คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 783 อิ๋งจื่อจิน VS ซาโรห์! ตบหน้า

ตอนที่ 783 อิ๋งจื่อจิน VS ซาโรห์! ตบหน้า

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ขอยามาจากผู้วิเศษนักมายากลได้หลายวันแล้ว แต่ก็ยังหาทางใช้ไม่ได้มาตลอด

เพราะเธอไม่เจอตัวฟู่อวิ๋นเซิน

แต่ในใจก็ยังรู้สึกไม่ยอม ทำได้เพียงไปขอความช่วยเหลือจากอวี้เซ่าอวิ๋นเพื่อตามหาหลานชายของเธอคนนี้

ถึงแม้คุณชายสี่กับคุณชายห้าก็เป็นสายเลือดของตระกูลอวี้ แต่คุณนายผู้เฒ่าอวี้ไม่มีทางยอมให้ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลตกไปอยู่ในมือบ้านอื่น

แต่หัวหน้าตระกูลที่ไม่เชื่อฟัง เธอก็ไม่ต้องการ

ถ้าฟู่อวิ๋นเซินจะนั่งตำแหน่งนี้ก็ต้องเชื่อฟังเธอ

พอนึกถึงตรงนี้คุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็ยิ่งขอความเห็นใจมากกว่าเดิม “เซ่าอวิ๋น เขากลับมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว ครอบครัวเรายังไม่ได้จัดงานฉลองให้ ไม่สู้เราใช้โอกาสนี้จัดงานฉลองให้อวิ๋นเซินกันเถอะ”

“แม่รู้ว่าแม่ทำไม่ดีไว้หลายเรื่อง พอถึงตอนนั้นแม่จะคุกเข่าขอโทษเขาต่อหน้าแขกชนชั้นสูงทุกคน”

“คุกเข่าขอโทษเหรอ” เซ่าอวิ๋นสีหน้าเย็นชา “คิดว่าผมไม่รู้จักคุณแม่ดีเหรอ อย่างคุณแม่ถ้าไม่ใช่อ้างศีลธรรมก็คงอยากวางยา”

เขาสูดลมหายใจเข้าลึก กำมือแน่น

ตอนนั้นคุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็คุกเข่าร้องไห้คร่ำครวญอ้อนวอนเขาในพิธีฉลองขึ้นปีใหม่ตอนปลายปี

ตอนนั้นทุกคนต่างประณามว่าเขาอกตัญญู

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ถูกพูดแทงใจดำ แต่สีหน้ากลับไม่เปลี่ยน เธอถอนหายใจ “เซ่าอวิ๋น พูดอะไรแบบนั้น แม่แก่แล้ว มีชีวิตได้อีกไม่นาน แม่คิดได้แล้ว”

“แม่ทำผิดไปจริงๆ ตอนนั้นไม่ควรขัดขวางแกกับฟู่หลิวอิ๋ง มนุษย์ไม่ใช่เทพ คนเราทำผิดกันได้ จะไม่ให้โอกาสแม่ได้ปรับปรุงตัวหน่อยเหรอ”

“คุณแม่อยากปรับปรุงตัวด้วยเหรอครับ” เซ่าอวิ๋นไม่เชื่อ กลับหัวเราะด้วยซ้ำ “ได้ ผมก็ไม่ได้กักบริเวณคุณแม่แล้ว คุณแม่อยากทำอะไรก็ตามสบาย ขอให้ตายอย่างมีเกียรตินะครับ”

อย่างไรเสียคุณนายผู้เฒ่าอวี้ก็เป็นแม่ของเขา เขาไม่สะดวกจะลงมือ

แต่คนอื่นย่อมไม่เหมือนกัน

คุณนายผู้เฒ่าอวี้ได้ยินแบบนี้กลับดีใจมาก “เซ่าอวิ๋น แม่จะไปร่างบัตรเชิญเดี๋ยวนี้ จะต้องจัดงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่กว่างานของคุณหนูใหญ่ตระกูลเรนเกลแน่นอน”

เธอพูดว่าจะทำก็ทำทันที รีบขึ้นไปเตรียมการที่ชั้นบน

หัวหน้าคนคุ้มกันขมวดคิ้ว “ท่านหัวหน้าตระกูล คุณนายผู้เฒ่าเธอ…”

“ปล่อยไป” เซ่าอวิ๋นสีหน้าเย็นชา “เอาให้ตระกูลอวี้ล่มสลายไปเลยยิ่งดี”

ตระกูลที่ผู้อาวุโสกดผู้น้อยไว้ขนาดนี้ควรอวสานไปนานแล้ว

หัวหน้าคนคุ้มกันเม้มริมฝีปาก “คำร้องขอไปจากเมืองของท่านหัวหน้าตระกูลได้ถูกส่งไปที่สำนักผู้วิเศษแล้ว ถ้าผ่าน พอถึงตอนนั้นก็จะ…”

ลบความทรงจำทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเมืองแห่งโลก ถูกถอนความสามารถในการต่อสู้

ออกจากเมืองแห่งโลกนับแต่นั้น ห้ามกลับมาอีก

เหมือนกับไซมอน แบรนด์ในตอนนั้น

“อืม” คิ้วของเซ่าอวิ๋นที่ขมวดอยู่คลายออก เขากลับรู้สึกโล่งอก “พอฉันไปแล้ว พวกนายจะอยู่ติดตามเจ้าเจ็ดก็ดี หรือจะติดตามหัวหน้าตระกูลคนต่อไปก็ได้”

ฟู่อวิ๋นเซินไม่ต้องการเขาแล้ว

เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือของตัวเอง ไปอยู่เป็นเพื่อนฟู่หลิวอิ๋งที่หน้าหลุมศพ

ตระกูลเรนเกล

จะวันหนึ่งแล้ว เจียงหรานยังคงตอบโต้ชาวเมืองคนอื่นๆ ในเว็บดับบลิวอย่างไม่ลดละ

[ไชรูก็ไชรูเถอะ สู้พ่ออิ๋งของฉันไม่ได้หรอก]

[เก่งนักพวกเธอก็ร้องเรียนฉันเลย ฉันไม่หยุดหรอก ขยะ พวกเธอเถียงสู้ฉันไม่ได้หรอก]

[ฉันจะบอกให้นะ พอถึงตอนคัดเลือกต้องเป็นคุณหนูใหญ่ที่ชนะขาดลอยแน่นอน ไม่มีทางเป็นยัยไชรูนั่นหรอก]

ชาวเน็ต “…”

ไอ้x!

คนที่ถือแอคเคาท์ระดับเอสคนนี้สมองเพี้ยนหรือเปล่า

เจียงหรานยิ่งสู้ยิ่งมัน ถูกศัตรูรุมก็ไม่แคร์

อิ๋งจื่อจินพิงอกฟู่อวิ๋นเซินดูละคร หลิงเหมียนซีกับเนี่ยอี้เดินหมากกันอยู่

พ่อบ้านยิ้มไม่หุบ

นานๆ จะได้เห็นช่วงเวลาสงบสุขแบบนี้

“อวิ๋นเซิน ป้าได้บัตรเชิญมาจากตระกูลอวี้” ซู่เวิ่นลงมาจากชั้นบน “เห็นว่าทางนั้นจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ เราได้ยินพ่อพูดเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า”

เธอย่อมรู้พวกเรื่องต่างๆ ของตระกูลอวี้

นับตั้งแต่จูซาถูกตัดสินต่อหน้าสาธารณชน สถานะของตระกูลอวี้ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

มีความเป็นไปได้ว่าสำนักผู้วิเศษจะเลือกตระกูลใหม่ขึ้นมาแทน

“ไม่เคยได้ยินครับ” ฟู่อวิ๋นเซินได้ฟังก็เหลือบตาขึ้น “แต่ไม่มีทางเป็นความคิดของเขาแน่”

“ดูท่าจะเป็นฝีมือของยายแก่คนนั้น” ซู่เวิ่นขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม “ถ้าป้าตอบปฏิเสธแทนเธอ ยายแก่นั่นไม่เลิกราแน่นอน”

“ไม่เป็นไรครับ ก็ดี” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ในเมื่ออยากให้ผมไป ผมก็จะไปดูหน่อย”

“ได้จ้ะ” ซู่เวิ่นจริงจัง “ช้าเร็วเธอกับเยาเยาก็ต้องเป็นสามีภรรยากัน มีเรื่องอะไรมาบอกป้าก็ได้เหมือนกัน”

ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง เอาหน้าแนบกับอิ๋งจื่อจิน หัวเราะเบาๆ “เด็กน้อย ขอบคุณนะ”

ขอบคุณที่ให้พี่ชายได้มีครอบครัวเพิ่ม

คำเรียกนี้ทำให้ทั้งสองคนราวกับย้อนไปตอนที่เจอกันครั้งแรกสุด

“มีฉันอยู่เหมือนกันนะ” อิ๋งจื่อจินลูบศีรษะของเขาที่ก้มลงมา “ฉันพาเหมียนซีไปเที่ยวสำนักผู้วิเศษหน่อย เดี๋ยวกลับ”

ฟู่อวิ๋นเซินจัดผมให้เธอ “อืม ไปเถอะ”

เจียงหรานหูผึ่ง ยกมือทันที “ไปด้วยสิ ไปด้วยคน”

เมื่อคืนเขาหลับเป็นตาย เลยไม่ได้เห็นว่าผู้วิเศษหน้าตาเป็นยังไง

ได้ฟังหลิงเหมียนซีเล่า เจียงหรานก็เลยสงสัย

“ไม่ได้”

ครั้งนี้เป็นการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

เจียงหรานหันไปมองฟู่อวิ๋นเซินอย่างมีความหวัง

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบมองเขา “อืม ไม่ได้”

กอขอคอ

เจียงหรานเศร้า

“เอาล่ะๆ ปั้นหน้าเศร้าให้ใครดูกัน” หลิงเหมียนซีลูบหัวเจียงหราน “ฉันเอากล้องมาแล้ว เดี๋ยวถ่ายวิดีโอมาฝาก พอนายกลับบ้านจะได้เอาไปอวดพ่อแม่ด้วย”

เจียงหรานกลับมาสดชื่นอีกครั้ง “ถ่ายเยอะๆ นะ”

ไว้เขาได้คลิปวิดีโอที่มีเอกลักษณ์พวกนี้มา เขาก็ยังจะเป็นขาใหญ่ประจำโรงเรียนที่ยืนอยู่เหนือใคร

ขณะที่หลิงเหมียนซีกำลังจะโอบเอวอิ๋งจื่อจิน ทันใดนั้นก็เหลือบเห็นสีหน้ากึ่งยิ้มของฟู่อวิ๋นเซิน

มือของเธอชะงักทันเวลา เปลี่ยนเป็นโอบบ่า “อะแฮ่ม อาอิ๋ง ไปกันเถอะ ไม่ต้องมีพวกผู้ชายไปด้วย”

เนี่ยอี้นวดหว่างคิ้ว

แฟนสาวของเขาไม่เชื่อฟังแถมยังซุกซนจะทำไงดี

ยังจะทำไงได้ ก็ทำได้แค่ตามใจ

“คุณหนูใหญ่กับคุณหลิง ระวังตัวด้วยครับ” พ่อบ้านส่งสองคนออกไปแล้วถึงฝืนให้ตัวเองหยุดยิ้ม

แต่ทันใดนั้นเขาก็มีสีหน้าตกใจ

เมื่อกี้เขาได้ยินอะไรนะ

คุณหนูใหญ่ของพวกเขาบอกว่าจะไปเที่ยวสำนักผู้วิเศษเหรอ!

นั่นมันใช่ที่เที่ยวเหรอ

พ่อบ้านเดินไปห้องครัวอย่างอึ้งๆ “คุณนายใหญ่ครับ คุณหนูใหญ่เธอรู้จักผู้วิเศษหลายท่านจริงๆ ใช่ไหมครับ”

ลูเอลเคยพูดคุยแค่กับผู้วิเศษนักพรตกับผู้วิเศษสังฆราช

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นก็ไม่มีทางเข้าออกสำนักผู้วิเศษได้ตามใจชอบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเที่ยวชม

ซู่เวิ่นเอาขนมที่อบเสร็จแล้วออกมาจากเตา เธอตอบ “น่าจะมั้ง ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย อายุเท่านี้ก็ควรไปเที่ยวกับเพื่อนให้มากๆ”

พ่อบ้าน “!”

นี่ไม่เรียกเรื่องใหญ่เหรอ

ไชโลห์เป็นแค่ลูกศิษย์ของผู้วิเศษก็ถูกยกย่องสูงมากแล้ว

ถ้าชาวเมืองคนอื่นๆ รู้ว่าอิ๋งจื่อจินเป็นเพื่อนกับพวกผู้วิเศษจะเป็นยังไงกัน

พ่อบ้านเดินออกจากห้องครัวอย่างอึ้งๆ กลับไปที่ห้องเล็กๆ ของตัวเอง

เขาเปิดคอมพิวเตอร์ เข้าแอคเคาท์เว็บดับบลิวทั้งแปดแอคเคาท์ของตัวเองแล้วเริ่มโหวตให้อิ๋งจื่อจิน

ท่ามกลางยามราตรีอันมืดมิด อาคารลอยฟ้าของสำนักผู้วิเศษยังคงสง่างามและน่าเลื่อมใส มิอาจรุกล้ำได้

หน่วยอัศวินทั้งสี่ล้อมเฝ้าอยู่ด้านล่างอย่างหนาแน่น

พวกเขาตรวจสอบความผิดปกติโดยรอบด้วยความระแวง แต่กลับไม่พบว่ามีสองคนแอบเข้าไปในสำนักผู้วิเศษแล้ว

“สำนักผู้วิเศษไม่มีแม้แต่ลิฟต์เหรอ” หลิงเหมียนซียืนบนพื้น มองไปรอบๆ “เดินตั้งหลายชั้นขนาดนี้พวกเขาไม่เหนื่อยเหรอ”

“มีลิฟต์ อยู่ด้านนั้น” อิ๋งจื่อจินดึงปีกหมวกลง “แต่ใช้ไม่ได้”

นอร์ตันบอกเธอว่า เมื่อวานผู้วิเศษหอคอยทำภารกิจล้มเหลว ทำให้ผู้วิเศษจักรพรรดินีรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญกับศัตรูที่เก่งกาจมาก

เพื่อป้องกันผู้วิเศษคู่รักเข้าสำนักผู้วิเศษแล้วฟื้นคืนความทรงจำกับพลัง เธอได้สั่งปิดทางเข้าออกทั้งหมด อีกทั้งยังห้ามพวกอุปกรณ์เหาะต่างๆ มาปรากฏให้เห็น

ผู้ใดฝ่าฝืน ตายสถานเดียว

แต่ซาโรห์ก็พลาดไปหน่อย

บนโลกนี้มีจอมยุทธ์ของประเทศจีนอยู่

ถึงแม้วรยุทธ์ของหลิงเหมียนซีจะแค่หนึ่งร้อยห้าสิบกว่าปี แต่วิชาตัวเบาก็เก่งมากแล้ว ขึ้นอาคารลอยฟ้าแห่งนี้ได้สบายมาก

“เอ๊ะ แต่ต้องพูดเลยนะว่าสไตล์ของอาคารนี้ใช้ได้เลยจริงๆ” หลิงเหมียนซีลูบคาง “ก็ไม่รู้ว่าใครสร้าง รสนิยมไม่เลวเลย”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ผู้วิเศษยี่สิบสองคนร่วมกันสร้าง หลายสิบศตวรรษแล้ว ได้ยินว่าผู้วิเศษจักรพรรดิเป็นคนวาดแบบ”

หลิงเหมียนซีเหม่อ

มิน่าถึงขัดกับกฎของนิวตัน

ที่แท้อาคารแห่งนี้ก็รวมพลังของผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคนไว้

ทั้งสองคนคุยกันระหว่างเดินขึ้นบันไดลอยฟ้า

ในเวลานี้เองที่ชั้นบนสุด

ภายในประตูบานที่สี่ ซาโรห์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ลืมตาขึ้น ดวงตาฉายแววอาฆาต

มีคนนอกเข้ามาในสำนักผู้วิเศษแล้ว

ยังจะเข้ามาได้ภายใต้การอารักขาที่แน่นหนาของหน่วยอัศวินทั้งสี่

ร้อยเปอร์เซ็นต์คือผู้วิเศษที่เปลี่ยนภพ

ซาโรห์จับคฑายืนขึ้น แสยะยิ้ม ค่อยๆ เดินออกไป

วันนี้สำนักผู้วิเศษมีเธออยู่แค่คนเดียว

ซาโรห์ก็รู้ว่า เป็นเพราะสำนักผู้วิเศษเกิดจากการร่วมแรงของผู้วิเศษทั้งยี่สิบสองคน จึงมีพลังส่วนหนึ่งของผู้วิเศษแต่ละคนรวมอยู่ด้วย

ต้องไปถึงชั้นของตัวเองเท่านั้นถึงจะฟื้นคืนสถานะกับความทรงจำ

ก็พอดี เธอจะรออยู่ที่ชั้นเจ็ด จัดการผู้วิเศษคู่รักให้สิ้นซาก

อีกด้านหนึ่ง

อิ๋งจื่อจินกับหลิงเหมียนซีไปถึงชั้นสามแล้ว

หลิงเหมียนซีมองสำรวจอย่างละเอียด ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “อาอิ๋ง ดูสิ สองชั้นนี้ไม่เหมือนชั้นหนึ่งเลย”

“อืม” อิ๋งจื่อจินตอบ “เพราะนักมายากลกับนักบวชหญิงยังอยู่ แต่ผู้โง่เขลาตายไปแล้ว”

หลิงเหมียนซีอึ้ง “ผู้วิเศษก็ตายเป็นเหรอ”

เมื่อวานเธอดูอิ๋งจื่อจินกับฟู่อวิ๋นเซินสู้กับผู้วิเศษหอคอยตั้งแต่ต้นจนจบ รวมถึงต่อมามีฉินหลิงอวี๋กับอวี้เสวี่ยเซิงปรากฏตัวด้วย

เดิมทีเธอคิดว่าผู้วิเศษก็คือเทพ

“เป็นสิ” อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ พูดเสียงเบา “ตายได้เหมือนกัน”

เธอนวดศีรษะที่ปวดหัวนิดหน่อย ยิ้มบาง “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

ทั้งสองคนเดินขึ้นต่อ

จนกระทั่งสุดชั้นที่หก

อิ๋งจื่อจินขยับหู อยู่ๆ ก็เอามือขวางหน้าหลิงเหมียนซีไว้ “เดี๋ยวก่อน”

หลิงเหมียนซีชะงัก

“ฟู่ววว”

มีเสียงลมพัดเข้ามากระทบเยื่อแก้วหู

เท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงก้าวออกมา ชั้นเจ็ดถูกร่างสูงบังไว้หมดแล้ว

ผู้หญิงตรงหน้าสวมกระโปรงยาวสีทองที่หรูหรา ศีรษะสวมมงกุฎ ผมยาวสยายถึงเอว

ใบหน้าเย็นชา แรงกดดันแผ่ซ่าน

ผู้วิเศษจักรพรรดินี ซาโรห์ วิคตอเรีย!

หลิงเหมียนซีกลับไม่รู้สึกกลัวอะไร แค่สงสัย “นี่ผู้วิเศษเหรอ”

“น่าจะ” อิ๋งจื่อจินหันไป “แต่ไม่คู่ควรหรอก”

ผู้วิเศษต้องปกป้องโลกและพลเมืองโลก แต่ซาโรห์กลับตรงกันข้าม

ซาโรห์ไม่ได้ยินที่ทั้งสองคนคุยกัน

แม้จะเป็นยามราตรีที่มืดมิด แต่เธอก็ยังมองเห็นสองผู้บุกรุกที่เข้ามาได้อย่างชัดเจน เป็นผู้หญิงทั้งคู่

หนึ่งในนั้นรูปร่างดีมาก

ซาโรห์กำมือแน่น อยู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดของฉินหลิงอวี๋เมื่อคืน

“คุกเข่า!” เธอตวาดเสียง สายตาแข็งกร้าว “ความทรงจำกับพลังยังไม่กลับคืน ยังจะกล้ายืนต่อหน้าฉันอีกเหรอ!”

“ฟึ่บ”

ราวกับถูกควบคุม สองขาของหลิงเหมียนซีเริ่มงออย่างควบคุมไม่ได้ ทรุดลงไปจะคุกเข่าบนพื้น

ผู้วิเศษลำดับที่สี่ ผู้วิเศษจักรพรรดินี

พลังพิเศษ ควบคุม!

แม้แต่ฤดูกาลในเมืองแห่งโลกซาโรห์ก็ยังควบคุมได้ตามใจชอบ

เมืองแห่งโลกเป็นเอกเทศจากเจ็ดทวีปสี่มหาสมุทร มีมิติที่ไม่แน่นอน ด้วยเหตุนี้สภาพอากาศจึงเลวร้ายมาก

แต่ได้ซาโรห์ควบคุมฤดูกาลไว้ ทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การอยู่อาศัย

นี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเธอถึงได้รับศรัทธาจากชาวเมือง

แววตาของอิ๋งจื่อจินเย็นชาลง เธอจับแขนของหลิงเหมียนซี ฝืนประคองขึ้นมา

ความรู้สึกที่ถูกควบคุมก็หายไปในทันที

หลิงเหมียนซีลูบหัว “ผู้หญิงคนนี้เป็นโรคหลงผิดเคยถูกข่มเหงหรือเปล่า เห็นฉันเป็นใครสักคนหรือเปล่า”

ซาโรห์สีหน้าเปลี่ยน ดวงตาเบิกโพลง

ทำไมถึงมีคนที่ไม่อยู่ในความควบคุมของเธอด้วย

อิ๋งจื่อจินแปลงโฉมมา แต่ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่าง

รูปร่างแบบนี้ทำให้ซาโรห์รู้สึกคุ้น

ทั้งยังสมบูรณ์แบบจนเธอแอบอิจฉา

ซาโรห์กำคฑาแน่น สายตาจับจ้องไปที่อิ๋งจื่อจิน ปล่อยพลังมากขึ้น ตวาดเสียงอีกครั้ง “คุกเข่า!”

แต่อิ๋งจื่อจินขยับบ้างแล้ว

เธอเดินเข้าไปบีบคอซาโรห์

“พลั่ก” เสียงดังสนั่น ดันซาโรห์ไปกระแทกกำแพงด้านหลัง

น้ำเสียงเย็นชา

“คิดว่าตัวเองเป็นใคร”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset