บทที่ 4 การควบคุมอารมณ์ของดาร์ก เดม่อน
ด้วยความช่วยเหลือของไดแอนนา (กัดฟันพูด) ดาร์กก็ยับยั้งแรงกระตุ้นของตะกละได้สำเร็จ!
ส่วนทำไมจึงกลายเป็น [ริษยา +1]
ดาร์กบอกได้เพียงว่าเขาไม่เข้าใจว่าความริษยาคืออะไร!
เขามองจานอาหารค่ำที่ว่างเปล่าตรงหน้าพร้อมกับระงับความหงุดหงิดในใจ สายตาเหลือบมองอาหารบนโต๊ะของคนอื่นทีละคน
เนื้ออบ ไก่ย่าง ซี่โครงแกะ ไส้กรอก สเต๊ก ยอร์กเชอร์พุดดิ้ง มันฝรั่งครีมย่าง น้ำเกรวี่ ซอสมะเขือเทศ…และถั่ว!
ด้วยการพยายามรักษาท่วงท่าสง่างามและกลืนน้ำลายอย่างเงียบ ๆ ดาร์กจึงตักถั่วเล็กน้อยจากชามเงินใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยถั่วแล้ววางลงในจานของเขา…
“เริ่มจากถั่วก่อนแล้วกัน! ตะกละไม่ได้หมายความว่าเราต้องหยุดกิน การจำกัดของกินไม่น่าจะเพิ่มค่า [ตะกละ] ได้”
สมกับเป็นอาหารอันแสนอร่อยที่รังสรรค์โดยอาจารย์ใหญ่อาร์เต้ผู้ถูกขนานนามด้วยฉายา ‘นักบุญ’ แม้กระทั่งสตูถั่วธรรมดาก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ดาร์กตักถั่วขึ้นมาหนึ่งเม็ดจากกองถั่ว จากนั้นใช้ส้อมเงินจิ้ม ก่อนจะแล่ด้วยมีดหั่นอาหาร และกินเข้าไปทีละชิ้น
หลังจากเคี้ยวช้า ๆ รสชาติของถั่วก็แผ่ซ่านออกในปากเล็กน้อย มันหวานมาก!
เขาอดไม่ได้ที่จะหรี่ตา มือก็จิ้มเมล็ดถั่วอีกครึ่งหนึ่งขึ้นมา
นักเรียนใหม่ของบ้านขุนนางคนหนึ่งซึ่งนั่งตรงข้ามเขา เธอมีชื่อว่าโรส รอธร็อค ในมือกำลังถือช้อนเงินที่ใช้ตักถั่วคำใหญ่จากชามใบเล็กแล้วยัดเข้าปากตัวเอง
มันเป็นเวลาเดียวกับตอนที่เห็นว่าเพื่อนฝั่งตรงข้ามนั้นดูสง่างามมากยามทานถั่ว โรส รอธร็อคจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนผ่าวที่แก้มเล็กน้อย แล้วเธอก็ค่อย ๆ ดึงช้อนที่ยัดเข้าไปในปากออกมา…
โรสหยิบมีดและส้อมขึ้นมาทำตามดาร์กอย่างเชื่องช้า แต่ก็ปล่อยถั่วหล่นออกจากมีดและส้อมอยู่เสมอ
เห็นแบบนี้แล้วมันยิ่งทำให้เธอชื่นชมดาร์กที่สามารถใช้มีดและส้อมจัดการถั่วได้อย่างชำนาญ
“ฉันได้ยินมาตลอดเลยว่าบุตรชายคนเดียวของตระกูลดัชเชสเป็นเด็กซุกซนบุคลิกไม่ดี และยังไร้ซึ่งสมบัติผู้ดีของชนชั้นสูง แต่ไม่คิดเลยว่าความจริงเขาจะดูสง่างามมากขนาดนี้”
เด็กผู้หญิงมักชอบจินตนาการถึงบุคลิกของคนอื่นจากพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เสมอ
ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอเป็นนกน้อยที่เพิ่งจะหนีออกมาจากกรงได้ ทำเอารู้สึกตื่นเต้นจนสมองเกือบขาดออกซิเจนยามคิดถึงอิสรภาพที่จะได้รับหลังจากลงทะเบียนเรียน และเพราะอย่างนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะจินตนาการถึงดาร์กแบบนี้
…
ดาร์กกำลังต่อสู้กับถั่วอย่างหนักจึงไม่ได้สังเกตเห็นความแปลกประหลาดของเด็กสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นว่าตัวเองใกล้กินถั่วบนจานหมดแล้ว เขาก็เริ่มคิดถึงอาหารอันแสนอร่อยชิ้นต่อไป บางทียอร์กเชอร์พุดดิ้งอาจเป็นทางเลือกที่ดี
แม้ว่าจะถูกเรียกว่า ‘พุดดิ้ง’ แต่จริง ๆ แล้วยอร์กเชอร์พุดดิ้งเป็นเหมือนขนมปังชนิดหนึ่งและรสชาติก็คล้ายกับขนมปังเนื้อนุ่ม
ในการรับประทานอาหาร มันมักถูกวางไว้เป็นของหวานทานคู่กับจานเนื้อย่างอยู่เสมอ
ขณะที่น้ำมันซึ่งหยดจากเนื้อย่างจะถูกนำไปใช้กับถาดพุดดิ้ง และแป้งจะถูกเทลงในกระทะ เมื่อควันน้ำมันเพิ่มขึ้น พุดดิ้งจะพองตัวเป็นรูปร่างขนมปังหลังจากอบเสร็จแล้ว ผิวของพุดดิ้งจะเป็นสีทอง ข้างนอกกรอบข้างในนุ่ม แล้วถ้าได้กินคู่กับน้ำเกรวี่และเนื้อสับบนนั้นละก็…
แค่คิดก็ทำให้ดาร์กน้ำลายสอแล้ว!
เขากำลังจะยกมือขึ้นหยิบยอร์กเชอร์พุดดิ้ง แต่ไดแอนนาที่อยู่ข้าง ๆ กลับพูดขึ้นว่า
“เฮ้ ดาร์ก นายชอบถั่วเหรอ ถ้าอย่างนั้นไดแอนนาก็จะให้ส่วนของไดแอนนากับนายด้วย!”
เมื่อเธอพูดอย่างนั้น มือก็เทถั่วจานใหญ่ตรงหน้าลงในจานอาหารค่ำของดาร์ก!
แล้วเธอก็เสริมอีกประโยคว่า “นายจะคิดว่ามันเป็นของขวัญขอบคุณสำหรับขาแกะกับซอสน้ำผึ้งก็ได้!”
เมื่อหันกลับไปแล้ว เธอก็บ่นเสียงต่ำ “ไดแอนนาไม่ชอบถั่ว…”
ดาร์กขมวดคิ้วมองดูกองถั่วบนจานตัวเอง
[โทสะ +1]
“ฮะ!”
…
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้โกรธเลย แต่ค่า [โทสะ] กลับเพิ่มขึ้นทันที
นี่เป็นเพราะสายเลือดจอมมารเข้าสู่ขั้นปลุกพลังจนทำให้เขาตกต่ำได้ง่ายขึ้นหรือ?
ดาร์กกลืนเมล็ดถั่วอย่างเงียบ ๆ
ในใจแม้รู้สึกกระวนกระวายและหงุดหงิด แต่ท่วงท่าภายนอกกลับสงบและสง่างาม การเคลื่อนไหวก็ไม่มีความเร่งรีบให้เห็น
เมื่อดาร์กจัดการถั่วบนจานเสร็จ อาหารบนโต๊ะก็พลันหายไปหมด!
จบมื้อหลักแล้ว ถึงเวลามื้อของหวาน!
ไอศกรีมหลากหลายรสชาติ พายแอปเปิ้ล ไซรัปเค้ก มัฟฟินช็อกโกแลต โดนัทสอดไส้แยม พุดดิ้งแยม พายสตรอว์เบอร์รีวางอยู่บนโต๊ะ…
กลิ่นหอมหวานรุนแรงกำลังยั่วยวนใส่ดาร์ก!
เด็กชายจ้องมองที่ของหวานอย่างเงียบ ๆ
เขายังไม่อิ่มเลย!
ความหิวในท้องและกลิ่นหอมของขนมทำให้ดาร์กไม่อาจต้านทานได้!
มือเอื้อมมือไปหยิบสปันจ์เค้กช็อกโกแลตที่เขาโปรดปราน และความอดทนต่อความอยากอาหารก่อนหน้านี้ก็พังพินาศในทันที!
[ตะกละ +1]
“มันก็แค่หนึ่งหน่วย ฉันแค่เสียไปหนึ่งหน่วย!”
ดาร์กเอื้อมมือไปที่เค้กไซรัปอีกครั้ง
[ตะกละ +1]
“ไม่เป็นไร ค่าชี้วัดของตะกละยังมีที่ว่างเหลือเฟือ!”
“แต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปฉันจะงดกินแน่นอน ค่าชี้วัดก็จะลดลงด้วยเหมือนกัน”
[ตะกละ +1]
ดาร์กกินพายสตรอว์เบอร์รีอีกชิ้นแล้วหยุดลง
จากนั้นเขาก็หยิบผ้าเช็ดหน้าเปียกจากด้านข้างมาเช็ดคราบน้ำตาลที่มุมปากของตัวเองให้แห้ง
“ดาร์ก นายชอบของหวานด้วยเหรอ?”
“ไดแอนนาก็ชอบของหวานเหมือนกัน!”
‘ฉันว่าเธอชอบกินทุกอย่างยกเว้นถั่วนั่นแหละ!’
โดยไม่สนใจเสียงกระซิบของหญิงสาว ดาร์กปรับท่าทางของเขาเล็กน้อย แล้วเหลือบตามองไปยังโต๊ะยาวของบ้านอัศวิน
ยามนี้เวอร์เธอร์ กาวด์มีนักเรียนใหม่ที่กำลังคุยกับเขาอย่างมีความสุข หากคิดไม่ผิดบทบาทของเด็กคนนั้นก็อาจจะคล้ายกับบทบาทของ <เจ้าเด็กผมแดงที่ชอบพูด ‘ร้ายกาจ!’>
<เจ้าเด็กผมแดง> ผู้น่าสงสาร หลังจากทำงานสกปรกใน <ภาพยนตร์โรงเรียนเวทมนตร์> มาทั้งชีวิต ในที่สุดก็ได้ลงเอยกับ <เด็กสาวอัจฉริยะเลือดสีโคลน> ซึ่งนับว่าจบลงอย่างมีความสุข
แต่ในเกมจีบสาวอย่าง ‘ดูเอล! เซนต์แมเรียน ซูเปอร์ XX อะคาเดมี!’ เขาถูกกำหนดให้ไม่ได้อะไรสักอย่างเลย
ชีวิตที่โดดเดี่ยวอาจเป็นจุดจบของเขา
ดาร์กอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ อย่างน้อยเขาก็ยังมีคู่หมั้นหนึ่งคนที่กำลังจะเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้าให้ตั้งตารอคอย
แล้วใครมีบทบาทที่คล้ายกับตัวละคร <เด็กสาวอัจฉริยะเลือดสีโคลน> กันล่ะ?
ดาร์กหันมองดูรอบ ๆ สองสามครั้งแต่ก็ไม่พบหญิงสาวที่อยู่ใกล้ตัวเอกอย่างเวอร์เธอร์เป็นพิเศษ เขาจึงได้แต่จ้องมองหาตาเขม็ง
…
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดาร์กจะถอนสายตาของเขาออกไป แต่เวอร์เธอร์ก็ตระหนักถึงสายตาที่จ้องมองมาที่เขาอยู่ดี
อาจเป็นเพราะตัวตนของดาร์กนั้นโดดเด่นกว่าในหมู่เด็กวัยเดียวกัน มันจึงยากที่ผู้คนจะเพิกเฉยต่อเขา
“เด็กผู้ชายที่มีตาเหนือจมูกคนนั้นคือใครเหรอ?” เวอร์เธอร์ถามเสียงเรียบ
โรเบิร์ต บร็อกไฮม์ผู้ซึ่งมีบทบาทคล้ายกับ <เจ้าเด็กผมแดง> ก็ตอบอย่างสับสนว่า “ทุกคนก็มีตาอยู่เหนือจมูกไม่ใช่เหรอ?”
“เอ่อ ฉันกำลังพูดถึงเด็กชายที่หยิ่งผยองคนนั้น” เวอร์เธอร์พูดไม่ออก
โรเบิร์ตยักไหล่ “ถ้านายพูดถึงเด็กผมบลอนด์ เขาก็คือดาร์ก เดม่อน บุตรชายของดัชเชสอัลเวตต์ เซนต์ เดม่อน ดัชเชสคนเดียวในอาณาจักร”
เวอร์เธอร์พึมพำ “อัลเวตต์ เดม่อน วัลคีรีที่รู้จักกันในนามดาบคู่แห่งอาณาจักรคู่กับพ่อของฉัน ถ้าอย่างนั้นลูกชายของเธอก็น่าจะมีเกียรติและเกลียดความชั่วร้ายเหมือนเธอ บางทีฉันกับเขาเราอาจเป็นเพื่อนที่ดีกันได้”
“อุ๊บ!” โรเบิร์ตอดหัวเราะไม่ได้ “เวอร์เธอร์ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสืบทอดคุณสมบัติดี ๆ ของพ่อแม่มาอย่างนายหรอกนะ”
เวอร์เธอร์กลับไม่คิดเช่นนั้น “จริงเหรอ แต่ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของฉันหน้าตาเป็นยังไง…”