คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 774 กำจัด ตบหน้าไม่ยั้ง

ตอนที่ 774 กำจัด ตบหน้าไม่ยั้ง

ในเวลาเดียวกัน แอ๊กเคานท์ระดับดับเบิลเอสของตระกูลเรนเกลก็โพสต์ข้อความด้วย

แตกต่างจากเมื่อก่อน ตรงท้ายไอดีของแอ๊กเคานท์มีสัญลักษณ์ผู้ดูแลเพิ่มเข้ามา

แอทตระกูลเรนเกล : [สำหรับเรื่องที่มีการร้องเรียนด้วยความประสงค์ร้าย ทางตระกูลจะไม่มีทางนิ่งเฉย!]

ด้านล่างเป็นหลักฐานไล่เรียงลงไป

รวมถึงภาพแคปหน้าจอที่บิลไม่ได้สืบหลักฐานการสวมรอยให้ดีก็ปล่อยข่าวออกไป อีกทั้งยังสร้างกระแสโจมตีอิ๋งจื่อจินในเน็ต

ครั้งนี้บิลใช้แอ๊กเคานท์ทั้งหมดสิบสามแอ๊กเคานท์ เวลานี้ถูกนำมาเรียงโชว์ไม่มีขาดสักแอ๊กเคานท์

ถ้าอิ๋งจื่อจินไม่ได้ให้ตำแหน่งผู้ดูแลแก่ตระกูลเรนเกล หากคิดจะสืบทั้งหมดนี้ในเวลาอันสั้นย่อมไม่ง่าย

ตอนนี้เลขาแน่ใจมากว่า คุณหนูใหญ่ของพวกเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับผู้วิเศษแน่นอน

ถึงแม้ไชโลห์จะเป็นลูกศิษย์ของผู้วิเศษสามคน แต่ก็ยังคงแบ่งชนชั้นชัดเจน

แต่คุณหนูใหญ่ของพวกเขามีเหรอจะเหมือนไชโลห์ที่เที่ยวโอ้อวดไปทั่ว

เลขาส่ายหน้า เริ่มระงับแอ๊กเคานท์ต่อ

กระแสวิจารณ์ในเน็ตเปลี่ยนทิศทางในชั่วพริบตา

[ทุกท่านโปรดเรียกผมว่านักทำนาย ใช่บิลจริงด้วย!]

[ตอนนั้นใช้สถานะกดคนอื่นไว้ยังไง ตอนนี้พอสถานะเปลี่ยนเลยอิจฉาไม่ไหว เริ่มคิดหาทางทำลายคนอื่น ควรอยู่ให้ไกลคนแบบนี้]

[ขำเป็นบ้า อันที่จริงเธอก็เป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้เทพอิ๋งเปิดเผยตัวตน ยังไม่เข้าใจสถานะตัวเองอีกเหรอ หลงตัวเองจริงๆ]

[ไม่ต้องเดาสถานะเทพอิ๋งเลย ดีไม่ดีอาจรู้จักกับผู้วิเศษด้วยซ้ำ]

ทางด้านสำนักวิจัย

บิลออกมาจากห้องทดลองก็เห็นข้างนอกมีนักศึกษาจับกลุ่มกันอยู่ไม่น้อย

หลังจากพวกนักศึกษาได้ยินเสียงก็หันไปมอง

สายตาเหล่านั้นมีทั้งสงสาร สะใจ ที่มากกว่าคือความรังเกียจ

บิลเดินไปสองสามก้าว ในที่สุดก็สังเกตเห็นความผิดปกติ เธอกำมือแน่น “พวกเธอมองฉันทำไม”

หรือว่าเรื่องที่เธอร้องเรียนอิ๋งจื่อจินจะถูกสำนักวิจัยประกาศออกไปแล้ว

ถ้าเป็นแบบนั้น อิ๋งจื่อจินก็หนีความผิดที่สวมรอยไม่พ้น

“ฉันว่าอย่าเรียกเธอว่าคุณหนูบิลอีกเลย เปลี่ยนเป็นเรียกนังตอแหลดีกว่า” นักศึกษาคนหนึ่งพูดถากถาง “ใส่ร้ายคนอื่นลับหลัง เก่งนักทำไมไม่ใช้ความสามารถสู้กับรุ่นน้องอิ๋งล่ะ”

ตามคาด

บิลคลายมือออก เธอพูดขึ้น “ยัยนั่นทำผิด ทำไมฉันจะร้องเรียนไม่ได้ คณะวิศวะยุติธรรมมาตลอด ใช้หน้าตาตัดสินได้เหรอ”

เธอรำคาญที่สุดที่ไม่ว่าจะนักศึกษาหญิงหรือชายต่างตามชื่นชมอิ๋งจื่อจิน ก็แค่เพราะหน้าตาดีไม่ใช่เหรอ

แม้แต่ผู้วิเศษสังฆราชก็…

“ใช่ๆๆ” เยี่ยซือชิงหัวเราะ พูดแฝงความนัย “ขอบใจที่เธอร้องเรียนนะ ทำให้พวกเรารู้ว่าเทพอิ๋งก็คือเทพเอสวาย”

คำพูดนี้เหมือนฟ้าผ่าข้างหูบิล ระเบิดสมองให้ว่างเปล่า

บิลช็อก “เธอว่าไงนะ!”

เยี่ยซือชิงกอดอก “ดูเอาเองสิ”

บิลรีบล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาเข้าเว็บดับบลิวทันที

คลิปที่อิ๋งจื่อจินเผยให้เห็นใบหน้าถูกแพร่ไปทั่วแล้ว ยอดแชร์สูงถึงสองแสน

เป็นส่วนใหญ่ของประชากรรวมในเมืองแห่งโลก ยอดแชร์ขึ้นสามอันดับแรกของเว็บดับบลิว

บิลรู้สึกเหลือเชื่อ

อิ๋งจื่อจินก็คือเอสวายเหรอ

เอสวายไม่ใช่อาจารย์ผู้หญิงในคณะวิศวะเหรอ!

เยี่ยซือชิงขี้เกียจแม้แต่จะเรียกชื่อบิล เธอพูดขึ้น “ประธานคณะกรรมการประเมินเรียกให้เธอไปพบน่ะ”

บิลตัวสั่นขึ้นมาทันที เหงื่อแตกซึมเต็มหลัง

ร่างกายของเธอแข็งทื่อ ก้าวขาอันหนักอึ้งไปที่ห้องทำงานของประธานคณะกรรมการประเมิน

พอเข้าไปก็พบว่ามั่วเฟิงก็อยู่ด้วย

มั่วเฟิงมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ถึงขั้นที่เจือด้วยการตำหนิ

“คุณบิล ทางสำนักวิจัยไม่มีทางสนใจเรื่องขัดแย้งภายในตระกูลเรนเกลของพวกคุณ” ประธานคณะกรรมการประเมินเงยหน้าขึ้น “แต่ถ้าเกี่ยวพันถึงนักศึกษากับชื่อเสียงของคณะวิศวะ พวกเราจะไม่มีทางนิ่งดูดาย”

บิลสูดลมหายใจเข้าลึก “แล้วตอนนั้นที่หนูถูกพวกคนที่เลื่อมใสอิ๋งจื่อจินด่า ทำไมทางคณะถึงไม่เคยสนใจเลยล่ะคะ”

สองมาตรฐานขนาดนี้เลยเหรอ

ประธานคณะกรรมการประเมินไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ เลยเล่าให้ฟัง

เขาโมโหจนหัวเราะ ตบโต๊ะอย่างแรง “คุณลืมไปหรือเปล่าว่าตัวเองเจตนาไล่คนอื่นไปก่อน พอตัวเองแพ้ก็โทษคนอื่นอย่างนั้นเหรอ”

บิลตัวเย็นเฉียบ

“แล้วก็คุณ!” ประธานคณะกรรมการประเมินพูดเสียงเย็นชา “อายุเท่าไรแล้ว สี่สิบกว่าแล้ว ยังไม่รู้จักแยกแยะอีก”

“เป็นทำไมอาจารย์ ผมว่าคุณไปเป็นเชฟหลังครัวฝึกควงกระทะดีกว่าไหม”

มั่วเฟิงอ้าปากค้าง พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

เขาไม่ได้แยกแยะไม่เป็น ก็แค่ไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง

และก็ไม่อยากยอมรับว่าอิ๋งจื่อจินยอดเยี่ยมมากจริงๆ

ราวกับว่ามีเพียงการทำแบบนี้ถึงจะปลอบโยนตัวเองได้ว่าเขาไม่ได้เลือกผิด

แต่ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้เลือกแล้ว

มั่วเฟิงก็ได้ดูไลฟ์ของเอสวาย คิดว่าเอสวายเป็นเพื่อนร่วมวงการมาตลอด เพราะความรู้ของเอสวายก็ไม่ด้อยไปกว่าเขา

เขายังจะมีหน้าไปรับอิ๋งจื่อจินเป็นศิษย์อีกเหรอ

“แข่งขันน่ะได้ แต่ถ้าหลงลืมตัวตนมันก็ไม่ถูกต้องแล้ว” ประธานคณะกรรมการประเมินส่ายมือ “ออกไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวทางคณะวิศวะจะประกาศบทลงโทษพวกคุณในเน็ต”

บิลเดินออกไปเหมือนร่างไร้วิญญาณ ใบหน้าซีดเซียว

สถานะของประธานคณะกรรมการประเมินในคณะวิศวกรรมศาสตร์ไม่ด้อย ระดับเดียวกับคณบดีนอร์แมน

เกรงว่าสิ่งที่รอเธออยู่คือถูกขับไล่ออกจากคณะวิศวกรรมศาสตร์

หลังจากที่ทั้งสองคนถูกไล่ออกจากห้องทำงานไป คณบดีนอร์แมนก็ค่อยๆ เดินออกมาจากห้องใน ยิ้มพลางพูด “เพื่อน นานทีจะได้เห็นนายโมโหขนาดนี้ ใช้ได้ ดีมาก ฉันขอชื่นชม”

“ออกไปเลย!” ประธานคณะกรรมการประเมินไม่ไว้หน้า “นายมันไอ้ขี้ตืด!”

“เออๆ ก็ได้ ใช่ว่าจะไม่ให้เสียหน่อย” คณบดีนอร์แมนหยิบพวงกุญแจอันเล็กออกมา “เอาไป ยานรุ่นใหม่ที่เพิ่งทำออกมา พานายออกไปท่องระบบสุริยะเล่นได้”

ประธานคณะกรรมการประเมินตะลึง “นอร์แมน นายไม่ได้ล้มหัวกระแทกพื้นมาใช่ไหม”

“ถุย” คณบดีนอร์แมนโมโห “คิดมากไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่านายระบายอารมณ์แทนลูกศิษย์ฉัน ใครจะให้นายฟรีๆ นายคู่ควรเหรอ”

ใครดีกับลูกศิษย์เขา เขาก็ดีกับคนนั้น

ประธานคณะกรรมการประเมิน “…”

ตระกูลเรนเกล

ซู่เวิ่นย่อมเห็นพวกคำวิจารณ์ในเน็ตแล้ว เธอโมโหแสบร้อนในอกมาก

โดยเฉพาะการที่บิลมีเจตนาทำลาย

แต่ก็จริง ตระกูลใหญ่ก็แบบนี้

ลูเอลขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลได้ตั้งแต่ยังหนุ่มขนาดนั้น ความลำบากที่ต้องเผชิญก็มีแค่เขาที่รู้

เมื่อเผชิญกับอำนาจที่เด็ดขาดและทรัพย์สมบัติ ต่อให้เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดก็กลายเป็นศัตรูได้

แต่ซู่เวิ่นทนเห็นอิ๋งจื่อจินถูกรังแกแบบนี้ไม่ได้

แม้ลูกสาวของเธอจะแข็งแกร่งถึงขั้นดูแลตัวเองได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอก็ยังเป็นแค่เด็ก

ซู่เวิ่นพูดเสียงเย็นชา “ไปเอาตัวบิลกลับมา!”

พ่อบ้านทำความเคารพ ตอบด้วยความนอบน้อม “ครับ คุณนายใหญ่”

เขาออกไปพร้อมทีมคุ้มกัน จับบิลมัดกลับมาจากสำนักวิจัย

ไม่มีใจอ่อนแม้แต่น้อย

บิลมองคุณนายรองที่คุกเข่าอยู่บนพื้น เรียกด้วยริมฝีปากที่สั่น “คุณแม่…”

คุณนายรองเคียดแค้น “แกมันโง่!”

ทั้งๆ ที่เธอบอกบิลแล้วว่าให้อดทน ต้องอดทน

ยังจะใจร้อนแบบนี้อีก

คุณนายรองนึกสาเหตุออกทันที

หลังจากที่ไชโลห์กลับมา บิลก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะถูกไชโลห์ยุยงอย่างไม่รู้ตัว รอที่จะลากอิ๋งจื่อจินลงไปจมดินไม่ไหว

สมกับเป็นคนที่มาจากสำนักผู้วิเศษ เจ้าเล่ห์เพทุบายได้ขนาดนี้

คุณนายรองแค้นใจ

ทิ้งไพ่ได้เหนือชั้นมาก

ซู่เวิ่นพูด “คุกเข่า”

พ่อบ้านก้าวเดินไปด้านหน้า จับบิลกดลงไป

“ฉันไม่เคยคลุกคลีกับเธอ แต่คิดว่าเธอก็คงมีพรสวรรค์พอสมควร เป็นสมาชิกสายตรงที่ยอดเยี่ยม และยังเป็นหลานสาวของลูเอล” ซู่เวิ่นพูด “ดังนั้นครั้งก่อนที่เธอลงมือกับเยาเยาด้วยความอิจฉาฉันถึงไม่คิดเล็กคิดน้อย”

สายตาของเธอเย็นชา “เธอยังกล้าทำอีกครั้ง เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไง!”

บิลถูกบารมีของซู่เวิ่นข่มจนหายใจไม่ทั่วท้อง ตัวสั่น

และในที่สุดก็ตระหนักได้ว่า ทำไมคุณนายรองถึงพูดมาตลอดว่าอย่าท้าทายซู่เวิ่น

“พ่อบ้าน” ซู่เวิ่นยื่นมือออกไป แสยะยิ้ม “ตัดชื่อออกจากผังตระกูล!”

“ไม่ได้นะ!” บิลสีหน้าเปลี่ยนทันที เธอเงยหน้า “คุณไม่มีสิทธิ์ตัดชื่อฉัน! คุณเป็นแค่คนที่แต่งเข้าตระกูล! มีสิทธิ์อะไร!”

สัปดาห์หน้าก็จะเริ่มคัดเลือกหัวหน้าตระกูลแล้ว

จากความต้องการของผู้วิเศษ ครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปทั่ว

เลือกอย่างเปิดเผย มีเปิดโหวตลงคะแนน

คะแนนโหวตจากชาวเมืองแห่งโลกทั้งหมดคิดเป็นสามสิบเปอร์เซ็นต์ของผลคะแนน

นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อน

ด้วยเหตุนี้บรรดาชาวเมืองจึงตื่นเต้นกันมาก

บิลกัดฟันพูด “ชื่อของฉันถูกส่งขึ้นไปแล้ว คุณอยากลบชื่อฉัน ไม่ว่ายังไงก็ต้องถามความเห็นชอบจากสำนักผู้วิเศษด้วย!”

ตระกูลเรนเกลเก่งแค่ไหนยังจะกล้าขัดสำนักผู้วิเศษได้อีกเหรอ

แต่เหนือความคาดหมายของบิล ซู่เวิ่นยังคงใจเย็น

เธอส่ายมือ บอกให้คนคุ้มกันสองคนเอาตัวคุณนายรองออกไป

ภายในห้องโถงเหลือบิลแค่คนเดียว

“คุณหนูบิล เกรงว่าคุณคงยังไม่ทราบเรื่องบางอย่าง ก็เลยคิดว่าตัวเองเลิศเลอมาตลอด” ไม่ต้องรอให้ซู่เวิ่นพูด เลขายิ้มพลางพูดขึ้นมาก่อน “รู้หรือเปล่าว่าตำแหน่งผู้ดูแลของแอ๊กเคานท์ตระกูลเราได้มาจากใคร”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset