คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 689 คนในปกครองของสำนักผู้วิเศษ ตะลึง!

ตอนที่ 689 คนในปกครองของสำนักผู้วิเศษ ตะลึง!

ระบบประเมินคะแนนเที่ยงตรงขนาดไหน คณบดีนอร์แมนรู้ดีเสียยิ่งกว่าดี

พวกอาจารย์ก็เคยเข้าร่วมทดสอบเพื่อให้ผ่านเกณฑ์ไปสอนนักศึกษาได้

มั่วเฟิงอาจารย์อันดับหนึ่งของคณะวิศวกรรมศาสตร์ยังได้คะแนนแค่เก้าสิบแปด

แม้แต่ตัวคณบดีนอร์แมนเองยังเคยทำชิ้นงานใส่ลงไปให้ระบบประเมินคะแนนตรวจ

สุดท้ายเขาได้เก้าสิบเก้าจุดเก้าคะแนน

คณบดีตั้งใจกดดูรายละเอียดการให้คะแนน

พบว่าศูนย์จุดหนึ่งคะแนนที่โดนหักไป หากเขาใส่ชิ้นส่วนขยับไปอีกศูนย์จุดหนึ่งมิลลิเมตร ชิ้นงานนั้นก็จะมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

แต่ถึงอย่างไรมนุษย์ก็ไม่ใช่หุ่นยนต์ ไม่มีทางทำได้สมบูรณ์แบบไม่ผิดพลาดเลย

ได้หนึ่งร้อยคะแนนเต็มก็แสดงว่าความสามารถในการคำนวณของนักศึกษาคนนี้สุดยอดมาก

ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่!

พรสวรรค์ นี่คือพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้

เกิดมาเพื่อเรียนวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน

คณบดีนอร์แมนพยายามทำให้ตัวเองจิตใจสงบลง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ติดต่อซีนายทันที

แต่เขาไม่คาดหวังอะไรมาก

หลังจากที่ซีนายหายตัวไป บางครั้งเขากับเธอก็ติดต่อกันทางออนไลน์

ส่วนใหญ่ซีนายจะเป็นฝ่ายติดต่อเขามาเอง เขายังไม่เคยติดต่อเธอสำเร็จเลยสักครั้ง

แต่ครั้งนี้ ซีนายตอบกลับเร็วมาก

[ซีนาย : อาจารย์คะ ลบผลคะแนนของเธอทิ้งไป เรื่องนี้มีแค่อาจารย์ที่รู้ได้ และหนูก็เชื่อใจแค่อาจารย์ค่ะ]

สีหน้าของคณบดีนอร์แมนชะงัก

เมื่อก่อนคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ก็คือคณะเล่นแร่แปรธาตุ ขึ้นตรงกับผู้วิเศษนักมายากลและผู้วิเศษนักบวชหญิง

คณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นคณะใหม่ที่ตั้งขึ้นหลังจากเทคโนโลยีอุตสาหกรรมเจริญก้าวหน้า ไม่ได้ขึ้นตรงกับผู้วิเศษคนไหน

คณบดีนอร์แมนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับซีนาย

แต่เขาแน่ใจได้ว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับผู้วิเศษแน่นอน

ไม่อย่างนั้นใครจะกล้าลงมือกับสมาชิกสายตรงของตระกูลเรนเกลได้

อีกทั้งซีนายยังเป็นนักวิจัยระดับดับเบิลเอส สถานะสูงมาก

คณบดีนอร์แมนลบผลสอบของอิ๋งจื่อจินออกจากระบบอย่างสิ้นเชิงโดยไม่ลังเลเลยสักนิด

จากนั้นก็ใช้สิทธิ์เฉพาะของตัวเองสร้างผลคะแนนปลอมขึ้นมา แก้ให้อิ๋งจื่อจินได้แปดสิบแปดคะแนน ยังคงสอบได้อันดับหนึ่งเหมือนเดิม

เก้าสิบคะแนนขึ้นไปกับต่ำกว่าเก้าสิบคะแนนย่อมไม่เหมือนกัน

เพราะนักศึกษาสองคนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เคยได้คะแนนเกินเก้าสิบ คนหนึ่งถูกล้างความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเมืองแห่งโลกแล้วไปอยู่ที่เจ็ดทวีปสี่มหาสมุทร

อีกคนถูกจับกรอกยาเล่นแร่แปรธาตุ ทำให้ร่างกายและระบบประสาทได้รับความเสียหายอยู่ไม่น้อย

ไม่มีผลลัพธ์ที่ดีทั้งคู่

นอร์แมนสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์

[นอร์แมน : มิน่าเธอถึงไม่ได้ยื่นขอให้เด็กคนนี้เป็นนักวิจัยระดับเอส ก็จริง อาจารย์ไม่รอบคอบเอง]

[ซีนาย : หนูก็ไม่รอบคอบเหมือนกันค่ะ อาอิ๋งเป็นคนบอกหนูเอง เธอสนใจเรื่องเทคโนโลยีการบินมาก หวังว่าอาจารย์จะช่วยสอนเธอนะคะ]

[นอร์แมน : แน่นอน]

เขาต้องรับอัจฉริยะแบบนี้มาเป็นลูกศิษย์อยู่แล้ว

นอร์แมนคิดแล้วถามต่อ

[นอร์แมน : นี่คงไม่ใช่น้องสาวเธอใช่ไหม อาจารย์เห็นหน้าตาพวกเธอคล้ายกัน แถมสติปัญญาก็ใกล้เคียงกัน พวกเธอต้องเป็นครอบครัวเดียวกันแน่นอน]

นอร์แมนรออยู่นานก็ไม่มีข้อความตอบกลับ จึงส่งเครื่องหมายคำถามไปด้วยความแปลกใจ

คราวนี้มีข้อความตอบกลับแล้ว แต่เป็นข้อความตอบกลับอัตโนมัติของระบบ

[เจ้านายหนีไปเที่ยวเล่นแล้ว มีข้อความอะไรฝากผมได้ฮะ เดี๋ยวเจ้านายกลับมาผมจะรีบรายงานเลย =3=]

คณบดีนอร์แมน “…”

มีลูกศิษย์ติสท์ อาจารย์ก็ประสาทจะกิน

แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีการประกาศคะแนนให้ภายนอกรับรู้ มีแค่ติดประกาศหนึ่งแผ่น โดยเรียงตามอันดับ

ผลพวงจากความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีก็คือ สอบเสร็จไม่นานผลก็ออกมาแล้ว ไม่มีเวลาให้ตั้งตัว

การสอบครั้งนี้มีคนเข้าร่วมทั้งหมดมากถึงห้าหมื่นคน สุดท้ายมีเพียงสองพันกว่าคนที่ได้เข้าไปตามแต่ละคณะ

ในฐานะที่เป็นสองคณะใหญ่ คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์รับนักศึกษาได้ไปสามสิบเจ็ดคน คณะวิศวกรรมเครื่องกลและการบินได้ไปสามสิบคน

พวกนักศึกษาพากันเข้ามาดูประกาศผล

เทียนเยียนก็มาด้วย

วันนั้นหลังจากเธอถูกบิลไล่ออกจากตระกูลเรนเกล ช่วงสองวันนี้ชีวิตเธอก็แย่มาตลอด

โชคดีที่บิลไม่ค่อยอยู่ในสำนักวิจัย นักศึกษาคนอื่นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็เลยยังคงประจบเอาใจเธอ

แบบนี้เทียนเยียนยังรู้สึกเหมือนได้รับการปลอบโยนอยู่บ้าง แต่ในใจก็ยังคงเคียดแค้น

เธอไม่รู้จริงๆ ว่าบิลมีอาที่อายุน้อยขนาดนั้น โตกว่าพวกเธอแค่ไม่กี่ปี

มีเสียงพูดคุยหน้ากระดานประกาศ เสียงตะลึงดังมาอย่างไม่ขาดสาย

“โอ้โห อันดับหนึ่งของคณะวิศวะเป็นนักศึกษาระดับต้นเหรอ”

“อิ๋งจื่อจินก็คือคนที่วันนั้นอัดพวกนักศึกษาคณะพันธุศาสตร์น่วมใช่หรือเปล่า สุดยอด เหม็นขี้หน้าพวกคณะนั้นมานานแล้ว ทำดี!”

ตราบใดที่ไม่ใช่นักศึกษาที่มีอาจารย์คุ้มครองหรือครอบครัวมีอิทธิพล พวกอาจารย์ก็จะไม่มีทางเข้าไปยุ่งเรื่องระหว่างนักศึกษาด้วยกัน

ธรรมชาติคัดสรร ผู้อ่อนแอย่อมถูกกลืนกิน

นี่คือกฎของเมืองแห่งโลก

“สงสัยเธอจะเก็บซ่อนความสามารถไว้ ใครบอกกันว่านักศึกษาระดับสูงจะต้องเก่งกว่านักศึกษาระดับต้นเสมอไป ก็แค่เข้าสำนักวิจัยไม่พร้อมกัน”

ฟังๆ อยู่รอยยิ้มของเทียนเยียนก็ค้างเติ่ง

เธอรู้สึกเหลือเชื่อ รีบวิ่งเข้าไปทันที แหวกคนที่บังอยู่ข้างหน้า “พวกเธอว่าไงนะ”

อิ๋งจื่อจินไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์สอบแล้วถูกส่งไปเป็นตัวทดลองที่คณะพันธุศาสตร์ แต่ยังได้อันดับหนึ่งของคณะวิศวะด้วยเหรอ!

มันเป็นไปได้ยังไง

นักศึกษาคนอื่นมองเทียนเยียนด้วยสายตาประหลาด ต่างแหวกทางให้เธอ

เทียนเยียนเงยหน้ามองไป

ด้านบนสุดของบอร์ดประกาศมีสองชื่ออยู่คู่กัน

อิ๋งจื่อจิน คณะวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน

ไรอัน คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์

เทียนเยียนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น

ทั้งๆ ที่เธอแน่ใจแล้วว่าเอาภาพแบบร่างโอนเข้าโต๊ะทดลองของอิ๋งจื่อจินไปแล้ว แต่ทำไมถึงไม่เกิดเรื่อง

เทียนเยียนกัดฟัน หันตัวเดินไปที่สนามสอบ

ยังไม่ทันถึงหน้าประตูก็มีเสียงพูดดังขึ้น

น้ำเสียงเรียบเฉย

“เธอเป็นคนเอาภาพแบบร่างเข้าไปในโต๊ะทดลอง”

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า ดวงตาหงส์เย็นชาดุจหิมะ ทะลวงเข้าจิตใจ

ราวกับมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง

“เธอพูดอะไรน่ะ” เทียนเยียนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่มีอะไร

“ฉันไม่รู้เรื่องภาพแบบอะไรทั้งนั้น”

อิ๋งจื่อจินล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา

ฉายภาพแบบร่างเป็นสามมิติ

ซึ่งก็คือภาพที่เทียนเยียนเอาไปใส่ไว้

“เอาสิ ที่แท้เธอก็มีภาพแบบจริงๆ!” เทียนเยียนสะดุ้งตกใจ

“ฉันจะไปร้องเรียนเธอ ไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีอะไรตบตาผู้คุมสอบ”

“เธอกล้าเอาหลักฐานออกมา เธอจบแน่!”

เธอไม่เชื่อหรอกว่านักศึกษาระดับต้นอย่างอิ๋งจื่อจินจะสอบได้อันดับหนึ่ง

เห็นนักศึกษาระดับสูงเป็นตอหรือไง

เทียนเยียนแสยะยิ้ม หันตัวเดินออก

อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว ไม่ได้ห้าม

“อาอิ๋ง ยินดีด้วยนะ!” ปิงหลานวิ่งมา

“ยินดีด้วยที่เธอได้เข้าคณะวิศวะ พวกเราไปกินข้าวกันดีไหม”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ไปถนนเส้นของกินที่อยู่ตรงข้ามแล้วกัน”

“เอาสิ” ปิงหลานเหลือบมองโทรศัพท์มือถือ

“อาอิ๋ง เธอเปิดแอคเคาท์ไลฟ์สดแล้วเหรอ ฉันกดติดตามแล้ว ฉันเป็นแฟนคลับคนแรกใช่ไหม!”

อิ๋งจื่อจิน “…ไม่ใช่”

แฟนคลับคนแรกของเธอคือฟู่อวิ๋นเซิน คนสองคือซีนาย คนสามคืออวี้เสวี่ยเซิง

เธอเปิดแอคเคาท์ไลฟ์สดก็เพื่อติดต่อนอร์ตัน

นอร์ตันรู้จักนิสัยของเธอดี

อิ๋งจื่อจินตั้งใจเอารูปถ่ายของนอร์ตันไปเสิร์ช แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลที่สอดคล้องกัน

ผู้ใช้งานเว็บดับบลิวมีเป็นจำนวนมาก บางครั้งแม้แต่ผู้วิเศษก็ยังใช้

“อ่อ” ปิงหลานเฉยๆ “ไม่เป็นไร ฉันเป็นอันดับสี่สินะ”

เธอเริ่มอ่านข้อมูลในหน้าหลักของอิ๋งจื่อจิน เห็นมีคนมาคอมเมนต์ล่าสุด

[ทำไมลบข้อความฉันล่ะ คุณต้องเป็นคุณหนูบิลแน่นอน ทำไมไม่ตอบฉัน ร้อนตัวใช่ไหม! ถ้าคุณไม่ใช่ ทำไมสไตล์ของคุณกับคุณหนูบิลถึงได้เหมือนกันขนาดนั้น]

ปิงหลานขมวดคิ้ว ตอบกลับ

[สมองมีปัญหาก็รีบไปรักษา! เธอไม่ใช่!]

“พวกสติไม่ดีสินะ” ปิงหลานบ่น

มีเสียงแจ้งเตือนฉุกเฉินดังขึ้นในเวลานี้

[แจ้งเตือน! แจ้งเตือน! นักศึกษาทุกคนโปรดฟัง!]

[เกิดปัญหาที่ห้องทดลอง ห้ามทุกคนออกจากสำนักวิจัย ได้เชิญสมาพันธ์แฮกเกอร์มาตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว]

ปิงหลานอึ้ง “สมาพันธ์แฮกเกอร์มาด้วยตัวเองเลยเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหยุดเดิน หรี่ตาลงเล็กน้อย

ด้านหน้าเป็นเทียนเยียนที่เดินกลับมา

สองมือกอดอก พูดประชด “เธอรอดูได้เลย”

เธอเพิ่งไปที่ห้องทำงานผู้คุมสอบมา ได้รับแจ้งว่าทางสำนักวิจัยได้ติดต่อแฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์แล้ว ทางนั้นจะมาตรวจสอบโต๊ะทดลองด้วยตัวเอง

ทักษะคอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจินไม่มีทางสูงไปกว่าแฮกเกอร์ของสมาพันธ์แฮกเกอร์

ไม่ใช่แค่คนของสมาพันธ์แฮกเกอร์ที่มา คณบดีนอร์แมนกับพวกอาจารย์ก็รู้เรื่องแล้ว พากันมาที่สนามสอบ

ผู้คุมสอบพูดอย่างนอบน้อม

“โต๊ะทดลองตัวนี้ครับ ทางเราสงสัยว่ามีคนโจมตีเว็บดับบลิวด้วยเจตนาไม่ดี อีกทั้งยังช่วยนักศึกษาทุจริตด้วยครับ”

ขณะพูดประโยคนี้เขายังเหลือบมองอิ๋งจื่อจินด้วยสายตาเย็นชา ความหมายชัดเจนมาก

“ครั้งนี้ท่านประธานสมาพันธ์ให้นายน้อยมาลองดู” เจ้าหน้าที่ยิ้ม

“ท่านคณบดีและทุกท่านวางใจได้ครับ นายน้อยมีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด ถึงขั้นที่ไม่เคยได้รับการสั่งสอนใดๆ ก็สามารถขัดขวางไวรัสของท่านประธานที่สร้างมาโจมตีได้”

ทุกคนอึ้ง

เวลานี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา

อิ๋งจื่อจินหันไปเห็นใบหน้าของชายหนุ่ม “…”

สุดๆ ไปเลย

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset