ตอนที่ 775 ความสัมพันธ์ระหว่างอิ๋งจื่อจินกับผู้วิเศษ
ใครๆ ต่างก็รู้ว่าผู้ก่อตั้งเว็บดับบลิวคือผู้วิเศษนักพรต
ผู้ดูแลเจ็ดคนขึ้นตรงต่อผู้วิเศษนักพรต
บิลก็รู้เรื่องที่ก่อนหน้านี้มีผู้ดูแลคนหนึ่งถูกปลด
แต่เธอไม่รู้เลยว่าแอคเคาท์ตระกูลเรนเกลที่หัวหน้าตระกูลเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองได้ตำแหน่งผู้ดูแลแล้วด้วย
คนในตระกูลเรนเกลยังจะมีใครได้ใกล้ชิดผู้วิเศษอีกนอกจากไชโลห์
บิลกัดริมฝีปาก อยู่ๆ ก็มีความมั่นใจ “ตำแหน่งผู้ดูแลที่อาหกให้ หรือพวกคุณจะเอาไว้ยกให้อิ๋งจื่อจินหรือไง”
“คุณหมายถึงคุณไชโลห์เหรอ” เลขาเหลือบมองเธอ แสยะยิ้มอีกครั้ง “คุณหนูใหญ่เป็นคนให้ตำแหน่งผู้ดูแลเว็บดับบลิวมา”
บิลรู้สึกสมองตื้อขึ้นมาทันที ริมฝีปากสั่น
แม้เธอจะไม่อยากเชื่อ แต่ก็ไม่อาจสงสัยว่าคำพูดนี้จริงหรือเท็จ
อย่างไรเสียประเภทของแอคเคาท์ก็ปลอมขึ้นมาไม่ได้ สัญลักษณ์ผู้ดูแลจะห้อยท้ายไอดีของแอคเคาท์
คนที่มีอำนาจแต่งตั้งผู้ดูแลเว็บดับบลิวได้ย่อมมีแค่ผู้วิเศษเท่านั้น
แต่อิ๋งจื่อจินมีอำนาจนี้เหมือนกัน มีความสัมพันธ์เป็นอะไรกับผู้วิเศษกันแน่!
บิลไม่กล้าคิดต่อ
หรืออิ๋งจื่อจินยังจะมีตัวตนอื่นที่เธอไม่รู้อีก
แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ใช่อิ๋งจื่อจินอาศัยอิทธิพลของตระกูลเรนเกล แต่เป็นตระกูลเรนเกลต่างหากที่ต้องให้อิ๋งจื่อจินปกป้อง
ล้อเล่นอะไรน่ะ!
ในขณะที่บิลกำลังสับสนอยู่นั้น ซู่เวิ่นก็รับผังตระกูลมาจากพ่อบ้านแล้ว
เธอขีดฆ่าชื่อบิล เรนเกล ทิ้งต่อหน้าบิล
เลขาที่อยู่ด้านข้างก็เข้าเว็บดับบลิว ทำการลบข้อมูลทั้งหมดของบิลที่อยู่ในตระกูล
นับแต่วันนี้เป็นต้นไป นามสกุลเรนเกลจะไม่เป็นของบิลอีกต่อไปแล้ว
“คุณมีสิทธิ์อะไรทำแบบนี้!” บิลกรีดร้องโวยวายอย่างควบคุมไม่ได้ “คุณเป็นคุณนายใหญ่ไม่ใช่เหรอ ควรปกป้องทั้งตระกูลไม่ใช่เหรอ ตอนที่ฉันถูกด่าด้วยคำพูดที่แย่ยิ่งกว่า ทำไมคุณนิ่งเฉยล่ะ”
“น่าตลกจริง” ซู่เวิ่นพูด “เยาเยาเป็นลูกสาวของฉัน ถ้าฉันไม่ปกป้องลูกสาว จะให้ปกป้องเธอหรือไง เธอเป็นอะไรกับฉัน”
ถูกย้อนถามต่อเนื่องทำให้บิลหมดแรงจะเถียงต่อ
แม้เธอจะเป็นลูกสาวตระกูลใหญ่ที่คุณนายรองเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่ประสบการณ์ก็น้อยเกินไป อีกทั้งยังถูกประคบประหงมเป็นอย่างดี มีเหรอจะสู้ซู่เวิ่นได้
ซู่เวิ่นพูดต่อ “จัดการเก็บข้าวของในห้องของเธอแล้วเอาออกไปพร้อมกัน ตระกูลเราไม่เสียดายเงินแค่นี้”
พ่อบ้านยิ้ม “พอดีเลยครับ คุณหนูใหญ่กำลังต้องการห้องเลี้ยงสัตว์ ผมจะให้คนไปตกแต่งเดี๋ยวนี้”
เขาเองก็แค่บังเอิญได้ยินอิ๋งจื่อจินพูดว่าเธอยังอยากเลี้ยงลูกหมูด้วย
หมูของคุณหนูใหญ่ งั้นก็ต้องเป็นหมูที่น่ารักที่สุด
บิลโมโหจนดวงตาแดงก่ำ
เอาห้องเธอไปเลี้ยงหมูเหรอ
นี่มันเป็นการดูถูกชัดๆ
“ยังไม่รีบเอาตัวออกไปอีก” พ่อบ้านสั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง “เดี๋ยวจะเกะกะสายตาคุณหนูใหญ่”
พวกคนรับใช้ ‘เชิญ’ บิลออกไป
คนคุ้มกันถึงได้พาตัวคุณนายรองเข้ามา
คุณนายรองมองซู่เวิ่นที่กำลังโมโห เธอหลับตา สั่นไปหมดทั้งตัว
เธอรู้ว่าเรื่องนี้พังหมดอย่างสิ้นเชิงแล้ว
บิลยังเด็กเกินไป ไม่ทันเล่ห์กลของไชโลห์
“น้องรองจากไปเร็ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องครองตัวเป็นหม้าย” ซู่เวิ่นเหลือบมองคุณนายรอง ค่อยๆ จิบชา “ถึงแม้เธอก็อายุห้าสิบแล้ว แต่ดูแลตัวเองดีไม่ต่างจากคนอายุสามสิบ”
คุณนายรองใจหายวาบ “พี่สะใภ้ใหญ่!”
คำพูดนี้ไม่ได้บ่งบอกชัดเจน แต่เห็นได้ชัดว่าต้องการไล่เธอออกจากตระกูลเช่นกัน
ซู่เวิ่นกลับไม่มีเวลาฟังคุณนายรองแก้ตัวอีก เธอลุกขึ้น เดินไปที่ห้องครัว
ถึงแม้คนส่วนใหญ่ในแวดวงไฮโซของเมืองแห่งโลกปกติจะชอบกินอาหารสำเร็จรูป แต่ซู่เวิ่นก็ยังคงชอบทำอาหารด้วยตัวเอง
เธอเตรียมทำขนมให้มากหน่อยเพื่อเตรียมให้อิ๋งจื่อจินเอาไปกินระหว่างทาง
พ่อบ้านเพิ่งให้คนเอาตัวคุณนายรองออกไป พอหันกลับมาก็เห็นอิ๋งจื่อจินลงมาจากชั้นบน
เขารีบเข้าไปหาทันที “คุณหนูใหญ่”
ยิ้มให้ฟู่อวิ๋นเซินที่เดินตามหลังอิ๋งจื่อจินมา “ท่านเขย”
ฟู่อวิ๋นเซินหันไป “เยาเยา ฟังสิ”
“ฉันไม่ฟัง” อิ๋งจื่อจินหาวหวอด “ได้คืบจะเอาศอก”
ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลงเล็กน้อย เขาแค่หัวเราะเบาๆ แล้วเอามือลูบศีรษะเธอ
พ่อบ้านถอยออกไปอย่างรู้งาน สมองเริ่มจินตนาการถึงคุณหนูคุณชายตัวน้อยๆ แล้ว
“นอร์ตัน ฉันจะกลับโลกจอมยุทธ์หน่อย” อิ๋งจื่อจินพิงอกกว้างของฟู่อวิ๋นเซินพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทร “ตระกูลเรนเกลมีอันตรายค่อนข้างมาก ฉันเลยจะฝากแม่ไปอยู่กับนายสักระยะ”
“แม่ฉันไปอยู่ที่นั่นนายจะได้ไม่ต้องเลี้ยงเด็กด้วย”
พอได้ยินแบบนี้นอร์ตันก็ชะงักเล็กน้อย ยังคงมีท่าทางเรื่อยเปื่อย “ได้ครับลูกพี่ บอสก็รู้จักนิสัยผมดี รับฝากแค่ไม่กี่วัน นานมากไม่ไหว”
“หืม?” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ก็จริง ไว้รอฉันกลับมาจากโลกจอมยุทธ์ ฉันจะรับอาของฉันกลับมาพร้อมกันด้วย”
“จึ๊” นอร์ตันยักไหล่ “ก็แค่เด็กน้อย เตี้ยจนผมมองไม่เห็น ช่างเถอะ อีกอย่าง เธออยู่ด้วยผมถึงทำการทดลองได้ บอสเอาเธอกลับไปใครจะคิดค้นยาถอนพิษล่ะ”
“…”
อิ๋งจื่อจินวางสายพลางครุ่นคิด
ทำไมเธอรู้สึกว่าตาคนที่คลั่งวิชาเล่นแร่แปรธาตุคนนี้ชักดูแปลกๆ
ความคิดของคนบ้าเข้าใจยากจริงๆ
“ผู้บัญชาการ ไม่รอแล้ว” อิ๋งจื่อจินบิดขี้เกียจช้าๆ “พรุ่งนี้พวกเรากลับโลกจอมยุทธ์กัน”
ฟู่อวิ๋นเซินหันไปจูบริมฝีปากเธอ ยิ้มพลางพูด “ได้”
…
ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว กลางดึกในเว็บดับบลิวก็ยังคงฮือฮาไม่หาย
หากตัดเรื่องที่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเรนเกลออกไป ความเร็วในการมีชื่อเสียงของอิ๋งจื่อจินก็เรียกได้ว่าเร็วขั้นเทพแล้ว
คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับเธอมีแต่จะเพิ่มขึ้น เว็บดับบลิวก็มีแนวโน้มจะค้าง
ซิวเลยต้องให้ผู้ดูแลอีกหกคนเริ่มทำโอที เพื่อดูแลความปลอดภัยของเว็บ
เขาหยิบยาย้อมผมพลางอ่านคอมเมนต์ในเน็ต เกือบย้อมขนตัวเองไปด้วย
[ไม่มีใครสนใจผู้ชายคนนั้นเลยเหรอ ฮือออ คู่จิ้นที่ฉันอุตส่าห์หวังไว้ ตอนนี้จบแล้ว]
[คอมเมนต์บนคู่จิ้นอะไร มีใครคู่ควรจิ้นกับเทพอิ๋งด้วยเหรอ]
[ก็คุณชายใหญ่ตระกูลอวี้ไง ตกอับอยู่ข้างนอกถูกพากลับมา เป็นคู่รักคู่ทรหด น่าจิ้นจะตาย]
[ฉันด้วย ฉันแต่งฟิคด้วยนะ มีใครอยากอ่านไหม ด่วน!]
ซิวถึงกับสำลัก
เขาล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา คิดอยู่ว่าจะส่งข้อความหาอิ๋งจื่อจินดีไหม
แต่คิดแล้วผลลัพธ์ก็มีแต่เขาจะถูกเล่นงาน ครั้นแล้วจึงส่งหาฟู่อวิ๋นเซินแทน
อย่างน้อยท่านนี้ก็นิสัยดีกว่าหน่อย
[ในเน็ตมีคนจิ้นคู่ของพวกคุณด้วย ไปกันใหญ่แล้ว ไม่จัดการหน่อยเหรอ]
หนึ่งนาทีต่อมาก็มีข้อความตอบกลับ
[ฟู่อวิ๋นเซิน : ปล่อยไปเถอะ จิ้นกันเยอะๆ ผมก็ยังอยากอ่าน อยากเรียนรู้หน่อย วันหน้าจะได้เอามาทำให้เป็นจริง]
ซิว “?”
เขาล่ะไม่เข้าใจความคิดของพวกคู่รัก
อีกด้านหนึ่ง
ภายในคฤหาสน์ใจกลางเมือง
ไชโลห์ก็เห็นข่าวในเว็บดับบลิวแล้ว สีหน้าอึมครึมตลอด
แม้แต่เธอก็ยังคาดไม่ถึงว่าอิ๋งจื่อจินก็คือเอสวาย
คราวนี้สถานการณ์พลิกแล้ว
คนดูแลปลอบ “คุณไชโลห์ครับ ตอนนี้เปอร์เซ็นต์คนที่สนับสนุนคุณเยอะกว่าคุณหนูใหญ่คนนั้นมากครับ ไม่ต้องร้อนใจไป”
ถึงแม้การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลจะยังไม่เริ่ม แต่ในเว็บดับบลิวก็ได้มีทำโพลสำรวจชาวเมืองแล้ว
ตอนนี้มีคนสนับสนุนไชโลห์อยู่ที่หกสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์
ไม่ว่าชาวเมืองแห่งโลกจะประทับใจอิ๋งจื่อจินขนาดไหน แต่คนที่พวกเขาศรัทธาอยู่ในใจก็ยังคงเป็นผู้วิเศษยี่สิบสองคน
“แน่นอน” ไชโลห์โยนมือถือทิ้ง ทำเสียงหึ “เคยบอกแล้วว่าวิศวกรรมเครื่องกลเป็นแค่หนึ่งในรายการคัดเลือก ถ้าไม่ใช่เพราะท่านจักรพรรดินีกลัวพวกเขาแพ้อย่างน่าอนาถ ไม่มีทางใส่วิศวกรรมเครื่องกลที่ไร้ประโยชน์ลงมาให้แข่งหรอก”
เธอรู้ดีว่าคณะวิศวกรรมศาสตร์เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่เอาไว้ใช้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี
เทคโนโลยีเอาไว้บริการทุกคน แต่เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นไปสูงถึงระดับหนึ่งกลับจะก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อมนุษย์
ดังนั้นสักวันหนึ่งในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นคณบดีนอร์แมนหรือพวกอาจารย์กิตติมศักดิ์ ต่างก็ต้องลงจากตำแหน่ง
ถึงขั้นที่ว่าอาจไม่ตายดี
ไชโลห์เฝ้ารอวันนั้นเหลือเกิน
“คุณไชโลห์ครับ อีกไม่นานก็จะเริ่มแข่งคัดเลือกหัวหน้าตระกูลแล้ว” คนดูแลพูดอย่างนอบน้อม “ท่านจักรพรรดินีให้บอกคุณว่า คุณห้ามพลาดในการแข่งขันรายการอื่นยกเว้นวิศวกรรมเครื่องกล ทั้งยังต้องเอาชนะแบบขาดลอยด้วยครับ”
“วางใจเถอะ” คราวนี้ไชโลห์ยิ้มออก “อิ๋งจื่อจินก็มีฝีมือแค่วิศวกรรมเครื่องกลนั่นแหละ”
คนดูแลพยักหน้า
เขาออกจากคฤหาสน์ กลับสำนักผู้วิเศษแล้วรายงานให้ผู้วิเศษจักรพรรดินีฟัง
“เข้าใจแล้ว” ซาโรห์พูด “ออกไปก่อน”
“ครับท่านจักรพรรดินี” ขณะที่คนดูแลทำความเคารพเสร็จถอยออกไปก็เจอกับผู้หญิงที่มีผ้าผืนบางปิดบังใบหน้า
เขารีบก้มหน้า “ท่านนักบวชหญิง”
ซาโรห์เอะใจ “มีอะไรเหรอ”
“ซาโรห์” นักบวชหญิงสีหน้าเคร่งขรึม “แอสโตรแลบบอกว่าคู่รักกำลังเดินทางกลับมา มีคนกำลังพากลับมาที่เมืองแห่งโลก”
ซาโรห์กำคฑาในมือแน่นทันที ปลายนิ้วเป็นสีขาวเพราะแรงบีบ
ผู้วิเศษลำดับที่เจ็ดจากยี่สิบสองคน ผู้วิเศษคู่รัก
หนึ่งในสามผู้วิเศษที่ตอนนั้นร่วมกันก่อสงครามศักดิ์สิทธิ์กับผู้วิเศษเดวิล!