จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 115 ดาร์ก เดม่อนรู้เห็นทุกสิ่ง

บทที่ 115 ดาร์ก เดม่อนรู้เห็นทุกสิ่ง
บทที่ 115 ดาร์ก เดม่อนรู้เห็นทุกสิ่ง

เวอร์เธอร์ กาวด์ถูกสฟิงซ์พาขึ้นไปบนยอดหอนาฬิกา

พายุและฝนตกหนักเกือบทำให้เขาตกลงมาจากอากาศ

เด็กชายทำได้เพียงเกาะคอของสฟิงซ์ไว้แน่น เพื่อรั้งไม่ให้ตัวเองตกลงมาได้อย่างหวุดหวิด

หลังลงจากหลังของสฟิงซ์ เวอร์เธอร์ก็มองไปยังฉากบนยอดหอคอยอย่างตกตะลึง

เขาไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ถึงปล่อยให้เขาตามมา

เพราะเขาไม่ค่อยรู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น

เวอร์เธอร์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมศาสตราจารย์เคเซอร์ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ แล้วภูตตัวน้อยที่คล้ายกับศาสตราจารย์ดีดี้มาจากไหน?

ท้ายที่สุด ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ก็ไม่มีเวลาบอกเขา

เวอร์เธอร์รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่

การ์ดเวทมนตร์ใบเดียวที่เหลืออยู่ในมือของเขาคือ [ความรักต้องห้าม] ที่ทรยศต่อเขาในช่วงเวลาวิกฤต

เมื่อพูดถึง [ความรักต้องห้าม] แล้ว

ตอนนี้มันกลับมาเป็นปกติแล้ว

คนตัวเล็กที่ก่อตัวจากหมอกสีชมพูสามารถให้คำตอบกับเขาได้อีกครั้ง

ส่วนความสามารถในการตรวจสอบค่าความชื่นชอบ เขายังไม่กล้าลองใช้มัน

ในบรรดาทุกคน มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถมองความชื่นชอบของผู้อื่นได้ ซึ่งความสามารถนี้มาจากรูปปั้นเทพธิดา

สรุปคือเขาเสียเปรียบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวอร์เธอร์เห็นชายสวมหน้ากากอยู่อีกด้านหนึ่งของหอนาฬิกา เขาก็เริ่มสับสนมากยิ่งขึ้น

“เขามาที่นี่ทำไม?”

“เธอกำลังพูดถึงใคร?”

เสียงของอาจารย์ใหญ่ดังมาจากปากของสฟิงซ์

แม้ว่าเวอร์เธอร์จะไม่ตอบสนอง แต่อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ก็สังเกตเห็นว่าเขากำลังมองดาร์ก

ดังนั้นอาจารย์ใหญ่อาร์เต้จึงพูดผ่านสฟิงซ์ต่อไปว่า “ถ้าเธอกำลังพูดถึงเดม่อน เขาเพิ่งออกจากงานเต้นรำมาได้ไม่นาน”

“งานเต้นรำ…?”

ใบหน้าของเวอร์เธอร์พลันซีดเผือด

เขารู้ตัวทันทีว่า เขาได้พลาดงานเต้นรำครั้งแรกในวัยเรียนไปแล้ว!

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่า เขาเพิ่งจะเลือกเครื่องแต่งกายไปอย่างกระตือรือร้น

ก่อนหน้านี้เขาเคยฝันถึงการเชิญรุ่นพี่แพนดอร่ามาเต้นรำหลังจากคว้าแชมป์ปีด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้… อย่าว่าแต่แชมป์ปีเลย เพราะเขาพลาดกระทั่งงานเต้นรำ!

“เดี๋ยวนะ เขาคือดาร์กเหรอ?”

เวอร์เธอร์รู้สึกลำคอตีบตันเล็กน้อย

และยังมีอาการปวดก้นเล็กน้อยร่วมด้วย

เขากลืนน้ำลายดังอึก

เมื่อคิดว่าตอนนั้นตนเองเปลี่ยนเป็นชุดคาเมนไรเดอร์ เวอร์เธอร์รู้สึกเหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะจำเขาไม่ได้

ภายใต้พายุฝนโหมกระหน่ำ

แน่นอนดาร์กสังเกตเห็นการมาถึงของเวอร์เธอร์ และเขาก็ไม่แปลกใจกับมัน

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ไม่ได้มาด้วยตนเอง!

“หรือว่าจะ…”

เขาเข้าใจบางสิ่งได้อย่างรวดเร็ว

แตกต่างจากเวอร์เธอร์

หลังจากที่ดาร์กจำศาสตราจารย์ดีดี้ได้แล้ว เขาก็จำแนกความคิดของเขาออกอย่างรวดเร็ว และคาดเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้พอสังเขป

‘ฉายซ้ำประวัติศาสตร์’ ในคำพูดของศาสตราจารย์ดีดี้

‘ที่ตั้งปราสาท’ และ ‘ภาพจำทางประวัติศาสตร์’ ในคำพูดของศาสตราจารย์เคเซอร์

คำเหล่านี้ได้ให้แรงบันดาลใจแก่ดาร์ก

เขาสนใจความหมายของคำเหล่านี้มากกว่าตัวเหตุการณ์เสียอีก

“เมื่อเรื่องคลี่คลายแล้ว ฉันคงต้องหาโอกาสตรวจสอบดูเสียหน่อย”

ดาร์กคิดได้แบบนี้ก็หันหน้าไปดูที่เกิดเหตุ

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์เหลือบมองที่สฟิงซ์ และดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างเช่นกัน

เธอเพียงก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ดีดี้ เธอวางไม้กายสิทธิ์ลง เราสามารถไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้จบได้ในคืนนี้”

ศาสตราจารย์ดีดี้ประหลาดใจ “เธอพูดอะไรกัน ซาราห์? ฉันต้องไกล่เกลี่ยเรื่องอะไร? ปัญหาที่เกิดจากนักเรียนเหล่านั้นเหรอ? หรือการฟื้นคืนชีพเทพธิดาแห่งจันทรา? อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงเลย มันเป็นฉันเองที่ขัดขวางไม่ให้นักเรียนเลวเหล่านั้นเป็นก่อเหตุร้ายแรง เป็นฉันที่ดูแลพวกเขาตลอดเวลา แม้แต่เศษความคิดที่เหลืออยู่ของเทพธิดาแห่งจันทราก็ยังถูกฉันจัดการ โอ้ เธอกำลังจะบอกว่าจะให้รางวัลศาสตราจารย์ดีเด่นแก่ฉันหรือเปล่า? ถ้าแบบนั้นก็ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้ต้องการมัน”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ขมวดคิ้ว

ศาสตราจารย์ดีดี้เม้มปากแล้วพูดว่า “โอเค ฉันพูดเล่น ฉันทิ้งจดหมายลาออกไว้ที่ห้องทำงานแล้ว เธอสามารถส่งเรื่องให้อาร์เต้ได้เลย นอกจากนี้… ช่วยส่งข้อความของฉันถึงลิลลี่ด้วย”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ “เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”

ศาสตราจารย์ดีดี้ “แค่บอกไปว่า ฉันขอไปก่อนนะ!”

เมื่อสิ้นเสียง เธอก็ยกไม้กายสิทธิ์ [มหาอสนีบาต] ขึ้น เสียงฟ้าร้องอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ดีดี้ แม็กซ์เวลจะพลันกลายเป็นเส้นสายฟ้าและทะลุผ่านม่านฝน พุ่งออกไปราวกับมังกรทอง

บาเรียของสถาบันเซนต์แมเรียนถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ไม่นานหลังจากนั้น ศาสตราจารย์ดีดี้ก็หายวับไปจากสายตาของทุกคน

“มันจบแล้ว” ศาสตราจารย์เคเซอร์ถอนหายใจ ก่อนจะเก็บโล่ทั้งแปดและอสูรขนนกเนตรทองคำที่ล้อมรอบตัวเขากลับไป

ศาสตราจารย์โจนส์ก็กลับสู่ร่างมนุษย์ และมองไปที่ศาสตราจารย์ซิลเวอร์

จากนั้นศาสตราจารย์โจนส์ก็ยักไหล่ และพูดอย่างติดตลกว่า “บางทีวิธีการของดีดี้ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นนะว่าไหม?”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ตอบอย่างจริงจังว่า “พาวาร์ เธอโกหก”

ศาสตราจารย์โจนส์ “แต่เราต้องยอมรับว่า บางครั้งคำโกหกก็เป็นสิ่งที่ผู้คนยอมรับมากกว่าความเป็นจริง”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์ “แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่จะโกหก”

ศาสตราจารย์โจนส์ “โกหก? ไม่ เราไม่โกหก เราพูดข้อเท็จจริงเท่านั้น ข้อเท็จจริงบางส่วนอะนะ”

ศาสตราจารย์ซิลเวอร์เงียบไปครู่หนึ่ง และสุดท้ายก็พูดว่า “ปล่อยให้อาจารย์ใหญ่เป็นคนตัดสินใจเองแล้วกัน”

เมื่อพวกเขาพูดอย่างนั้นแล้ว พวกเขาก็มองไปที่สฟิงซ์

สฟิงซ์ “หือ? (´ ` ;)”

ศาสตราจารย์โจนส์ “อาจารย์ใหญ่หนีไปแล้ว”

ณ โถงจัดเลี้ยงที่ชั้นหนึ่งของปราสาท

อาจารย์ใหญ่อาร์เต้ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง เธอจ้องมองสายฝนที่กระหน่ำตกลงมา และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “คืนนี้ฝนตกหนักจริง ๆ”

เจ้าหญิงเอลิซาเดินเข้ามาหาเธอ ดวงตาหรี่ลงพลางยิ้มอย่างงดงาม “แต่เสียงฟ้าผ่าดังกว่านะคะ”

งานเลี้ยงเต้นรำสิ้นสุดลงในช่วงพายุฝน

แม้ว่านักเรียนจะยังไม่จุใจเล็กน้อย ทว่าเสียงฟ้าผ่าที่ดังสนั่นถึงสองครั้งสองคราก็นำพาความสนใจของพวกเขาให้ไปอยู่ที่อื่น

ภายใต้การนำของหัวหน้าอาจารย์ประจำบ้านแต่ละบ้าน นักเรียนก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นส่วนกลางทีละคน

แต่หลังจากมาถึงห้องนั่งเล่นแล้ว คนส่วนใหญ่ต่างก็มานั่งคาดเดาว่าฟ้าผ่าทั้งสองครั้งนั้นคืออะไร?

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนค้นพบว่าเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่เจอในโถงจัดเลี้ยงก็ไม่ได้กลับมาที่ห้องนั่งเล่นด้วย

เรื่องนี้ทำให้เกิดความสับสนมากขึ้นในหมู่นักเรียน

หอคอยบ้านขุนนาง

ดาร์กค่อย ๆ ผลักประตูห้องนั่งเล่นเข้ามา ก่อนจะพบว่าตัวเองกลายเป็นจุดสนใจในทันที

พรีเฟกต์ที่ไม่เคยพูดกับดาร์กมาก่อน ก็วิ่งเข้ามาหาเขาแล้วถามว่า “เดม่อน คุณหายไปไหนมา? แล้วสก็อตต์ สแตนนีย์ และบักซ์อยู่ที่ไหน…”

ดาร์กพูดไม่ออกเล็กน้อย “พรีเฟกต์ ไรอัน ผมเป็นแค่นักเรียนปีหนึ่งที่เรียนในสถาบันได้แค่สองเดือน ผมไม่รู้จักผู้คนเท่าคุณหรอกนะครับ”

ไรอันปิดปากของเขาอย่างรวดเร็วและยิ้มแห้งออกมา

ดาร์กกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พวกเขาแค่มีปัญหาเล็กน้อย อาจต้องค้างคืนที่ห้องพยาบาล แล้วก็ซิสเตอร์คาไลด์บอกกับทุกคนว่าอย่ารบกวนเวลาพักผ่อนของผู้ป่วย อีกอย่างถ้าเรายังไม่กลับห้อง เราอาจจะได้นอนห้องพยาบาลในวันพรุ่งนี้เหมือนกัน เพราะตอนนี้เกือบตีสองแล้วครับ”

ดาร์กหาวและเดินไปที่บันไดทันที

ไรอันรีบถาม “ปัญหาอะไร?”

ดาร์กตอบ “อาจารย์ใหญ่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ผมไม่สามารถบอกคุณได้”

ดังนั้นดาร์กจึงสามารถหลบหนีออกจากห้องนั่งเล่นได้ โดยอาศัยอำนาจของอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ และเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง

เมื่อเขาเลี้ยวมุมไป ยกเว้นคนสองคนที่เดินตามมา นักเรียนที่เหลือก็เริ่มการสนทนารอบใหม่ด้วยความตื่นเต้นทันที

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset