหลับใหลห่างจากที่นี่มากถึงแปดร้อยกิโลเมตร

ตอนหลังแม้เขาจะเร่งความเร็วถึงขั้นสูงสุด แต่กว่าจะถึงที่หมายก็อีกหลายชั่วโมงต่อมา

เฟิงซิวกลัวจะมาช้าไปหนึ่งก้าวแล้วเกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจหวนคืน

โชคดีที่ตอนนี้ยังไม่มีใครตาย

เฟิงซิวเหลือบมองเซี่ยฮ่วนหราน “ทางที่ดีแกอย่าคิดขยับ”

เขายกฝ่ามือขึ้น ปล่อยกำลังภายใน

“ตูม!”

เซี่ยฮ่วนหรานตั้งตัวไม่ทัน ถูกผนึกจุดลมปราณทั่วทั้งร่างกาย ถูกล็อกตัวไว้อยู่กับที่

เฟิงซิวหันตัวไปแล้วเดินขึ้นหน้า

หลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอขนลุกไปทั้งตัว ไม่กล้าขยับ

คนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

เฟิงซิวไปหยุดยืนตรงหน้าฟู่อวิ๋นเซิน ยกฝ่ามือขึ้น ถ่ายทอดกำลังภายในอันบริสุทธิ์เข้าร่างกายของเขา

ฟู่อวิ๋นเซินรู้สึกตัวเบา

คลื่นกำลังภายในที่ทรงพลังนี้กำลังซ่อมแซมบาดแผลในตัวเขา

แต่ในขณะเดียวกัน พลังที่เขาปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ก็ได้หายไปด้วย

มือของฟู่อวิ๋นเซินขยับ จับศีรษะ พยายามบังคับให้ภาพความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อเหล่านั้นหายไป

“เยาเยา!”

เฟิงซิวเดินไปนั่งลงตรงหน้าเย่ว์ฝูอีแล้วเริ่มรักษาอิ๋งจื่อจิน

พอเห็นใบหน้าซีดเซียวของเธอ ใบหน้าของเขาก็กระตุกเล็กน้อยแบบที่ไม่อาจสังเกตเห็น เป็นครั้งแรกที่ดวงตาฉายแววโหดเหี้ยม

เซี่ยฮ่วนหรานตัวดี!

กล้าโหดเหี้ยมได้ถึงขั้นนี้!

เฟิงซิวย่อมมองออก อายุจริงของอิ๋งจื่อจินยังไม่ถึงยี่สิบ แต่วรยุทธ์กลับสูงถึงหนึ่งร้อยห้าสิบปีแล้ว

ไอ้แก่หนังเหนียวอายุร้อยปีรังแกเด็กสาว

ช่างดีเหลือเกินนะ!

พอเห็นลมหายใจของอิ๋งจื่อจินเริ่มกลับมาเป็นปกติ เฟิงซิวถึงยืนขึ้นอีกครั้ง ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเซี่ยฮ่วนหราน

แววตามีความอาฆาตอย่างไม่ซ่อนเร้น

เป็นครั้งแรกที่เซี่ยฮ่วนหรานรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างรุนแรง เขากำลังจะอ้าปากพูดก็ถูกตบ

ตบนี้ทำให้เขากระอักเศษอวัยวะภายในออกมา

เซี่ยฮ่วนหรานช็อกหนักยิ่งกว่าเดิม

ทำไมเป็นจอมยุทธ์ชั้นยอดเหมือนกัน แต่ฝีมือของเขากลับห่างชั้นกับเฟิงซิวมากขนาดนี้!

เฟิงซิวพูด “จอมยุทธ์อันดับหนึ่งเหรอ”

“ผัวะ!”

ตบไปอีกหนึ่งฉาด

“ครอบครองโลกจอมยุทธ์เหรอ”

“ผัวะ!”

ตบที่สาม

“ฆ่าคนทั้งโลกจอมยุทธ์เหรอ”

“แกคู่ควรเหรอ”

“ผัวะๆ”

เสียงตบดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เฟิงซิวไม่ได้ใช้กระบวนท่าอย่างอื่น เขาแค่ตบอย่างเดียว

เซี่ยฮ่วนหรานรู้สึกอับอายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาโมโหมาก

“เฟิงซิว เก่งนักก็มาสู้กันตรงๆ สิ แบบนี้มันจะสักแค่ไหน!”

อย่างน้อยเขาก็เป็นจอมยุทธ์ชั้นยอดเหมือนกัน จะยอมให้หยามเกียรติแบบนี้ได้ยังไง!

เฟิงซิวทำเสียงหึ มือถือเบ็ดตกปลา โยนเซี่ยฮ่วนหรานให้ลอยคว้างกลางอากาศ

ต่อมาทุกคนก็เห็นเฟิงซิวใช้เบ็ดตกปลาหวดฟาดเซี่ยฮ่วนหรานไม่หยุด

ทุกครั้งที่ถูกหวด เซี่ยฮ่วนหรานจะร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด แผลลึกจนเห็นกระดูก

ผ่านไปไม่กี่นาทีร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยบาดแผล

แผลเหวอะเนื้อเปิด เลือดไหลนอง

หลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอมองหน้ากัน แทบหยุดหายใจ

พวกเขาอายุมากถึงสามร้อยปีกันแล้ว รู้ว่าตัวเองต่างถึงขีดจำกัดของอายุขัย มีเวลาเหลืออีกไม่มาก

เว้นเสียแต่พวกเขาจะบรรลุเป็นจอมยุทธ์ชั้นยอด แบบนั้นอายุขัยก็จะยืดออกไปได้ถึงห้าร้อยปี

แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งรู้ว่า ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ชั้นยอดเหมือนกันก็ยังมีความแตกต่างกันมาก

ต่อให้เซี่ยฮ่วนหรานบรรลุเป็นจอมยุทธ์ชั้นยอดแล้ว ฆ่าพวกเขาได้เหมือนฆ่ามด

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเฟิงซิวก็ยังคงไร้เรี่ยวแรงจะสู้กลับ

เฟิงซิวใช้เบ็ดตกปลาหวดเซี่ยฮ่วนหรานจนหมดสติไป

“ฟึ่บ”

เขาโยนเซี่ยฮ่วนหรานให้เฉิงหย่วน พูดเสียงเย็นชา “เอาไปขังไว้ในคุกวารีก่อน เฝ้าเขาไว้”

เฉิงหย่วนรีบเข้าไปรับ “ครับอาจารย์”

เฟิงซิวหันไปมองหลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอ พูดด้วยเสียงเย็นชา “พวกนายสองคนก็ยังไม่ตายเหรอ”

หลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอแข้งขาอ่อนแรง เกือบทรุดลง พูดเสียงสั่น “ผะ ผู้อาวุโสเฟิงซิว พะ พวกเรา…”

“เรื่องไม่เกี่ยวกับตัวเองย่อมไม่อยากยุ่ง ฉันเข้าใจได้” เฟิงซิวไม่ว่าอะไรอีก

“ยังไงซะพวกนายสองคนอย่างมากก็อยู่ได้อีกแค่ห้าปี ไปเถอะ”

หลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอรีบวิ่งหนีไปอย่างทุลักทุเล

พวกคนตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์ที่เหลือมองหน้ากัน ต่างตะลึง

ถ้าหลินอู๋เลี่ยงกับเย่ว์ชิงเหอตาย ตระกูลหลินกับตระกูลเย่ว์ก็จะเสียหายหนัก

โลกจอมยุทธ์ต้องโกลาหลมากแน่นอน

“ยังจะมัวยืนบื้อทำอะไร” เฟิงซิวเอามือไพล่หลัง เหลือบมอง “จะรอให้ฉันไปส่งเหรอ”

ยังจะมีใครกล้าอยู่ต่ออีกยกเว้นเย่ว์ฝูอี ต่างวิ่งหนีด้วยความเร็วสูงสุด

ฟู่อวิ๋นเซินรับอิ๋งจื่อจินมาจากเย่ว์ฝูอี อุ้มเธอขึ้นมาปกป้องไว้

ภาพเหตุการณ์ไม่ปะติดปะต่อที่เขากดไว้ก่อนหน้านี้กลับโผล่มาอีกครั้งอย่างบ้าคลั่งในเวลานี้

มีทั้งภาพแขนขาขาด การนองเลือด

มีซากปรักหักพัง เศษอาวุธกระจัดกระจาย

มือของเขาสั่นเล็กน้อยแบบที่ไม่อาจสังเกตเห็น พูดเสียงเบา “เยาเยา…”

ฟู่อวิ๋นเซินหลับตาลง กอดอิ๋งจื่อจินไว้แน่นกว่าเดิม ไปที่ทำการศาลสถิตยุติธรรม

อีกด้านหนึ่ง

เมืองตี้ตู

เซ่าอวิ๋นกับผู้อาวุโสใหญ่ยังคงรออยู่ด้านนอก

ระหว่างนั้นเซ่าอวิ๋นโทรหาผู้บัญชาการอัศวินคฑากายสิทธิ์หลายครั้ง แต่จนถึงตอนนี้ผู้บัญชาการคนนี้ก็ยังมาไม่ถึงที่นี่

เซ่าอวิ๋นร้อนใจมาก หัวใจดุจมีไฟแผดเผา

ในขณะที่เขาทนรอต่อไปไม่ไหวก็ได้เกิดเสียงดังสนั่น

ประตูใหญ่ของโลกจอมยุทธ์ถูกเปิดออกจากด้านใน

เซ่าอวิ๋นเงยหน้ามองไปทันที

ผู้อาวุโสใหญ่ตะลึง รู้สึกเหลือเชื่อ “พวกอวิ๋นเซินทำสำเร็จแล้ว!”

ประตูเปิดจากด้านในก็แสดงว่าไม่มีอันตรายแล้ว

ผู้อาวุโสใหญ่ก็รู้แผนการแรกสุด

อิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินวางแผนล่อเซี่ยฮ่วนหรานไปยังที่ที่ไม่มีคน จากนั้นก็จุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ขนาดเล็กรอบตัวเขา

การทำแบบนั้นจะต้องมีคนพลีชีพแน่นอน

แต่เขารอมานานขนาดนี้กลับไม่ได้ยินเสียงระเบิดนิวเคลียร์

ผู้อาวุโสใหญ่รีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา เห็นข้อความที่ฟู่อวิ๋นเซินส่งให้เขา

[ผู้อาวุโสใหญ่ให้คนอื่นๆ กลับเข้ามาได้แล้วครับ]

ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทรุดลงบนพื้น ยิ้มทั้งน้ำตา “ปลอดภัยก็ดีแล้ว ปลอดภัยก็ดีแล้ว!”

เซ่าอวิ๋นแย่งโทรศัพท์มาจากมือของผู้อาวุโสใหญ่ พอเห็นข้อความเขาก็รู้สึกโล่งใจ

ในเวลานี้เองได้มีเสียงแตรรถดังขึ้นถี่ๆ

มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขี่มากลางอากาศจากไกลๆ จากนั้นก็หยุดลงตรงหน้าอวี้เซ่าอวิ๋น

บนมอเตอร์ไซค์คันนั้นมีเด็กหนุ่มตาสีเขียวผมสีทอง สวมชุดเกราะสีเงิน

ผู้บัญชาการหน่วยอัศวินคฑากายสิทธิ์!

“ท่านหัวหน้าตระกูล” เด็กหนุ่มลงจากรถมอเตอร์ไซค์ ถอดหมวกกันน็อกออก “ที่นี่เหรอครับ”

“อืม แต่เรื่องคลี่คลายแล้ว” เซ่าอวิ๋นขมวดคิ้ว “นายมาช้าเกินไป”

“ขอโทษด้วยครับท่านหัวหน้าตระกูล ที่นี่ห่างจากจุดออกจากเมืองค่อนข้างไกล ผมขี่มาด้วยความเร็วสูงสุดแล้วครับ” เด็กหนุ่มรู้สึกผิด “ในเมื่อคนที่ท่านหัวหน้าตระกูลต้องการปกป้องปลอดภัยแล้ว งั้นผมก็ขอคืนของแทนตัวให้ท่านหัวหน้าตระกูลครับ”

เขายื่นดาบสั้นที่หัวหน้าคนคุ้มกันให้เขาตรงทางออกเมืองคืนให้เซ่าอวิ๋น

เซ่าอวิ๋นเม้มริมฝีปาก รับดาบสั้นกลับมา

ในเมื่อไม่ได้ใช้ดาบสั้นเล่มนี้ อีกเดี๋ยวยกให้เจ้าเจ็ดแล้วกัน

ฟู่อวิ๋นเซินไปเมืองแห่งโลกไม่มีอำนาจใดๆ อย่างน้อยดาบสั้นเล่มนี้ก็สามารถทำให้เขาสั่งการหน่วยอัศวินคฑากายสิทธิ์ได้หนึ่งครั้ง

เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆ “ถ้าท่านหัวหน้าตระกูลไม่มีเรื่องอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวกลับเมืองก่อนนะครับ”

ประตูใหญ่ของเมืองแห่งโลกแต่ละจุดอยู่ในความควบคุมของสำนักผู้วิเศษ ผู้บัญชาการของสี่หน่วยอัศวินสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ จะกลับเข้าเมืองเมื่อไรก็ได้ ไม่เหมือนพวกเขาที่ยังต้องรอ

เซ่าอวิ๋นเงยหน้า “ตอนนี้เหรอ”

“ใช่ครับ” เด็กหนุ่มยิ้มพลางพูด “เดิมทีหน่วยอัศวินคฑากายสิทธิ์ของพวกเราทำงานตามคำสั่งของท่านสังฆราชมาตลอด แต่เนื่องจากช่วงนี้ท่านอัศวินรถม้าเพิ่งกลับมา งานก็เลยค่อนข้างเยอะครับ”

“หน่วยอัศวินมีคนไม่พอ ทำงานกันไม่ทัน ผมก็เลยต้องรีบกลับไปครับ แถมท่านอัศวินรถม้าก็อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ พวกเราเป็นลูกน้องเลยต้องปรนนิบัติให้ดีครับ”

เซ่าอวิ๋นประหลาดใจมาก “ผู้วิเศษอัศวินรถม้ากลับมาแล้วเหรอ”

ผู้วิเศษลำดับที่แปดจากยี่สิบสองคน ผู้วิเศษอัศวินรถม้า

เด็กหนุ่มตอบ “ครับ ได้ยินท่านสังฆราชบอกว่า ผู้วิเศษอัศวินรถม้ากลับมาจากที่นี่ แต่ผมก็ไม่รู้รายละเอียดเท่าไรครับ”

“ผมกลับก่อนนะครับ ไว้เจอกันครับท่านหัวหน้าตระกูล”

เขาพยักหน้าให้อวี้เซ่าอวิ๋นแล้วสวมหมวกกันน็อกอีกครั้ง กระโดดคร่อมมอเตอร์ไซค์ ขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว

มอเตอร์ไซค์ขี่กลางอากาศแบบนี้เทียบได้กับเครื่องบิน เท่ห์ระเบิด

เพียงชั่วพริบตาก็หายไปไม่เหลือแม้แต่เงา

เซ่าอวิ๋นจมอยู่ในห้วงความคิด

ผู้วิเศษอัศวินรถม้าทำไมถึงกลับจากที่นี่

หากว่ากันตามเหตุผล ผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนควรประจำอยู่ที่เมืองแห่งโลกตลอด ไม่เคยออกไปไหน

ผู้อาวุโสใหญ่หรี่ตามองทางเด็กหนุ่มที่หายตัวไป

เขาลูบเครา อยู่ๆ ก็พูดขึ้น “เอ่อคือ รถที่เขาเพิ่งขี่ออกไปหาซื้อได้ที่ไหนเหรอ”

อวี้เซ่าอวิ๋น “…”

โลกจอมยุทธ์

ในเจ็ดวันนี้เซี่ยฮ่วนหรานถูกขังอยู่ในคุกวารีที่มืดทึบของศาลสถิตยุติธรรมและถูกทรมานมาตลอด

เขาถูกเฟิงซิวผนึกวรยุทธ์ เหลือเพียงกำลังภายในเล็กน้อยที่ช่วยพยุงไม่ให้เขาตาย

เซี่ยฮ่วนหรานรู้ว่า ถ้าเฟิงซิวไม่ยอม แม้แต่ฆ่าตัวตายเขาก็ทำไม่ได้

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดก็มีแสงสว่างปรากฏในคุกวารีอีกครั้ง

เซี่ยฮ่วนหรานเงยหน้ามองไปทันที แต่ความหวังที่อยู่ในดวงตากลับค่อยๆ ถูกบดขยี้หายไปเมื่อเห็นชายชรา

เขาร้องซี้ด “เฟิงซิว!”

เฟิงซิวยังคงถือเบ็ดตกปลา สะบัดทีเดียวเซี่ยฮ่วนหรานก็สะดุ้งโหยง

เขายังเปลี่ยนชุดให้เซี่ยฮ่วนหรานด้วยความเอาใจใส่

ในเวลาไม่นานเลือดที่ไหลนองตลอดก็เปื้อนเสื้อผ้าเป็นสีแดงอีกครั้ง

“เฟิงซิว แกคิดจะทำอะไร!” เซี่ยฮ่วนหรานรู้สึกหวาดกลัวแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาตะโกนเสียงดัง “แกต้องการอะไรกันแน่!”

เฟิงซิวใช้เบ็ดตกปลาเกี่ยวเซี่ยฮ่วนหรานขึ้นมาอีกครั้ง “กลัวแกทำตาอาจารย์ฉันมีมลทิน”

เซี่ยฮ่วนหรานยังคิดตามไม่ทัน อยู่ๆ เขาก็ตาลายเวียนหัว

ในเวลาสิบกว่าวินาที เฟิงซิวได้หิ้วเซี่ยฮ่วนหรานไปอยู่ตรงหน้าห้องของอิ๋งจื่อจิน

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก มือสั่น เดินเข้าไปเคาะประตูก่อน

เสียงเย็นชาของอิ๋งจื่อจินแหบแห้งเล็กน้อยเพราะเพิ่งตื่น “เข้ามา”

เฟิงซิวถึงได้เปิดประตูเดินเข้าไป

อิ๋งจื่อจินนั่งพิงอยู่บนเตียง กำลังมองแสงแดดกับต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่าง

“เฟิงซิว! เก่งนักก็ฆ่าฉันสิ!” เซี่ยฮ่วนหรานยังคงตะโกนโวยวาย “แกจะทรมานฉันทำไม หา!”

“ทำไม นังเด็กสาวชั้นต่ำนี่ฆ่าหลานสาวฉัน ฉันจะฆ่าบ้าง ชีวิตแลกด้วยชีวิตก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล แกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน!”

เรื่องที่เซี่ยฮ่วนหรานทนไม่ได้มากที่สุดคือ เขาลำบากฝึกฝนมานานหลายปีขนาดนี้ ทั้งยังสร้างวิชาของตัวเองจนในที่สุดก็ได้บรรลุเป็นจอมยุทธ์ชั้นยอด

แต่พอเฟิงซิวออกมาเขาก็ยังคงพ่ายแพ้

ในสายตาของเฟิงซิว เซี่ยฮ่วนหรานเป็นเหมือนเด็กน้อยที่อยู่ๆ ก็ได้รับพลัง เป็นเพียงตัวตลก

เฟิงซิวยกขาถีบเซี่ยฮ่วนหรานให้ไปอยู่ข้างเตียงอิ๋งจื่อจิน

จากนั้นก็ปล่อยพลังบังคับให้เซี่ยฮ่วนหรานคุกเข่าลงต่อหน้าอิ๋งจื่อจิน

“เปร๊าะๆ”

เสียงกระดูกลั่น กระดูกสันหลังของเซี่ยฮ่วนหรานหัก อวัยวะภายในก็ราวกับถูกบดขยี้

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้สายตาของเขาพร่ามัว เวียนหัวแทบสลบ

“โอ๊ย!” เซี่ยฮ่วนหรานร้องเหมือนจะขาดใจตาย “เฟิงซิว แกฆ่าฉันเถอะ มีสิทธิ์อะไรให้ฉันคุกเข่าต่อหน้านังเด็กนี่ สมควรแล้วเหรอ!”

ถ้าไม่ติดว่าเฟิงซิวปรากฏตัวอย่างกะทันหัน เขาคงฆ่าอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินตายไปนานแล้ว!

เฟิงซิวสะบัดแขนเสื้อ ในขณะที่สายตาค่อยๆ จับจ้องเซี่ยฮ่วนหราน เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าเธอ “ศิษย์เฟิงซิว วันนี้พานักโทษโลกจอมยุทธ์เซี่ยฮ่วนหรานมาคารวะอาจารย์”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset